383 - ทักษะระดับเทพ
383 - ทักษะระดับเทพ
ในช่วงเวลากว่าหนึ่งชั่วยาม ปากของเอี้ยนลี่เฉียงก็เริ่มแห้งจากการพูดคุย แต่เขาทำได้เพียงยืนต่อไปโดยไม่กล้าที่จะร้องขอน้ำดื่มจากผู้อาวุโสทุกคนที่อยู่ที่นี่
หลังจากที่เขาเสร็จสิ้นการรายงานเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เขาได้เห็นในแคว้นฮุ่ย ห้องโถงก็เต็มไปด้วยความเงียบผู้อาวุโสไม่ได้ถามคำถามอีก
เพราะหลังจากข้ามแคว้นฮุ่ย ก็จะเป็นแคว้นเหวิน ซึ่งอยู่ติดกับแคว้นล่าย เกี่ยวกับสถานการณ์ในแคว้นล่าย ผู้อาวุโสของนิกายกระบี่ศักดิ์สิทธิ์ย่อมมีความคิดที่ชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้นที่นั่นเช่นกัน
หลังจากผ่านไปสิบนาทีลู่ชิวหมิงเยว่ ได้มองผู้อาวุโสทุกคนแล้วกล่าวว่า
"เรียนผู้อาวุโสทุกท่านมีคำถามเพิ่มเติมหรือไม่"
“ข้ายังมีอีกอย่างที่ต้องตรวจสอบ!”
ผู้อาวุโสวัยกลางคนใบหน้างดงามสวมชุดสีเหลืองอ่อนซึ่งนั่งอยู่ทางซ้ายของเอี้ยนลี่เฉีย เริ่มพูด เสียงของนางฟังดูอ่อนหวานดวงตาของนางเปล่งประกายเมื่อมองไปที่เอี้ยนลี่เฉียง
“ข้าได้ยินมาเจ้าบอกว่าเจ้าเรียนรู้ทักษะการวาดภาพที่เป็นเอกลักษณ์ของเจ้าเมื่อตอนที่เจ้ายังเด็ก เจ้าวาดภาพร่างที่เจ้าส่งมายังนิกายในตอนนั้นอย่างไร?
เราไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนข้าจึงมีความอยากรู้ ด้วยเหตุนี้ ข้าต้องการให้เจ้าแสดงให้จ้าวนิกายและผู้อาวุโสคนอื่นๆเห็นว่าเจ้าทำได้อย่างไร หากเจ้ามีความสามารถเช่นนี้คงไม่ยากที่จะว่าต่อหน้าผู้คน…”
ผู้อาวุโสส่วนใหญ่ในห้องโถงพยักหน้าหลังจากได้ยินคำกล่าวของผู้อาวุโสที่งดงามคนนี้ ทุกคนเริ่มสงสัยและอยากเห็นเอี้ยนลี่เฉียงวาดภาพที่ดูเหมือนจริงเพราะมันเป็นสิ่งที่ทุกคนไม่เคยเห็นมาก่อน
“ถ้าผู้อาวุโสหลินต้องการเห็นภาพวาดของข้า ก็ย่อมได้อยู่แล้ว!” เอี้ยนลี่เฉียงยิ้มให้กับผู้อาวุโสคนนั้นและพูดต่อ
“อย่างไรก็ตาม ข้าแค่ต้องเตรียมเครื่องมือสำหรับการวาดรูปของข้า!”
“ไม่ว่าเจ้าต้องการอะไรก็พูดออกมาเถอะ!”ลู่ชิวหมิงเยว่ พูดแทรก
“ข้าจะต้องใช้กระดาษสีขาวแข็งที่มีขนาดประมาณ 2 จ้าง เข็มปักหลายอัน และแผ่นไม้แบนบางๆ ที่ใหญ่กว่ากระดาษประมาณสองนิ้ว
นอกจากนี้ต้องการถ่านแท่งสองสามอันที่ยาวประมาณหนึ่งนิ้ว มีดเล็กๆและขนมปังอบก็เพียงพอแล้วสำหรับข้า!”
"ตกลง!"
ลู่ชิวหมิงเยว่พยักหน้าและปรบมือสองครั้ง ผู้อาวุโสในชุดดำเดินออกมาจากประตูด้านนอกและแสดงความเคารพต่อลู่ชิวหมิงเยว่พร้อมกับพูดว่า
“ท่านประมุขต้องการให้ข้าทำสิ่งใด?”
