ตอนที่แล้ว391 - วางแผนล่วงหน้า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป393 - เข้าสู่ถ้ำกระบี่

392 - ช่วงเวลาอันรุ่งโรจน์


392 - ช่วงเวลาอันรุ่งโรจน์

ชีวิตก็เหมือนกระดานหก เมื่อด้านหนึ่งตกลงกระดานของอีกฝั่งจะพุ่งขึ้นสูงอยู่เสมอ!

ในความเป็นจริงเอี้ยนลี่เฉียงกำลังเตรียมการสำหรับการแข่งขันปิดตาที่อันตรายในเมืองหลวงของจักรวรรดิ ซึ่งจะดำเนินขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

หากไม่มีอุบัติเหตุการแข่งขันครั้งนี้จะเป็นจุดเปลี่ยนชีวิตของเอี้ยนลี่เฉียงในเมืองหลวงของจักรวรรดิ ในอาณาจักรสวรรค์ เอี้ยนลี่เฉียงก็พบเจอกับช่วงเวลาอันรุ่งโรจน์ครั้งแรกของเขาในนิกายกระบี่ศักดิ์สิทธิ์

ในวันที่ 8 ของเดือน 12 ในปีที่ 17 ของรัชกาลหยวนผิง พิธีกราบอาจารย์ของเอี้ยนลี่เฉียงถูกจัดขึ้นในตอนเช้าที่ห้องโถงบรรพบุรุษบนยอดเขาเทียนกุ่ยของนิกายกระบี่ศักสิทธิ์

กำหนดการของงานจะเริ่มขึ้นในช่วงเย็น โดยปกติแล้ววิธีรับสิทธิ์ของเจ้านิกายทุกนิกายใหญ่จะถูกจับในช่วงเวลานี้ทั้งสิ้น

ในตอนที่ลู่ชิวหมิงเยว่รับศิษย์คนสุดท้ายนั้นเกิดขึ้นเมื่อสิบสองปีก่อน ศิษย์คนนั้นคือกระบี่ผู้กล้าแห่งสวรรค์ ฉีจื่อเจิ้งหนึ่งในสามผู้กล้ารุ่นใหม่ของนิกายกระบี่ศักดิ์สิทธิ์

ก่อนหน้านั้นเมื่อสิบห้าปี ลู่ชิวหมิงเยว่ได้ฝึกศิษย์อีกคนหนึ่ง

นางคือเหลียนอู๋ซวง ซึ่งว่ากันว่าเป็นคนที่แข็งแกร่งมากที่สุดในบรรดาคนรุ่นหลังจากนิกายกระบี่ศักดิ์สิทธิ์

สิบสองปีต่อมาเจ้านิกายรับศิษย์อีกคนอีกครั้ง ไม่เพียงแค่นั้นยังเป็นศิษย์ภายนอกชื่อเอี้ยนลี่เฉียง

เมื่อชื่อนี้หลุดออกไปทั่วทั้งนิกายต่างก็เกิดความโกลาหลครั้งใหญ่

ทุกคนพยายามค้นหาว่าบุคคลที่ไร้ชื่อเสียงนามเอี้ยนลี่เฉียงใช้วิธีใดกันแน่ในการดึงดูดใจของจ้าวนิกาย และเขามายืนอยู่ตำแหน่งนี้ได้ยังไง

ภายในสองวันที่ผ่านมาอดีตของเอี้ยนลี่เฉียงก็ถูกขุดขึ้นมาและแพร่กระจายไปทั่วนิกายกระบี่ศักดิ์สิทธิ์…

สำหรับศิษย์ส่วนใหญ่ในนิกาย เรื่องราวที่สร้างแรงบันดาลใจของเอี้ยนลี่เฉียงเป็นเหมือนเรื่องเล่าระดับตำนาน

แม้จะเป็นศิษย์ภายนอกที่ได้รับมอบหมายให้ทำความสะอาดห้องส้วม แต่เอี้ยนลี่เฉียงก็สามารถเปล่งประกายได้อย่างยอดเยี่ยมและเปลี่ยนชะตากรรมของเขาด้วยการทำงานที่สกปรกที่สุด

เรื่องราวที่สร้างแรงบันดาลใจดังกล่าวเป็นเหมือนซุปไก่ที่บำรุงจิตวิญญาณของศิษย์อายุน้อยในนิกาย ในเวลานี้เอี้ยนลี่เฉียงกลายเป็นวีรบุรุษที่พวกเขาเทิดทูน

หากศิษย์ภายนอกที่ทำความสะอาดห้องน้ำสามารถสร้างชื่อให้ตัวเองในนิกายกระบี่ศักดิ์สิทธิ์ได้ ก็ไม่มีเหตุผลใดที่พวกเขาจะทำอย่างนั้นเพื่อตนเองไม่ได้

มีเพียงสิ่งเดียวที่รั้งพวกเขาไว้ คือพวกเขายังทำหน้าที่ของตัวเองไม่ดีพอ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ถูกสังเกตเห็นโดยผู้อาวุโสหรือหัวหน้าห้องโถง…

ข่าวเกี่ยวกับเอี้ยนลี่เฉียงเป็นแรงบันดาลใจให้ศิษย์ธรรมดาหลายคนในนิกาย

ทันทีที่ถึงเวลาหนึ่งทุ่ม ห้องโถงบรรพบุรุษบนยอดเขาเทียนกุ่ย ก็หนาแน่นด้วยศิษย์ภายในของนิกายกระบี่ศักดิ์สิทธิ์แล้ว

ในเวลานี้ศิษย์ชั้นยอดและสูงกว่าทั้งหมดล้วนเข้าประจำการในห้องโถงบรรพบุรุษอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ศิษย์หลักและศิษย์ภายในต่างก็ยืนอยู่ด้านนอก

หลายคนที่ไม่เคยเห็นเอี้ยนลี่เฉียงมาก่อนต่างก็อยากรู้อยากเห็นว่าเขาจะมีหน้าตาเป็นอย่างไรกันแน่

….

ตามกฎของพิธี เอี้ยนลี่เฉียงไม่ได้รับอนุญาตให้หลับนอนเมื่อคืนนี้ หลังจากเผาเครื่องหอมชำระร่างกายและอดอาหารเขาก็ต้องทำจิตใจให้ปลอดโปร่งและนั่งสมาธิอยู่ที่ห้องเก็บป้ายวิญญาณของบรรพบุรุษนิกายกระบี่ศักดิ์สิทธิ์

หิมะตกหนักในแคว้นล่าย เอี้ยนลี่เฉียงนั่งอยู่ในห้องใต้หลังคาและมองดูเกล็ดหิมะที่ตกลงมาทางนอกหน้าต่าง จิตใจของเขาล่องลอยไปในขณะที่เขาคิดถึงหลายสิ่งหลายอย่าง

เอี้ยนลี่เฉียงไม่เคยมีประสบการณ์แบบนี้มาก่อน ในห้องใต้หลังคาเล็กๆเขาทบทวนวันเวลาที่เขาอยู่ในอาณาจักรสวรรค์แห่งนี้ในทุกวันด้วยความระมัดระวัง

ดูเหมือนว่าตั้งแต่เขากลับมามีชีวิตอีกครั้งเขาจะไม่เคยมีวันเวลาที่สุขสงบมาก่อน เขาต้องฝึกฝนตนเองอย่างต่อเนื่องและเผชิญกับอันตรายที่ไม่มีวันจบสิ้นทุกวัน

ในขณะที่นั่งและไม่มีอะไรทำฆ่าเวลา เอี้ยนลี่เฉียงก็ตระหนักว่าการดูหิมะตกนอกหน้าต่างด้วยความงุนงงตลอดทั้งคืนเป็นการผ่อนคลายชนิดหนึ่ง

ถึงแม้ว่าเขาจะพูดไม่ได้ว่าประสบการณ์นี้เป็นการให้เกิดความรู้แจ้ง แต่ก็ต้องยอมรับว่าในเวลานี้สมาธิของเขาเต็มเปี่ยมและรู้สึกผ่อนคลายจากเหตุการณ์ที่หนักอึ้งซึ่งถาโถมเข้าใส่จิตใจของเขาตลอดหลายวันที่ผ่านมา

ท้องฟ้าด้านนอกหน้าต่างค่อยๆมืดลงเรื่อยๆ เสียงเคาะสามครั้งดังขึ้นจากอีกด้านหนึ่งของประตูห้องใต้หลังคา

“เข้ามา…” เอี้ยนลี่เฉียงพูดเบาๆ

ประตูถูกผลักเปิดออก ศิษย์รับใช้สองคนสวมชุดคลุมสีดำจากห้องโถงบรรพบุรุษยอดเขาเทียนกุยก็เดินเข้ามา แต่ละคนถือถาดที่มีชุดใหม่เอี่ยมอยู่บนนั้น

“ศิษย์พี่เชิญท่านสวมชุดนี้ อีกครึ่งชั่วยามจะมีเสียงเตือนและท่านต้องเดินทางไปที่ห้องโถงบรรพบุรุษ…” ศิษย์รับใช้คนหนึ่งบอกเขาอย่างสุภาพ

เมื่อสองวันก่อนเอี้ยนลี่เฉียงจะต้องเรียกศิษย์รับใช้ภายในสองคนนี้ว่าเป็น 'ศิษย์พี่' เนื่องจากเขาเป็นศิษย์ภายนอก

ในเวลาเพียงชั่วพริบตา ศิษย์ภายในเหล่านี้ต้องเรียกเอี้ยนลี่เฉียงว่าเป็น 'ศิษย์พี่' แทน เนื่องจากตำแหน่งของพวกเขาพลิกกลับอย่างกะทันหัน

"ขอบคุณศิษย์น้อง!” เอี้ยนลี่เฉียงพยักหน้าให้ทั้งสองคน

สายตาของศิษย์รับใช้สองคนจากห้องโถงบรรพบุรุษจ้องมาที่ใบหน้าอันไร้ที่ติของเขาชั่วครู่ ทั้งคู่ดูประหลาดใจแต่ไม่ได้แสดงความคิดเห็นอะไรออกมา

พวกเขาเพียงแค่วางถาดบนโต๊ะน้ำชาจากนั้นก็เดินออกไปและปิดประตู

ถาดหนึ่งบรรจุชุดเสื้อคลุมไหมสีม่วงพร้อมสายคาดสีน้ำเงินอ่อน อีกถาดหนึ่งมีรองเท้าหนังและมงกุฎสีทอง ทั้งหมดนี้เป็นชุดมาตรฐานสำหรับศิษย์ระดับหัวกะทิของนิกายกระบี่ศักสิทธิ์

เอี้ยนลี่เฉียงมองดูรายการบนถาดแล้วลุกขึ้นยืน ในเวลาไม่ถึงสิบห้านาที เขาก็ใส่ทุกอย่างจนเสร็จสิ้น

เมื่อเอี้ยนลี่เฉียงมองดูตัวเองในกระจกทองแดงเขาก็แทบจะจำตัวเองไม่ได้...

ดังคำกล่าวที่ว่า 'ไก่งามเพราะขนคนงามเพราะแต่ง' เอี้ยนลี่เฉียงสวมเสื้อคลุมยาวสีม่วงสวยงามริมฝีปากของเขาเป็นสีแดงระเรื่อตัดกับฟันที่ขาวราวกับไข่มุก

ในอาณาจักรสวรรค์แห่งนี้เขาถูกสร้างให้เป็นชายหนุ่มที่หล่อเหลาที่สุดในโลก ประกอบกับชุดสีม่วงสำหรับศิษย์ชั้นยอดที่เขาสวมใส่ยิ่งเน้นเสริมให้เขาหล่อเหลามากยิ่งขึ้น

ไม่นานหลังจากที่เขาเปลี่ยนชุดก็มีเสียงกระดิ่งดังขึ้น เอี้ยนลี่เฉียงเปิดประตูและออกจากห้องใต้หลังคา

ศิษย์รับใช้สองคนที่ยืนอยู่นอกประตูนำเอี้ยนลี่เฉียงไปที่ห้องโถงบรรพบุรุษทันที

เนื่องจากเอี้ยนลี่เฉียงได้รับแจ้งเกี่ยวกับมารยาทในพิธีในวันนี้ เขาจึงไม่ได้แสดงความขายหน้าออกมา

ลานสาธารณะด้านนอกห้องโถงบรรพบุรุษได้รับการกวาดทำความสะอาด ทันทีที่เอี้ยนลี่เฉียงมาถึงทางเข้าห้องโถง เสียงของผู้อาวุโสกั่วซึ่งเป็นพิธีกรก็ดังขึ้น

“ยินดีต้อนรับทายาทของนิกายกระบี่ศักสิทธิ์ เอี้ยนลี่เฉียง…!”

เมื่อได้ยินเสียง เอี้ยนลี่เฉียงก็ก้าวข้ามธรณีประตูตรงทางเข้าเพียงลำพังและเข้าไปในห้องโถงใหญ่ด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

ในขณะนั้นเองที่สายตานับไม่ถ้วนในห้องโถงต่างจับจ้องมายังใบหน้าของเขา เสียงถอนหายใจชื่นชมดังมาไม่หยุดหย่อน

เอี้ยนลี่เฉียงไม่สามารถทำอะไรได้ ทุกคนต่างตกตะลึงในความหล่อของเขานี่เป็นเรื่องที่เขาไม่สามารถแก้ไขได้จริงๆ

ศิษย์หญิงสาวหลายคนในห้องโถงใหญ่ต่างก็หน้าแดงเมื่อพวกนางมองเห็นเอี้ยนลี่เฉียง

เมื่อเอี้ยนลี่เฉียงเดินเข้าไปในห้องโถงใหญ่เพียงสิบก้าว ก็ได้ยินเสียงกรีดร้องดังขึ้น

ศิษย์หญิงสาวที่มีอายุประมาณสิบแปดสิบเก้าปีจ้องมาที่เอี้ยนลี่เฉียงด้วยใบหน้าแดงก่ำ เมื่อนางสบตากับเขานางก็เป็นลมล้มลงตรงนั้นทันที

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด