ตอนที่ 18
ในขณะที่วีกำลังตัดผมอยู่นั้นเขาก็ได้เอ่ยถามกับแมนว่า
“แล้วพี่แก้วไปไหนครับ ?”
แมนที่กำลังตัดผมวีอยู่นั้นก็ได้ตอบกลับ
“อ๋อ พอดีแก้วพามีนไปรับเสื้อกับหนังสือเรียนน่ะ”
วีที่ได้กำลังหลับตาอยู่นั้นก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะถามกลับ
“รับชุดนักเรียน ? หมายความว่าไงครับ ?”
“วีเรียนอยู่ที่ดรุณคริสเตียนใช่ไหมล่ะ ?”
“ก็ใช่ครับ”
แมนยิ้มพร้อมกับพูดขึ้นว่า
“พอดีว่ามีนกำลังจะย้ายไปเรียนที่นั่นนะ”
“อ๋อ งี้นี่เองว่าแต่น้องมีนอยู่ม. อะไรแล้วครับ ?”
“ม.2 น่ะยังไงก็ฝากดูแลน้องด้วยละ”
วีที่ได้ยินแบบนั้นก็ตอบกลับไปว่า
“ม. ต้นกับม. ปลายเรียนแยกตึกกันค่อนข้างจะดูแลลำบากเดียวยังไงผมฝากให้ยัยวาดูแลมีนแล้วกัน เพราะยังไงก็อยู่ชั้นเดียวกันน่าจะเข้ากันได้ดีกว่าผม”
แมนที่ได้ยินแบบนั้นก็หัวเราะก่อนจะกล่าวขอบคุณวี
“แต๊งกิ้วมากวี”
“เล็กน้อยครับ”
ที่วียอมช่วยแมนนั้นไม่ใช่เพราะเรื่องที่เขานั้นเป็นลูกค้าขาประจำของร้าน แต่ว่าเพราะว่าวีนั้นนับถือแมนเหมือนกับพี่ชายคนหนึ่ง
เนื่องจากในชีวิตก่อนนั้นวีไม่ค่อยจะป๊อปในหมู่เพื่อนฝูงสักเท่าไหร่ แม้แต่เหล่าเพื่อนผู้ชายด้วยกันเองก็ตามทีดังนั้นชีวิตในช่วงก่อนเข้ามหาลัยก่อนของวีจึงกลายเป็นเด็กเงียบๆที่ไม่สุงสิงกับใคร เรียกได้ว่าแทบจะไม่มีเพื่อนเลยก็ว่าได้
และหนึ่งในเพื่อนจำนวนน้อยนิดของวีหนึ่งในนั้นก็คือแมนซึ่งแมนนั้นถือว่าเป็นเพื่อนต่างรุ่นที่ดีที่สุดของวีเลยทีเดียว
เหตุผลนั่นก็เพราะวีและแมนนั้นชอบเล่นเกมเหมือนกันและชอบเกมแนวเดียวกันจึงสามารถสนิทกันได้อย่างรวดเร็วและกลายเป็นคู่หูเกมเมอร์ไปโดยปริยาย
ถึงแม้จะเป็นช่วงหลังจากที่วีเข้าสู่วงการบันเทิงไปแล้วก็ตามวีก็ยังคงเล่นเกมกับแมนด้วยกันอยู่บ่อยๆถึงจะไม่บ่อยเหมือนเมื่อก่อนก็ตามที
จะเรียกได้ว่าแมนนั้นเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้วีนั้นเลิกที่จะกลายเป็นเด็กเก็บตัวและจมอยู่แต่ในห้องก็ว่าได้ ฉะนั้นการที่วีตอบแทนแมนในเรื่องนี้ถือเป็นอะไรที่เล็กน้อยมากเลยทีเดียว
หลังจากผ่านไปเกือบ 20นาที ในที่สุดแมนก็ตัดผมของวีเสร็จ เขาถอดผ้าที่คลุมตัวของวีออกก่อนจะเอ่ยชมวี
“เรียบร้อย หล่อหยั่งกับดาราเกาหลีแหนะ”
วีที่ได้ยินแบบนั้นก็หัวเราะออกมาก่อนจะพูดกลับไปว่า
“พูดไปเรื่อยนาพี่ ค่าตัดผมเท่าไหร่ครับ ?”