“นำสิ่งของที่เอี้ยนลี่เฉียงร้องขอมา!”
“เข้าใจแล้ว!”
ผู้อาวุโสโค้งคำนับและจากไป ในเวลาเพียงไม่ถึงสองนาที ของทุกอย่างที่เอี้ยนลี่เฉียงต้องการก็ถูกวางไว้ตรงหน้าของเขาๆ
“ผู้อาวุโสหลินต้องการให้ข้าวาดอะไร”
“วาดอะไรได้”
“ข้าสามารถวาดอะไรก็ได้ตราบเท่าที่อยู่ในสายตาของข้า!”
ผู้อาวุโสหญิงงามหัวเราะในทันใดและพูดว่า
“งั้นวาดข้าก็แล้วกัน!”
"ตกลง!"
เอี้ยนลี่เฉียงพยักหน้าและเริ่มดำเนินการ
ประการแรก เขาวางกระดาษบนกระดานไม้บางๆแล้วสอดเข็มปักเข้าไปที่มุมของกระดาษ ก่อนที่เขาจะพลิกเข็มเพื่อยึดกระดาษไว้กับกระดาน
จากนั้นเขาก็เลือกถ่านก้อนและใช้มีดเล่มเล็กๆเราให้มันเรียวคมจากนั้นจึงพูดกับผู้อาวุโสหลินว่า
“ข้าต้องใช้เวลาสักหน่อยสำหรับการวาดภาพของข้า ในระหว่างนี้ ข้าจะต้องขอให้ผู้อาวุโสหลินนั่งบนเก้าอี้แบบนี้และจ้องมองมาที่ข้า อย่าได้ขยับตัวมากเกินไป!”
"ตกลง!"
ผู้อาวุโสหลินพยักหน้าและนั่งบนเก้าอี้อย่างเฉยเมย มองเอี้ยนลี่เฉียงในความเงียบ
เอี้ยนลี่เฉียงวางกระดานไม้ไว้บนเข่า เขาเหลือบมองผู้อาวุโสหลินก่อนที่เขาจะเริ่มจดจ่อกับภาพวาดของตัวเอง
แน่นอนลู่ชิวหมิงเยว่และผู้อาวุโสคนอื่นๆในห้องโถงได้รับการกล่าวขานว่าดีที่สุดในแง่ของการฝึกฝนการต่อสู้และฐานความรู้
ถึงกระนั้นดวงตาของพวกเขาก็เบิกกว้างขึ้นเพราะพวกเขาไม่เคยเห็นใครวาดภาพแบบที่เอี้ยนลี่เฉียงทำ
นอกจากนี้เอี้ยนลี่เฉียงยังใช้อุปกรณ์ทั้งหมดโดยที่พวกเขาไม่เคยคิดว่าสิ่งเหล่านี้จะนำมาวาดเป็นรูปภาพได้ ก้อนถ่านถูกใช้เป็นอุปกรณ์การวาด แล้วขนมปังพวกนี้เป็นของว่างเอี้ยนลี่เฉียงจะกินตอนวาดภาพหรือไม่?
“แปลกจริงๆจิตรกรคนอื่นๆจะใช้พู่กันและหมึกสำหรับงานของพวกเขาและกระดาษของพวกเขาจะถูกวางราบลงบนโต๊ะเสมอ ทำไมกระดาษที่เอี้ยนลี่เฉียงกำลังวาดอยู่จึงถูกวางในแนวตั้งแทน?”
ผู้อาวุโสบางคนเริ่มพึมพำด้วยความสงสัย
ขณะที่ดูเอี้ยนลี่เฉียงวาดภาพบางอย่างบนกระดาษด้วยท่าทางจริงจัง หลู่ชิวหมิงเยว่ที่อยากรู้อยากเห็นอย่างยิ่งเป็นคนแรกที่ลุกขึ้นยืนและเดินไปอยู่ด้านหลังของเอี้ยนลี่เฉียง
การแสดงออกบนใบหน้าของลู่ชิวหมิงเยว่ ค่อยๆกลายเป็นความประหลาดใจ
เมื่อผู้นำนิกายเป็นผู้นำ ผู้อาวุโสที่เหลือก็เดินตามหลังของเขาและไปยืนดูเอี้ยนลี่เฉียงวาดภาพ
การแสดงออกของพวกเขาเหมือนกับของลู่ชิวหมิงเยว่ พวกเขาเริ่มรู้สึกตื่นเต้นหลังจากเหลือบมองภาพวาดเพียงไม่กี่ครั้ง
ดูเหมือนว่าทุกคนที่อยู่ในห้องยกเว้นผู้อาวุโสหลินซึ่งยังคงนั่งอยู่บนเก้าอี้จะมีการแสดงออกที่ตกตะลึง
ขนมปังอบเย็นลงแล้ว แต่หลู่ชิวหมิงเยว่และผู้อาวุโสคนอื่นๆก็สามารถค้นพบการใช้ขนมปังสำหรับวาดภาพได้เมื่อเอี้ยนลี่เฉียงค่อยๆฉีกขนมปังชิ้นหนึ่งเพื่อลบบางสิ่งบางอย่างที่เขาไม่ต้องการ
สำหรับเอี้ยนลี่เฉียงขนมปังอบมีหน้าที่เหมือนกับยางลบ แต่จากมุมมองของผู้ยืนดู การใช้ขนมปังด้วยวิธีการนี้ทำให้พวกเขาตกใจเป็นอย่างมาก
ตอนนี้ทุกคนต่างเชื่อมั่นอย่างสมบูรณ์เกี่ยวกับคำกล่าวก่อนหน้านี้ของเอี้ยนลี่เฉียงที่บอกว่าเขาเรียนรู้วิธีการวาดภาพเช่นนี้ด้วยวิธีการลองผิดลองถูก
เอี้ยนลี่เฉียงเป็นผู้เชี่ยวชาญในการร่างใบหน้าของผู้คนในชาติที่แล้ว และในชีวิตปัจจุบันของเขาทักษะนี้ก็ไม่ลดลงแต่กลับแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมผ่านการประสานมือและดวงตา
การควบคุมการเคลื่อนไหว การสังเกต และความสามารถในการจดจำที่เพิ่มขึ้น
ภายใต้มือของเอี้ยนลี่เฉียง ใบหน้าของผู้อาวุโสหลินค่อยๆสดใสขึ้น ในทางกลับกันสีหน้าของผู้อาวุโสที่ยืนอยู่ข้างหลังเขายิ่งแปลกใจมากขึ้น บางคนถึงกับอ้าปากค้างอย่างช้าๆ…
ภาพวาดด้วยหมึกแม้จะมีความงดงามทางศิลปะไม่ได้ด้อยกว่าดินสอ แต่หากจะพูดถึงเรื่องความสมจริงนั้นมันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเอามาเทียบกัน
เทคนิคการวาดภาพที่เอี้ยนลี่เฉียงเชี่ยวชาญนั้นมีหลายมิติโดยเฉพาะเรื่องแสงและเงา ซึ่งเป็นสิ่งที่ภาพวาดด้วยพู่กันของคนยุคนี้ไม่สามารถนำมาเทียบได้
เอี้ยนลี่เฉียงทุ่มเทอย่างเต็มที่ให้กับผลงานของตัวเอง เขาได้นำเสนอระดับการวาดภาพขาวดำอย่างละเอียดถี่ถ้วน
ภายใต้การลากเส้นจากถ่านของเอี้ยนลี่เฉียงแม้แต่เส้นผมเส้นเล็กๆของผู้อาวุโสหลินก็ยังถูกบันทึกออกมาให้ความสมจริงจนน่าเหลือเชื่อ
ภาพวาดของเอี้ยนลี่เฉียงไม่มีความแตกต่างจากภาพถ่ายขาวดำที่ปรากฏอยู่ในโลกเดิมเลยแม้แต่น้อย
หากสิ่งนี้ถูกอัปโหลดบนเน็ตในชีวิตก่อนหน้าของเอี้ยนลี่เฉียงแม้แต่ผู้คนในยุคนั้นก็ยังต้องประหลาดใจ หากเขามีความสามารถเช่นนี้ก่อนที่จะมาที่โลกนี้เขาคงไม่ถูกใครบางคนแย่งชิงคนรักไปได้!