291-292
3/10
Ep.291
ต้องขอบอกว่า ในทะเลแห่งการหลงเลือน ยังมีสัตว์ทะเลอยู่อีกมากมาย และมักอยู่รวมตัวกันเป็นฝูง
ไม่นาน ซูเฉินก็พบพวกมันอีกฝูงหนึ่ง ครั้งนี้เกาะกลุ่มกันประมาณ 2,000 ตัว
ก่อนออกล่า เขาตัดสินใจเติมพลังงานให้อิ่มท้อง
โดนเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากได้รับ [หม้อแรงดันอเนกประสงค์] มา การได้กินอาหารที่ปรุงด้วยวิธีใหม่เป็นอะไรที่น่าลิ้มลองอย่างยิ่ง
หลังจากกินดื่มกันจนหนำใจแล้ว ทุกคนก็เริ่มออกล่าสัตว์ทะเลต่อ
…
หลายวันต่อมา ซูเฉินยังคงออกล่าสัตว์ทะเลไม่หยุด
ไม่ว่าในทะเลแห่งการหลงเลือนจะมีสัตว์ทะเลอยู่มากมายเพียงใด พวกมันก็ไม่อาจต้านทานการไล่ล่าของซูเฉินได้
จนสุดท้าย ก็ไม่เหลือเงาของสัตว์ทะเลให้เห็นอีกเลย
พวกมันถูกฆ่าตายหมดแล้วหรือ? ไม่ใช่! เหตุผลก็เพราะสัตว์ทะเลไม่เหมือนซอมบี้ พวกมันมีภูมิปัญญาทางจิต
เมื่อเห็นสหายตกตายเป็นจำนวนมาก จึงตัดสินใจพากันอพยพออกจากทะเลแห่งการหลงเลือน ว่ายหนีไปยังอาณาเขตอื่น หรือไม่ก็ดำลึกลงไปใต้ทะเล
เมื่อไม่เหลือสัตว์ทะเลให้ฆ่า ซูเฉินก็ไม่คิดเที่ยวเตร่อยู่ในทะเลแห่งการหลงเลือนอีกต่อไป
สำหรับเรื่องการเดินทางไปยังเขตทะเลอื่น หรือทะเลลึก เขายังไม่มีความคิดจะทำเช่นนั้นในตอนนี้
แน่นอน เมื่อซอมบี้และสัตว์กลายพันธุ์บนเกาะเฉียนหยูถูกกวาดล้างจนหมด เป้าหมายต่อไปย่อมเป็นทะเลเขตอื่น
หลังจากกวาดสายตามองหน้าจอควบคุมส่วนกลาง ซูเฉินก็เลือกตำแหน่งเทียบท่า
หลังจากกลับขึ้นมาบนแผ่นดิน สิ่งแรกที่เขาทำคือนำเต่าทรราชปราณฟ้าเข้าไปใน [พื้นที่สัตว์เลี้ยง]
[พื้นที่สัตว์เลี้ยง] ตอนแรกมีพื้นที่แค่ 10 ลูกบาศก์เมตรเท่านั้น เดิมมันไม่เป็นไปไม่ได้เลยที่จะใส่เต่าทรราชเข้าไป
แต่ซูเฉินใช้ [อัญมณีอัพเกรด] เพิ่มพื้นที่ของมันเป็น 300 ลูกบาศก์เมตรในลมหายใจเดียว จนมากพอที่จะจับเต่าทรราชใส่เข้าไปได้
นอกจากนี้ ถุงเก็บของก็ได้รับการอัพเกรดเพิ่มพื้นที่เป็น 300 ลูกบาศก์เมตรเช่นกัน
แม้แต่ [พื้นที่เพาะปลูก] ก็ยังได้รับการอัพเกรด แต่น้อยกว่าพื้นที่อื่นๆ เพียง 100 ลูกบาศก์เมตรเท่านั้น
เพื่อทำทั้งหมดนี้ ซูเฉินได้ใช้ [อัญมณีอัพเกรด]ทั้งหมด แถมยังใช้แต้มพลังงานในการแลกเปลี่ยนไปอีกจำนวนหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับปริมาณที่ใช้ไปแล้ว ปริมาณที่กอบโกยมาได้มหาศาลกว่ามาก
ช่วงที่ผ่านมา สัตว์ทะเลหลายหมื่นตัวถูกล่า ดรอปชิ้นส่วนหลายพัน
ส่วนใหญ่ถูกแปลงเป็นแต้มพลังงาน
และแต้มพลังงานตอนนี้ ได้ทะลุเกินเลข 8 ไปเป็นที่เรียบร้อย หากไม่ถูกนำออกไปใช้ซะก่อน บางทีอาจมีมากกว่านี้
ในส่วนศพของสัตว์ทะเล ถุงเก็บของในตอนนี้ใกล้จะเต็มแล้ว
หินพลังงานเลเวลต่างๆที่เก็บเกี่ยวได้ มีนับหลายหมื่นก้อน
อาจกล่าวได้เลยว่าทริปเที่ยวทะเลในครั้งนี้ของซูเฉิน ทำกำไรได้นับไม่ถ้วน
…
“ซูเฉิน พวกเราจะไปที่ไหนกันต่อ?”
หลังจากกลับขึ้นบก [รถศึกอัจฉริยะ] ยังไม่มีทีท่าว่าจะสตาร์ทเครื่อง หวู่หยางเลยเดินเข้ามาถาม
ซูเฉินเดิมต้องการกลับไปยังสถานชุมชนเทียนหนาน เพราะอย่างไรเสีย ยังคงมีซอมบี้จำนวนมากอยู่ที่นั่น
แต่หลังจากเหลือบมองหน้าจอควบคุมส่วนกลาง เขาพบว่าสถานชุมชนฮั่วหลางอยู่ระหว่างทางไปสถานชุมชนเทียนหนานพอดี เลยเปลี่ยนใจแวะไปดูที่นั่นก่อน
“อันดับแรก พวกเราจะไปที่สถานชุมชนฮั่วหลาง แล้วค่อยกลับไปที่สถานชุมชนเทียนหนาน” ซูเฉินกล่าว
หวู่หยาง , เฉาหราน และตันหลินรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย เพราะท้ายที่สุดแล้ว พวกเขาอาศัยอยู่ในสถานชุมชนเทียนหนานเป็นเวลาหลายปี จะดีจะร้ายย่อมมีความรู้สึกผูกพันธ์อยู่บ้าง
ถัดมา เมื่อล็อคตำแหน่งสถานชุมชนฮั่วหลาง [รถศึกอัจฉริยะ] ก็ออกเดินทางด้วยความเร็วเต็มพิกัด
“พี่เฉิน สนใจดวลกันซักตาไหม?”
เมื่อเห็นว่าว่างๆไม่มีอะไรทำ หยางฮ่าวหยิบสำรับไพ่ออกมา ชวนซูเฉินเล่นเกมโต้วตี้จู่
“วันนี้พวกเราจะไม่เล่นโต้วตี้จู่ มาฟังเพลงกันดีกว่า”
ซูเฉินยิ้ม จากนั้นหยิบทีวีสีออกมา และใส่ซีดี [เพลงฮิต 100 อันดับแรก] ลงไป
เพลงแรกที่เล่นคือ ‘碟答案’ (คำตอบของคุณ)
บางทีโลกเรามันก็เป็นแบบนี้~
ฉันยังคงอยู่กับการเดินทาง~
ที่ไม่มีใครสามารถอธิบายได้~
…
ให้แสงแห่งรุ่งอรุณ
เปิดทางก้าวผ่านความมืดมิด
สลายความหวาดกลัวทั้งหมด
ช่วยให้ฉันพบเจอกับคำตอบ
…
เสียงร้องทุ้มต่ำ บวกกับท่วงทำนองอันไพเราะ สะกดผู้ฟังจนเคลิบเคลิ้ม
4/10
Ep.292
ซูเฉินรู้สึกอินไปกับเพลง
ในวันสิ้นโลก แท้จริงแล้วมันคือยุคสมัยอันมืดมน และทุกคนกำลังค้นหาคำตอบ
แล้วตัวเขาเล่า? คำตอบคืออะไร?
หลังจากครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง ซูเฉินพบว่าคำตอบของเขาช่างง่ายดายและเรียบง่ายมาก
นั่นคือการสังหารซอมบี้ และไล่เก็บชิ้นส่วน
…
[รถศึกอัจฉริยะ] เดินทางสามวันติด แต่เมื่อใกล้ถึงสถานชุมชนเทียนหนาน ซูเฉินก็พบว่าบนหน้าจอควบคุมส่วนกลาง ปรากฏจุดสีสีน้ำเงินสี่จุดกำลังตรงดิ่งมาทางพวกเขา
และระยะห่างระหว่างพวกเขาอยู่แค่ไม่กี่ไมล์เท่านั้น
ขณะที่ความเร็วของจุดสีน้ำเงินทั้ง 4 ไม่เชื่องช้าเลย ดูท่าว่าน่าจะเป็นผู้วิวัฒนาการ
ซูเฉินไม่สนใจ เพราะท้ายที่สุดแล้ว ผู้วิวัฒนาการสามารถพบเห็นได้ทุกแห่ง ตราบใดที่ไม่มายั่วโมโหเขา แค่นั้นก็พอแล้ว
[รถศึกอัจฉริยะ] ยังคงวิ่งไปตามเส้นทางปกติ ผ่านไปไม่กี่นาที ก็เจอจุดสีน้ำเงินเหล่านั้น
“ท่านอาวุโส .. ช่วยผมด้วย …”
ขณะที่ซูเฉินกำลังหลับตา เขารู้สึกได้รางๆว่าเสียงนี้ช่างคุ้นเคย
“พี่เฉิน ดูเหมือนว่าจะเป็นโจวหยุน” หยางฮ่าวกล่าวขึ้น
“โจวหยุน?” ซูเฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย
ความรู้สึกที่เขามีต่อโจวหยุนไม่เลวเลย ก่อนจากกันยังมอบ [โพชั่นกายภาพ เลเวล 1] ให้
แต่ว่านะ บ้านของโจวหยุนอยู่บนเนินเขาหินไม่ใช่หรือ? แล้วทำไมเขาถึงมาวิ่งอยู่ที่นี่?
แถมยังตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ อย่าบอกนะว่ากำลังถูกตามฆ่า?
ฉุกคิดได้ถึงเรื่องนี้ ซูเฉินลืมตา และมองออกไป
แน่นอน ในสายตาเขา เห็นโจวหยุนกำลังวิ่งเข้ามา ตามด้วยชายสามคนในชุดสีน้ำเงินไล่กวดอย่างไม่ลดละ
“เสี่ยวจือ หยุดรถ”
ซูเฉินออกคำสั่ง เมื่อรถศึกจอด เขาก็กระโดดลงจากรถทันที
เวลานี้ โจวหยุนวิ่งมาถึงข้างหน้าพอดี เขายังคงตะโกนว่า “ท่านอาวุโส พวกเขาจะฆ่าผม!”
ซูเฉินกวาดสายตาสำรวจ และพบว่าเสื้อผ้าของโจวหยุนมอมแมมเป็นผ้าขี้ริ้ว แถมยังมีบาดแผลตามร่างกายอีกหลายจุด ดูน่าสงสารมาก
ฝ่ายชายสามคนในชุดสีน้ำเงิน หลังจากที่ไล่ตามมาถึง ก็ชะงักฝีเท้า ไม่รีบร้อนบุกเข้าไป
พวกเขาพิจารณาซูเฉิน และ [รถศึกอัจฉริยะ]
พวกเขาเคยเห็นรถฐานทัพมาอย่างน้อยก็หลายคัน แต่รถเช่น [รถศึกอัจฉริยะ] เพิ่งเคยเห็นกับตาเป็นครั้งแรก
ซึ่งจากประสบการณ์ พวกเขารู้ดี ว่าผู้ที่สามารถเป็นเจ้าของรถฐานทัพเช่นนี้ได้ ต้องไม่ใช่คนธรรมดา
หากไม่มีความแข็งแกร่ง รถฐานทัพคันนี้คงถูกผู้อื่นปล้นชิงไปแล้ว
“เจ้าหนู ฉันขอแนะนำว่าแกอย่าเข้ามายุ่งดีกว่า”
เมื่อเห็นว่าโจวหยุนกับซูเฉินเหมือนเป็นคนรู้จักกันดี หนึ่งในชายที่มีรอยแผลเป็นบนใบหน้าแค่นเสียงฮึ่มๆออกจมูกอย่างเย็นชา
แม้เขาจะไม่รู้จักซูเฉิน แต่ดูจากรูปลักษณ์ พบว่าซูเฉินยังเด็กมาก ดังนั้นคลายใจลงหลายส่วน
ซูเฉินไม่สนใจอีกฝ่าย ถามโจวหยุนว่า “เกิดอะไรขึ้น ทำไมไอ้พวกตัวประกอบนี่ถึงไล่ตามนาย?”
โจวหยุนกำหมัดแน่น พูดด้วยสีหน้าขุ่นเคืองว่า “ท่านอาวุโส พวกเขามาจากเมืองทงเทียน หลังจากที่รู้ว่าฟางเฉิงอู่ถูกฆ่าตาย พวกเขาก็เริ่มไล่ล่าคนที่เกี่ยวข้อง”
ฟางเฉิงอู่จบชีวิตลงด้วยน้ำมือของซูเฉิน และโจวหยุนก็อยู่ฝ่ายเดียวกันซูเฉินในเวลานั้น เรื่องที่ถูกลากเข้ามาพัวพัน จึงสมเหตุสมผล
หลังจากที่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ซูเฉินมองไปยังทั้งสามคนจากเมืองทงเทียน และพูดว่า “พวกแกเป็นคนของเมืองทงเทียนสินะ?”
เขากับเมืองทงเทียนมีความบาดหมางกันตั้งนานแล้ว ก่อนหน้านี้ซูเฉินได้สังหารคนจากเมืองทงเทียนไปไม่น้อย
และในจำนวนนั้น มีผู้วิวัฒนาการเลเวล 3 ถึง 3 คน
หากอีกฝ่ายเป็นคนของเมืองทงเทียนจริงๆ เมื่อบังเอิญมาเจอเขา นับว่าพวกมันโชคร้ายแล้ว
“เจ้าหนู ในเมื่อรู้ว่าเรามาจากเมืองทงเทียน ทำไมยังไม่รีบไสหัวไปอีก!” ชายที่มีแผลเป็นมองซูเฉิน ตวาดเสียงเย็น
เมืองทงเทียนคือหนึ่งในขุมกำลังที่มีอำนาจมากที่สุดในเขตหยูหลิน กระทั่งบนเกาะเฉียนหยู ก็ยังมีชื่อเสียงโด่งดังมาก
ดังนั้นไม่ว่าใครหน้าไหน เมื่อได้พบกับคนจากเมืองทงทาน อย่างน้อยจะต้องให้ความสุภาพถึงสามส่วน เพื่อถือเป็นการให้เกียรติเมืองทงเทียน
ด้วยสถานะนี้ ชายที่มีแผลเป็นจึงคิดว่าซูเฉินย่อมไม่กล้าล่วงเกินตน