ตอนที่ 263 สมองสั่งการระบบ
ตอนที่ 263 สมองสั่งการระบบ
หลังธีโอพูดออกมาก็ยิ่งทำให้ทุกคนตกตะลึงเข้าไปอีก สิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้ายืนยันแล้วว่าธีโอเกี่ยวกับระบบ และเหตุผลที่ไนเรลให้ทุกคนมารวมกันตรงนี้ก็ชัดเจน พวกเขาและระบบคือศัตรูกัน นั้นหมายความว่าพวกเขาต้องสู้กับธีโอ
ไม่สิ...ต้องบอกว่าพวกเขาจะยังไม่สู้ เพราะไม่อย่างนั้นท่านไนเรลคงไม่เริ่มพูดกับธีโอก่อน
อีกอย่างถ้าคนระดับไนเรลต้องการเรียกพวกเขามา เพื่อช่วยสู้นั้นแสดงว่าธีโอแข็งแกร่งมาก และถ้าไนเรลต้องการให้พวกเขาช่วยสู้แบบนั้นมันก็หายะนะ
แต่ละคนมีความคิดคล้าย ๆ กัน แต่พอทุกคนคิดมาถึงตรงนี้ก็ทำให้หลายคนเริ่มกลัวขึ้นมาแล้วจริง ๆ
“นายจะมาขวางฉันไหมในการฆ่าระบบ” ไนเรลถามคำถามที่ทำเอาทุกคนใจเต้นไม่เป็นจังหวะ คำตอบของธีโอจะชี้ชะตาว่าพวกเขาจะสู้กันหรือเปล่า
ธีโอทั้งสองมองกันและกัน ก่อนที่ธีโอตนหนึ่งจะเดินเข้ามาหาไนเรลอย่าง ๆ สบายก่อนจะส่งใบไม้ให้ใบหนึ่ง
คนอื่น ๆ อาจจะมองมันเพียงใบไม้คริสตัลวิวัฒนาการธรรมดา แต่สำหรับไนเรลมันมีค่ามากกว่านั้น ไนเรลพยักหน้าให้กับธีโอ ซึ่งน้อยครั้งที่ไนเรลจะแสดงท่าทีแบบนี้
ไนเรลเก็บใบไม้ไว้กับตัวเองและติดต่อกับซีโร่ก่อนจะส่งบางอย่างไป ซึ่งไม่มีใครรู้ว่ามันคืออะไร หลังจากนั้นเขาก็ออกไปจากสถานที่แห่งนี้
เมื่อไนเรลออกไปแล้วทุกคนก็ได้แต่มองหน้า ตอนนี้ไม่มีการต่อสู้เกิดขึ้นแล้ว แต่ทุกคนก็ยังระวังตัวจากธีโอ พวกเขามองไปไปทางธีโอก่อนจะพากันแยกย้ายออกไปโดยไม่ถามอะไร
เพราะถ้าเรื่องพวกนั้นควรรู้ไนเรลก็คงจะบอกพวกเขาเอง
ส่วนมะลินั้นไม่ได้มีสำนึกความรู้สึกกลัวอยู่ภายในตัวแม้แต่น้อย เธอรีบวิ่งเข้าไปกอดสองธีโอไว้แน่นก่อนจะถามนู้นถามนี่ไม่หยุด เธอดูตื่นเต้นมาก ๆ ราวกับได้ของเล่นชิ้นใหม่
การกระทำของมะลิไม่ต่างจากเมื่อก่อนแม้แต่น้อย ถ้าจะเทียบธีโอก็เป็นเหมือนพี่ชายของเธอ ไม่ว่าจะเป็นยังไงธีโอก็คือพี่ชายของเธอ
...........
หลังสิ้นสุดเวลา 1 ชั่วโมง ยานฟินิกซ์ ยานขนส่งอวกาศขนาดใหญ่ ยานที่กลายเป็นอาณานิคมของสหพันธรัฐดีอ้อนไนก็บินออกจากดาวตายซากมุ่งหน้าสู้สุดขอบกรงขัง มันกำลังไปทำตามชื่อของมันคือกำเนิดจากกองเถ้าถ่าน
การเดินทางใช้เวลาที่ยาวนานหลายเดือน แสดงให้เห็นถึงความกว้างใหญ่ของกรงขังแห่งนี้ พวกเขารู้อยู่แล้วว่าอารยธรรมของตนเองตอนนี้ไม่มีทางเทียบเทียมอารยธรรมที่สามารถใช้อวกาศขนาดใหญ่ทำเป็นห้องทดลองแบบนี้ได้อย่างแน่นอน
แต่ในเมื่อสิ่งมีชีวิตพวกนั้นยังสามารถทำได้ แล้วทำไมพวกเขาจะไม่สามารถทำได้
หลายคนมีความหวังและกำลังมองไปข้างหน้า เฝ้าฝันถึงอนาคต แม้อีกไม่นานพวกเขาอาจจะโดนระบบทำลายก็ตาม
ไนเรลนั่งอยู่ที่บัลลังก์ภายในสภาสูง ที่นี่ไม่มีใครอยู่ทุกคนไม่อยากรบกวนไนเรล ไนเรลก็ไม่ได้พูดอะไร
นิเรียเปิดประตูเดินเข้า เธอมาหยุดยืนมองดูไนเรลที่นั่งหลับตาอยู่ หญิงสาวยืนมือไปสัมผัสกับใบหน้าพี่ชายของเธออย่างเบามือที่สุด
ดวงตาของนิเรียเริ่มชื้นแฉะขึ้นมาเล็กน้อย เธอยกมือขึ้นมาเช็ดมันเบา ๆ
“พี่ชาย”
ไนเรลลืมตาขึ้นมาช้า ๆ มันช้ามากจนราวกับเวลารอบ ๆ ช้าลงไปด้วย
“ขอบคุณสำหรับเรื่องที่ผ่านมา” ไนเรลพูดออกมาด้วยใบหน้าที่สงบนิ่งยิ่งกว่าที่ผ่าน ๆ มา ยิ่งเวลาผ่านไปอารมณ์เขาก็ยิ่งหายไปมากขึ้น
นิเรียมองไปที่คอของไนเรลมันมีเปลือกไม้ขยายมาถึงคอของไนเรลแล้ว นิเรียคิดจะยืนมือไปจับมัน แต่ไนเรลก็ส่ายหัว
นิเรียมองไปที่ไนเรลอย่างเข้าใจ ก่อนจะหยิบกล่องอาหารออกมา มันมีกับข้าวแค่สองเมนูเท่านั้น นั้นคือไข่เจียวหมูสับกับต้มจืดเต้าหู้
แม้มันจะสุดแสนธรรมดา ยังไม่สามารถเทียบได้กับเนื้อระดับ 1 ด้วยซ้ำ แต่มันมีความหมายมากกว่านั้น นิเรียอยากทำอาหารให้พี่เธออีกครั้ง ส่วนเหตุผลนั้นเธอไม่อยากจะคิดถึงมัน
ในสมัยที่เรียนอยู่ที่เมืองหลวงไทกีล่า นิเรียมักจะทำอาหารให้กับไนเรลกินประจำ ตอนนั้นเธอหวงพี่ชายเป็นอย่างมาก ว่าจะไปติดสาว ๆ แล้วลืมน้องสาวอย่างเธอ พอมาคิดดูแล้วมันก็ตลกมาก
นิเรียยิ้มออกมา หลายสิบปีที่ผ่านมาทุกอย่างเปลี่ยนไปมากทีเดียว
ไนเรลมองดูอาหาร ก่อนจะหยิบช้อนขึ้นมากินด้วยใบหน้าตายด้าน เขากินมันจนหมด และหันไปบอกกับนิเรียเหมือนกับทุก ๆ ครั้งว่า “อาหารยังคงอร่อยเหมือนเดิม”
แม้ในความจริงแล้วเขาไม่รู้รสแล้วก็ตาม เพราะอาหารแบบไหน ๆ มันก็เหมือนกัน ทุกอย่างคือพลังงานที่อยู่ในรูปต่าง ๆ ก็นั้น
นิเรียยิ้มออกมา เธอเข้าใจว่าไนเรลอาจจะไม่สามารถแสดงอารมณ์มากกว่านี้ได้อีก
หลังจากนั้นเธอก็เก็บของทั้งหมด แต่ก่อนจะออกไป เธอหันมาบอกกับไนเรลว่า “พี่เอวา...เธอรักพี่จริง ๆ เพราะฉะนั้นพี่อย่าทำให้เธอเสียใจนะ”
หลังนิเรียออกไป ไนเรลก็ยังคงนิ่งเงียบอยู่เช่นเคย
“ซีโร่”
“ท่านไนเรล” ซีโร่เผยตัวออกมาในรูปแบบโฮโลแกรม รอฟังคำสั่งอยู่ตรงหน้าไนเรล
“เริ่มบันทึกที ถ้าเกิดอะไรขึ้นส่งให้เอวาด้วย”
...........
ยานฟินิกซ์มาหยุดอยู่นอกเขต ซึ่งในอดีตไนเรลเคยมาที่นี่แล้ว มันคือกำแพงโดมพลังงานยานฟินิกซ์ไม่ได้เข้าไปใกล้มากกว่านี้ มันเพียงหยุดและลอยลำรักษาระดับวงโคจรไว้
สัญญาณเตือนภัยดังก้องกังวานไปยังทุกสถานที่ ประชากรทั้งหมดบนยานฟินิกซ์ต่างพากันสวดภาวนา เพราะหน้าที่ของพวกเขามีแค่นั้นจริง ๆ
แต่แน่นอนว่าก็มีความวุ่นวายเกิดขึ้นในหมู่ผู้คนเช่นกัน คนพวกนี้หวาดกลัวและมักจะคิดว่า อีกไม่นานถ้าจะต้องตายก็ขอทำอะไรที่มันสุด ๆ ไปเลยสักครั้ง แต่นอนว่าพวกมันทั้งหมดโดนจับขังลืมในทันที
นอกจากผู้คนแล้ว ตัวตนระดับสูงก็มารวมกันอย่างพร้อมเพรียง สายตาของเขาเฝ้ามองไปยังจุดหนึ่ง
ไนเรลยืนอยู่นอกยานฟินิกซ์ด้านข้างมีลูน่าและนาเดียลอยตัวอยู่เช่นกัน
“ดูแลยานฟินิกซ์ด้วย”
“พ่อระวังตัวด้วย”
ทั้งสองกล่าวออกมาด้วยความห่วงใย ลูน่ามีพลังระดับ 1 ดวงดาวแล้วจากแก่นพลังงานมังกรวารี ส่วนนาเดียหญิงสาวมีพลังก้ำกึ่งไม่แน่นอน แต่ไม่อ่อนแอกว่าลูน่าแน่นอน พวกเธอจึงรับหน้าที่ในการปกป้องพลังที่สะท้อนหรือสิ่งใดที่หลุดออกมาจากการต่อสู้ของไนเรลและระบบ
แต่ที่มากกว่านั้นคือการเฝ้าระวังเท่านั้น
หลังจากว่างด้านหลังได้แล้ว เขาก็หันไปมองด้านหน้า เมล็ดพันธุ์วิวัฒนาการที่อยู่ในร่างตอนนี้มันสั่นพร้องอย่างรุนแรงพร้อมกับปลดปล่อยพลังมหาศาลให้กับไนเรล
ตั้งแต่ที่เขากลืนกินพลังวิวัฒนาการบนดาวเคราะห์ A111 ไปทั้งหมด และหยุดนิ่งมาเกือบ 40 ปี มันทำให้เขาก้าวข้ามระดับ 3 ดวงดาวไปที่ระดับ 4 ดวงดาวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ไนเรลบินตรงเข้าไปหากำแพงพลังงานด้านหน้า
ทันใดนั้นก็มีเสียงของระบบดังขึ้นมา
“ตรวจพบตัวตนที่ไม่ควรมีอยู่ เริ่มต้นกำจัด....”
คลื่นพลังงานมหาศาลถูกปลดปล่อยออกจากทิศทางของเสียงนั้น ซึ่งอันที่จริงแล้วไม่ใช่เสียงแบบปกติ แต่เป็นการส่งข้อความผ่านเข้ามาในสัมผัสได้ยินของเขาโดยตรง
ไนเรลรับรู้ได้ถึงพลังงานที่ระบบส่งมามันไม่ใช่รูปแบบปกติ มันคือพลังในการทำลาย ไม่ใช่การฉีกกระชากให้เป็นชิ้น ๆ แต่เป็นการแผดเผาไหม้อย่างหมดจด
เขายกมือทั้งสองข้างขึ้น ในชั่วขณะที่พลังระบบสัมผัสกับมือของเขา รากไม้จำนวนมหาศาลเทียบเท่าชั้นบรรยากาศดาวเคราะห์ดวงหนึ่งก็ปรากฏขึ้นมากลายเป็นโล่กำบังให้กับไนเรล
พื้นที่อวกาศเบื้องหน้าสั่นไหวเกิดคลื่นปะทะอย่างรุนแรง ก่อนจะกระจายออกเป็นวงกว้างแต่นั่นคือหลังจากไนเรลและระบบปะทะกันอีกหลายครั้ง
ระบบส่งแต่เพียงพลังงานออกมาราวกับมันไม่มีตัวตนเข้ามาปะทะกับไนเรลตรง ๆ
ไนเรลเข้าใกล้ไปเรื่อย ๆ จนในที่สุดก็มาถึงจุดหนึ่ง ส่วนของกำแพงที่ส่องสว่างมากที่สุด มันเป็นเหมือนกับดาวฤกษ์ ส่องสว่างด้วยตัวเอง
แต่ถ้ามองผ่านแสงพวกนั้นเข้าไป จะเห็นได้ว่ามันกลุ่มก้อนพลังงาน ใส่ ๆ วิ่งวนไปมาราวกับระบบกระแสประสาทเชื่อมต่อกันจนกลายเป็นสมอง สมองขนาดใหญ่ยักษ์มากกว่าเกินกว่าจะบรรยายได้
ในขณะนั้นเองกำแพงพลังงานก็เหมือนจะเคลื่อนไหว พวกมันก่อตัวขึ้นเป็นเหมือนกับปากกระบอกปืน ระบบได้เปลี่ยนรูปแบบการโจมตีจากคลื่นพลังเป็นลำแสงพลังงาน ซึ่งมีพลังมากกว่าก่อนหน้านี้มากนัก
จ้องมองไปที่ลำแสงพวกนั้นตาไม่กะพริบก่อนที่ตัวของเขาจะกลายเป็นมังกรพฤกษาบินตรงเข้าไปหามัน การต่อสู้ครั้งนี้ไม่มีถอย มีแต่ต้องพุ่งตรงเข้าไปเท่านั้น
ความเร็วของไนเรลเพิ่มมากขึ้นจนยากจะจินตนาการถึง แต่ที่มากกว่านั้นคือพลังในการป้องกัน เขาไม่มีทางหลับลำแสงการโจมตีได้ทั้งหมดบางครั้งต้องใช้การป้องกันของเกล็ดมังกรเข้าสู้ด้วย
ลำแสงของระบบทะลุทะลวงทำลายล้างทุกอย่างที่อยู่ในระยะโจมตี นั้นทำให้ยานฟินิกซ์ต้องเปิดเกราะป้องกันสูงสุดและถอยห่างออกไป
โฮกกกก!!!!!
ไนเรลห่างจากสมองของระบบไม่มากนัก เขาจึงอ้าปากคำรามก่อนที่จะใช้การโจมตีที่มากพอจะทำลายทั้งดาวเคราะห์เปิดฉากโจมตีมันตรง ๆ พลังงานสีเขียวในเมล็ดพันธุ์วิวัฒนาการรวมตัวอัดแน่นก่อนยิงออกจากปากของไนเรล
ลำแสงสีเขียวตรงเข้าหาสมองระบบ แต่ก่อนที่มันเข้าไปทำลายในตอนนั้นเองก็มีเกระป้องกันถูกสร้างขึ้นมาป้องกันระบบไว้
แสงระเบิดเกิดขึ้นเทียบเท่ากับดาวเคราะห์ขนาดใหญ่ระเบิดจากภายใน พลังงานที่ปลดปล่อยออกมานั้นมากจนน่าตกตะลึง
แต่ถึงจะพลังทำลายล้างมากแค่ไหน สิ่งนี้ก็ยังไม่ใช่การปะทะสุดท้าย
พลังของระบบอยู่ประมาณระดับ 4-5 ดวงดาว แต่ไม่อาจจะประมาทได้ มันอาจจะมีอะไรซ่อนไว้อีก
ไนเรลมีท่าทีระวัง ในตอนนั้นเองเขาก็ได้ยินเสียงระเบิดดังมาจากด้านหลัง พร้อมกับลำแสงพุ่งออกมาจากยานฟินิกซ์ผ่านตัวของไนเรลไปที่สมองของระบบ มันคือธีโอทั้งสองที่อยู่ในท่าทีดิ้นรน
แม้ธีโอจะเป็นส่วนย่อยของระบบที่เหมือนกับแยกตัวออกมาแล้ว แต่มันก็ยังคือส่วนหนึ่งของระบบ มันไม่อาจจะขัดขืนการเข้าควบคุมของระบบได้