301-302
3/10
Ep.301
ซูเฉินกับหานคุนสนทนากันสักพัก หลังจากนั้นนำเมล็ดพันธุ์พืชและศพสัตว์ทะเลออกมา และจากไปอย่างเร่งรีบ
เดิมเขาก็ตั้งใจที่จะอยู่ที่นี่หนึ่งวันเพื่อพูดคุยกับหานคุนอยู่หรอก
แต่การปรากฏตัวของเต่าเขียวกระตุ้นความสนใจเขา ทำให้ต้องเปลี่ยนแผน
การสังหารสิ่งมีชีวิตต่างเผ่า มีโอกาสดรอปชิ้นส่วนมากกว่าซอมบี้ ดังนั้นถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุด
“เสี่ยวจือ มุ่งหน้าไปเมืองจิงกัง” กลับขึ้นมาบนรถ ซูเฉินออกคำสั่งทันที
“รับทราบ”
[รถศึกอัจฉริยะ] ล็อคตำแหน่งเมืองจิงกัง สตาร์ทเครื่องอย่างรวดเร็ว
“ซูเฉิน พวกเราไม่ไปที่สถานชุมชนเทียนหนานแล้วหรอ?” หวู่หยางถามด้วยความสงสัย
ซูเฉินเล่าถึงการปรากฏตัวของเผ่าเต่าเขียว รวมไปถึงเรื่องที่ว่าพวกมันได้บุกเข้าโจมตีเมืองจิงกัง
หลังจากได้ยินเรื่องนี้ ทุกคนรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย แต่ขณะเดียวกันก็ยังรู้สึกประหม่า
เพราะที่แล้วๆมา แม้พวกเขาจะพบเจอพวกต่างเผ่ามาบ้างแล้ว แต่ไม่เคยสู้ด้วยเลยสักครั้ง
เหตุผลก็คือพวกมันมีจำนวนน้อยเกินไป อีกอย่าง ทั้งหมดถูกซูเฉินสังหารสิ้น
และในครั้งนี้ เผ่าเต่าเขียวก็มีแนวโน้มอาจถึงขั้นสิ้นเผ่าพันธุ์ แต่จำนวนของพวกมันมีมหาศาล ดังนั้นย่อมตกมาถึงมือพวกเขา
เนื่องจากเมืองจิงกังยังอยู่อีกไกล ต้องใช้เวลาอย่างน้อยสองวันในการเดินทาง
ซูเฉินจึงอาศัยประโยชน์จากเวลาว่างนี้ เรียกทุกคนมาล้อมวง และวางมาตรการรับมือ
เพราะท้ายที่สุดแล้ว เผ่าเต่าเขียวไม่ใช่ซอมบี้ ในกลุ่มพวกมันมีผู้แข็งแกร่งปะปนอยู่มากมาย ดังนั้นไม่ยืนรอให้ถูกฆ่าอย่างโง่เขลา
หากไม่เตรียมตัวล่วงหน้า อาจเป็นพวกเขาซะเองที่เพลี้ยงพล้ำ
…
สองวันต่อมา [รถศึกอัจฉริยะ] ในที่สุดก็ใกล้ถึงเมืองจิงกัง เหลือระยะห่างไม่ถึง 300 กิโลเมตร
สายตาของซูเฉินจับจ้องอยู่กับหน้าจอควบคุมส่วนกลาง แต่ในตอนนั้นเอง เขาก็พบจุดสัญญาณสองสี หนึ่งน้ำเงิน หนึ่งดำปรากฏขึ้น ทั้งสองกำลังเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง
จุดสีดำที่อยู่บริเวณใกล้เคียงนี้ มีโอกาสเป็นไปได้สูงว่าคือเผ่าเต่าเขียว
หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ เผ่าเต่าเขียวกำลังไล่ล่ามนุษย์!
