295-296
7/10
Ep.295
ทันทีที่เสียงของซูเฉินตกลง เกิดความโกลาหลขึ้นที่ประตูทางเข้าเมือง
ผู้แข็งแกร่งจากเมืองทงเทียน แถมยังเป็นผู้วิวัฒนาการเลเวล 4 กลับถูกเขาดูแคลนอย่างไร้ความยำเกรง
ก่อให้เกิดเสียงฮือฮาครั้งใหญ่
คนจากเมืองทงเทียนมีชื่อเสียงในด้านความแข็งแกร่งเสมอมา ดังนั้นจะยอมถูกชายหนุ่มคนหนึ่งย่ำยีศักดิ์ศรีได้อย่างไร?
คำตอบนั้นชัดเจน คนของเมืองทงเทียนต่างโกรธเคือง ตั้งท่าว่าต้องการจะฉีกซูเฉินออกเป็นชิ้นๆ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งชายชรา เขาโกรธมากกว่าใครๆ ขบกรามและ ร้องคำรามว่า “เจ้าหนู รู้ตัวรึเปล่าว่าพูดแบบนี้เท่ากับกำลังมองหาที่ตาย!”
สิ้นเสียง อีกฝ่ายชักมีด พุ่งเข้าหาซูเฉินและฟันออกไป
กลิ่นอายของผู้วิวัฒนาการเลเวล 4 ระเบิดออกมา รุนแรงหนักหน่วงชนิดทลายขุนเขาถมทะเล
“ช่างเป็นแรงกดดันที่แข็งแกร่งจริงๆ! สมแล้วที่เป็นผู้วิวัฒนาการเลเวล 4!”
“เจ้าหนุ่มนั่นจบสิ้นแล้ว”
“นี่แหละคือชะตากรรมที่จะเกิดขึ้นเมื่อใครก็ตามล่วงเกินเมืองทงเทียน น่าเศร้านัก ยังเด็กอยู่เลยแท้ๆ”
สีหน้าของผู้คนรอบข้างแปรเปลี่ยนไป แต่ทุกคนคิดเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่าครั้งนี้ซูเฉินคงต้องพานพบกับความโชคร้าย
แสงสว่างจากคบเพลิง จะไปสู้แสงสว่างจากดวงตะวันได้อย่างไร?
มุมปากของซูเฉินโค้งขึ้นเล็กน้อย วินาทีนั้นบนฝ่ามือเขาพลันเปล่งแสงสีทองเจิดจรัสออกมา
ภายใต้สายตาของทุกคน เขาเอื้อมมือไปคว้าจับคมมีดเอาไว้
“นี่เขาเสียสติไปแล้วเหรอ!”
“ต้องบ้าขนาดไหนกัน ถึงกล้าใช้มือเปล่ารับมีดที่ฟาดฟันโดยพลังของผู้วิวัฒนาการเลเวล 4?”
“เขาคิดว่าตัวเองมีวิชาร่างวัชระ ครอบครองกายที่ไม่มีใครทำลายได้หรือไร?”
มองไปยังฉากนี้ ผู้ชมทั้งหมดไม่อาจสงบได้อีกต่อไป
ในสายตาพวกเขา พฤติกรรมของซูเฉินคือการรนหาที่ตายอย่างไม่ต้องสงสัย
ตอนแรกที่เห็น สีหน้าของชายชราเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่ไม่นานก็ถูกแทนที่ด้วยความโหดเหี้ยม
ในเมื่อชายหนุ่มตรงหน้าปรารถนาความตาย เช่นนั้นเขาก็จะทำให้สมหวัง
เป๊าะ!
บังเกิดเสียงแตกร้าวดังขึ้น
คมมีดของชายชราสับลงบนฝ่ามือของซูเฉินอย่างแม่นยำ
อย่างไรก็ตาม ภาพที่ซูเฉินถูกตัดมือขาดกลับไม่ปรากฏขึ้น
ตรงกันข้าม เป็นมีดในมือชายชราที่แตกร้าวและหักครึ่งจากกึ่งกลางออกเป็นสองส่วน
นี่มัน .. เรื่องจริงหรือ?
ได้เป็นสักขีพยานของฉากนี้ ทุกคนรู้สึกยากเกินจะทำใจเชื่อ
การฟาดฟันสุดกำลังของผู้วิวัฒนาการเลเวล 4 ต่อให้เป็นผู้วิวัฒนาการเลเวล 5 ยังต้องหลบเลี่ยง
แล้วเหตุใดซูเฉินถึงกล้ารับมือ? และถึงกับทำให้มีดหักเป็นสองท่อนได้?
อย่าบอกนะว่าเขาคือผู้วิวัฒนาการเลเวล 6?
แต่ถึงเป็นผู้วิวัฒนาการเลเวล 6 เป็นไปได้หรอที่เขาจะไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆเลย?
หรือว่าเขามีร่างวัชระมิอาจทำลายจริงๆ?
แม้ซูเฉินไม่ได้ครอบครองวิชาร่างวัชระเหมือนพวกเส้าหลิน แต่เขามี [กายาเทพอสูรนิรันดร์] ที่สามารถเพิกเฉยต่อการโจมตีใดๆในเลเวลเดียวกัน
ควบคู่ไปกับ [เกล็ดแขนทองคำ] ดังนั้นการทำลายมีดด้วยฝ่ามือเดียว ถือเป็นเรื่องปกติ
“พี่เฉินก็บอกไปแล้วไง ว่าเหนือฟ้ายังมีฟ้า!”
มองไปยังปฏิกิริยาที่แสดงออกมาของฝูงชน เฉาหรานหัวเราะเย้ยหยัน
ซูเฉินเคยถูกเวทย์นับสิบ และลูกศรนับร้อยโจมตีพร้อมกันมาแล้ว แต่เขายังไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ ฉะนั้นกับอีแค่มีดเล่มเดียว นับเป็นสิ่งใด?
แต่สำหรับคนอื่นๆ มันน่าตกใจมาก!
“แก .. นี่แกทำได้ยังไง?” ชายชราตกตะลึงจนอธิบายไม่ถูก จ้องมองซูเฉินราวกับเห็นผี
สามารถทำลายมีดของผู้วิวัฒนาการเลเวล 4 ด้วยมือเปล่า มันน่าหวาดกลัวเกินไป! ออกจะเหลือเชื่อเกินไปแล้ว!
“ฉันทำได้ยังไง แกไม่คู่ควรที่จะรู้!” ซูเฉินหรี่ตา และกล่าวด้วยน้ำเสียงนุ่มลึกว่า “บอกจุดประสงค์ที่มาที่นี่ของพวกแกซะ แล้วฉันจะยอมให้ศพอยู่ในสภาพสมบูรณ์!”
ก่อนหน้านี้ ชายชราเองก็เคยใช้ประโยคนี้ข่มขู่ซูเฉิน
แต่ลมหายใจต่อมา สถานการณ์พลิกผันไปอย่างรวดเร็ว กลับกลายเป็นเขาที่ถูกข่มขู่คุกคามแทน
ชายชราหน้าชา แต่ไม่ได้โต้เถียงกลับไป เพราะเขาตระหนักดี ว่าซูเฉินมีคุณสมบัติที่จะเอ่ยเช่นนี้จริงๆ
อย่างไรก็ตาม หากให้ยืนรอความตายอยู่เฉยๆ คนอย่างเขามีหรือจะยอม?
สุดท้าย เจ้าตัวกัดฟัน หันหลังและวิ่งฉีกหนีออกไป
มองไปยังฉากนี้ ฝูงชนที่รับชมอยู่รอบด้านต่างตะลึงงัน
น่ะ … นี่ผู้วิวัฒนาการเลเวล 4 กำลังหลบหนีงั้นหรือ?
ความทรนงองอาจของเลเวล 4 หายไปไหนแล้ว?
ศักดิ์ศรีของเมืองทงเทียนเล่า?
แล้วหลังจากนี้เมืองทงเทียนจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?
คนที่เหลือจากเมืองทงเทียนก็ตกใจไม่แพ้กัน พวกเขาแข็งค้างไม่รู้ว่าต้องทำอะไรอยู่พักหนึ่ง ยังคงนิ่งอยู่กับที่
“คิดหนีหรือ?”
ซูเฉินแค่นเสียงเย็นชา ดีดนิ้วดังเป๊าะ ปรากฏลำแสงสีเขียวพุ่งออกจากนิ้วเขา พริบตาเดียววิ่งไปตกลงบนเท้าของชายชรา
8/10
Ep.296
ชายชราวิ่งไปได้ไม่กี่ก้าว จู่ๆก็รู้สึกว่าเท้าเขาถูกพัวพันโดยบางสิ่งบางอย่าง ไม่ว่าจะออกแรงยังไงก็ไม่มีทางหลุดพ้นได้
ตอนนี้คือช่วงเวลาสำคัญที่จะหลบหนี หากล่าช้า มีโอกาสสูงมากที่จะเสียชีวิต
ชายชราก้มลงมองด้วยความร้อนรน แต่เมื่อสายตาตกลง เขาก็พบว่ามีเถาวัลย์กำลังพันรอบเท้าเขาอยู่ อ้าปากร้องด้วยความตกใจ
“นี่มันเทคนิคพันธนาการธาตุไม้! แถมยังเป็นของปรมาจารย์มนตราเลเวล 5!”
แม้ซูเฉินจะเป็นแค่ปรมาจารย์มนตราเลเวล 4 แต่พลังเวทย์ธาตุไม้ของเขาได้หลอมรวมเข้ากับ [ไม้ศักดิ์สิทธิ์แห่งสระวิเศษ] แล้ว ดังนั้นอำนาจที่ปลดปล่อยออกมาจึงทะยานขึ้นไปอยู่ในระดับเลเวล 5 หรือสูงกว่า
ชายชราเลยคาดเดาว่าเวทย์นี้เป็นเทคนิคเลเวล 5
“ฉันจะให้โอกาสแกเป็นครั้งสุดท้าย บอกจุดประสงค์ที่มาที่นี่ ไม่งั้นก็เตรียมรับมือกับวิธีทรมานนับพันได้เลย!”
ซูเฉินก้าวเข้าหาชายชรา จับจ้องอีกฝ่ายด้วยความเย็นชา
ในดวงตาเขาทอประกายเย็นยะเยือก และแฝงไปด้วยกลิ่นอายชั่วร้าย
ชายชราอดไม่ได้ที่จะสะดุ้ง ภายใต้การจับจ้องของซูเฉิน ในที่สุดเขาก็เอ่ยขึ้นว่า “พวกเรามาที่นี่เพื่อรวบรวมหินรวมดารา”
“ว่าต่อไป” ซูเฉินแค่นเสียงเย็น
ข้อมูลนี้เขารู้อยู่แล้ว แต่เรื่องที่ว่าจะเอาหินรวมดาราไปทำไมเนี่ยสิสำคัญ
“ท่านอาวุโส ถ้าฉันสารภาพ ฉันจะกลายเป็นคนทรยศของเมืองทงเทียน พวกเขาจะไม่ยอมปล่อยฉันไป!”
ชายชราเอ่ยตะกุกตะกัก ความหมายที่แฝงอยู่ในคำพูดของเขาก็คือ หากฉันยอมเผยความจริงออกไป แกต้องปิดมันเป็นความลับ
ซูเฉินถูจมูก บ่นในใจ ‘ไอ้หมอนี่มันโง่รึเปล่า? ต่อให้แกยอมบอกทุกอย่าง สุดท้ายก็ถูกฉันฆ่าอยู่ดี ดังนั้น แกจะมากังวลเรื่องการแก้แค้นของเมืองทงเทียนอีกทำไม?’
ซูเฉินแค่นเสียงในลำคอ กล่าวอย่างเฉยเมยว่า “บอกความจริงมา แล้วฉันจะปล่อยให้แกตายอย่างไม่ต้องเจ็บปวด! แต่ถ้าไม่ยอมพูด ก็เตรียมรับทัณฑ์ทรมานได้เลย จะจัดให้สาสมใจทีเดียว!”
“ตัวเลือกทั้งสองที่เสนอมา ไม่มีข้อไหนปล่อยให้ฉันรอดชีวิตเลยนี่” สีหน้าของชายชราน่าเกลียดจนถึงขีดสุด กัดฟันกล่าว “ท่านอาวุโส หากฉันยอมสวามิภักดิ์ ท่านจะไว้ชีวิตฉันไหม?”
ผู้วิวัฒนาการเลเวล 4 เช่นเขา หาต้องการลี้ภัย ย่อมมีแต่คนอ้าแขนรับ
เพราะท้ายที่สุดแล้ว เขาครอบครองความแข็งแกร่งในระดับเลเวล 4
ไม่ว่าจะลี้ภัยไปเข้าร่วมกับขุมกำลังใด ย่อมสามารถเพิ่มกำลังรบให้แก่ฝ่ายนั้นๆได้เป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม ในสายตาของซูเฉิน ไม่ต้องกล่าวถึงผู้วิวัฒนาการเลเวล 4 ต่อให้เป็นเลเวล 5 หากอยู่ฝ่ายศัตรูมาก่อน ก็ไม่คู่ควรเป็นลูกน้องเขา
ยิ่งไปกว่านั้น เขาจะไม่ยอมเก็บคนที่แทบไม่รู้ข้อมูลมาอยู่เคียงข้างกาย
“แกควรอธิบายมาตามตรง” ซูเฉินทำสีหน้าเคร่งขรึมจริงจัง ก่อนเบ้ปากกล่าว “ส่วนเรื่องที่แกจะยอมสวามิภักดิ์ต่อฉัน ขอโทษทีฉันไม่สนใจ!”
สีหน้าของชายชรากลายเป็นสีฟ้า แดง และขาวตามลำดับ สองมือกำหมัดแน่น
ผู้วิวัฒนาการเลเวล 4 ที่แสนน่ายำเกรง ไปที่ไหนก็มีแต่คนก้มหัวให้ เวลานี้กลับไร้ค่าในสายตาซูเฉิน?
ช่วงเวลานี้ จิตใจของเขาพังทลาย เริ่มใช้อารมณ์แก้ปัญหา
“ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นจะฆ่าก็ฆ่าเถอะ บิดาจะไม่ยอมบอกอะไรแม้แต่คำเดียว”
ซูเฉินคล้ายไม่เสียใจเลยที่อีกฝ่ายไม่ยอมปริปาก ตรงกันข้าม ปรากฏรอยยิ้มขึ้นตรงมุมปากเขา หัวเราะเบาๆ “คนปากแข็งแบบแก ฉันเจอมาหลายคนแล้ว แต่สุดท้าย ทุกคนต่างสำนึกเสียใจ คิดผิดที่เลือกหนทางนี้!”
สิ้นเสียง ซูเฉินก็ปลดปล่อยพลังจิตออกมา ตรึงร่างชายชราเอาไว้
ในเวลาเดียวกัน เขาหยิบ [ดาบเสริมมนตรา] และสับลงไปยังแขนขวาของอีกฝ่าย
ได้ยินเพียงเสียงฉับบบ!
แขนทั้งแขนของชายชราถูกแยกออกจากร่างกาย เลือดสีแดงสดทะลักจากปากแผล ชั่วพริบตาเดียวย้อมเสื้อผ้าทั้งตัวเขาเป็นสีเลือด
“อ๊าาาาาา”
ใบหน้าของชายชรากลายเป็นบิดเบี้ยว กรีดร้องด้วยความเจ็บปวด
ฝูงชนที่รับชมอยู่รอบๆ ล้วนตกตะลึงกับฉากนองเลือดนี้ พวกเขาไม่กล้าแม้จะหายใจ
คนที่เหลือจากเมืองทงเทียน หันสบตากัน ก่อนเตลิดหนีไปทุกทิศทาง
“หัวหน้าหวู่ อย่าปล่อยพวกมันไป”
ซูเฉินเหลือบมองไปรอบๆ กล่าวกับหวู่หยาง
โดยไม่ต้องสั่งอะไรเพิ่มเติมอีก หวู่หยางและคนอื่นๆกระจายกันออกไล่ล่าคนของเมืองทงเทียน
ซูเฮินหันกลับมามองชายชราอีกครั้ง ดาบในมือเขาค่อยๆยกขึ้นไปในอากาศอย่างช้าๆ
ชายชราหวาดกลัวจนขวัญหนีดีฝ่อ ตะโกนเสียงดัง “ฉันยอมแล้ว! ฉันจะบอกทุกอย่าง! จุดประสงค์ที่รวบรวมหินรวมดารา เป็นเพราะเจียงเว่ย! ในฐานะเจ้าเมืองทงเทียน เขาต้องการใช้มันเปิดทางผ่านเขตแดน!”