ตอนที่แล้ว80Y-ตอนที่ 30 ทักษะกระบี่22เล่มกระบวนท่าสุดท้าย!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป80Y-ตอนที่ 32 เพื่อนบ้าน

80Y-ตอนที่ 31 ตระหนักรู้ในชีวิตด้วยการโจมตีเพียงหนึ่งครั้ง


ทักษะกระบี่22เล่ม เป็นทักษะกระบี่ที่ทรงพลัง

มันมีทั้งหมด 22 จังหวะ

จังหวะที่ 22 คือการเคลื่อนไหวที่น่าเกรงขามที่สุด

เมื่อเทียบกับจังหวะอื่น ๆ แล้ว มันมีชื่อเรียก

กระบี่ศักดิ์สิทธิ์!

เมื่อกระบี่ศักดิ์สิทธิ์ถูกปล่อยออกไป ธรรมชาติก็ราวกับเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

หิมะโปรยสีขาวกำลังร่ายรำอยู่บนอากาศเหนือภูเขาสวรรค์

แรงดันอากาศส่งผลให้ หลินจิ่วเฟิง ลอยตัวขึ้น

เขาได้ยืนอยู่บนอากาศ เสื้อคลุมของเขาได้พริ้วไหว ผมยาวสีดำได้สบัดไปมา

เขาถูกห้อมล้อมไปด้วยพลังกระบี่

ในมือของเขาได้ถือกระบี่สังหารปีศาจ

ช่วงเวลาต่อมา กระบี่สังหารปีศาจ ก็ฟาดฟันจนมวลอากาศแยกออกจากกัน การเคลื่อนไหวครั้งนี้เป็นการผสมผสานระหว่างเจตจำนงค์ต่อสู้ของหลินจิ่วเฟิงและพลังงานทางโลก

“ตายซะ!”หลินจิ่วเฟิงได้เผยสายที่เย็นชาออกมาราวกับปีศาจร้าย

ทักษะกระบี่ศักดิ์สิทธิ์ของทักษะกระบี่ 22 เล่ม โดยพื้นฐานแล้ว เขากำลังใช้มันลงโทษศัตรูด้วยความตาย

บูม!

พลังปราณกระบี่ขนาดมหึมาได้ปกคลุมไปทั่วท้องฟ้าขณะที่ลมกรรโชกได้พัดผ่านดินแดนไปไกลหลายร้อยเมตร หิมะโปรยเหล่านี้ได้ถูกดึงเข้ามาจาทุกทิศทางในขณะที่กระแสน้ำวนขนาดใหญ่ได้ก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว

ทักษะกระบี่ศักดิ์สิทธิ์ได้ฟาดฟันลงไป

สิ่งนี้ราวกับส่วนหนึ่งของธรรมชาติที่ได้พังทลายลงมา

ปราชญ์การต่อสู้ทูเหมิน ไม่มีทางหนีพ้น

เขาทำได้เพียงรับการโจมตีในครั้งนี้

กร๊าชช!

อย่างไรก็ตาม ปราชญ์การต่อสู้ ทูเหมิน ไม่อาจนิ่งเฉยรอรับความตายของเขาได้ ภาพมายาของสัตว์ป่าด้านหลังของเขาได้คำรามออกมาพร้อมกัน

“ข้าขอวิงวอนต่อเทพแห่งที่ราบผืนนี้ให้ลงมาจุติบนร่างข้าและสังหารศัตรูแทนข้า!”ปราชญ์การต่อสู้ทูเหมิน ได้สวดคาถาของเขา

สีหน้าของเขาดูน่าเกลียด ร่างของสัตว์ป่าหลายร้อยตัวกำลังค้ำจุนร่างของเขาเอาไว้ แต่เขาก็ยังรู้สึกวิตกกังวล

ดังนั้นเขาจึงอัญเชิญเทพเจ้าแห่งที่ราบให้มาจุติที่นี่

ติง!

ติง!

ติง!

มวลอากาศสั่นสะเทือนในทันที พลังปราณแท้จริงของ ปราชญ์การต่อสู้ทูเหมิน ได้ขยายขึ้นอย่างรวดเร็ว ขนทั่วร่างของเขาได้งอกยาวออกมาอย่างแหลมคม มันได้ปกคลุมไปทั่วร่างของ ปราชญ์การต่อสู้ทูเหมิน

ขนที่งอกยาวเหล่านี้ เผยให้เห็นลักษณะที่คล้ายกับสัตว์ป่าในปัจจุบัน

ร่างของเขาได้กลายเป็นลิงยักษ์สูง 5 เมตร

พลังปราณได้ปะทุขึ้นทั่วร่างของเขา ขณะที่เขากระโดดขึ้นไปบนท้องฟ้าและพยายามจะทำลายทักษะกระบี่ศักดิ์สิทธิ์ของหลินจิ่วเฟิง

เปรี้ยง!

น่าเสียดายที่ทักษะกระบี่ศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้หยุดลง การเคลื่อนไหวครั้งนี้ เป็นกระบวนท่าที่ทรงพลังที่สุดของ กระบี่ 22 เล่ม มันไม่เพียงแต่ดึงพลังงานทางโลกมาใช้เท่านั้น ยังรวมไปถึงเจตจำนงค์ต่อสู้ที่ดุเดือดของ หลินจิ่วเฟิง

บูม!

ปราณกระบี่ได้ทะลุร่างของ ปราชญ์การต่อสู้ทูเหมิน

จากนั้นมันก็หายไปราวกับสายฝน

ร่างของปราชญ์การต่อสู้ทูเหมินได้ร่วงหล่นลงไปยังทะเลสาบสวรรค์

ปราชญ์การต่อสู้ทูเหมิน ที่อยู่ในช่วงตระหนักรู้ในชีวิตของขั้นปราชญ์การต่อสู้ กลับต้องมาพ่ายแพ้ต่อ หลินจิ่วเฟิง

ในสายลมและหิมะที่ไร้ขอบเขต หลินจิ่วเฟิง ได้สบัดแขนออก ส่งผลให้ลมหิมะรอบตัวของเขาปลิวกระจายหายไปในทันที

เขาไม่ได้สนใจศพของปราชญ์การต่อสู้ทูเหมิน

เขาไม่ได้สนใจภูเขาสวรรค์ภายใต้การระเบิดของพลังปราณกระบี่ของเขา

แน่นอนว่ากองทัพหลายแสนนายที่เชิงภูเขาสวรรค์ก็เช่นเดียวกัน

หลินจิ่วเฟิง หมกมุ่นอยู่กับโลกส่วนตัวของเขา

ขณะที่เขาสังหารปราชญ์การต่อสู้ทูเหมินด้วยกระบี่ของเขา ดูเหมือนว่าเขากำลังก้าวเข้าสู่โลกใบใหม่

ในไม่ช้าเขาก็มาถึงช่วงที่สองของขั้นปราชญ์การต่อสู้ ตระหนักรู้ในชีวิต

แต่ในความเป็นจริง หลินจิ่วเฟิง ได้มาถึงนานแล้ว

เขาขาดเพียงแค่กุญแจที่ใช้เปิดประตูบานนี้

ตอนนี้เขาค้นพบกุญแจแล้ว

ท่ามกลางหิมะอันไร้ขอบเขตและลมแรง ร่างของเขา ค่อย ๆ ร่อนลงและยืนอยู่ข้างทะเลสาบสวรรค์ เขามองดูเกล็ดหิมะที่หมุนวนและลมกรรโชกแรงรวมถึงกองทัพที่กำลังสับสนวุ่นวาย

ทุกคนในบริเวณใกล้เคียงล้วนได้เห็นการต่อสู้ของ หลินจิ่วเฟิง และ ปราชญ์การต่อสู้ทูเหมิน

ทุกคนรู้สึกตื่นตระหนกและไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น

เหตุใดพวกเขาถึงต่อสู้กัน?

แล้วใครเป็นคนที่กำลังต่อสู้?

พวกเขารู้สึกสับสน เพียงแต่พวกเขาสัมผัสได้ว่าทั้งสองคนแข็งแกร่งมาก

พวกเขาไม่ได้รู้ว่ามันเริ่มต้นอย่างไร แต่ฉากที่พวกเขาได้เห็น

ก็คือตอนที่กระบี่ที่มาจากสรวงสวรรค์ได้วาดฟันลงมาที่พื้นล่างแห่งนี้

จากนั้นพวกเขาก็เห็น ปราชญ์การต่อสู้ทูเหมิน กลายร่างเป็นลิงยักษ์ เขาได้กระโดดเข้าไปและใช้ออกด้วยทุกอย่างที่มีเผชิญหน้ากับกระบี่ลงทันฑ์ของสวรรค์

หลังจากนั้นกระบี่ก็ตัดผ่านร่างกายของเขา

จากนั้นเขาก็ร่วงหล่นลงสู่ทะเลสาบสวรรค์

กองทัพทั้งหมดได้เห็นสิ่งเหล่านี้

ปราชญ์การต่อสู้ทูเหมิน ถูกฆ่าตาย!

ปราชญ์การต่อสู้ทูเหมิน ที่รวบรวมอิทธิพลในเซียนเป่ย ด้วยความแข็งแกร่งของตนเอง กลับถูกสังหารด้วยกระบี่ที่ส่งตรงลงมาจากสวรรค์

ข่าวนี้ได้แพร่กระจายไปในทันที

ชาวเซียนเป่ยได้ส่งเสียงร้องเชียร์ออกมา

ในฤดูที่หนาวเหน็บเช่นนี้ การที่พวกเขาอยู่ใกล้ชิดคนที่รักย่อมดีกว่าไม่ใช่เหรอ?

อย่างน้อย พวกเขาก็ไม่ได้มีความปราถนาที่จะรวมตัวกันขึ้นเพื่อทำสงคราม

แต่พวกเขาไม่สามารถต่อต้านปราชญ์การต่อสู้ทูเหมินได้

เมื่อ ปราชญ์การต่อสู้ทูเหมิน เสียชีวิต กองทัพเหล่านี้ก็แยกย้ายจากไปในทันที

ต่างคนได้เดินไปตามเส้นทางของตัวเอง และมันเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะรวมตัวกันขึ้นเพื่อทำสงครามอีกครั้ง

หลินจิ่วเฟิง ได้ยิ้มและมองฉากนี้อย่างใจเย็น

เขารู้ว่าการเคลื่อนไหวครั้งนี้ได้นำมาซึ่งการช่วยชีวิตคนนับล้าน

“ปรากฏว่านี่คือกุญแจสู่ช่วงตระหนักรู้ในชีวิต?”

หลินจิ่วเฟิง มองไปที่กระบี่สังหารปีศาจในมือของเขาด้วยความยินดี

แก่นแท้ของการตระหนักรู้ในชีวิตคือ การตระหนักถึงจิตใจและชะตากรรมของตนเอง-เขาได้ทำทุกอย่างที่เขาสามารถทำได้ภายใต้ความรับผิดชอบของเขา

ในที่สุด หลินจิ่วเฟิง ก็ได้เข้าใจแก่นแท้ของการตระหนักรู้ในชีวิตที่เขาสับสนมานาน

เขาได้ถือกระบี่สังหารปีศาจในมือแน่นและฟันไปยังกลุ่มภูเขาที่อยู่ใกล้เคียง

จากนั้นเขาก็จากไป

เขาได้ลอยไปตามลมและจากไปโดยไม่หันหลังกลับมาอีกเลย

ฟวั่บ!

ไม่กี่ลมหายใจที่เขาจากไป ภูเขาขนาดใหญ่ก็ได้พังทลายลงมาด้วยเสียงดังขนาดใหญ่

กองหิมะขาวโพลนได้สั่นไหวในทันที

ในไม่ช้าก็เกิดหิมะถล่มจากการพังทลายของภูเขา

จากการเคลื่อนไหวครั้งนี้ จะสามารถสัมผัสได้ถึงพลังปราณกระบี่ที่ทรงพลังขึ้นมากกว่าเดิม

หลังจากเข้าสู่ช่วงตระหนักรู้ในชีวิตของขั้นปราชญ์การต่อสู้เขาก็สามารถผ่าภูเขาออกครึ่งนึงได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว!

เมืองหลวงราชวงศ์!

หลินจิ่วเฟิง ได้บินกลับมาที่นี่ตลอดทั้งคืน

การเดินทางไปกลับของเขาใช้เวลาเพียงแค่ 2 วันเท่านั้น

หลังจากเข้าสู่ช่วงตระหนักรู้ในชีวิต บนภูเขาสวรรค์ ของที่ราบทางตะวันตกเฉียงเหนือ ร่างกายของเขาก็ราวกับได้เกิดใหม่อีกครั้ง โดยพื้นฐานแล้ว ความเร็วของเขาได้เพิ่มขึ้นพร้อมกับความแข็งแกร่งของเขาเอง

ขณะนี้หิมะได้ตกลงในเมืองหลวงของราชวงศ์

แต่มันก็ไม่ตกหนักเท่ากับหิมะในที่ราบทางตะวันตกเฉียงเหนือ ที่พื้นยังเต็มไปด้วยเกล็ดหิมะ

หลินจิ่วเฟิง ได้เดินบนหิมะท่ามกลางความเงีบบที่สงบ

ในตอนกลางคืนเขาที่เพิ่งกลับมาจากที่ราบทางตะวันตกเฉียงเหนือได้เปิดประตูของตำหนักเย็นขึ้น

จากนั้นเขาก็กลับเข้าไปในลานที่พักของเขา และนอนลงบนเตียงหยกน้ำแข็ง จากนั้นเขาก็เริ่มไตร่ตรองทุกสิ่งอย่างที่เขารู้เกี่ยวกับช่วงตระหนักรู้ในชีวิตของขั้นปราชญ์การต่อสู้

บนกำแพงลานที่พัก เจ้าแมวขาวได้เคลื่อนไหวราวกับหิมะโปรยที่ร่วงลงมา

มันได้เฝ้ามอง หลินจิ่วเฟิง ด้วยสายตาดุดันในเวลากลางคืน

เมี้ยว!

เจ้าแมวขาวได้ร้องออกมาอย่างแผ่วเบา

มันต้องการให้ หลินจิ่วเฟิง เคลื่อนไหวออกไปค้นหาข้อมูลเพิ่มเติม

แต่ทว่า หลินจิ่วเฟิง ได้เพิกเฉย

เขาเพิ่งกลับมาหลังจากเดินทางไปที่ราบทางตะวันตกเฉียงเหนือเพื่อฆ่าใครบางคน ดังนั้นเขาจึงรู้สึกเหนื่อยล้า แต่ทว่า เจ้าแมวขาวตัวน้อยนี้กลับไม่รู้จักเห็นใจเขาเลย

เจ้าแมวขาวได้หยุดร้อง

มันรู้ว่า หลินจิ่วเฟิง ตั้งใจจะเพิกเฉยมัน

ดังนั้นมันจึงกางเล็บออกมาด้วยความโกรธ

มันต้องการข่วนไปที่ หลินจิ่วเฟิง

แต่พอหลังจากที่มันเปรียบเทียบความสามารถของตนเองกับหลินจิ่วเฟิงแล้วมันก็หดเล็บของมันกลับไป และ ขดตัวเป็นลูกบอลอยู่ที่กำแพงลานที่พัก ร่างกายของมันได้ปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาวอย่างช้า ๆ

แต่ดวงตาของมันยังคงจับจ้องมองไปที่ร่างของ หลินจิ่วเฟิง

เจ้าแมวขาวนี้เป็นสิ่งมีชีวิตที่ดื้อรั้นอย่างแท้จริง

มิฉะนั้นมันคงไม่อยู่ปกป้องโลงศพที่ว่างเปล่าในพระราชวังใต้ดินได้เป็นเวลาหลายปี

วันรุ่งขึ้น หลินจิ่วเฟิง ได้ตื่นขึ้นจากการฝึกฝนของเขา

ความเหนื่อยล้าของเขาได้หายไปและเขาลุกขึ้นยืนด้วยความพึงพอใจ

เมี้ยว!

เจ้าแมวขาวได้ร้องเตือน หลินจิ่วเฟิง

“เจ้านี่มันดื้อด้านจริง ๆ!”หลินจิ่วเฟิง ได้เงยหน้าขึ้นและมองไปที่แมวขาวที่ขดตัวเป็นลูกบอลและปกคลุมไปด้วยหิมะบนกำแพง

เมี้ยว!

เจ้าแมวข้าวได้ร้องออกมาอีกครั้งดวงตาของมันจับจ้องมองไปที่ หลินจิ่วเฟิง อย่างหนักหน่่วง

ประกอบไปด้วยรูปลักษณ์อันละเอียดอ่อนของมันแล้ว กลับดูน่าสมเพชอยู่บ้าง

“ก็ได้ เจ้าชนะ พวกเราไปกันเถอะ”หลินจิ่วเฟิง ได้ตอบกลับ

เจ้าแมวขาวค่อนข้างดื้อรั้น

หาก หลินจิ่วเฟิง ยังคงปฏิเสธที่จะไปหาข้อมูลเพิ่มเติมล่ะก็…

แน่นอนว่ามันจะจ้องมองไปที่เขาจนกว่าอีกฝ่ายจะทนไม่ได้แบบนี้

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด