ตอนที่ 14
วีนั่งเหม่ออยู่ที่โต๊ะกินข้าวด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย เมื่อน้องสาวอย่างวาได้เห็นท่าทีของวีก็อดสงสัยไม่ได้จึงเข้ามาถาม
“พี่เป็นอะไร ถึงนั่งเหม่อขนาดนั้น ?”
วีถอนหายใจออกมาก่อนจะตอบกลับว่า
“เพราะว่างน่ะสิ”
“ว่าง ?”
วาสับสน เขามีแต่ดีใจที่ต้องอยู่ว่างๆ แต่พี่ชายคนนี้กลับถอยหายใจเพราะไม่มีอะไรทำเนี้ยนะ ?
“แล้วพี่อยากจะทำอะไรล่ะ ?”
วาถามกับวี ซึ่งวีก็ได้แต่ส่ายหน้า
“ไม่รู้เหมือนกัน ตอนแรกพี่คิดว่าจะทำคอนเทนต์ออนไลน์ดูสักหน่อย แต่กลับไม่มีไอเดียดีๆเลย”
เมื่อพูดจบวีก็ฟุบหน้าลงบนโต๊ะ
“ตอนนี้พี่เบื่อจะตายอยู่แล้ว ~”
วาที่ได้ยินแบบนั้นก็ลูบหัวปลอบใจวีก่อนจะถามว่า
“แล้วงานถ่ายแบบล่ะ ?”
“ยังอยู่ในช่วงตกลงค่าตัวกับเจ้าของแบรนด์น่ะ ซึ่งก็น่าจะไม่กี่วันนี้แหละ”
วาที่ได้ยินแบบนั้นก็พยักหน้าก่อนจะนั่งลงข้างๆวีพร้อมกับช่วยคิด ซึ่งไม่นานนักเธอก็คิดออก
“ทำไมพี่ไม่ทำคอนเทนต์ทำอาหารดูล่ะ ? ไม่ใช่ว่าเมื่อก่อนพี่ก็ชอบทำอาหารหรอ ?”
วียักคิ้วเล็กน้อย
“ทำอาหารหรอ ? อืม…”
“น่าสนอยู่นะ”
วียิ้มออกมาก่อนจะนึกอะไรขึ้นมาได้
“อา… พี่ลืมไปว่าไม่มีกล้องกับไมค์ที่ดีพอ”
“มันจำเป็นด้วยหรอ ?”
วาถาม วีพยักหน้า
“แน่นอนสิ ไม่งั้นคุณภาพคลิปจะแย่เดียวไม่มีคนดูพอดี”
“นั่นสินะ”
วาเห็นด้วย จากนั้นวาก็หันมาพูดกับวีว่า
“เอาเถอะพี่ทนหน่อยอีกไม่กี่วันก็เปิดเทอมแล้ว เดียวพี่ก็จะไม่มีเวลาว่างแล้ว”
วีที่ได้ยินแบบนั้นก็ถอนหายใจออกมา
“นั่นสินะ”
สามวันต่อมา
วันนี้เป็นวันที่นัดกับพี่ตุ๊กเอาไว้คือการมาเป็นายแบบให้กับแบรนด์ MNR ซึ่งเป็นแบรนด์ต่างประเทศ วีนั่งรถมาลงที่หน้าอาคารสามชั้นแห่งหนึ่ง ซึ่งชั้นล่างนั้นเป็นคาเฟ่
กริ้ง
วีเข้าไปในร้านก่อนที่พนักงานจะทักทายเขา
“มาคนเดียวหรอครับ ?”
วีงุนงงเล็กน้อยก่อนจะตอบกลับ
“เอ่อ… พอดีนัดกับพี่ตุ๊กเอาไว้น่ะครับ”
เมื่อพนักงานได้ยินแบบนั้นก็ตกใจเล็กน้อยก่อนจะยิ้ม
“งั้นขึ้นบันไดไปที่ชั้น 3 ได้เลยครับ”
วีพยักหน้าก่อนจะเดินขึ้นไปยังชั้น 3 ตามที่พนักงานบอก เมื่อเปิดประตูเข้าไปวีก็ต้องแปลกใจเพราะไม่คิดว่าชั้น 3 ของตึกจะถูกทำให้กลายเป็นสตูดิโอถ่ายภาพขนาดใหญ่
เมื่อพี่ตุ๊กเห็นวีมาถึงแล้วก็เข้ามาทักทันที
“โอ้ ~ มาแล้วหรอวีเข้ามาสิ”
“สวัสดีครับ”
วีกล่าวทักทายพี่ตุ๊กและทักทายทีมงานทุกคน จากนั้นก็ไปทักทายพี่เบลที่กำลังแต่งหน้าอยู่ หลังจากนั้นพี่ตุ๊กก็ไล่วีไปให้ช่างแต่งหน้า ก่อนจะไปเปลี่ยนเสื้อและมาเข้าเซ็ตถ่ายรูป
ในขณะที่กำลังโพสท่าคู่กับพี่เบลอยู่นั้นพี่เบลก็เอ่ยถามกับวีว่า
“สบายดีไหมเราไม่ได้เจอกันตั้งนาน”
วียิ้มพร้อมกับโพสท่าควงแขน
“ก็สบายดีนะครับ แต่มันน่าเบื่อไปหน่อย”
“น่าเบื่องั้นเหรอ ?”