“250บาท ไม่ขาดไม่เกิน”
วีพยักหน้าก่อนจะหยิบกระเป๋าตังค์ขึ้นมาและจ่ายเงิน หลังจากตัดผมเสร็จวีก็กลับมาที่บ้านเมื่อแม่ของวีได้เห็นสภาพของวีหลังจากตัดผมแล้วก็อดไม่ได้ที่จะอุทานออกมา
“แหม ~ หล่อจริงเชียวลูกชายบ้านไหนกันนะ”
วีที่ได้ยินแบบนั้นก็เกาหัวแก้เขินพร้อมกับหัวเราะคิกคักออกมา จากนั้นเขาก็เดินขึ้นห้องไปและนั่งเล่นคอมฯ อย่างสบายใจแต่ก่อนหน้านั้นวีก็ถ่ายรูปตัวเองและอัพลงเฟสบุ๊คเอาไว้เล่นๆ
เมื่อเขาเปิดเฟสบุ๊คขึ้นมาวีก็ต้องแปลกใจเล็กน้อยเนื่องจากมีคำขอเพิ่มเพื่อนขอมาเป็นจำนวนมาก แถมยังมีข้อความในกล่องข้อความจำนวนหนึ่งอีกด้วย
วีที่เห็นก็ถึงกับเกาหัวตัวเองทันที
“เกิดอะไรขึ้นหว่า ?”
วีทำอะไรไม่ถูกไปสักพักก่อนจะจัดการปฏิเสธคำขอเพิ่มเพื่อนทั้งหมดทันที ในระหว่างนั้นเองวีก็เห็นว่ามีเฟสบุ๊คของเบลและพี่ตุ๊กแอดมา
วีคิดเล็กน้อยก่อนจะพิมพ์ไลน์ไปถามทั้งสองคนว่าเฟสดังกล่าวเป็นของทั้งคู่จริงหรือไม่ เมื่อทั้งสองคนยืนยันแล้วว่าเฟสบุ๊คทั้งสองอันนั้นเป็นของตนเองวีก็กดรับเพื่อนทันที
ส่วนข้อความที่ส่งมาทั้งหมดนั้นวีก็ลบทิ้งทันที จากนั้นเบลก็มาคอมเมนต์ในรูปใหม่ของวีว่า ‘อุ้ย ! เด็กหนุ่มเกาหลี’ พร้อมกับหน้าอีโมจิยิ้มๆมา ซึ่งวีเองก็ได้แต่หัวเราะกับความขี้เล่นของเบล
ซึ่งวีเองก็ไม่รู้จะตอบกลับอะไรดีเขาก็ทำได้เพียงกดไลก์ให้กับคอมเมนต์เพียงเท่านั้นก่อนที่วีจะเลิกสนใจและหันกลับไปเล่นเกมต่อ
ไม่กี่วันต่อมา วีตื่นเช้าปกติเล็กน้อยเพื่อให้ได้มีเวลาว่างมากขึ้นเขาออกไปวิ่งแบบทุกทีก่อนจะกลับมากินข้าวเช้าและกลับขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัว แต่วันนี้เสื้อผ้าของวีแตกต่างไปจากทุกที
เพราะวันนี้เป็นวันเปิดภาคเรียนของเขา แต่เนื่องจากกางเกงนักเรียนตัวเก่าของวีนั้นใส่ไม่ได้เพราะเอวมันกว้างจนเกินไป เขาจึงคิดไปซื้อใหม่เมื่อไปถึงที่โรงเรียน
วีจึงต้องจำใจใส่ชุดพละในวันแรกของการเปิดภาคเรียนแทน หลังจากแต่งตัวเรียบร้อยแล้ววีก็สะพายเป้และยืนอยู่หน้ากระจกเล็กน้อยเขายิ้มให้กับตัวเอง
“อื้ม ~ ดูดีไม่น้อย”
หลังจากยิ้มไปได้ไม่นานสีหน้าของเขาเปลี่ยนกลับมาห่อเหี่ยวอีกครั้ง
“ต้องยอมรับสภาพเรื่องกลับไปเรียนจริงๆสินะ เฮ้อ~”