Chapter 3
I’m Not Interested In The Main Characters (แปลไทย)
Chapter 3
ลอยด์ ผู้ช่วยของแคสเซียนถูกเรียกตัวไปพบที่ห้องทำงาน ทันทีที่กลับมาจากคฤหาสถ์โลเวลล์
เพราะเจ้านายของเขาเป็นคนดื้อดึงและใจร้อน เขาจึงมีสภาพรุ่งริ่งเช่นนี้มาเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์แล้ว
“วันนี้เป็นไงบ้าง?”
“กระผมขอโทษครับท่าน”
“อืมม.. ฉันควรจะตอบยังไงดีล่ะ?”
แคสเซียนถูคางของเขาและตกอยู่ในห้วงของความคิด
อีกด้านของโต๊ะทำงานมีจดหมายตอบกลับจากเอลิเซีย
เขาหยิบมันขึ้นมาและเปิดข้อความนั้นอ่านอีกครั้ง
ริมฝีปากของเขาเชิดขึ้น เมื่อเห็นลายมือที่ดูแล้วช่างเป็นระเบียบเรียบร้อย จนสามารถนำไปตีพิมพ์เป็นตำราสอนภาษาของจักรวรรดิได้
มันไม่ใช่การให้คนอื่นเขียนแทนเสียด้วย
“เอ้อ จริงสิครับ ท่านได้อ่านข่าวซุบซิบของเลดี้โลเวลล์ในหนังสือพิมพ์ที่กระผมทิ้งไว้ให้หรือยังครับ? ท่านไม่เห็นแจ้งอะไรกระผมกลับมาเลย...”
“ข่าวซุบซิบของเลดี้โลเวลล์งั้นเหรอ?”
ดวงตาสีม่วงมองไปที่ลอยด์ก่อนที่เขาจะพูดจบด้วยซ้ำ
นั่นหมายความว่ายังไงกันนะ
“เอ่อ คือ หมายถึง ท่านดยุคกับเลดี้กำลังเป็นข่าวฉาวอยู่ในตอนนี้ครับ”
แคสเซียนขยับมือให้พูดลอยด์พูดต่อด้วยสีหน้าที่กำลังถามว่า ทำไมถึงเพิ่งมารายงานเขาตอนนี้
ลอยด์วางหนังสือพิมพ์ไว้ตรงหน้าแคสเซียน
“ในงานเลี้ยงครั้งสุดท้ายของจักรพรรดิ มีหลายคนที่เห็นท่านดยุคประคองเลดี้โลเวลล์แล้วนั่งรถม้าไปด้วยกัน
ข่าวลือบอกว่ากระผมเข้า ๆ ออก ๆ คฤหาสถ์ของเลดี้โลเวลล์อย่างวุ่นวาย และมันได้กลายมาเป็นความสัมพันธ์รักสามเส้าของมกุฎราชกุมาร
เพราะ... ท่านดยุค กำลังคอยเทียวจีบเลดี้โลเวลล์อยู่ทุกวี่วัน และเลดี้โลเวลล์ก็กำลังปฎิเสธท่านอยู่...”
ริมฝีปากของแคสเซียนเม้มลง
‘ไม่ๆๆๆ เขากำลังโกรธแน่ๆ’
ลอยด์รีบกุลีกุจอพูดต่ออย่างร้อนรน พลางจ้องมองไปในอากาศ เหงื่อเย็นๆ ผุดขึ้นตามใบหน้า
“ข่าวลือยังบอกด้วยว่า เลดี้โลเวลล์ทำร้ายและทอดทิ้งท่าน เพราะเหล่าอัศวินต่างสังเกตเห็นรอยที่คอของท่านตอนท่านไปปฏิบัติหน้าที่”
คำเตือนที่แคสเซียนไม่ได้เอ่ยปากแต่สามารถรับรู้ได้ คือ “แกตายแน่ ๆ”
ไม่ยุติธรรมเลย ทำไมก่อนหน้านี้ เจ้านายของเขาไม่ยอมอ่านหนังสือพิมพ์เองล่ะ ว่าไหม ?
ซึ่งแน่นอนว่า หากยังไม่มีฟีดแบคอะไรกลับมา มันก็เป็นหน้าที่ของผู้ช่วยอย่างเขาที่ต้องคอยถามย้ำอีกครั้ง
“ทำไมมกุฎราชกุมารถึงมาเกี่ยวในข่าวนี่?”
“เลดี้โลเวลล์เป็นว่าที่พระคู่หมั้นของพระองค์ครับ...”
“แล้วเลดี้โลเวลล์เป็นผู้หญิงที่มกุฎราชกุมารกำลังออกเดทอยู่ด้วยจริงๆ ไหม?”
“ท่านดยุคลองดูที่หน้าหลังครับ จะมีบทความสรุปสั้น ๆ อยู่”
แคสเซียนหยิบหนังสือพิมพ์ขึ้นมา
เขาเป็นเจ้าชายที่ดึงดูดหญิงสาวทุกวัยให้หลงมาที่ห้องบรรทม
ด้วยบุคลิกของแคสเซียน เขาจึงไม่อยากรู้หรือสนใจมัน
มกุฎราชกุมารไม่เคยก่อปัญหาใด ๆ ที่จะสามารถจุดชนวนอารมณ์ของเขาได้
‘เลดี้โลเวลล์’
เขาได้รู้ว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งที่คบหากับเจ้าชายมา 6 ปี
ผู้หญิงคนนั้นกำลังส่งเสริมอำนาจให้เจ้าชาย
หากเขาคิดเรื่องนี้ต่ออีกสักนิด เขาคงเข้าใจอะไรบางอย่าง
“แล้วนายทำยังไงกับข่าวลือนี่?”
“ก็ท่านไม่ได้บอกอะไรเลย.. กระผมเลยลองจัดการเองแบบเดา ๆ ไปครับ”
ลอยด์หรี่ตา
ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา จิตใจของเขาถูกทรมานด้วยสถานการณ์ของเจ้านายตัวเองเป็นอย่างมาก
แคสเซียนอ่านข่าวต่อไปของหนังสือพิมพ์
“ฉันคิดว่าฉันจะต้องจัดการและขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น”
“กระผมต้องขออภัยด้วยครับท่าน”
“นายทำได้ดีมากแล้ว ฉันต้องรู้สึกแย่ไหมนะที่ถูกพาดพิงกับมกุฎราชกุมารแบบนี้?”
เริ่มภารกิจที่จะต้องยุติเรื่องนี้
ในหนังสือพิมพ์ เรื่องราวเกี่ยวกับมกุฎราชกุมารและการพบกันกับเอลิเซียถูกอธิบายไว้เป็นอย่างดี
ทั้งเรื่องมกุฎราชกุมารปฏิบัติต่อเอลิเซียอย่างไรและระหว่างทั้งสองเป็นอย่างไรก็ถูกลงรายละเอียดเอาไว้ด้วย
ช่วงจิบน้ำชายามบ่ายเป็นเวลาที่เงียบงันพอที่จะแพร่กระจายข่าวลือออกไปทั่ว ไม่มีขุนนางคนไหนไม่ทราบเรื่องนี้
“พรุ่งนี้ พูดกับเลดี้แบบนี้นะ”
‘หากพูดเช่นนั้นไป นางดูไม่ใช่ผู้หญิงที่จะอยู่นิ่งเฉยได้อีกแน่นอน’
แคสเซียนเอียงศีรษะ
ใบหน้าของลอยด์ซีดถึงขีดสุดจากคำสั่งของแคสเซียน
ลอยด์สับสนว่า คำพูดที่เขาได้ยินนั้นสามารถพูดกับหญิงผู้สูงศักดิ์ได้จริง ๆ เหรอ
เขาจะต้องโดนตบหน้าแน่ ๆ
คำพูดของแคสเซียนมีผลมากพอที่จะทำให้ลอยด์ลืมคำขาดของเอลิเซียที่ประกาศว่า
ถ้าหากเขายังไปพบเธออีกครั้งจะถือว่าไม่ให้เกียรติวงศ์ตระกูลของเธอ
ท่านจะไม่แตกหักทั้งกับดยุคโลเวลล์และเลดี้เหรอเนี่ย?
“…ต..ตกลงครับท่าน”
“รอบนี้นายอาจจะได้รับการตอบรับทันที ดังนั้น อย่าลืมกำหนดเวลานัดหมายนะลอยด์”
ลอยด์เสียงสั่นเครือ เห็นชัด ๆ ว่ายังไงครั้งนี้เขาก็จะไม่ได้รับการตอบรับเช่นเคย
“อัศวินลำดับที่ 1 ทั้งห้านาย นี่คือภารกิจเกี่ยวกับเลดี้โลเวลล์”
แคสเซียนออกคำสั่งอัศวินที่อยู่ภายใต้การปกครองของเขา
“เป็นการเฝ้าจับตาดูหรือคุ้มครองครับ?”
“ทั้งสองอย่าง”
อัศวินระดับสูงทั้งห้าของกลุ่มอัศวินแห่งเอสเตบันรับคำสั่ง นั่นหมายถึง คุณจะได้รับการคุ้มกันราวกับราชวงศ์
ลอยด์รู้สึกเสียใจที่เลดี้โลเวลล์บังเอิญไปสบตาชายที่เยือกเย็นดั่งภูเขานำ้แข็งเช่นนายของเขา
เขาโค้งคำนับและเดินสะดุดออกจากห้องทำงานไป
***
เอลิเซียกำลังฟังข่าวจากผู้แจ้งข่าวของตระกูล
เมื่อไม่นานมานี้ ทั่วทั้งเมืองหลวงเต็มไปด้วยข่าวซุบซิบเกี่ยวกับเธอ
ดังนั้น ตอนนี้มันจึงมีมากกว่าแค่เรื่องสองเรื่องที่ทำให้เธอเป็นกังวล
แค่คิดถึงเรื่องลอยด์ ชายผู้ขยันมาหาเธอในทุกเช้า ก็ทำให้เธอปวดหัวตุบอีกครั้ง
เธอรู้สึกเสียดายว่า เธอควรยื่นคำขาดกับเขาแบบนี้ตั้งแต่แรก เขาจะได้ไม่ต้องมาอีก
แต่ไม่ว่ายังไงเขาคงจะไม่มาอีกแล้วล่ะ
เรื่องข่าวลือ เพราะตอนนี้พ่อและพี่ชายของเธอไม่ได้อยู่ที่อาณาจักร
พวกเขาอยู่ระหว่างการเดินทางเพื่อธุรกิจในต่างประเทศ เนื่องจากปัญหาทางการฑูต
ผู้ช่วยของพ่อเธอก็ติดตามไปด้วย ส่งผลให้การจัดการกับข่าวลือเป็นไปอย่างล่าช้า
ดูเหมือนว่าแคสเซียนเองก็ไม่มีแผนที่จะช่วยยุติข่าวลือนี้อีกต่างหาก
เพราะทุกๆ วัน เขาเอาแต่ส่งผู้ช่วยมาที่คฤหาสถ์ และยิ่งทำให้ข่าวลือนั่นใหญ่โตขึ้นเรื่อย ๆ
‘ไอ้บ้าที่ปล่อยข่าวนั่นเป็นใครกันนะ?’
เธอโกรธจนอยากจะจับมันมาเผาไฟกันให้หมด
“มกุฎราชกุมารตรัสอะไรเกี่ยวกับข่าวลือนี้บ้างไหมคะ?”
