ตอนที่แล้ว317-318
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป321-322

319-320


1/10

Ep.319

รีดข้อมูลจนหมด ซูเฉินและพวกหยางฮ่าวหันหลังกลับขึ้นรถ มุ่งหน้าต่อไป

ใช้เวลาอีกครึ่งชั่วโมง พวกเขาก็มาถึงอุโมงค์ที่ใช้เป็นทางเข้าสู่เขตหยูหลิน

หากต้องการเข้าหรือออกจากเขตหยูหลิน ใช่ว่าจะง่ายซะทีเดียว

เพราะนอกเหนือจากการยืนยันตัวตนแล้ว ยังต้องเสียค่าผ่านทางที่แพงมาก

ในเวลานี้ นอกทางเข้าอุโมงค์ มีทหารสวมชุดเกราะหลายสิบนาย กำลังตรวจสอบรถฐานทัพที่จอดเรียงเป็นแถว

มีรถฐานทัพจอดเรียงเป็นแถวอยู่เบื้องหน้า [รถศึกอัจฉริยะ] เจ็ดคัน ซึ่งแต่ละคันเฝ้ารอการตรวจสอบอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย

หลังจากตรวจสอบรถเสร็จสิ้น และชำระค่าผ่านทางแล้ว พวกเขาก็ทยอยกันเข้าไปในอุโมงค์ทีละคัน

จนในที่สุดก็มาถึงคราวของ [รถศึกอัจฉริยะ] แต่แล้วจู่ๆก็มีรถฐานทัพสีดำเบียดแทรกเข้ามาจากด้านข้าง ขวางหน้า [รถศึกอัจฉริยะ] เอาไว้

การแซงคิว เป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง

แน่นอน ซูเฉินย่อมไม่พอใจ เขากระโดดลงจากรถแล้วตะโกนใส่คนบนรถฐานทัพสีดำคันหน้าว่า “แกมีสิทธิ์อะไร ถึงแทรกแถวคนอื่น?”

ไม่นาน ชายวัยกลางคนในชุดขาวเดินลงมาจากรถฐานทัพ หลังจากใช้สายตากวาดสำรวจซูเฉิน เขาก็ไม่พูดอะไรซักคำ หันไปคุยกับทหารยามไม่กี่ประโยค แล้วกลับขึ้นไปบนรถฐานทัพ

ก่อนจากไป เขาไม่วายเหลือบมองซูเฉินอีกครั้ง แววตาที่สะท้อนออกมาเต็มไปด้วยความรังเกียจและเหยียดหยัน

“บัดซบ! ไอ้หมอนั่นมันจะอวดดีเกินไปหน่อยแล้ว!”

ซูเฉินเบ้ปาก เขาเกิดความคิดที่จะมอบบทเรียนให้มัน แต่ขณะกำลังจะก้าวออกไป ก็มีชายชราหงอกขาวคนหนึ่งเดินเข้ามาจากเบื้องหลัง

เขามาหยุดใกล้ซูเฉิน เตือนด้วยความหวังดี “น้องชาย นั่นคือรถฐานทัพของเมืองทงเทียน อย่าไปยั่วโมโหพวกเขาจะดีกว่า”

“รถฐานทัพของเมืองทงเทียนแล้วไง? พวกมันไม่ทำตามกฏได้หรอ?” ซูเฉินพ่นลมหายใจแรง

ชายชราหงอกขาวส่ายหัว พยายามเกลี้ยกล่อม “น้องชายคงไม่ใช่คนจากเขตหยูหลินกระมัง? เลยอาจยังไม่รู้ ว่าเมืองทงเทียนทรงพลังแค่ไหน วันนี้ฉันแนะนำว่านายอย่าเข้าไปในเขตหยูหลินเลย เดี๋ยวจะเจอเรื่องร้ายเอา”

“ขอบคุณท่านลุงที่ตักเตือน แต่ยังไงผมก็ต้องเข้าไปในเขตหยูหลิน” ซูเฉินกล่าวอย่างไม่แยแส

เหล่ายอดฝีมือจากเมืองทงเทียนยังไม่อยู่ในสายตาเขา ฉะนั้นไม่ต้องกล่าวถึงคนไม่กี่คนบนรถฐานทัพ ตรงกันข้าม ซูเฉินปรารถนาเป็นอย่างยิ่งให้อีกฝ่ายสร้างปัญหาให้เขา

“เจ้าหนู ถึงตารถฐานทัพของแกแล้ว รีบขับมาซักที เร็วๆ!” แต่ในเวลานั้นเอง ทหารยามคนหนึ่งตะโกนมาทางซูเฉิน

ซูเฉินไม่ถือสาท่าทีไม่ค่อยมีมารยาทของทหารยามคนนี้ ขับ [รถศึกอัจฉริยะ] เข้าไปใกล้

ทหารยามเดินวนรอบๆ [รถศึกอัจฉริยะ] ไม่ได้ถามถึงที่มาของซูเฉิน แต่เอ่ยขอหินพลังงานจากเขาทันที

“รถฐานทัพของนายขนาดใหญ่กว่ารถฐานทัพทั่วไป ค่าผ่านทางเลยต้องสูงกว่านิดหน่อย”

“เท่าไหร่?” ดวงตาขอซูเฉินหรี่ลง

“หินพลังงานธรรมดา 300 ก้อน ถ้าจ่ายไม่ไหวก็ไสหัวออกไปซะ!” ทหารยามส่งเสียงฮึ่มๆ

“เห~ เรียกราคาแรงไม่เบานี่” ซูเฉินไม่โกรธ แต่กลับหัวเราะออกมาแทน

ค่าผ่านทางสำหรับการเข้าอุโมงค์คือ 100 หินพลังงานธรรมดาต่อรถฐานทัพหนึ่งคัน ซึ่งรถฐานทัพที่ต่อคิวด้านหน้าเขาก่อนถูกแซง ก็จ่าย 100 หินพลังงานเช่นกัน

แต่เมื่อถึงตาเขา ราคากลับขึ้นเป็น 300 ก้อน เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายกำลังรีดไถตน

ซูเฉินยังจำได้ดี ว่าครั้งแรกตอนเดินทางไปเมืองจิงกัง ทหารยามที่นั่นก็ฉวยโอกาสรีดไถเขาเหมือนกัน

อย่างไรก็ตาม ราคาที่อีกฝ่ายต้องแลกมา มันเจ็บปวดเหลือแสน

เดิมทีเขาไม่อยากสร้างปัญหา แต่ในเมื่ออีกฝ่ายไม่รู้จักชั่วดี เช่นนั้นคงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องสั่งสอนกันหน่อย

“งั้นทำไมรถฐานทัพสีดำที่แซงคิวถึงไม่ต้องจ่ายค่าผ่านทางเล่า?” ซูเฉินแค่นเสียงเย็นชา

เมื่อครู่ ชายชุดขาวจากเมืองทงเทียนเอ่ยกับทหารยามแค่ไม่กี่คำ ก็ถูกปล่อยตัวไป แถมไม่ได้จ่ายหินพลังงานแม้แต่ก้อนเดียว

หากเปลี่ยนเป็นคนอื่น พวกเขาคงไม่กล้าย้อนถามถึงเรื่องนี้แน่นอน

แต่ในสายตาของซูเฉิน เขาไม่สามารถปล่อยให้ฝุ่นมันติดค้างอยู่ในลูกตา ยอมทนระคายตาต่อไปได้

คิดปฏิบัติต่อเขาเหมือนลูกพลับอ่อนกระนั้นหรือ? ก็ต้องลองดูว่าแกมีความสามารถพอที่จะทำแบบนั้นรึเปล่า!

2/10

Ep.320

ชายชราหงอกขาวที่เคยพยายามเกลี้ยกล่อมซูเฉินก่อนหน้านี้ ได้แต่ลอบถอนหายใจ หันหลังกลับไปยังรถฐานทัพของตน

ในความเห็นเขา ซูเฉินยังเด็กนัก เลยใจร้อนไปหน่อย ดังนั้นไม่ช้าก็เร็ว อีกฝ่ายจะชักนำปัญหามาสู่ตัวเอง

เด็หนุ่มที่ไม่รู้จักวิธีระงับอารมณ์เช่นนี้ ไม่ทราบว่าจะอยู่ได้อีกนานแค่ไหน

แม้แต่ทหารยามหน้าทางเข้าอุโมงค์ก็ยังกล้าตั้งคำถาม นั่นไม่เท่ากับเป็นการรนหาที่ตายหรือ?

ชายชราหงอกขาวกลัวว่าปลาเน่าจะกระเด็นมาถึงบ่อเขา ดังนั้นไม่ต้องการคบหากับซูเฉินอีกต่อไป

“แกรู้ไหมว่าพวกเขาเป็นใคร? เทียบกับพวกเขาแล้ว พวกแกมีค่าพอหรือ?” ทหารยามเหลือบมองซูเฉิน ทั่วทั้งใบหน้าแสดงถึงความดูถูก

เมืองทงเทียนคือหนึ่งในเมืองที่มีอำนาจมากที่สุดในเขตหยูหลิน ขณะที่ซูเฉินเป็นเพียงตัวตนเล็กๆ จากเขตหวงหลินเท่านั้น

ช่างตลกสิ้นดีที่กล้าเอาตัวเองไปเปรียบกับเมืองทงเทียน!

“แกก็พูดถูกนะ สถานะเล็กจ้อยอย่างเมืองทงเทียน ฉันไม่เห็นมันอยู่ในสายตา มันไม่มีคุณสมบัติที่จะมาเทียบกับฉันจริงๆ” ซูเฉินพยักหน้า กล่าวอย่างเฉยเมย

วินาทีที่คำนี้หลุดออกไป บังเกิดความโกลาหลขึ้นโดยรอบทันที

“ให้ตายเถอะ เจ้าหนุ่มก้าวร้าวนั่นมาจากที่ไหนกัน? แม้แต่เมืองทงเทียนก็กล้าบอกว่าไม่อยู่ในสายตา”

“ดูเหมือนจะมาจากเขตหวงหลิน น่าจะยังไม่เคยเห็นโลกกว้าง เลยยังไม่รู้ว่าเมืองทงเทียนแข็งแกร่งมากแค่ไหน”

“ไอ้เด็กนั่นตายแน่ เพราะในหมู่ทหารยาม มีหลายคนที่มาจากเมืองทงเทียน”

“กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นคืนสนอง พวกเรามารอดูความสนุกกันดีกว่า”

ชายชราหงอกขาวถึงกับอ้าปากค้าง สีหน้าของเขากลายเป็นน่าเกลียดอย่างถึงที่สุด

ถ้าเขารู้ว่าซูเฉินหยิ่งยโสขนาดนี้ เขาคงไม่เดินเข้าไปคุยกับซูเฉินตั้งแต่แรก ตอนนี้คิดกลับตัวกลับใจคงไม่ทันแล้ว

“ฮะฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า!”

ทหารยามหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง จ้องมองซูเฉินราวกับกำลังมองคนโง่ หัวเราะเยาะว่า “เจ้าหนู ในเมื่อแกไม่เห็นเมืองทงเทียนอยู่ในสายตา งั้นกล้าเปิดเผยชื่อของตัวเองหรือไม่?”

“บิดาชื่อโม่เฉิงกง มาจากภูเขาฉีหลิน” ซูเฉินกล่าวอย่างภาคภูมิใจ

โม่เฉิงกงคือพี่ชายของโม่ไฉ่เหลียน เป็นคนของภูเขาฉีหลินจริงๆ แถมยังเป็นผู้วิวัฒนาการเลเวล 4 เหมือนเขาพอดีอีกด้วย

ข้อมูลทั้งหมดนี้ เขารู้มาจากชายเคราแพะของกลุ่มอินทรีทอง

เมื่อพิจารณาแล้วว่าที่นี่เกิดปัญหาขึ้นแน่ๆ เขาเลยตัดสินใจสาดน้ำเสียใส่ภูเขาฉีหลิน

“เจ้าหนู อย่ามาล้อเล่นนะ ภูเขาฉีหลินคือบ้าอะไร ฉันไม่รู้จัก!” ทหารยามแค่นเสียงเย็นด้วยความรังเกียจ

เขาพอรู้ข้อมูลเกี่ยวกับขุมกำลังน้อยใหญ่จากเขตหยูหลินมาบ้าง ซึ่งที่เคยได้ยินมา ไม่มีชื่อภูเขาฉีหลินอยู่เลย จึงคิดว่านี่คงเป็นชื่อขุมกำลังจากเขตหวงหลิน

แต่เขตหวงหลินสามารถเทียบกับเขตหยูหลินได้หรือ?

ต่อให้เป็นขุมกำลังระดับสูงสุดของเขตหวงหลิน ก็ยังสู้ขุมกำลังระดับสามในเขตหยูหลินไม่ได้ด้วยซ้ำ

“ดูถูกภูเขาฉีหลิน? โทษของพวกแกคือความตาย!”

เมื่อคิดสวมหน้ากากเป็นคนจากภูเขาฉีหลิน ซูเฉินก็ต้องให้จบ ทว่าขณะที่กำลังจะลงมือ ชายร่างกำยำคนหนึ่งรีบวิ่งออกมาจากปากทางเข้า

ชายคนนั้นวิ่งเข้ามาปุ๊บ ก็ตบหน้าทหารยามทันที อีกฝ่ายลงมือค่อนข้างโหดเหี้ยมทีเดียว ทหารยามเลือดกลบปากพูดไม่ได้อีกเลย แม้แต่ฟันยังหลุดไปหลายซี่

ได้เป็นสักขีพยานของฉากนี้ ผู้คนที่มุงดูอยู่รอบๆต่างเกิดความสับสน

พวกเขาไม่มีใครเคยได้ยินชื่อภูเขาฉีหลินมาก่อน แต่ชายร่างกำยำที่เป็นหัวหน้าทหารยาม จากการกระทำของเขา มันแสดงให้เห็นอย่างชัดเจน ไม่ต้องสงสัยเลยว่าภูเขาฉีหลินต้องมีภูมิหลังอันยิ่งใหญ่อย่างแน่นอน ใหญ่โตชนิดแม้แต่หัวหน้าทหารยามยังไม่กล้ายั่วยุ

หลังจากทุบตีผู้ใต้บังคับบัญชาของเขา ชายกำยำหันมาหาซูเฉินด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม “ลูกน้องของผู้น้อยมีตาแต่ดันไม่มีแวว บังอาจหาเรื่องนายท่าน ได้โปรดอย่าถือสาเลย”

คนอื่นไม่รู้เรื่องของภูเขาฉีหลิน แต่เขารู้!

ภูเขาฉีหลินคือขุมกำลังระดับมหาอำนาจในเขตหยูหลิน ต่อให้เมืองทงเทียนจะแข็งแกร่งมากก็จริง แต่เทียบไม่ได้กับภูเขาฉีหลิน

อย่างไรก็ตาม มีสิ่งหนึ่งที่เขาคิดยังไงก็ไม่เข้าใจ

นั่นคือภูเขาฉีหลินมักปิดซ่อนตัวตนอยู่เสมอ ยากนักที่จะประกาศตัวอย่างโอ่อ่าเช่นซูเฉิน

“ล่วงเกินภูเขาฉีหลินของพวกเรา คิดว่าแค่ขอโทษเรื่องจะจบง่ายๆหรือ? นี่แกคิดว่าภูเขาฉีหลินของพวกเราเป็นตัวอะไร?” ซูเฉินยิ้มเยาะ

เป้าหมายของเขาคือการก่อความวุ่นวายครั้งใหญ่อยู่แล้ว ในเมื่อมีโอกาสสาดของเสียใส่ภูเขาฉีหลินแบบนี้ แล้วเขาจะยอมให้จบง่ายๆได้อย่างไร?

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด