325-326
7/10
Ep.325
ซูเฉินกลับไปที่ [รถศึกอัจฉริยะ] ค่อยๆขับออกไปจากที่นี่
ไม่นานหลังจากนั้น ก็มีรถฐานทัพอีกหลายคันขับเข้ามา ในกลุ่มพวกเขา มีรถฐานทัพสีดำจากเมืองทงเทียนด้วยเช่นกัน
ชายชราหงอกขาวก็เป็นหนึ่งในนั้น เขาเหลียวมองสถานที่เกิดเหตุ ชะลอความเร็ว ค่อยๆขับผ่านโดยไม่คิดจอด
มองไปยังซากศพกองทั่วพื้น เจ้าตัวเดาะลิ้น “โม่เฉิงกงคนนี้บ้าจนฉุดไม่อยู่แล้วจริงๆ นี่เขากะจะฆ่าไปตลอดทางเลยรึไง”
เห็นได้ชัดว่ากลุ่มคนที่ตาย ณ ที่แห่งนี้ ล้วนมาจากเมืองทงเทียน
ก่อนเข้าอุโมงค์ ผู้ที่ลงมืออาละวาดก็ยังเป็น ‘โม่เฉิงกง’
ชายชราเลยอดสงสัยไม่ได้ ว่าเรื่องนี้คงเป็นฝีมือของโม่เฉิงกงอีกใช่หรือไม่
“ใครเป็นคนทำ กระทั่งชาวเมืองทงเทียนยังกล้าสังหาร พวกมันต้องตาย!”
ข้างกองศพ มีชายหนวดเฟิ้มยืนอยู่ ใบหน้าของเขาในตอนนี้ มืดมนหม่นหมอง ขณะเดียวกันกวาดสายตามองไปรอบๆ ในคู่ดวงตาทอประกายเย็นเยียบ
ชายชราหงอกขาวรีบถอนสายตาออกทันที ไม่อย่างข้องเกี่ยวใดๆ
เขาตระหนักดีว่าผู้ใดเป็นคนลงมือ แต่มีหรือจะกล้าพูดออกไป?
หากเอ่ยออกไปแล้ว ด้วยอุปนิสัยของโม่เฉิงกง คงไม่มีทางไว้ชีวิตเขา
อย่างไรก็ตาม ชายหนวดเฟิ้มสังเกตเห็นพฤติกรรมของชายชราอย่างไม่คาดคิด
“ตาแก่ ทำไมทำตัวหลบๆซ่อนๆ ยังไม่รีบไสหัวลงมาให้บิดาอีก!”
ชายชราหงอกขาวตกใจ ใช้สมองปั่นความคิดอย่างรวดเร็ว เขาตัดสินใจได้ ก็รีบวิ่งลงจากรถฐานทัพ
“นายท่าน ไม่ทราบมีอะไรให้รับใช้ถึงตะโกนเรียกเราผู้เฒ่า”
วิ่งมาถึงหน้าชายหนวดเฟิ้ม ชายชราหงอกขาวกล่าวด้วยความหวาดกลัวและกังวล
ชายชราหนวดเฟิ้มชำเลืองมองชายชราหงอกขาว แค่นเสียงเย็น “ตาแก่ แกรู้เรื่องที่เกิดขึ้นใช่ไหม? รีบบอกความจริงมา! จะได้ไม่ถูกทรมาน ถลกเนื้อหนังให้เจ็บตัว!”
