305-306
7/10
Ep.305
ประชากรนับล้าน ฟังดูเหมือนจะเยอะมาก แต่อันที่จริงแล้ว มันค่อนข้างน้อย หากคำนวณในระดับเผ่าพันธุ์
แล้วอีกอย่าง ผู้แข็งแกร่งที่สุดในเผ่าพันธุ์ยังอยู่เพียงเลเวล 4 เท่านั้น นี่แสดงให้เห็นว่า เผ่าเต่าเขียวจัดอยู่ในอันดับต่ำสุดของหมื่นเผ่าพันธุ์ ซึ่งเอาจริงๆอาจด้อยกว่าเผ่ามนุษย์ด้วยซ้ำ
ซูเฉินอดไม่ได้ที่จะดูแคลนเผ่าเต่าเขียว
“เอาล่ะ ข้าได้บอกทุกอย่างที่ควรจะบอกแล้ว ช่วยให้ข้าได้ไปสบายเสียที!”
เมื่อเห็นว่าซูเฉินเงียบไป เผ่าเต่าเขียวตัวใหญ่กลับเป็นฝ่ายร้องขอความตายด้วยตัวเอง
ซูเฉินกล่าวอย่างเฉยชา “รีบร้อนอะไรนักหนา? มีชีวิตต่ออีกนิด ได้หายใจนานขึ้นอีกหน่อยมันไม่ดีรึไง?”
เผ่าเต่าเขียวตัวสูงกัดฟันด้วยความเกลียดชัง ลอบสบถในใจ ‘ใครมันจะไปอยากตาย? แต่ข้าสามารถตัดสินชีวิตตัวเองได้หรือ?’
เหตุผลหลักที่มันอยากตาย เป็นเพราะกลัวว่าจะถุกซูเฉินทัณฑ์ทรมานอีก
“รีบลงมือเสียที” เผ่าเต่าเขียวตัวสูงเร่งเร้า
“ไม่ต้องรีบร้อน ยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่อยากถาม ได้คำตอบแล้วฉันสัญญาว่าจะส่งแกไปสบาย” ซูเฉินหัวเราะเบาๆ ถามต่อว่า “หัวหน้าเผ่าของแกออกมารึยัง?”
“ยัง” เผ่าเต่าเขียวตัวสูงสารภาพตามตรง
ในฐานะหัวหน้าเผ่า อีกฝ่ายคือกระดูกสันหลังของสมาชิกทั้งหมด
แม้เผ่าพันธุ์มนุษย์จะอ่อนแอในสายตาพวกมัน แต่ขณะที่ยังไม่ทราบสถานการณ์แน่ชัด พวกมันจะไม่ยอมปล่อยให้หัวหน้าเผ่าออกมาเสี่ยงอันตราย
ซูเฉินรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย หากหัวหน้าเผ่าเต่าเขียวอยู่ที่นี่ด้วย เขาจะได้ฆ่ามัน ถึงเวลานั้น คงเกิดความโกลาหลครั้งใหญ่ขึ้นในเผ่าเต่าเขียวอย่างแน่นอน
สิ่งที่ควรถามก็ถามแล้ว ซูเฉินรักษาคำพูดเขา ซัดหนึ่งหมัดระเบิดหัวเต่าเขียวตัวสูง ส่งมันไปสบาย
ในระหว่างที่ศพเผ่าเต่าเขียวล้มลง ลำแสงสีดำพลันทอประกายออกมา
ซูเฉินคว้ามันไว้
“คุณได้รับ [ดาบศักดิ์สิทธิ์ซวนหยวน] *1 , ชิ้นส่วนที่ต้องการ (2/50) , จำนวนองค์ประกอบยังไม่ครบ ไม่สามารถปลดล็อคได้ ต้องการแลกเปลี่ยนเป็นแต้มพลังงานหรือไม่?”
“แลกแต้มพลังงาน”
[ดาบศักดิ์สิทธิ์ซวนหยวน] เคยดรอปครั้งหนึ่งตอนสังหารพืชโลหิต ตั้งแต่นั้นมาก็ก็ไม่เคยปรากฏอีกเลย
ซูเฉินไม่รู้เหมือนกันว่า [ดาบศักดิ์สิทธิ์ซวนหยวน] มีคุณสมบัติอย่างไร
ยังไงก็ตาม เมื่อมันจำเป็นต้องสะสมชิ้นส่วนมากถึง 50 ชิ้น น่าจะเพียงพอแล้วที่จะพิสูจน์ได้ว่าอย่างน้อยมันคืออาวุธวิเศษ
ซูเฉินตั้งใจที่จะปลดล็อค [ดาบศักดิ์สิทธิ์ซวนหยวน] ส่วนเหตุผลที่เขาเลือกแปลงชิ้นส่วนนี้เป็นแต้มพลังงาน ก็เพราะเขาต้องการใช้แต้มพลังงานแลกเปลี่ยนมัน
จากนั้น เขาก็เดินไปเก็บชิ้นส่วนอื่นๆต่อ
ก่อนหน้านี้เผ่าเต่าเขียวถูกหวู่หยางและคนอื่นๆฆ่า ดรอปชิ้นส่วนทั้งสิ้นสามชิ้น
ซูเฉินเอื้อมมือออกไป คว้าชิ้นส่วนสีเหลือง
“คุณได้รับ [เมล็ดพันธุ์ต้นอ่อนเยาว์ไม่เสื่อมคลาย] *1 , ชิ้นส่วนที่ต้องการ (2/10) , จำนวนองค์ประกอบยังไม่ครบ ไม่สามารถปลดล็อคได้ ต้องการแลกเปลี่ยนเป็นแต้มพลังงานหรือไม่?”
“ไม่แลก”
[เมล็ดพันธุ์ต้นอ่อนเยาว์ไม่เสื่อมคลาย] ต้องการชิ้นส่วนไม่มากนัก อีกอย่างโอกาสดรอปค่อนข้างสูง ซูเฉินตัดสินใจรอปลดล็อคมันโดยการสะสมชิ้นส่วนให้ครบ
ต่อไปเป็นชิ้นส่วนสีม่วง
“คุณได้รับ [เหมันต์เยือกแข็งทางตอนเหนือ] *1 , ชิ้นส่วนที่ต้องการ (5/10) , จำนวนองค์ประกอบยังไม่ครบ ไม่สามารถปลดล็อคได้ ต้องการแลกเปลี่ยนเป็นแต้มพลังงานหรือไม่?”
“ไม่แลก”
[เหมันต์เยือกแข็งทางตอนเหนือ] เป็นวัตถุไร้รูปธาตุน้ำแข็ง สิ่งนี้สามารถช่วยเพิ่มพลังเวทมนต์ธาตุน้ำแข็งได้ แน่นอนว่าควรเก็บไว้
ชิ้นสุดท้ายเป็นสีดำ ซูเฉินก้มคว้ามันอย่างไม่ลังเล
“คุณได้รับ [อุกกาบาตเพลิงปฐพี] *1 , ชิ้นส่วนที่ต้องการ (10/10) , จำนวนองค์ประกอบครบแล้ว คุณต้องการเลือกปลดล็อคหรือแลกเปลี่ยนเป็นแต้มพลังงาน?”
“ปลดล็อค”
ซูเฉินตื่นเต้นมาก สิ้นเสียง เขาก็เปิดถุงเก็บของและตรวจสอบดู
มองไปยังหินสีแดงเข้มอีกก้อนที่มีขนาดเท่ากับ [หินบดดาราเทียนกัง] มุมปากของเขาก็ยกสูงขึ้นโดยไม่รู้ตัว
8/10
Ep.306
จากข้อมูลที่ได้รับ ซูเฉินได้เรียนรู้ว่า น้ำหนักรวมของ [อุกกาบาตเพลิงปฐพี] ก็มีมากถึง 10,000 จิน เท่ากับ [หินบดดาราเทียนกัง]
แต่ที่แตกต่างกันก็คือ [หินบดดาราเทียนกัง] มีพลังแห่งดวงดาว มันสามารถสร้างพลังแห่งพันธนาการได้
ในขณะที่ [อุกกาบาตเพลิงปฐพี] มีคุณสมบัติแผดเผาจากใต้ปฐพี ตรงจุดนี้มีความคล้ายคลึงกับเวทย์ไฟ
หลังจากเก็บชิ้นส่วนแล้ว ซูเฉินก็เดินกลับมาหาหานเฟิง เอ่ยถามด้วยรอยยิ้มว่า “พี่หาน คุณมีแผนจะทำอะไรต่อไป?”
หานเฟิงได้สติกลับมา ส่ายหัวอย่างว่างเปล่า
เดิมที เขาคิดจะปักหลักอยู่ในเมืองจิงกัง
แต่เมืองจิงกังดันถูกพวกเต่าเขียวเข้าโจมตี ดังนั้นเลยต้องหลบหนีมา
ส่วนจากนี้จะไปที่ไหน เขายังไม่มีแผนเลย
ไม่ใช่ว่าเขาไร้สมอง ไม่มีความคิด แต่การหาสถานที่ปลอดภัยจริงๆในวันสิ้นโลก มันยากเย็นยิ่งกว่าการปีนป่ายขึ้นสู่สวรรค์
ซูเฉินคิดอยู่พักหนึ่ง ก่อนกล่าวว่า “งั้นไปที่สถานชุมชนเฝิงซีสิ ผู้นำของพวกเขาคือสหายของผมเอง”
ได้ยินแบบนั้น ดวงตาของหานเฟิงเปล่งประกายขึ้นทันที
เขาเคยได้ยินเกี่ยวกับสถานชุมชนเฝิงซีมาก่อน แม้เป็นสถานชุมชนขนาดเล็ก แต่บรรยากาศค่อนข้างดี
มีแต่คนบอกว่าผู้นำของที่นั่นมีความรับผิดชอบสูง แถมยังเป็นคนที่มีความสามารถมาก
อาจกล่าวได้เลยว่า สำหรับหานเฟิงแล้ว สถานชุมชนเฝิงซีเป็นตัวเลือกในการตั้งหลักที่ไม่เลว
แต่สิ่งที่ช่วยให้หานเฟิงตัดสินใจได้เด็ดขาดก็คือ เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างซูเฉินกับผู้นำ นั่นหมายความว่าหากเขาไป เขาจะไม่ถูกปฏิเสธหรือขับไล่แน่นอน
“ซูเฉิน ขอบคุณมาก!” หานเฟิงรู้สึกซาบซึ้งจากก้นบึ้งของหัวใจ
เขากับซูเฉินมีชะตาพบกันเพียงสองครั้ง
ครั้งแรกซูเฉินมอบอาหารให้เขา
ครั้งนี้ซูเฉินช่วยชีวิตเขาไว้
หานเฟิงไม่รู้จะเอ่ยอะไร เพื่อแสดงความขอบคุณที่มีต่อซูเฉิน
ซูเฉินโบกมือ กล่าวอย่างเป็นกันเองว่า “พี่หานรีบเดินทางเถอะ ผมต้องไปเมืองจิงกังต่อ”
ยังเหลือเต่าเขียวอีกนับหมื่นตัวกำลังรอให้ล่าอยู่ในเมืองจิงกัง เอาจริงๆตอนนี้ซูเฉินร้อนใจจนแทบอดไม่ไหวแล้ว
“ซูเฉิน คุณคงไม่คิดไปฆ่าพวกต่างเผ่าหรอกนะใช่ไหม?” สีหน้าของหานเฟิงแปรเปลี่ยน เลียบเคียงถามดู
ซูเฉินและคนเหล่านี้ ครอบครองกำลังรบที่แข็งแกร่งมากก็จริง ทว่าเมืองจิงกังมีพวกต่างเผ่าอยู่นับไม่ถ้วน
และพวกต่างเผ่าพันธุ์นั้นเก่งกว่าซอมบี้ หากซูเฉินไป จะไม่เท่ากับพาตัวเองไปตายหรือ?
ซูเฉินยิ้ม ไม่อธิบายใดๆ เพียงเอ่ยว่า “พอคุณไปถึงสถานชุมชนเฝิงซี แค่พูดว่าคุณเป็นเพื่อนผม แล้วพวกเขาจะปฏิบัติต่อคุณอย่างสุภาพ”
ว่าจบ ซูเฉินก็พาทุกคนกลับขึ้นไปใน [รถศึกอัจฉริยะ] กล่าวร่ำลาหานเฟิง จากไปอย่างสง่าผ่าเผย
เฝ้ามอง [รถศึกอัจฉริยะ] หายลับไปจากสายตา หานเฟิงเงียบงัน
ถึงตอนนี้ เฉินเหมยฮวา ก้าวออกมาข้างหน้า ถามเสียงแผ่วว่า “พวกเราจะทำยังไงกันต่อ?”
หานเฟิงกัดฟัน “ไปเมืองจิงกังกัน”
ในความคิดเขา การเดินทางไปเมืองจิงกังของซูเฉิน คงประสบโชคร้ายมากกว่าดี
ดังนั้น แม้ความแข็งแกร่งของหานเฟิงจะต่ำ แต่สุดท้ายเขายังเป็นผู้วิวัฒนาการเลเวล 1 ดังนั้นน่าจะช่วยเหลือซูเฉินได้ไม่มากก็น้อย
เพราะอย่างไรเสีย เป็นซูเฉินที่ช่วยชีวิตเขาเอาไว้ ตามหลักเหตุผลแล้วสมควรตามไปช่วยเหลือ
…
ใช้เวลากว่าหนึ่งชั่วโมง ในที่สุด [รถศึกอัจฉริยะ] เริ่มเข้าไปใกล้เมืองจิงกัง
เมืองจิงกังในเวลานี้ บรรยากาศของเมืองใหญ่ในอดีตได้มลายหายไปแล้ว ทั่วทั้งเมืองถูกปกคลุมไปด้วยชั้นหมอกสีเลือด
ดูอึมครึมและหดหู่
สามารถได้ยินเสียงกรีดร้องด้วยความเศร้าโศกและบ้าคลั่งสะท้อนเข้ามาได้ลางๆ
ไม่ต้องสงสัยเลย ว่าเวลานี้เมืองจิงกังกำลังประสบภัยพิบัติ!
ซูเฉินยืนอยู่หน้ารถ กวาดสายตามอง
อย่างไรก็ตาม เขาพบว่ารอบๆเมืองจิงกังไม่ได้มีเพียงเผ่าเต่าเขียวจำนวนมากเท่านั้น แต่ยังมีซอมบี้อีกหลายพันตัวปะปนอยู่ด้วย
เผ่าเต่าเขียวมีความสามารถในการควบคุมซอมบี้ เรื่องนี้เขารู้ดี
เห็นได้ชัดว่าสถานการณ์ตรงหน้า เป็นเผ่าเต่าเขียวที่รวบรวมซอมบี้บางส่วนมา และใช้มันร่วมกันโจมตีเมืองจิงกัง
“เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการต่อสู้ ออกไปฆ่าพวกมัน อย่าปล่อยให้เหลือไว้แม้แต่ตัวเดียว!” ซูเฉินประกาศด้วยน้ำเสียงหนักแน่น