315-316
7/10
Ep.315
ซูเฉินกังวลว่าจะรบกวนเต่าทรราช แล้วส่งผลกระทบต่อการยกระดับของมัน ดังนั้นปิด [พื้นที่เลี้ยงสัตว์] ทันที
ต่อมา เขาหันไปมองหน้าจอควบคุมส่วนกลาง และเริ่มค้นหาที่อยู่ของซอมบี้และสัตว์กลายพันธุ์อีกครั้ง
ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่หยางหลิงเทียนก้าวเข้ามา อีกฝ่ายเอ่ยถามว่า “ซูเฉิน พวกสัตว์กลายพันธุ์ในเทือกเขาฮวงเจ๋อ จะล่ามันต่อเลยดีไหม?”
ก่อนหน้านี้ สัตว์กลายพันธุ์นับพันตัวได้หลบหนีเข้าไปในเทือกเขาฮวงเจ๋อ ซึ่งนั่นไม่ใช่จำนวนน้อยๆ
“อย่าไปสนใจพวกมันเลยครับ ไปล่าที่สถานชุมชนแห่งอื่นกันดีกว่า” ซูเฉินตอบ
ภูมิประเทศในเทือกเขาฮวงเจ๋อค่อนข้างซับซ้อน นอกจากนี้พวกสัตว์กลายพันธุ์ยังเก่งในการหลบหนี หากต้องการล่าพวกมันทั้งหมด แทบเป็นไปไม่ได้
เมื่อไม่มีวี่แววของซอมบี้บนหน้าจอควบคุมส่วนกลาง ซูเฉินจึงตัดสินใจลองเสี่ยงโชคกลับไปยังสถานชุมชน
“เสี่ยวจือ ล็อคตำแหน่งสถานชุมชนเทียนหนาน” ซูเฉินสั่ง
สถานชุมชนเทียนหนานเคยเป็นรังของจิ่นเฟยซี คาดว่าน่าจะมีซอมบี้อยู่ไม่น้อย
“รับทราบ”
[รถศึกอัจฉริยะ] สตาร์ทเครื่อง มุ่งหน้าที่จุดหมายปลายทาง
…
วันถัดๆมา ระหว่างทางซูเฉินและคนอื่นๆ ยังคงออกล่าซอมบี้อย่างต่อเนื่อง ใช้เวลาเกือบครึ่งเดือน ฝูงซอมบี้ขนาดใหญ่ในเขตหวงหลินของเกาะเฉียนหยูก็ถูกล่าจนหมดสิ้น
ในช่วงเวลาที่กล่าวมา จำนวนซอมบี้ที่ล่าได้มีทั้งสิ้น 40,000-50,000ตัว การกอบโกยของซูเฉินทำกำไรค่อนข้างดี
เขาได้รับหินพลังงานจำนวนมหาศาล ไม่ต้องกล่าวถึงแต้มพลังงานที่สะสมเพิ่มขึ้นอีกได้มากกว่า 5,000 แต้ม
วันนี้ ทุกคนทานข้าวเย็นกัน ล้อมวงหารือ
“ซูเฉิน พวกเราจะไปที่ไหนกันต่อ?” หวู่หยางถาม
ในเขตหวงหลิน ไม่เหลือซอมบี้ให้ฆ่าอีกแล้ว จำเป็นต้องหาที่ใหม่
สำหรับตอนนี้ พวกเขามีสองทางเลือก
หนึ่งคือไปยังเขตหยูหลิน อีกหนึ่งมุ่งสู่ทะเลเพื่อล่าสัตว์ทะเล
ซูเฉินครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนตอบว่า “ไปเขตหยูหลินก่อนก็แล้วกัน”
เขตหยูหลินไม่ใช่แค่มีพื้นที่ใหญ่ที่สุดบนเกาะเฉียนหยูเท่านั้น แต่ยังมีขุมกำลังกระจายตัวอยู่มากมาย
นอกจากนี้ เขามีปัญหากับพวกนิกายวูหยิน , นิกายขวงฉี และเมืองทงเทียนพอดี ถึงเวลาแล้วที่จะสะสางเรื่องราวในอดีต
สมาชิกคนอื่นๆเมื่อได้ยินว่าจะเดินทางไปยังเขตหยูหลิน ทุกคนก็ตื่นเต้นเล็กน้อย
เขตหยูหลินเจริญรุ่งเรืองและเปี่ยมไปด้วยเหล่าขุมอำนาจ ที่นั่นมีเมืองใหญ่เป็นสิบแห่ง แต่ละแห่งมีประชากรมากกว่า 100,000 คน
ซึ่งในบรรดาทั้งหมด ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือเมืองทงเทียน พวกเขามีประชากรอยู่ถึงหนึ่งล้านคน ได้ยินมาว่าที่นั่นมีของขายทุกชนิด ประเด็นนี้กระตุ้นความสนใจของพวกเขาเป็นอย่างมาก ในใจลึกๆอยากไปที่นั่นตั้งนานแล้ว
หลังจากตกลงกัน ซูเฉินทำการตรวจสอบภูมิประเทศบนหน้าจอควบคุมส่วนกลาง
แต่กลับพบว่าเขตหยูหลินใช่จะสามารถเข้าไปได้ง่ายๆ
เหตุผลก็คือ บริเวณรอบนอกของเขตหยูหลิน มีทิวเขาที่คดเคี้ยววนเป็นวงแหวน เรียกกันว่า เทือกเขาฉวี่หลิน
และเพราะการดำรงอยู่ของเทือกเขาฉวี่หลินนี่เอง ที่แบ่งแยกเกาะเฉียนหยูออกเป็นสามส่วน
การข้ามเทือกเขาฉวี่หลินใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ แต่ต้องใช้ความพยายามเป็นอย่างมาก
ในขณะที่หากคุณต้องการเข้าสู่เขตหยูหลินโดยไม่ต้องเปลืองแรงใดๆ ก็แค่ใช้ช่องทางผ่านพิเศษเท่านั้น
มีอยู่สองทางที่เชื่อมระหว่างเขตหยูหลินกับเขตหวงหลิน พวกมันถูกขุดโดยกำลังมนุษย์
เส้นทางที่ใกล้กับพวกซูเฉินในตอนนี้ อยู่ไม่ไกลจากเมืองหวังเยว่
ซูเฉินพอพบตำแหน่งที่แน่นอนบนเส้นทางแผนที่ ก็เอ่ยกับ [รถศึกอัจฉริยะ] “เสี่ยวจือ ไปที่นั่น”
[รถศึกอัจฉริยะ] ล็อคปลายทาง จากไปอย่างสง่าผ่าเผย
ห้าวันต่อมา เทือกเขาสูงตระหง่านปรากฏขึ้นเบื้องหน้ารถศึก
เทือกเขานี้ทอดยาวจากตะวันตกไปตะวันออก มองไปราวกับไร้ที่สิ้นสุด มิใช่ใดอื่น เป็นเทือกเขาฉวี่หลิน
ยิ่งไปกว่านั้น สถานที่ๆ [รถศึกอัจฉริยะ] กำลังวิ่งอยู่ มันห่างจากทางเข้าสู่เขตหยูหลินไม่ถึงร้อยไมล์
ซูเฉินเหลือบมองหน้าจควบคุมส่วนกลาง จากนั้นถอนสายตาออก ตั้งใจที่จะหลับพักผ่อน
แต่ทันใดนั้นเอง เสียงแจ้งเตือนพลันดังขึ้น
“คำเตือน! มีรถฐานทัพกำลังวิ่งเข้ามาหาพวกเรา คาดว่าจะปะทะกันในอีกสองนาที”
8/10
Ep.316
“เสี่ยวจือ หยุดรถ” ซูเฉินออกคำสั่ง ดวงตาของเขาหรี่ลงเล็กน้อย
เพ่งมองไปยังอีกฝ่ายที่ตรงเข้ามา ดูยังไงก็ไม่น่าเป็นมิตร
แต่แล้วยังไง? ไม่ว่าอีกฝ่ายจะมีภูมิหลังเป็นมาอย่างไร หากกล้ายั่วโมโหเขา พวกมันคงโชคร้าย ไม่ได้พบจุดจบที่ดี
ไม่นาน รถฐานทัพสีแดงก็วิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว
“รถฐานทัพของเขตหยูหลินงั้นหรอ?” ซูเฉินพึมพำ
ที่เอ่ยเช่นนั้น เพราะรถฐานทัพสีแดงคันนี้มีความยาวถึง 15 เมตร แถมยังมีโลโก้หัวอินทรีทองตั้งเด่นอยู่ด้านหน้ารถ คาดว่าคงเป็นสัญลักษณ์เฉพาะของกองกำลังกลุ่มหนึ่ง
รถฐานทัพรูปทรงนี้ เขาไม่เคยเห็นมาก่อน จึงคาดเดาว่าน่าจะมาจากเขตหยูหลิน
เมื่อรถฐานทัพสีแดงจอดลงหน้า [รถศึกอัจฉริยะ] ก็มีทหารมากกว่า 20 คนพร้อมอาวุธครบมือก้าวลงมา
พวกเขาแต่งกายด้วยเครื่องแบบสีดำเหมือนกันหมด แต่ละคนมีใบหน้าดุร้าย คล้ายเอกลักษ์ของพวกโจรชั่วไม่ก็อันธพาล
หัวหน้ากลุ่มเป็นชายวัยกลางคนในอายุ 40 ปี ไว้เคราแพะ เขาจ้องมองไปทาง [รถศึกอัจฉริยะ] แล้วตะโกนว่า “ทุกคนที่อยู่ข้างใน ไสหัวลงมาให้บิดา!”
“ไอ้โง่นี่มาจากที่ไหนกัน? ถึงกล้าตะโกนใส่พวกเรา สงสัยจะเบื่อชีวิตแล้ว?”
“พี่เฉิน ให้ฉันลงไปสั่นสอนไอ้เวรนั่นเถอะ!”
“พี่เฉิน ฉันก็จะไปด้วย”
เห็นอีกฝ่ายหยิ่งผยองเช่นนี้ หยางฮ่าวและสหายรู้สึกมีน้ำโห พากันเอ่ยขออนุญาตออกไปสู้จากซูเฉิน
ซูเฉินผุดรอยยิ้มจาง “ลงไปดูก่อนค่อยว่ากัน”
คนอวดดีแบบนี้ เขาเคยเห็นมานักต่อนักแล้ว และชะตากรรมสุดท้ายของพวกมัน คือจบชีวิตลงในมือเขา
ไม่จำเป็นต้องรีบร้อนมอบบทเรียนให้พวกมัน ยังไงก็สืบหาที่มาของอีกฝ่ายก่อนถึงจะดี
เปิดประตูรถ ซูเฉินก้าวลงอย่างช้าๆ หยางฮ่าวและสหายตามหลังมาติดๆ คนอื่นๆถูกซูเฉินสั่งให้อยู่ในรถ
เมื่อเห็นสี่หนุ่มลงมา ชายเคราแพะก็แค่นเสียงหึ! ด้วยความหยามเหยียดทันที
“สุภาพบุรุษทุกท่าน มีธุระอะไรถึงได้หยุดพวกเรา? ถ้าไม่มีคำอธิบายดีๆให้ฉัน เกรงว่าพวกคุณอาจมีปัญหาได้”
ซูเฉินกวาดสายตามองอีกฝ่าย เอ่ยถามอย่างไม่แยแส
ได้ยินแบบนั้น ทหารทั้งยี่สิบคนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามผงะไปครู่หนึ่ง ก่อนระเบิดเสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง
“ไอ้หนู แกมันบ้าไปแล้ว! นี่แกกล้าขู่พวกเราหรือ? รู้รึเปล่าว่าพวกเราเป็นใคร” ชายเคราแพะหยุดหัวเราะ สีหน้าเริ่มหมองลง
ซูเฉินถูจมูก คิดในใจว่าเข้าทางล่ะ เอ่ยปากกล่าว “ก็ลองว่ามาสิฉันอยากรู้”
ชายเคราะแพะพ่นลมหายใจฮึดฮัด กล่าวอย่างภาคภูมิว่า “พวกเรามาจากกลุ่มอินทรีทอง เป็นไง ตอนนี้รู้สึกกลัวขึ้นมาแล้วใช่ไหม”
กลุ่มอินทรีทองเป็นกองกำลังระดับสามในเขตหยูหลิน สมาชิกที่แข็งแกร่งที่สุดในกลุ่ม คือท่านหัวหน้าจินซวี่หยาง เป็นถึงผู้วิวัฒนาการเลเวล 3
ซูเฉินเคยได้ยินข้อมูลจากปากชายชราแห่งนิกายวูหยินมาก่อน เมื่อได้ยินที่มาของอีกฝ่าย ก็เบ้ปากด้วยความดูถูก “ก็แค่กลุ่มเล็กๆ” แล้วกล่าวต่อว่า “บอกจุดประสงค์ของแกมาดีกว่า เวลาของฉันมีค่า ไม่อยากเสียเปล่าไปกับพวกมดปลวก”
“บัดซบ! ไอ้ตัวอวดดี!”
ด้านหลังชายเคราแพะ ชายหนุ่มคนหนึ่งชี้หน้าซูเฉิน ตะโกนสบถสาปแช่ง
สีหน้าของคนอื่นๆก็ไม่แสดงถึงความเป็นมิตรเช่นกัน ราวกับว่าพวกเขาต้องการกินซูเฉินทั้งเป็น
แม้ว่ากลุ่มอินทรีทองของพวกเขาจะไม่ใช่ขุมกำลังใหญ่ในเขตหยูหลิน แต่ในเขตหวงหลิน สามารถเรียกว่าเป็นราชาได้เลย
แต่ซูเฉินที่มาจากเขตหวงหลิน กลับกล้าดูถูกกลุ่มอินทรีทอง และปฏิบัติต่อพวกเขาเสมือนดั่งมดปลวก
ช่างไม่รู้จักที่ตาย!
ตอนนี้ พวกเขาแค่รอคำสั่งจากชายเคราแพะ ตั้งท่าพร้อมฉีกซูเฉินเป็นชิ้นๆ
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่พวกเขาจะทันได้ลงมือ เห็นแค่เพียงชายหนุ่มที่เพิ่งตำหนิซูเฉินไป ศีรษะระเบิดดังโผล๊ะ!อย่างกะทันหัน ไม่ทราบว่าตกตายได้อย่างไร?
สถานการณ์นี่มันอะไรกัน?
ทำไมจู่ๆเขาถึงตาย?
เป็นฝีมือใคร?
เผชิญหน้ากับสถานการณ์อันแปลกประหลาดนี้ ชายเคราแพะและคนอื่นๆหวาดกลัวจับใจ เบิกตากว้างหันมองไปรอบๆตลอดเวลา
ซูเฉินปาดจมูกเขา เอ่ยเสียงเรียบ “ไม่ต้องมองหาหรอก เพราะฉันเป็นคนฆ่ามันเอง!”