“ยังไม่มีประกาศออกมาครับ”
นั่นหมายความว่า เขาไม่ได้มีท่าทีอะไรกับความสัมพันธ์รักสามเส้านี่เลย
เอลิเซียคิดว่าจำเป็นต้องดึงเรวอสออกจากข่าวลือนี้ให้เร็วที่สุด เพราะเธอแน่ใจว่า เขาจะได้พบกับนางเอกอีกครั้งในเร็ว ๆ นี้แน่
และมันไม่ควรจะเกิดขึ้นตอนที่เรวอสยังคงเกี่ยวโยงกับเธออยู่
เธอต้องได้รับการยืนยันว่าเธอเลิกกับเรวอสก่อนที่จะพบกับแคสเซียน
“แล้วเรื่องยุติความสัมพันธ์ล่ะคะ?”
“มีผู้เข้าร่วมงานหลายคนเห็นตอนเลดี้ขอเลิกกับมกุฎราชกุมารที่พระราชวังเอียร์ ดังนั้นเรื่องนี้จึงไม่น่ามีข้อผิดพลาดครับ”
ดูเหมือนเรวอสน่าจะรอดพ้นจากความโกรธเกรี้ยวของราชวงศ์ หากเขาต้องตกหลุมรักลูเมียร์ในเร็วๆ นี้
เธอเห็นผู้ส่งข่าวของตระกูลเม้มริมฝีปากเหมือนมีอะไรจะพูด
“มีอะไรอีกรึเปล่าคะ?”
“เอ่อ ครับ... พอดีเมื่อวานดยุคเอสเตบันเพิ่งออกมาแก้ข่าวว่า เมื่อวันงานเลี้ยง ดยุคเอสเตบันและหญิงสาวผู้นั้น
ต่างตกหลุมรักกันตั้งแต่แรกพบและพวกเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ กับมกุฎราชกุมารเลย”
“..ว่าไงนะ?!”
สายตาของเอลิเซียจ้องมองไปยังผู้แจ้งข่าวอย่างเย็นชา
กี่ครั้งแล้วที่เขามักจะรายงานเรื่องซุบซิบพวกนี้ช้า ?
แต่อย่างไรก็ตาม ข่าวนั่นดูเหมือนจะเป็นการป้องกันไม่ให้เธอกลายเป็นผู้หญิงนอกใจ
“เรื่องไร้สาระนั่นถูกประกาศโดยไม่ผ่านการปรึกษาเราเลยเนี่ยนะ?”
แคสเซียนคงตั้งใจที่จะกันท่าไม่ให้เธอแต่งงาน
แน่นอน เธอไม่เคยคิดถึงการแต่งงานแม้แต่น้อย
ในต้นฉบับของนิยาย มีตอนหนึ่งที่เจ้าชายองค์รองตกหลุมรักเอลิเซีย
ดังนั้นเธอจะต้องทบทวนเรื่องการแต่งงานแบบมีเงื่อนไขเผื่อไว้ด้วย
หากเรื่องราวเป็นเช่นนี้ เธอคงต้องพบดยุคเอสเตบันสักครั้ง
เอลิเซียขมวดคิ้วนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้น
เหตุใดประกาศดังกล่าวจึงออกมาหลังจากที่เธอส่งผู้ช่วยกลับไปเมื่อวานนี้?
เธอเดาว่าเขาไม่ได้เขียนประกาศออกมาโดยมีจุดประสงค์เพียงเพราะเธอไม่ได้ไปพบเขา
เอลิเซียวางแก้วลงด้วยหน้าขึ้นเลือด เธอควรจะเอะใจตั้งแต่เขาเอาแต่ส่งผู้ช่วยมาที่นี่ทุก ๆ วัน
“ทำไมคุณถึงเอาแต่หมกมุ่นอยู่ได้ ฉันบอกให้คุณลืมไง?!”
“...ว่าไงนะครับ?”
“..ฉันจะไปงานเลี้ยงวันสุดท้าย โปรดหาคู่ที่เหมาะสมให้ฉันด้วย”
“รับทราบครับ”
งานเลี้ยงของจักรพรรดิกินเวลานานถึง 10 วัน โดยมีกฎว่าต้องเข้าร่วมงาน 2 วันเป็นอย่างน้อย
เธอไปปรากฎตัวในงานวันแรกแล้ว จึงเหลืออีกหนึ่งครั้งที่เธอต้องเข้าร่วมงาน
แต่เนื่องจากข่าวซุบซิบนี่ออกไป ทำให้เธอต้องหาคู่ควงใหม่ไปงาน
จากมกุฎราชกุมาร กลายเป็น ดยุคเอสเตบัน
****
“เลดี้คะ คนจากดยุคเอสเตบันมาหาค่ะ”
“เขากลับมาที่นี่อีกงั้นเหรอ?”
เธอกำลังจะไปพบเขาเพราะข่าวที่บอกว่าพวกเขาตกหลุมรักกันตั้งแต่แรกพบ แต่ก็ดีที่เขามาเอง
ถึงเธอจะไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นักที่เมื่อวานเธอได้ถึงขนาดเตือนไปแล้ว แต่พวกเขาก็ยังกลับมาอีก
สาวใช้ที่พยายามจะรวบผมของเอลิเซีย ร้องเสียงหลงเมื่อเธอลุกขึ้นยืนอย่างกระทันหัน
“เลดี้! ดิฉันยังทำผมให้คุณไม่เสร็จเลยนะคะ”
“ไม่เป็นไร แค่คลายมัดออกเฉยๆ ก็พอค่ะ เขาอยู่ในห้องเล่นใช่ไหมตอนนี้?”
สาวใช้เกรย์พยักหน้า
เอลิเซียสยายผมที่ถักครึ่งหนึ่งของเธอออก แล้วมุ่งหน้าไปที่ห้องนั่งเล่น
ทันทีที่เห็นผู้ช่วย เอลิเซียคิดจะพูดคำอะไรแรงๆ สักคำ แต่เธอก็ต้องหยุดชะงักเมื่อเห็นสภาพของลอยด์
เขาดูผอมลงกว่าเมื่อวาน และดูเหมือนเขากำลังจะร้องไห้
บางคนอาจจะคิดว่าเขาไม่ได้กินอะไรเลยมา 1 สัปดาห์
“กระผมมาที่นี่อีกครั้ง วันนี้เป็นครั้งสุดท้าย กระผมหวังว่าคุณจะไม่โกรธกระผมมากนักนะครับ เลดี้..”
“…นั่นฟังดูดีนะคะ”
เขาบอกว่าวันนี้เป็นวันสุดท้าย เธอจึงต้องยอมแต่โดยดี
ถึงเธอจะรู้สึกเสียเซลฟ์ไปบ้าง แต่การจัดการข่าวนั่นเป็นเรื่องสำคัญกว่า
เอลิเซียถอนหายใจและจ้องไปที่ผู้ช่วยที่กำลังจะพูดคำเดิมแบบเดิม
“ท่าน ท่านดยุค...”
แม้ว่าเอลิเซียจะรอคำต่อไปอย่างใจเย็น แต่ลอยด์ก็ไม่สามารถพูดออกมาได้สักที
เขายังคงเอาแต่พูดตะกุกตะกักไม่หยุด จนเธอเริ่มทนไม่ไหว ก็เลยโพล่งออกมา
แต่ทว่าคำที่เธอพูดต่างกับสิ่งที่เขากำลังพูดออกมาอย่างสิ้นเชิง
“เขาขอให้ฉันไปพบสักครั้ง ถูกไหม?”
“ท่านดยุค ฝากกระผมมาบอกว่า 'ผมได้มอบคอและร่างกายของผมไปแล้ว พอคุณอิ่ม คุณก็โยนผมทิ้งอย่างไม่ไยดี' ครับ”
“เดี๋ยว.. เดี๋ยวนะ”
ปากของเอลิเซียเริ่มสั่น
คำพูดของลอยด์ทำให้ข้ารับใช้ที่รออยู่ด้านหลัง มีสีหน้าแปลกๆ
‘คองั้นหรอ? เขาจะพูดแบบนั้นไม่ได้นะ!’
ในห้วงความคิดเธอ เสียงของลอยด์ดังก้องซ้ำ ๆ เหมือนเอคโค่
***
.
.