พี่เบลสงสัย วีพยักหน้าพร้อมกับตอบกลับ
“ช่วงนี้ผมไม่ค่อยมีอะไรทำเลยน่ะครับ ลองคิดจะทำคอนเทนต์ออนไลน์ดูแต่ก็ไม่ค่อยมีไอเดียอะไรเลย”
วีถอนหายใจออกมา พี่ตุ๊กที่เห็นแบบนั้นก็ดุออกมานิดหน่อย
“ตั้งใจหน่อยสิทั้งสองคน”
ทั้งคู่หัวเราะออกมาก่อนจะตั้งใจกลับไปถ่ายงานต่อ ในช่วงพักวีที่กำลังนั่งดูโทรศัพอยู่นั้นก็ถูกพี่เบลเข้ามาทัก
“ดูอะไรอยู่งั้นหรอ ?”
วีหันกลับมาก็เห็นพี่เบลกำลังยิ้มให้ วีจึงตอบกลับว่า
“ก็หาอะไรดูไปเรื่อยนะครับ”
พี่เบลหยิบเก้าอี้มานั่งลงข้างๆวีก่อนจะถามกับวีว่า
“วีสนใจคอนเทนต์ออนไลน์อยู่งั้นหรอ ?”
“ก็นิดนึงนะครับ”
“แล้วทำไมวีไม่ร้องเพลงล่ะ วีร้องเพลงออกจะเพราะนี่หน่า”
วีที่ได้ยินแบบนั้นก็เกาแก้มเล็กน้อยก่อนจะตอบกลับไปว่า
“ตอนแรกก็คิดแบบนั้นแหละครับ แต่ว่ายังไงดีล่ะ… อืม…มันมีคอนเทนต์พวกนี้เยอะแล้วน่ะครับก็เลยไม่อยากจะไปซ้ำกับใครเขา กลัวจะหาว่าไปลอกความคิดชาวบ้านมา”
วีหัวเราะออกมา พี่เบลก็ได้แต่ยิ้มก่อนจะพูดว่า
“งั้นวีร้องให้พี่ฟังสักเพลงซิ”
“ตอนนี้เลยหรอครับ ?”
วีถาม พี่เบลพยักหน้า วีที่ได้เห็นแบบนั้นก็คิดสักพักก่อนตอบกลับ
“ก็ได้นะครับแต่ว่า ผมไม่มีกีต้าร์น่ะสิ”
ทันทีที่ได้ยินแบบนั้นพี่เบลก็ตอบกลับมาทันควัน
“พี่มี”
จากนั้นพี่เบลก็ลุกไปหยิบกีต้าร์ของใครก็ไม่รู้มายื่นให้กับวี วีที่ได้เห็นแบบนั้นก็มองมาแบบงงๆก่อนจะมองไปที่พี่เบลพร้อมกับพูดขึ้นมาว่า
“เอ่อ… นี่พี่วางแผนเอาไว้ก่อนแล้วหรอ ?”
พี่เบลไม่ตอบอะไรได้แต่ยิ้มออกมาเท่านั้น วีที่เห็นท่าทีแบบนั้นของพี่เบลก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมาก่อนจะตรวจเช็คกีต้าร์ในมือ และทดสอบเสียงเล็กน้อย
จากนั้นวีก็ตั้งท่าเตรียมจะเล่น ทันใดนั้นพี่เบลก็หยิบโทรศัพมือถือขึ้นมาถ่ายวี วีงุนงงกับการกระทำของพี่เบลแต่พี่เบลก็ตอบกลับเพียงว่า
“ไม่ต้องสนใจเล่นต่อไปเลย”
วีอ้ำอึ้งเล็กน้อยพร้อมกับเล่นกีต้าร์ต่อไป โดยที่ไม่เห็นเลยว่าพี่เบลนั้นกำลังยิ้มอยู่