ชายชราหงอกขาวกัดฟัน ยอมสารภาพว่า “เราผู้เฒ่าได้แต่คาดเดาว่าน่าจะเป็นฝีมือของโม่เฉิงกงจากภูเขาฉีหลิน”
“นี่แกรู้ตัวรึเปล่าว่ากำลังพูดถึงใคร”
ชายหนวดเฟิ้มเบิกตากว้าง เกือบคิดว่าตัวเองหูฝาดไป
นั่นเพราะเขาไม่เพียงรู้จักภูเขาฉีหลินเท่านั้น แม้แต่โม่เฉิงกงก็ยังสนิทกันดี ประเด็นก็คือตอนนี้อีกฝ่ายกำลังนั่งอยู่บนรถฐานทัพของเขา
หลายวันที่ผ่านมา เขาออกตามหาที่อยู่ของโม่ไฉ่เหลียน ดังนั้นโม่เฉิงกงไม่มีเวลาไปฆ่าคนของเมืองทงเทียนแน่ๆ
ชายชราหงอกขาวผู้นี้กำลังโกหกอย่างแน่นอน กล้าโกหกกันหน้าด้านๆ ช่างไม่รู้จักที่ตาย!
ชายชราตัวสั่นเทา เอ่ยตะกุกตะกัก “ผู้น้อยแค่คาดเดา ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเป็นเขารึเปล่า”
“ถ้ายังไม่รู้ แล้วทำไมถึงกล้าโกหกใส่ความคนอื่น!”
ใบหน้าของชายหนวดเฟิ้มหม่นหมอง เอื้อมมือออกไป บีบคอชายชราหงอกขาว แสยะยิ้มเยาะ
“สหายซุน ใจเย็นก่อนเถอะ”
ในตอนนั้นเอง ชายหนุ่มอายุราวๆ 27 ปีได้ลงจากรถฐานทัพ เขาสวมชุดหรูหราแบบจีน รูปร่างหน้าตาดูหล่อเหลามาก
จะติดก็ตรงระหว่างคิ้วมีรอยดำ คล้ายช่วงนี้มันขมวดอยู่บ่อยๆ เลยชวนให้คนอื่นๆที่มอง รู้สึกถึงความโหดร้าย
“อาเฮียโม่ ตาแก่นี่กล้าใส่ร้ายเฮีย ให้ฉันมอบบทเรียนดีๆให้มันเถอะ!” ชายหนวดเฟิ้มกัดฟันกรอด
ชายหนุ่มในชุดจีน จะเป็นใครอื่นไปได้อีกหากไม่ใช่โม่เฉิงกงแห่งภูเขาฉีหลิน
เขาเดินมาหยุดข้างๆชายหนวดเฟิ้ม โบกมือให้อีกฝ่ายใจเย็นลง
“ไม่ต้องรีบร้อน ฉันมีเรื่องบางอย่างจะถามเขา”
“ก็ได้ ถามถึงที่มาที่ไป เผื่อจะได้ข้อมูลอะไรดีๆ” ชายหนวดเฟิ้มผละมือ โยนชายชราหงอกขาวลงกับพื้น
โม่เฉิงกงจับจ้องชายชรา เอ่ยเสียงขรึม “เอาล่ะ คุณรู้จักโม่เฉิงกงได้ยังไง เคยเห็นเขาที่ไหน?”
“นายท่าน เป็นเช่นนี้ …” ชายชราหงอกขาวรีบอธิบายถึงเรื่องราวก่อนหน้านี้ของซูเฉินอย่างรวดเร็ว
ได้ยินแบบนั้น โม่เฉิงกงกับชายหนวดเฟิ้มสบตากัน สีหน้าของพวกเขากลายเป็นมืดมนและเย็นชาในเวลาเดียวกัน
“น่าสนใจจริงๆ มีคนกล้าใช้ชื่อฉันออกอาละวาด!”
โม่เฉิงกงยิ้มโหดเหี้ยม หันไปกล่าวกับชายหนวดเฟิ้มว่า “สหายซุน เจ้าหมอนั่นน่าจะไปได้ไม่ไกล พวกเรารีบไล่ตามไปดีกว่า”
“ให้ตายเถอะ ฉันจะจับเจ้าเด็กนั่นถลกหนังทั้งเป็น!”
ชายหนวดเฟิ้มสบถด่า หันหลังกลับไปที่รถฐานทัพพร้อมโม่เฉิงกง
และเร่งขับออกไปตามถนน
8/10
Ep.326
หนึ่งชั่วโมงต่อมา [รถศึกอัจฉริยะ] ขับเข้ามาในเมืองร้างที่มีซอมบี้ฝูงหนึ่งอาศัยอยู่
ซูเฉินก้มมองหน้าจอควบคุม แต่กลับพบว่า ใกล้ๆกับสัญญาณสีแดง 500 จุด มันมีสัญญาณสีน้ำเงินอีก 100 จุดกระพริบอยู่
มนุษย์กับซอมบี้ปรากฏตัวขึ้นในสถานที่เดียวกันและพร้อมกัน สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปคือสงคราม
ตอนแรกซูเฉินไม่ใจ แต่เมื่อเวลาผ่านไป สถานการณ์ต่อสู้กลับยังไม่อุบัติขึ้น ทั้งสองฝ่ายดูเหมือนกำลังเผชิญหน้ากันเพียงอย่างเดียว
เหตุการณ์เช่นนี้ หมายความว่าหนึ่งในฝูงซอมบี้ มีซอมบี้ที่มีสติปัญญาอยู่ และมันกำลังยับยั้งซอมบี้ตัวอื่นไว้
มิฉะนั้น ซอมบี้ไม่มีทางอยู่เฉย คงกระโจนเข้าทำร้ายมนุษย์ไปแล้ว
“เสี่ยวจือ ไปดูกันเถอะ” ซูเฉินเริ่มสนใจขึ้นมา
“รับทราบ”
[รถศึกอัจฉริยะ] เร่งความเร็วไปข้างหน้า
หยางฮ่าวกับสหายเลือดลมสูบฉีด เริ่มถูมือเตรียมพร้อมรบ
ไม่กี่นาทีต่อมา ด้านหน้าของ [รถศึกอัจฉริยะ] ก็มีซอมบี้จำนวนมากและมนุษย์กลุ่มเล็กๆกลุ่มหนึ่งปรากฏขึ้น
เมื่อพวกเขาใกล้เข้าไป ซูเฉินกวาดมองออกไปนอกรถ แต่แล้วคิ้วของเขาต้องขมวดเข้าหากัน
นั่นเพราะสถานการณ์ที่นี่ดูจะแตกต่างจากที่เขาคาดไว้
แท้จริงแล้วซอมบี้กับมนุษย์เหล่านั้นไม่ได้กำลังเผชิญหน้ากัน แต่คล้ายทำการค้าขายแลกเปลี่ยนกันมากกว่า
ในหมู่มนุษย์ มีคนหลายสิบคนถูกจับมัดไว้
และคนเหล่านี้กำลังถูกส่งมอบไปยังกลุ่มซอมบี้อย่างต่อเนื่อง และทุกครั้งที่ส่งไป พวกเขาจะได้รับหินพลังงานสิบก้อนกลับมา
“นี่พวกมันกำลังซื้อขายกันอยู่จริงๆ?”
แม้ได้มาเห็นกับตาตัวเอง แต่ซูเฉินก็ยังไม่อยากเชื่อ
เนื่องจากซอมบี้และมนุษย์เป็นเหมือนน้ำกับไฟ แค่อยู่ร่วมกันโดยไม่เกิดสงครามก็นับว่าดีมากแล้ว
แต่นี่พวกเขากลับกำลังแลกเปลี่ยนซื้อขายกัน มันจะเกินจริงไปหน่อยไหม นี่ยังไม่พูดถึงเรื่องที่ว่าฝ่ายมนุษย์กำลังขายเพื่อนร่วมเผ่าพันธุ์ของตัวเองให้พวกมันอีกนะ
ถ้าอย่างนั้น คนพวกนี้ก็ไร้มโนธรรมสุดๆ เลวร้ายยิ่งกว่าหมูและสุนัข!
เป็นแค่ขยะในเผ่าพันธุ์มนุษย์!
การปรากฏตัวของ [รถศึกอัจฉริยะ] ดึงดูดความสนใจของซอมบี้และมนุษย์อย่างรวดเร็ว
ทั้งสองฝ่ายคล้ายสื่อใจถึงกันได้ แยกซ้ายปาดขวา ล้อมรอบ [รถศึกอัจฉริยะ] เอาไว้
“เจ้าคนพวกนี้บ้าไปแล้วรึเปล่า? ทำไมถึงร่วมมือกับซอมบี้เพื่อกำจัดพวกเรา?”
เฉาหรานรู้สึกสับสนเล็กน้อย สงสัยว่าทำไมมนุษย์ข้างนอกถึงทำเช่นนี้
หวู่หยางและคนอื่นๆก็สับสนเช่นกัน สายตาของทั้งหมดเบนไปหยุดลงที่ซูเฉิน
ซูเฉินหรี่ตาลงเค้นสมอง สักพักยิ้มเยาะในใจ
เขาเดาเหตุผลได้แล้ว ซอมบี้กับมนุษย์กลุ่มนี้กำลังแลกเปลี่ยนกัน โดยมนุษย์ที่ถูกมัดไว้คือสินค้า
หากเรื่องนี้ถูกเผยแพร่ออกไป ซอมบี้อาจโชคดีไม่มีใครตอแย แต่มนุษย์กลุ่มนั้นคงต้องทุกข์ทรมานจากความโกรธเกรี้ยวของมนุษย์คนอื่นๆที่ทราบเรื่องอย่างแน่นอน
เพื่อป้องกันไม่ให้ข่าวหลุดออกไป พวกมันเลยร่วมมือกันเพื่อสังหารกลุ่มของซูเฉิน
คิดได้แบบนี้ ซูเฉินเอ่ยอย่างไม่แยแส “ทุกคนลงไปกับฉัน”
เมื่อซูเฉินและคนอื่นๆเดินลงจากรถ ท่ามกลางฝูงซอมบี้และกลุ่มมนุษย์ ตัวแทนจากแต่ละฝ่ายก็ก้าวออกมา
ซูเฉินจับตาดูอย่างตั้งใจ ตัวแทนฝ่ายซอมบี้ คือซอมบี้ตัวเตี้ย ใบหน้าของมันเปลี่ยนเป็นสีเขียวคล้ำไปแล้ว ทว่าดวงตายังคงกระจ่างใส
ตัวแทนฝ่ายมนุษย์เป็นผู้หญิงอ้วน ที่ดูเหมือว่าน่าจะหนักสัก 300 จิน
“ไม่เลว แต่ละคนผิวพรรณค่อนข้างดี ดูมีน้ำมีนวล แถมยังมีสองสาวงามรวมอยู่ด้วย”
หญิงอ้วนกวาดมองซูเฉินและคนอื่นๆ ใบหน้าของเธอเบิกบานด้วยความปิติยินดี จากนั้นหันไปหาซอมบี้ตัวเตี้ย “เจียงคุน มนุษย์พวกนี้ขอขายให้คุณ ในราคา 15 หินพลังงานต่อคน”
ซอมบี้ตัวเตี้ยแค่นเสียงเบาๆ “หยางซือลี่ เธอไม่ได้เป็นคนจับมนุษย์พวกนี้ เป็นพวกเขาส่งตัวเองมาเสิร์ฟถึงที่ ฉะนั้นไม่มีเจ้าของ ใครจับได้คนนั้นก็ได้ไปฟรีๆ”
“ไม่มีทางซะล่ะ ตราบใดที่พวกเขายังเป็นมนุษย์ ทั้งหมดคือทรัพย์สินของท่านแม่ผู้นี้!” หยางซือลี่ตะโกนกราดเกรี้ยว
“เหอะ ช่างหน้าไม่อาย!” เจียงคุนกล่าวด้วยใบหน้าเย็นชา ไม่ยินยอมที่จะอ่อนข้อ
ซอมบี้กับหญิงอ้วนทะเลาะกันต่อหน้าพวกเขา ปฏิบัติกับพวกเขาเหมือนปลาบนเขียง จะฆ่าจะแกงก็ได้ตามต้องการ?
มองไปยังฉากนี้ หวู่หยางและคนอื่นๆหันมาสบตากัน