“เสี่ยวจือ ล็อคตำแหน่งพวกเขาและตามไป” ซูเฉินสั่ง
แผนการของเขาคือจับตัวเผ่าเต่าเขียว แล้วเค้นสอบสถานการณ์ของพวกมัน
“รับทราบ”
[รถศึกอัจฉริยะ] หักเลี้ยวไปอีกทิศทาง มุ่งหน้าไปตามจุดสัญญาณสองสี
ประมาณหนึ่งชั่วโมง [รถศึกอัจฉริยะ] ก็จอดลง
ไม่ไกลนัก ปรากฏรถฐานทัพสองคันแล่นมาด้วยความเร็วสูง
เห็นได้ชัดว่ารถคันหน้าถูกขับโดยมนุษย์ และคันที่อยู่เบื้องหลังคือพวกเผ่าเต่าเขียว
ซูเฉินกวาดมองไปยังรถฐานทัพทั้งสองคัน เลิกคิ้วเล็กน้อย
นั่นเพราะเขารู้สึกว่ารถฐานทัพคันหน้าค่อนข้างคุ้นตา เหมือนจะเคยเห็นที่ไหนมาก่อน
หลังจากครุ่นคิดสักพัก ก็นึกขึ้นได้
ว่าเจ้าของรถฐานทัพคันนั้น ดูเหมือนจะเป็นหานเฟิงที่เคยเจอกันระหว่างทาง
ในวันนั้น ขณะกำลังมุ่งหน้าสู่เทือกเขาฮวงเจ๋อ เขาได้จอดคุยกับหานเฟิงพักหนึ่ง และมอบขนมปังกับผลไม้แก่อีกฝ่าย
ทั้งยังได้ข้อมูลมา ว่าสถานที่ที่หานเฟิงกำลังไปคือเมืองจิงกัง
จากข้อมูลนี้ ทำให้ซูเฉินค่อนข้ามั่นใจ ว่าคนที่อยู่ในรถฐานทัพคันหน้าจะต้องเป็นหานเฟิงกับเฉินเหมยฮวา ภรรยาอย่างแน่นอน
ซูเฉินค่อนข้างประทับใจในตัวหานเฟิง ดังนั้นจะไม่ยอมทนดูอีกฝ่ายถูกเผ่าเต่าเขียวไล่ล่า
“เสี่ยวจือ ขับไปรับพวกเขา” ซูเฉินออกคำสั่ง
“น้อมรับคำสั่ง”
ได้ยินเสียงดังบรื้น! [รถศึกอัจฉริยะ] วิ่งตรงไปยังรถฐานทัพทั้งสองคัน
เมื่อรู้ว่าพวกเขากำลังไปหารถฐานทัพของเผ่าเต่าเขียว หยางฮ่าวและสหายก็เริ่มตื่นเต้นอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ขณะที่รถศึกของซูเฉินกำลังตรงเข้าไปใกล้ รถฐานทัพคันหน้ากลับหักเลี้ยว ขับเปลี่ยนไปอีกทิศทางหนึ่งอย่างกะทันหัน
ตอนแรกซูเฉินรู้สึกสับสนเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าเขามาช่วยหานเฟิง แล้วเหตุใดอีกฝ่ายถึงหนีออกไปเล่า?
แต่ไม่นาน เขาก็เข้าใจความคิดของหานเฟิง อีกฝ่ายคงกลัวว่าจะสร้างปัญหาให้เขา ดังนั้นเลยหักเลี้ยวล่อเผ่าเต่าเขียวออกไป
ในวันสิ้นโลก มีคนไม่มากนักหรอกที่มีอุปนิสัยเช่นนี้
หากเปลี่ยนเป็นคนอื่น ช่วงเวลาระหว่างความเป็นความตายเช่นนี้ ใครจะไปสนว่าตัวเองอาจโยนภาระให้คนอื่น ตรงกันข้าม พวกเขาคงแทบอดใจรอไม่ไหวที่จะฉุดดึงพวกคุณลงเหวไปด้วยกัน
4/10
Ep.302
หลังจากคิดออกว่าเกิดอะไรขึ้น ซูเฉินก็สั่งให้ [รถศึกอัจฉริยะ] เร่งความเร็ว และดักหน้ารถฐานทัพของเผ่าเต่าเขียว
“ซิลิกัว .. ทูลิคิรา …”
ตามด้วยเสียงคำราม เต่าที่มีรูปร่างเหมือนมนุษย์หลายสิบตัวเดินลงมาจากรถฐานทัพฝั่งตรงข้าม
ถ้าให้อธิบายถึงรูปลักษณ์ พวกมันเหมือนกับ ‘เต่านินจา’ จากการ์ตูนฝรั่งในชีวิตก่อนของซูเฉินเลย
ทั้งร่างของพวกมันเป็นสีเขียว แบกกระดองเต่าไว้บนหลัง
“ไอ้เต่าเฒ่า นั่นแกหรอ?”
ซูเฉินลงจากรถ ตะโกนกลับไปด้วยภาษาของอีกฝ่าย
เขารู้สึกว่าเสียงของเต่าเขียวที่คำรามเมื่อครู่ค่อนข้างคุ้นเคย สงสัยว่าจะเป็นตัวที่เคยทะเลาะกับเขาในครั้งก่อน
คำพูดของซูเฉินทำให้เต่าเขียวหลายตัวตกตะลึง
พวกมันไม่เข้าใจ ว่าเหตุใดมนุษย์ถึงเอ่ยภาษาของตนเองได้
แต่ไม่นาน เผ่าเต่าเขียวที่ตัวสูงเป็นพิเศษได้ก้าวออกมาจากกลุ่มพวกมัน อันดับแรกที่ทำ มันเพ่งมองซูเฉินจนมั่นใจ แล้วจึงกล่าวว่า “ไอ้หนู เจ้าคงไม่ใช่คนที่เคยคุยกับข้าในเทือกเขาฮวงเจ๋อหรอกกระมัง?”
ซูเฉินยิ้มมุมปาก กล่าวด้วยเสียงหัวเราะว่า “ไอ้เต่าเฒ่า นี่ท่านปู่เอง! ยังไม่รีบคุกเข่าแล้วโขกศีรษะลงอีก?”
แค่นี้ก็ชัดเจนแล้ว ว่าไอ้เต่าเขียวตัวสูงตรงหน้า คือตัวที่เขาเคยล้อเล่นกับมันจริงๆ
“ฮะ ฮะฮ่า …”
เต่าเขียวตัวสูงหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง จ้องไปยังซูเฉินด้วยความหยามเหยียด กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ไอ้เด็กตัวเหม็น ทางไปสวรรค์มีไม่ชอบ ดันมาเคาะประตูนรกถึงที่ คราวนี้มาดูกัน ว่าเจ้าจะหนีรอดไปได้อย่างไร!”
ตั้งแต่ครั้งก่อนที่ถูกซูเฉินกลั่นแกล้ง มันเอ่ยสัตย์สาบาน ว่าจะฉีกร่างของซูเฉินให้เป็นชิ้นๆ
หลังจากบุกเข้ามาได้ มันไล่ตามหาที่อยู่ของซูเฉินตลอดมา แต่กลับไม่พบเบาะแสอะไรเลย
ไม่คาดฝันจริงๆ ว่าวันนี้ซูเฉินจะโยนตัวเองมาส่งถึงหน้าประตู
“พวกต่างเผ่าแบบแกนี่มีวิธีทักทายคนอื่นเหมือนกันหมดเลยสินะ? มาถึงก็ชอบทำเป็นอวดดีใส่คนอื่น” ซูเฉินส่ายหัว เอ่ยดูแคลน
ไม่ว่าจะตอนไหน เกือบทุกครั้งที่เขาได้พบกับพวกต่างเผ่า พวกมันล้วนขู่ว่ามาดูกัน ว่าเขาจะรอดไปได้ยังไง แต่ผลลัพธ์น่ะหรือ?
ทั้งหมดล้วนตกตายลงด้วยน้ำมือเขาอย่างไม่มีข้อยกเว้น!
ดังนั้น การแสร้งทำเป็นเก่งเช่นนี้ ไม่มีประโยชน์ใดๆ ไม่สามารถใช้ขู่เขาได้เลย
ได้ยินแบบนั้น ใบหน้าของเผ่าเต่าเขียวตัวสูงก็กลายเป็นมืดมน เอ่ยอย่างดุร้าย “ไอ้หนู ข้าจะปล่อยให้เจ้าบ้าไปก่อน อีกประเดี๋ยวเจ้าจะได้รู้ซึ่งถึงพลังของข้า”
สิ้นเสียง มันไม่รอช้า หมายจะก้าวออกไปข้างหน้าเพื่อจับตัวซูเฉิน
แต่ในตอนนั้นเอง รถฐานทัพคันแรกที่ขับหายไปแล้ว ได้ย้อนกลับมาอีกครั้ง
เอี๊ยดดดด!
ได้ยินเสียงเบรกกะทันหัน รถฐานทัพหยุดลงข้างๆซูเฉิน จากนั้น หานเฟิงและเฉินเหมยฮวาก็ลงจากรถ
“ซูเฉิน สิ่งมีชีวิตต่างเผ่าพวกนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่เราเถอะ คุณรีบหนีไปเร็วเข้า” เมื่อมาถึง หานเฟิงกล่าวด้วยความกังวล
แม้ไม่ได้ตั้งใจล่อพวกต่างเผ่ามาที่นี่ แต่สุดท้ายกลับลากซูเฉินเข้ามาเกี่ยวข้องจนได้
เรื่องนี้ทำให้เขารู้สึกเสียใจมาก ดังนั้นวกกลับมา อาสาหยุดพวกมัน ให้ซูเฉินใช้โอกาสนี้หลบหนีไป
ซูเฉินปาดจมูกเขา กล่าวยิ้มๆ “พี่หาน ผมจงใจมาที่นี่เพื่อจับไอ้เต่าพวกนี้โดยเฉพาะ”
เห็นได้ชัดว่าหานเฟิงสามารถใช้โอกาสนี้หลบหนีไปก็ได้ แต่สุดท้ายก็ยังเสี่ยงกลับมา นี่ไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนสามารถทำได้
ซูเฉินอดไม่ได้ที่จะรู้สึกประทับใจในความปรารถนาดีของหานเฟิง เขายอมรับอีกฝ่ายเพิ่มขึ้นหนึ่งส่วน
“จับเต่าพวกนี้?”
หานเฟิงกลืนน้ำลาย และเกือบสำลักเพราะคำพูดของซูเฉิน
เต่าที่ซูเฉินกำลังพูดถึง จะเป็นอะไรไปได้อีกหากไม่ใช่พวกต่างเผ่านับสิบที่อยู่ตรงหน้า
เหตุใดซูเฉินถึงได้เอ่ยโอ้อวดเกินจริงเช่นนี้?
อย่าลืมสิว่าพวกต่างเผ่าตรงหน้าล้วนเป็นผู้วิวัฒนาการ!
แม้หานเฟิงจะไม่รู้ถึงความแข็งแกร่งของซูเฉิน แต่ซูเฉินยังเด็กนัก แล้วเขาจะเก่งกว่าพวกมันได้ยังไง?
“ซูเฉิน ช่วยฟังพี่ชายคนนี้แนะนำหน่อยเถอะ รีบไปจากที่นี่ พวกต่างเผ่าเหล่านี้แข็งแกร่งเกินไป แม้แต่เมืองจิงกังยังถูกพวกมันเข้ายึดครอง”
หานเฟิงร้อนใจดั่งถูกเผา เขาหันไปส่งสายตาให้ซูเฉิน ว่ารีบหนีซะก่อนที่จะสายเกินไป