ตอนที่แล้วChapter 2
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 4

Chapter 3


I’m Not Interested In The Main Characters (แปลไทย)

Chapter 3

ลอยด์ ผู้ช่วยของแคสเซียนถูกเรียกตัวไปพบที่ห้องทำงาน ทันทีที่กลับมาจากคฤหาสถ์โลเวลล์

เพราะเจ้านายของเขาเป็นคนดื้อดึงและใจร้อน เขาจึงมีสภาพรุ่งริ่งเช่นนี้มาเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์แล้ว

“วันนี้เป็นไงบ้าง?”

“กระผมขอโทษครับท่าน”

“อืมม.. ฉันควรจะตอบยังไงดีล่ะ?”

แคสเซียนถูคางของเขาและตกอยู่ในห้วงของความคิด

อีกด้านของโต๊ะทำงานมีจดหมายตอบกลับจากเอลิเซีย

เขาหยิบมันขึ้นมาและเปิดข้อความนั้นอ่านอีกครั้ง

ริมฝีปากของเขาเชิดขึ้น เมื่อเห็นลายมือที่ดูแล้วช่างเป็นระเบียบเรียบร้อย จนสามารถนำไปตีพิมพ์เป็นตำราสอนภาษาของจักรวรรดิได้

มันไม่ใช่การให้คนอื่นเขียนแทนเสียด้วย

“เอ้อ จริงสิครับ ท่านได้อ่านข่าวซุบซิบของเลดี้โลเวลล์ในหนังสือพิมพ์ที่กระผมทิ้งไว้ให้หรือยังครับ? ท่านไม่เห็นแจ้งอะไรกระผมกลับมาเลย...”

“ข่าวซุบซิบของเลดี้โลเวลล์งั้นเหรอ?”

ดวงตาสีม่วงมองไปที่ลอยด์ก่อนที่เขาจะพูดจบด้วยซ้ำ

นั่นหมายความว่ายังไงกันนะ

“เอ่อ คือ หมายถึง ท่านดยุคกับเลดี้กำลังเป็นข่าวฉาวอยู่ในตอนนี้ครับ”

แคสเซียนขยับมือให้พูดลอยด์พูดต่อด้วยสีหน้าที่กำลังถามว่า ทำไมถึงเพิ่งมารายงานเขาตอนนี้

ลอยด์วางหนังสือพิมพ์ไว้ตรงหน้าแคสเซียน

“ในงานเลี้ยงครั้งสุดท้ายของจักรพรรดิ มีหลายคนที่เห็นท่านดยุคประคองเลดี้โลเวลล์แล้วนั่งรถม้าไปด้วยกัน

ข่าวลือบอกว่ากระผมเข้า ๆ ออก ๆ คฤหาสถ์ของเลดี้โลเวลล์อย่างวุ่นวาย และมันได้กลายมาเป็นความสัมพันธ์รักสามเส้าของมกุฎราชกุมาร

เพราะ... ท่านดยุค กำลังคอยเทียวจีบเลดี้โลเวลล์อยู่ทุกวี่วัน และเลดี้โลเวลล์ก็กำลังปฎิเสธท่านอยู่...”

ริมฝีปากของแคสเซียนเม้มลง

‘ไม่ๆๆๆ เขากำลังโกรธแน่ๆ’

ลอยด์รีบกุลีกุจอพูดต่ออย่างร้อนรน พลางจ้องมองไปในอากาศ เหงื่อเย็นๆ ผุดขึ้นตามใบหน้า

“ข่าวลือยังบอกด้วยว่า เลดี้โลเวลล์ทำร้ายและทอดทิ้งท่าน เพราะเหล่าอัศวินต่างสังเกตเห็นรอยที่คอของท่านตอนท่านไปปฏิบัติหน้าที่”

คำเตือนที่แคสเซียนไม่ได้เอ่ยปากแต่สามารถรับรู้ได้ คือ “แกตายแน่ ๆ”

ไม่ยุติธรรมเลย ทำไมก่อนหน้านี้ เจ้านายของเขาไม่ยอมอ่านหนังสือพิมพ์เองล่ะ ว่าไหม ?

ซึ่งแน่นอนว่า หากยังไม่มีฟีดแบคอะไรกลับมา มันก็เป็นหน้าที่ของผู้ช่วยอย่างเขาที่ต้องคอยถามย้ำอีกครั้ง

“ทำไมมกุฎราชกุมารถึงมาเกี่ยวในข่าวนี่?”

“เลดี้โลเวลล์เป็นว่าที่พระคู่หมั้นของพระองค์ครับ...”

“แล้วเลดี้โลเวลล์เป็นผู้หญิงที่มกุฎราชกุมารกำลังออกเดทอยู่ด้วยจริงๆ ไหม?”

“ท่านดยุคลองดูที่หน้าหลังครับ จะมีบทความสรุปสั้น ๆ อยู่”

แคสเซียนหยิบหนังสือพิมพ์ขึ้นมา

เขาเป็นเจ้าชายที่ดึงดูดหญิงสาวทุกวัยให้หลงมาที่ห้องบรรทม

ด้วยบุคลิกของแคสเซียน เขาจึงไม่อยากรู้หรือสนใจมัน

มกุฎราชกุมารไม่เคยก่อปัญหาใด ๆ ที่จะสามารถจุดชนวนอารมณ์ของเขาได้

‘เลดี้โลเวลล์’

เขาได้รู้ว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งที่คบหากับเจ้าชายมา 6 ปี

ผู้หญิงคนนั้นกำลังส่งเสริมอำนาจให้เจ้าชาย

หากเขาคิดเรื่องนี้ต่ออีกสักนิด เขาคงเข้าใจอะไรบางอย่าง

“แล้วนายทำยังไงกับข่าวลือนี่?”

“ก็ท่านไม่ได้บอกอะไรเลย.. กระผมเลยลองจัดการเองแบบเดา ๆ ไปครับ”

ลอยด์หรี่ตา

ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา จิตใจของเขาถูกทรมานด้วยสถานการณ์ของเจ้านายตัวเองเป็นอย่างมาก

แคสเซียนอ่านข่าวต่อไปของหนังสือพิมพ์

“ฉันคิดว่าฉันจะต้องจัดการและขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น”

“กระผมต้องขออภัยด้วยครับท่าน”

“นายทำได้ดีมากแล้ว ฉันต้องรู้สึกแย่ไหมนะที่ถูกพาดพิงกับมกุฎราชกุมารแบบนี้?”

เริ่มภารกิจที่จะต้องยุติเรื่องนี้

ในหนังสือพิมพ์ เรื่องราวเกี่ยวกับมกุฎราชกุมารและการพบกันกับเอลิเซียถูกอธิบายไว้เป็นอย่างดี

ทั้งเรื่องมกุฎราชกุมารปฏิบัติต่อเอลิเซียอย่างไรและระหว่างทั้งสองเป็นอย่างไรก็ถูกลงรายละเอียดเอาไว้ด้วย

ช่วงจิบน้ำชายามบ่ายเป็นเวลาที่เงียบงันพอที่จะแพร่กระจายข่าวลือออกไปทั่ว ไม่มีขุนนางคนไหนไม่ทราบเรื่องนี้

“พรุ่งนี้ พูดกับเลดี้แบบนี้นะ”

‘หากพูดเช่นนั้นไป นางดูไม่ใช่ผู้หญิงที่จะอยู่นิ่งเฉยได้อีกแน่นอน’

แคสเซียนเอียงศีรษะ

ใบหน้าของลอยด์ซีดถึงขีดสุดจากคำสั่งของแคสเซียน

ลอยด์สับสนว่า คำพูดที่เขาได้ยินนั้นสามารถพูดกับหญิงผู้สูงศักดิ์ได้จริง ๆ เหรอ

เขาจะต้องโดนตบหน้าแน่ ๆ

คำพูดของแคสเซียนมีผลมากพอที่จะทำให้ลอยด์ลืมคำขาดของเอลิเซียที่ประกาศว่า

ถ้าหากเขายังไปพบเธออีกครั้งจะถือว่าไม่ให้เกียรติวงศ์ตระกูลของเธอ

ท่านจะไม่แตกหักทั้งกับดยุคโลเวลล์และเลดี้เหรอเนี่ย?

“…ต..ตกลงครับท่าน”

“รอบนี้นายอาจจะได้รับการตอบรับทันที ดังนั้น อย่าลืมกำหนดเวลานัดหมายนะลอยด์”

ลอยด์เสียงสั่นเครือ เห็นชัด ๆ ว่ายังไงครั้งนี้เขาก็จะไม่ได้รับการตอบรับเช่นเคย

“อัศวินลำดับที่ 1 ทั้งห้านาย นี่คือภารกิจเกี่ยวกับเลดี้โลเวลล์”

แคสเซียนออกคำสั่งอัศวินที่อยู่ภายใต้การปกครองของเขา

“เป็นการเฝ้าจับตาดูหรือคุ้มครองครับ?”

“ทั้งสองอย่าง”

อัศวินระดับสูงทั้งห้าของกลุ่มอัศวินแห่งเอสเตบันรับคำสั่ง นั่นหมายถึง คุณจะได้รับการคุ้มกันราวกับราชวงศ์

ลอยด์รู้สึกเสียใจที่เลดี้โลเวลล์บังเอิญไปสบตาชายที่เยือกเย็นดั่งภูเขานำ้แข็งเช่นนายของเขา

เขาโค้งคำนับและเดินสะดุดออกจากห้องทำงานไป

***

เอลิเซียกำลังฟังข่าวจากผู้แจ้งข่าวของตระกูล

เมื่อไม่นานมานี้ ทั่วทั้งเมืองหลวงเต็มไปด้วยข่าวซุบซิบเกี่ยวกับเธอ

ดังนั้น ตอนนี้มันจึงมีมากกว่าแค่เรื่องสองเรื่องที่ทำให้เธอเป็นกังวล

แค่คิดถึงเรื่องลอยด์ ชายผู้ขยันมาหาเธอในทุกเช้า ก็ทำให้เธอปวดหัวตุบอีกครั้ง

เธอรู้สึกเสียดายว่า เธอควรยื่นคำขาดกับเขาแบบนี้ตั้งแต่แรก เขาจะได้ไม่ต้องมาอีก

แต่ไม่ว่ายังไงเขาคงจะไม่มาอีกแล้วล่ะ

เรื่องข่าวลือ เพราะตอนนี้พ่อและพี่ชายของเธอไม่ได้อยู่ที่อาณาจักร

พวกเขาอยู่ระหว่างการเดินทางเพื่อธุรกิจในต่างประเทศ เนื่องจากปัญหาทางการฑูต

ผู้ช่วยของพ่อเธอก็ติดตามไปด้วย ส่งผลให้การจัดการกับข่าวลือเป็นไปอย่างล่าช้า

ดูเหมือนว่าแคสเซียนเองก็ไม่มีแผนที่จะช่วยยุติข่าวลือนี้อีกต่างหาก

เพราะทุกๆ วัน เขาเอาแต่ส่งผู้ช่วยมาที่คฤหาสถ์ และยิ่งทำให้ข่าวลือนั่นใหญ่โตขึ้นเรื่อย ๆ

‘ไอ้บ้าที่ปล่อยข่าวนั่นเป็นใครกันนะ?’

เธอโกรธจนอยากจะจับมันมาเผาไฟกันให้หมด

“มกุฎราชกุมารตรัสอะไรเกี่ยวกับข่าวลือนี้บ้างไหมคะ?”

“ยังไม่มีประกาศออกมาครับ”

นั่นหมายความว่า เขาไม่ได้มีท่าทีอะไรกับความสัมพันธ์รักสามเส้านี่เลย

เอลิเซียคิดว่าจำเป็นต้องดึงเรวอสออกจากข่าวลือนี้ให้เร็วที่สุด เพราะเธอแน่ใจว่า เขาจะได้พบกับนางเอกอีกครั้งในเร็ว ๆ นี้แน่

และมันไม่ควรจะเกิดขึ้นตอนที่เรวอสยังคงเกี่ยวโยงกับเธออยู่

เธอต้องได้รับการยืนยันว่าเธอเลิกกับเรวอสก่อนที่จะพบกับแคสเซียน

“แล้วเรื่องยุติความสัมพันธ์ล่ะคะ?”

“มีผู้เข้าร่วมงานหลายคนเห็นตอนเลดี้ขอเลิกกับมกุฎราชกุมารที่พระราชวังเอียร์ ดังนั้นเรื่องนี้จึงไม่น่ามีข้อผิดพลาดครับ”

ดูเหมือนเรวอสน่าจะรอดพ้นจากความโกรธเกรี้ยวของราชวงศ์ หากเขาต้องตกหลุมรักลูเมียร์ในเร็วๆ นี้

เธอเห็นผู้ส่งข่าวของตระกูลเม้มริมฝีปากเหมือนมีอะไรจะพูด

“มีอะไรอีกรึเปล่าคะ?”

“เอ่อ ครับ... พอดีเมื่อวานดยุคเอสเตบันเพิ่งออกมาแก้ข่าวว่า เมื่อวันงานเลี้ยง ดยุคเอสเตบันและหญิงสาวผู้นั้น

ต่างตกหลุมรักกันตั้งแต่แรกพบและพวกเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ กับมกุฎราชกุมารเลย”

“..ว่าไงนะ?!”

สายตาของเอลิเซียจ้องมองไปยังผู้แจ้งข่าวอย่างเย็นชา

กี่ครั้งแล้วที่เขามักจะรายงานเรื่องซุบซิบพวกนี้ช้า ?

แต่อย่างไรก็ตาม ข่าวนั่นดูเหมือนจะเป็นการป้องกันไม่ให้เธอกลายเป็นผู้หญิงนอกใจ

“เรื่องไร้สาระนั่นถูกประกาศโดยไม่ผ่านการปรึกษาเราเลยเนี่ยนะ?”

แคสเซียนคงตั้งใจที่จะกันท่าไม่ให้เธอแต่งงาน

แน่นอน เธอไม่เคยคิดถึงการแต่งงานแม้แต่น้อย

ในต้นฉบับของนิยาย มีตอนหนึ่งที่เจ้าชายองค์รองตกหลุมรักเอลิเซีย

ดังนั้นเธอจะต้องทบทวนเรื่องการแต่งงานแบบมีเงื่อนไขเผื่อไว้ด้วย

หากเรื่องราวเป็นเช่นนี้ เธอคงต้องพบดยุคเอสเตบันสักครั้ง

เอลิเซียขมวดคิ้วนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้น

เหตุใดประกาศดังกล่าวจึงออกมาหลังจากที่เธอส่งผู้ช่วยกลับไปเมื่อวานนี้?

เธอเดาว่าเขาไม่ได้เขียนประกาศออกมาโดยมีจุดประสงค์เพียงเพราะเธอไม่ได้ไปพบเขา

เอลิเซียวางแก้วลงด้วยหน้าขึ้นเลือด เธอควรจะเอะใจตั้งแต่เขาเอาแต่ส่งผู้ช่วยมาที่นี่ทุก ๆ วัน

“ทำไมคุณถึงเอาแต่หมกมุ่นอยู่ได้ ฉันบอกให้คุณลืมไง?!”

“...ว่าไงนะครับ?”

“..ฉันจะไปงานเลี้ยงวันสุดท้าย โปรดหาคู่ที่เหมาะสมให้ฉันด้วย”

“รับทราบครับ”

งานเลี้ยงของจักรพรรดิกินเวลานานถึง 10 วัน โดยมีกฎว่าต้องเข้าร่วมงาน 2 วันเป็นอย่างน้อย

เธอไปปรากฎตัวในงานวันแรกแล้ว จึงเหลืออีกหนึ่งครั้งที่เธอต้องเข้าร่วมงาน

แต่เนื่องจากข่าวซุบซิบนี่ออกไป ทำให้เธอต้องหาคู่ควงใหม่ไปงาน

จากมกุฎราชกุมาร กลายเป็น ดยุคเอสเตบัน

****

“เลดี้คะ คนจากดยุคเอสเตบันมาหาค่ะ”

“เขากลับมาที่นี่อีกงั้นเหรอ?”

เธอกำลังจะไปพบเขาเพราะข่าวที่บอกว่าพวกเขาตกหลุมรักกันตั้งแต่แรกพบ แต่ก็ดีที่เขามาเอง

ถึงเธอจะไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นักที่เมื่อวานเธอได้ถึงขนาดเตือนไปแล้ว แต่พวกเขาก็ยังกลับมาอีก

สาวใช้ที่พยายามจะรวบผมของเอลิเซีย ร้องเสียงหลงเมื่อเธอลุกขึ้นยืนอย่างกระทันหัน

“เลดี้! ดิฉันยังทำผมให้คุณไม่เสร็จเลยนะคะ”

“ไม่เป็นไร แค่คลายมัดออกเฉยๆ ก็พอค่ะ เขาอยู่ในห้องเล่นใช่ไหมตอนนี้?”

สาวใช้เกรย์พยักหน้า

เอลิเซียสยายผมที่ถักครึ่งหนึ่งของเธอออก แล้วมุ่งหน้าไปที่ห้องนั่งเล่น

ทันทีที่เห็นผู้ช่วย เอลิเซียคิดจะพูดคำอะไรแรงๆ สักคำ แต่เธอก็ต้องหยุดชะงักเมื่อเห็นสภาพของลอยด์

เขาดูผอมลงกว่าเมื่อวาน และดูเหมือนเขากำลังจะร้องไห้

บางคนอาจจะคิดว่าเขาไม่ได้กินอะไรเลยมา 1 สัปดาห์

“กระผมมาที่นี่อีกครั้ง วันนี้เป็นครั้งสุดท้าย กระผมหวังว่าคุณจะไม่โกรธกระผมมากนักนะครับ เลดี้..”

“…นั่นฟังดูดีนะคะ”

เขาบอกว่าวันนี้เป็นวันสุดท้าย เธอจึงต้องยอมแต่โดยดี

ถึงเธอจะรู้สึกเสียเซลฟ์ไปบ้าง แต่การจัดการข่าวนั่นเป็นเรื่องสำคัญกว่า

เอลิเซียถอนหายใจและจ้องไปที่ผู้ช่วยที่กำลังจะพูดคำเดิมแบบเดิม

“ท่าน ท่านดยุค...”

แม้ว่าเอลิเซียจะรอคำต่อไปอย่างใจเย็น แต่ลอยด์ก็ไม่สามารถพูดออกมาได้สักที

เขายังคงเอาแต่พูดตะกุกตะกักไม่หยุด จนเธอเริ่มทนไม่ไหว ก็เลยโพล่งออกมา

แต่ทว่าคำที่เธอพูดต่างกับสิ่งที่เขากำลังพูดออกมาอย่างสิ้นเชิง

“เขาขอให้ฉันไปพบสักครั้ง ถูกไหม?”

“ท่านดยุค ฝากกระผมมาบอกว่า 'ผมได้มอบคอและร่างกายของผมไปแล้ว พอคุณอิ่ม คุณก็โยนผมทิ้งอย่างไม่ไยดี' ครับ”

“เดี๋ยว.. เดี๋ยวนะ”

ปากของเอลิเซียเริ่มสั่น

คำพูดของลอยด์ทำให้ข้ารับใช้ที่รออยู่ด้านหลัง มีสีหน้าแปลกๆ

‘คองั้นหรอ? เขาจะพูดแบบนั้นไม่ได้นะ!’

ในห้วงความคิดเธอ เสียงของลอยด์ดังก้องซ้ำ ๆ เหมือนเอคโค่

***

.

.

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด