ตอนที่แล้ว396 - กวาดล้างการทดสอบอย่างต่อเนื่อง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป398 - ความท้าทายที่แท้จริง

397 - เชี่ยวชาญทั้งบุ๋นบู๊


397 - เชี่ยวชาญทั้งบุ๋นบู๊

โต๊ะเหล็กในห้องทรุดตัวลงกับพื้นโดยไม่มีเสียง และทางเข้าสู่ชั้นถัดไปก็ค่อยๆ เปิดออกและมีตัวอักษรเขียนไว้ว่า

—— เป็นการยากที่จะหาคู่ต่อสู้ในระดับเดียวกัน ผู้ที่มีความกล้าหาญและความสามารถสามารถขึ้นไปที่ชั้นสี่ได้!

บรรทัดนี้เขียนไว้ที่ทางเข้า

เอี้ยนลี่เฉียงเหลือบมองที่แถวของคำ จากนั้นยกขาขึ้นและมุ่งหน้าขึ้น

ขณะที่เอี้ยนลี่เฉียงผลักประตูไปที่ชั้นสี่และคิดว่าเขาจะเผชิญกับการต่อสู้ที่ยากลำบาก เขาก็ตกตะลึงกับสิ่งที่เขาเห็นในห้อง

บนชั้นสี่ของเจดีย์ มีชั้นหนังสือสูงอยู่ทุกหนทุกแห่ง ชายแก่ที่มีผมสีขาวเงินและมีเครานั่งอยู่กลางโต๊ะสองสามตัว ถือหนังสือเงียบๆ…

เอี้ยนลี่เฉียงคิดว่าความท้าทายที่ยากลำบากบางอย่างกำลังรอเขาอยู่ที่ชั้นสี่ เขาจะไม่แปลกใจแม้ว่าจะมีแมลงมีพิษหรือสัตว์ดุร้ายที่พร้อมจะจู่โจมเขาได้ตลอดเวลา

เมื่อเขาเห็นว่ามีเพียงชายชราคนหนึ่งรออยู่ เอี้ยนลี่เฉียงมองมาที่เขาด้วยความงุนงง จากนั้นจึงขยี้ตาไม่สามารถตอบสนองได้ทันเวลา

ชายชราคนนั้นสวมชุดคลุมผ้าลินินสีขาว ผมและเคราสีขาวของเขาพันกัน ทำให้เอี้ยนลี่เฉียงมีความรู้สึกว่าเขามีลักษณะคล้ายกับดัมเบิลดอร์จากเรื่อง 'แฮร์รี่ พอตเตอร์'

ชายชรานั่งบนเบาะ ไขว่ห้าง เพลิดเพลินกับหนังสือที่เขากำลังอ่าน เขาหมกมุ่นอยู่กับการอ่านจนไม่สังเกตว่าเอี้ยนลี่เฉียงปรากฏตัวบนชั้นสี่

“แค่ก…” เอี้ยนลี่เฉียงไอ…

ผ่านไปไม่กี่ลมหายใจ ชายชราก็ไม่แสดงปฏิกิริยาใดๆ…

เอี้ยนลี่เฉียงไอดังขึ้นอีกสองครั้ง แต่ชายชราก็ยังไม่เคลื่อนไหว เขายังคงก้มหน้าอ่านหนังสือที่เขาถืออยู่...

ในที่สุดเอี้ยนลี่เฉียงก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป เขาก้าวไปข้างหน้าสองก้าวและร้องเสียงดัง

“ผู้อาวุโส…”

“อา…” ดูเหมือนชายชราจะสะดุ้งเมื่อมือสั่นและเขาก็ทิ้งหนังสือที่ถืออยู่ จากนั้นเขาก็มองไปที่เอี้ยนลี่เฉียงอย่างสงสัยและชี้ไปที่เขา

“เจ้า… เจ้า… เจ้ามาที่นี่ได้อย่างไร…”

“ผู้อาวุโสคิดว่าข้าไม่ควรอยู่ที่นี่หรือ” เอี้ยนลี่เฉียงยิ้มและถาม

“มันเร็วเกินไป เจ้าจะเร็วขนาดนี้ได้อย่างไร? มันนานแค่ไหนแล้ว? ยังไม่ถึงวันเลย เจ้ามาที่นี่ได้ยังไง”

“เหตุผลที่ข้าขึ้นมาก็เป็นเพราะข้าผ่านสามขั้นตอนด้านล่างแล้ว!”

“เร็วเกินไป เร็วเกินไป คนอื่นใช้เวลาอย่างน้อยสองถึงสามวันกว่ามาที่นี่ เจ้าเป็นคนที่เร็วที่สุดที่ข้าพบและมาถึงที่นี่เร็วเกินไป…”

เอี้ยนลี่เฉียงยิ้มและเดินไปที่โต๊ะของชายชรา เขาโค้งคำนับชายชรา

"ข้าจะเรียกผู้อาวุโสว่าอย่างไร"

ชายชราจ้องที่เอี้ยนลี่เฉียงและมองเขาอย่างจริงจัง จากนั้นเขาก็เกาผมยุ่งและแสดงสีหน้าครุ่นคิด

“ข้าจำชื่อข้าไม่ได้ด้วยซ้ำ ข้าจำได้ว่าแซ่ของข้าอาจเป็นอวิ๋น ใช่ ถูกต้องมันคืออวิ๋น นานมากแล้วที่ไม่มีใครเรียกชื่อข้าข้าเลยลืมมันไป

ข้าคือคนที่เฝ้าฐานที่มั่นของนิกายกระบี่ศักสิทธิ์ เป็นคนที่ชอบหนังสือ อย่างไรก็ตามชื่อนั้นไม่สำคัญจริงๆเจ้าเรียกข้าว่าผู้อาวุโสอวิ๋นก็ได้…”

เมื่อชายชรากำลังพูด เอี้ยนลี่เฉียงยังคงสัมผัสได้ถึงรัศมีของเขา ในตอนแรกเอี้ยนลี่เฉียงคิดว่าชายชราคนนี้เป็นผู้เชี่ยวชาญที่ซ่อนเร้นจากนิกายกระบี่ศักดิ์สิทธิ์

แต่หลังจากที่ได้สัมผัสอย่างระมัดระวัง เขาพบว่าชายชราผู้นี้ดูเหมือนจะไม่ใช่ยอดฝีมืออย่างที่เขาเข้าใจ แล้วดูท่าว่าใช้ชราคนนี้น่าจะไม่เคยฝึกฝนศิลปะต่อสู้ด้วยซ้ำ เอี้ยนลี่เฉียงรู้สึกว่าชายชราคนนี้มีนิสัยค่อนข้างน่ารักอยู่บ้าง

“ผู้อาวุโสอวิ๋นต้องให้ความรู้อะไรแก่ข้า?”

“… โอ้ ข้าจำได้ ใช่มีหตุผลที่ข้ามาที่นี่ก็เพื่อจะได้ทดสอบเจ้า เจ้าสามารถมีสิทธิ์ขึ้นไปชั้นบนหลังจากผ่านการทดสอบของข้าเท่านั้น ถ้าเจ้าทำไม่ได้…” ชายชราชี้ไปที่ชั้นวางหนังสือ “มีคู่มือลับในกล่องที่วางอยู่ใต้ชั้นวางหนังสือนั้น เอาออกไปและอย่ากลับมาที่นี่!”

“ผู้อาวุโสต้องการทดสอบข้าเรื่องอะไร”

“แน่นอนว่าเป็นสิ่งที่ยังไม่ได้ทดสอบบนชั้นหนึ่ง สองและสาม!” ชายชรากลอกตา

“อย่าดูถูกมัน ตลอดแปดสิบปีที่ผ่านมา ตราบใดที่ผู้คนเข้ามาในถ้ำกระบี่ ข้าก็เป็นคนที่ออกข้อสอบตลอดและยังไม่มีใครแม้แต่คนเดียวที่สามารถเอาชนะข้าได้

เหตุผลที่ไม่มีใครสามารถขึ้นไปบนชั้นห้าตลอดตั้งแต่ที่ข้ามาอยู่ที่นี่ก็เพราะว่ายังไม่มีใครมีภูมิปัญญามากเพียงพอ”

“ผู้อาวุโสไม่ต้องกังวล ต่อให้ไม่สามารถขึ้นสู่ชั้นห้าได้ ข้าก็ทำได้เพียงแค่ต้องโทษความรู้ของตัวเองไม่เพียงพอเท่านั้น!”

“แน่นอน หากเจ้าไม่โทษตัวเองหรือเจ้าต้องโทษข้า” ชายชราถอนหายใจ “พร้อมหรือยัง? ถ้าพร้อมแล้วค่าจะเริ่มทดสอบทันที!”

เอี้ยนลี่เฉียงสูดหายใจเข้าลึกๆ

“ผู้อาวุโส โปรดให้การทดสอบแก่ข้า!”

"ถ้าอย่างนั้นก็เริ่มเถอะ!" ชายชรามองไปที่เอี้ยนลี่เฉียงพับแขนเสื้อขึ้นแล้วสูดหายใจเข้าลึกๆแล้วกล่าวว่า

“ตอบคำถามนี้ให้ถูก!”

เอี้ยนลี่เฉียงกระพริบตาแล้วกระพริบอีกครั้ง เขาคิดว่าเขาหูฝาด แต่เมื่อเขาได้ยินชายชราพูดขึ้นอีกครั้งและหยิบกระดาษแผ่นหนึ่งยื่นมาให้เขา

ในกระดาษแผ่นนั้นมีคำว่า—— แพะหัวขึ้นภูเขา ภูเขาแตะกีบแพะ แบ แบ

“ท่านผู้อาวุโส ท่านขอให้ข้าต่อโคลงนี้ครบหรือไม่?”

ชายชราพยักหน้าอย่างจริงจัง

“อืม นี่เป็นเพียงคำถามแรกเท่านั้น ที่นั่นมีโต๊ะทำงานพร้อมแปรงและหมึก เขียนคำตอบของเจ้าลงในกระดาษแผ่นนี้แล้วนำมา ให้ข้า

เจ้าสามารถคิดเกี่ยวกับมันอย่างช้าๆกี่วันก็ไม่เป็นไร แต่ทุกสิ่งทุกอย่างต้องไม่เกินเจ็ดวัน และลายมือของเจ้าต้องไม่แย่มากเกินไปไม่เช่นนั้นถือว่าสอบตก!”

“นี่คือการทดสอบในชั้นที่สี่?” เอี้ยนลี่เฉียงไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี

"เจ้ารู้อะไร? เจ้าคิดว่ามันง่ายเหรอ?” ชายชราเป่าหนวดของเขาและจ้องไปที่เอี้ยนลี่เฉียง ขณะที่เริ่มส่ายหัว

“โลกนั้นใหญ่โต หากเจ้าฝึกฝนเพียงศิลปะการต่อสู้เท่านั้นโดยที่ไม่มีความรู้ เจ้าก็จะเป็นเพียงแค่นักรบและไม่สามารถพัฒนาตัวเองกลายเป็นผู้ปกครองของโลกได้

การรู้หนังสือและศิลปะการต่อสู้เป็นเหมือนหยินและหยาง พวกมันจะชดเชยจุดอ่อนของกันและกัน เจ้ารู้หรือไม่ว่าคนที่เป็นใหญ่ในทวีปสีเงินล้วนแล้วแต่เชี่ยวชาญทั้งสองอย่าง!”

เอี้ยนลี่เฉียงไม่โต้เถียงหลังจากฟังคำพูดของชายชรา เขาเพียงตอบตกลง หยิบกระดาษแผ่นนั้นขึ้นมา แล้วมุ่งหน้าไปที่โต๊ะที่ชายชราชี้ไป

เขาวางกระดาษลงบนโต๊ะ ครุ่นคิดสักครู่ จากนั้นหยิบแปรงขึ้น เทน้ำและบดหมึก จากนั้นเขาก็เขียนส่วนที่สองของโคลงคู่นี้ลงบนกระดาษ

เอี้ยนลี่เฉียงได้ใช้ความพยายามอย่างมากในการฝึกฝนการเขียนอักษรแบบปกติ ดังนั้นลายมือของเขาจะไม่น่าเกลียดเกินไป

ครึ่งแรกของโคลงกลอนคือ: แพะหัวขึ้นภูเขาภูเขาแตะกีบแพะ แบ แบ

คำตอบของเอี้ยนลี่เฉียงสำหรับท่อนที่สองคือ ควายลงน้ำ น้ำจมเขาควาย มู มู

หลังจากเอี้ยนลี่เฉียงเขียนเสร็จแล้ว เขารอให้หมึกแห้งก่อนที่เขาจะนำกระดาษไปให้ชายชราและยื่นมันให้ด้วยความเคารพ

“ผู้อาวุโส กรุณาดูด้วย!”

“เร็วมาก…” ชายชราคนนั้นหยิบหนังสือขึ้นมาอ่านเพียงสองหน้าเมื่อเขาสังเกตเห็นว่าเอี้ยนลี่เฉียงเสร็จสิ้นคำถามแรกของเขาแล้ว เขาวางหนังสือที่เขาถืออยู่และหยิบ 'กระดาษทดสอบ' จากมือของเอี้ยนลี่เฉียง

“ลายมือดี!”

ชายชราอดไม่ได้ที่จะสรรเสริญเอี้ยนลี่เฉียงเมื่อเห็นลายมือของเขา จากนั้นหลังจากอ่านคำตอบของเอี้ยนลี่เฉียงในส่วนที่สองของโคลงกลอนนี้แล้วเขาพยักหน้า

“ไม่เลว ไม่เลว มันเรียบร้อยมาก”

“ผู้อาวุโส ข้าผ่านคำถามนี้หรือไม่” เอี้ยนลี่เฉียงถาม

“เจ้าผ่านคำถามนี้แล้ว ข้าไม่ได้คาดหวังว่าเจ้าจะฉลาดและมีความรู้มากถึงขนาดนี้ แม้ว่าเจ้าจะอายุยังน้อยแต่ก็หายากจริงๆที่จะมีคนมีความรู้ระดับเจ้า!” ชายชราพยักหน้าเห็นด้วย

“ท่านผู้อาวุโส ข้าขอขึ้นไปเดี๋ยวนี้ได้หรือไม่”

“ฮ่าฮ่า มันจะง่ายขนาดนี้ได้อย่างไร? นี่เป็นเพียงคำถามแรก!” ชายชราพูดแบบนี้และรู้สึกมีกำลังใจขึ้นทันที

เขาวางหนังสือลงยืนขึ้นและเดินออกจากโต๊ะทั้งสามไปยังที่ที่เอี้ยนลี่เฉียงเขียนคำตอบ

เขาหยิบกระดาษแผ่นหนึ่งออกมาจากใต้โต๊ะแล้ววางลงบนโต๊ะ จากนั้น หลังจากครุ่นคิดครู่หนึ่งและเหลือบมองไปยังเอี้ยนลี่เฉียง เขาก็เขียนบรรทัดหนึ่งลงบนกระดาษแผ่นนั้น

ในตอนแรกเอี้ยนลี่เฉียงคิดว่าชายชรากำลังจะเขียนอะไรบางอย่าง หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ตระหนักว่าชายชราไม่ได้เขียน แต่วาดรูป

ในช่วงเวลาสั้นๆเอี้ยนลี่เฉียงสามารถบอกได้ว่าสิ่งที่ชายชรากำลังวาดคือฉากหิมะบนยอดเขาเทียนกุ่ยที่สามารถมองเห็นได้ในช่วงสองสามวันนี้

ในที่สุดชายชราก็วางแปรงลง ภาพวาดคือฉากที่เต็มไปด้วยหิมะบนยอดเขาเทียนกุ่ยและดอกบ๊วยขี้เบ่งบานด้วยความโดดเด่นมีความงดงามจนน่าเหลือเชื่อ

ชายชราวางแปรงลงและมองภาพวาดของเขาด้วยความพึงพอใจพร้อมยิ้ม จากนั้นเขาก็พูดกับเอี้ยนลี่เฉียงว่า

“เจ้าคิดอย่างไรกับภาพวาดนี้”

“ไม่เลว ทักษะการวาดภาพของผู้อาวุโสมาถึงจุดที่สมบูรณ์แบบแล้ว น่าชื่นชมจริงๆยิ่งไปกว่านั้น ภาพวาดนี้แสดงถึงแนวคิดที่ยอดเยี่ยม”

“นี่เป็นเพียงว่าภาพวาดนี้ยังขาดโคลงที่เหมาะสม นี่เป็นคำถามสุดท้าย ให้เจ้าแต่งกลอนกำกับภาพวาดนี้ไว้ หากเจ้าแต่งออกมาได้ไม่ดีจะถือเป็นการทำลายภาพวาดและเจ้าจะไม่ผ่าน”

นี่เป็นคำถามสุดท้ายของชายชราและเมื่อเทียบกับบทกลอนก่อนหน้านี้ ความยากตอนนี้สูงขึ้นหนึ่งขั้น ยิ่งไปกว่านั้นสิ่งที่ยากที่สุดคือเอี้ยนลี่เฉียงถูกคาดหวังให้ด้นสดทันที

หลังจากที่ชายชราพูดเช่นนี้ เขาก็วางแปรงลงบนชั้นวางแปรงและให้เวลาเอี้ยนลี่เฉียงคิด

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด