ตอนที่แล้วWS บทที่ 187 แล้วสัญญาล่ะ?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปWS บทที่ 189 พลังปีศาจ

WS บทที่ 188 คาถาทั้งสาม


"สัญญา?"

พ่อมดแซมเมียร์นิ่งไปครู่หนึ่งแล้วตบหน้าผากของเขาราวกับว่าเขาเพิ่งนึกออก “โทษที ข้าตื่นเต้นมากไปหน่อย เมื่อได้ยินว่าท่านทำน้ำยาเอโดรสำเร็จ ข้าได้แลกเปลี่ยนเทคนิคการเล่นแร่แปรธาตุมิธริลแก่ชายชราคนนั้นเพื่อแลกกับไขกระดูกน้ำแข็งร้อยปีเรียบร้อยแล้ว”

*ฟึ่บ!*

พ่อมดแซมเมียร์พูดขณะที่เขาหยิบภาชนะแก้วปิดผนึกขนาดใหญ่จากวงแหวนของเขา ภาชนะแก้วหนามีขนาดเท่ากับอ่างล้างหน้าและปิดสนิท ในนั้นมีน้ำแข็งใสสีขาวซีด

เมอร์ลินหรี่ตาลง เขาเคยเห็นภาชนะแก้วจำนวนมากในหอสมุด ด้วยการออกแบบที่ละเอียดอ่อนเช่นนี้ ภาชนะแก้วหนาจึงเป็นผลิตภัณฑ์การเล่นแร่แปรธาตุหายาก ต้องใช้แต้มสนับสนุนอย่างน้อยหลายร้อยแต้มเพื่อแลกพวกมัน

ณ ตอนนี้ ภาชนะแก้วถูกใช้เพื่อบรรจุคริสตัลเพียงชิ้นเดียว ไม่ต้องสงสัยเลย ว่านั่นคือไขกระดูกน้ำแข็งร้อยปีที่เมอร์ลินต้องการ

พ่อมดแซมเมียร์หัวเราะ “นี่คือไขกระดูกน้ำแข็งร้อยปี ผู้เฒ่าผู้นั้นได้ซ่อนสิ่งนี้ไว้เป็นเวลาหลายสิบปีราวกับสมบัติล้ำค่า หากชายชราไม่อยากได้เทคนิคการเล่นแร่แปรธาตุมิธริลของข้าล่ะก็ ข้าก็คงไม่ได้ของชิ้นนี้มาได้ง่ายๆ”

“พ่อมดแซมเมียร์ คุณสามารถตรวจสอบว่านี่คือน้ำยาเอโดรได้หรือไม่”

หลังจากเห็นไขกระดูกน้ำแข็งร้อยปีในมือของพ่อมดแซมเมียร์ เมอร์ลินก็ส่งน้ำยาเอโดรที่ทำสดใหม่ให้พ่อมดแซมเมียร์โดยตรง หลังจากนั้น พ่อมดแซมเมียร์ก็ส่งไขกระดูกน้ำแข็งให้เมอร์ลินด้วย

แม้ว่าสิ่งของจะบรรจุอยู่ในภาชนะแก้วหนา แต่ก็ยังให้กลิ่นอายที่เย็นยะเยือก

"ฮ่าฮ่า นี่คือน้ำยาเอโดรจริงๆ!"

ทันใดนั้น พ่อมดแซมเมียร์ก็หัวเราะ เขาตรวจสอบยาที่เมอร์ลินทำอย่างระมัดระวัง ตัวยาไม่ต่างจากคำอธิบายที่เขียนไว้ในสูตร นี่คือน้ำยาเอโดรจริงๆ

อย่างไรก็ตาม ผลของยานี้สามารถรู้ได้ก็ต่อเมื่อเขาได้ดื่มมันลงไป พ่อมดแซมเมียร์แทบจะอยากดื่มมันเดี๋ยวนี้เลย เขาจึงเก็บยาไว้และพูดกับเมอร์ลินว่า

"พ่อมดเมอร์ลิน ข้าจะขอตัวรับยานี้ไป หลังจากที่โครงสร้างเวทมนต์ของข้าเสถียรแล้ว ข้าจะกลับมาเยี่ยมท่านเพื่อขอบคุณอีกครั้ง!"

หลังจากพูดอย่างนั้น พ่อมดแซมเมียร์ก็นำโฮมุนครุสไปด้วยและจากไปอย่างรวดเร็ว

“เฮ้อ…”

พ่อมดเบอร์ตันและพ่อมดฮิลล์ต่างก็ถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก พวกเขาแสดงความยินดีกับเมอร์ลิน “ยินดีด้วย พ่อมดเมอร์ลิน!”

แม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้ว่าจุดประสงค์ของเมอร์ลินที่มีไขกระดูกน้ำแข็งร้อยปีมาเพื่ออะไรแต่พวกเขาก็ตระหนักได้ว่าของชิ้นนี้มีค่าอย่างยิ่งโดยดูแค่รูปลักษณ์ของภาชนะแก้วอันวิจิตรงดงามนั้น

เมอร์ลินเหลือบมองไขกระดูกน้ำแข็งอายุร้อยปีในภาชนะ เขารู้สึกตื่นเต้นมาก เรื่องของพ่อมดแซมเมียร์ตอนนี้ได้รับการคลี่คลายแล้ว ในที่สุดเขาก็สามารถเริ่มทำน้ำยามนตราอสูรกับน้ำยาบลูเบอร์รี่เพื่อเพิ่มพลังจิตของเขาได้ซะที

เมื่อไม่มีอะไรแล้ว เมอร์ลินจึงพูดคุยกับพ่อมดทั้งสองสั้นๆ ก่อนที่จะกลับไปที่ห้องของเขาเพื่อปรุงยาทั้งสองตัวต่อไป

...

ผ่านไปหนึ่งเดือน รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเมอร์ลินขณะที่เขาจ้องมองไปยังยาเจ็ดขวดที่เขาปรุงสำเร็จ

ในช่วงเวลานี้ เมอร์ลินได้ปรุงยาอย่างต่อเนื่อง เขามีวัตถุดิบทั้งหมดสิบสองชุดสำหรับน้ำยามนตรอสูรซึ่งเขาปรุงได้สี่ขวด ส่วนน้ำยาบลูเบอร์รี่ เขามีวัตถุดิบโพชั่นทั้งหมดเก้าชุด เขาปรุงสำเร็จสามชุด!

ผลของน้ำยาบลูเบอร์รี่นั้นได้ผลน้อยกว่าน้ำยามนตาอสูรเล็กน้อย ดังนั้นเขาจึงดื่มน้ำยาบลูเบอร์รี่สามขวดเข้าไปก่อน พลังจิตของเขาก็เพิ่มขึ้นทันที

อย่างไรก็ตาม การน้ำยาตัวเดิมซ้ำ ๆ ก็จะทำให้ผลของการเพิ่มพลังจิตก็ค่อย ๆ ลดลงเช่นกัน อย่างไรก็ตาม พลังจิตของเมอร์ลินยังคงเพิ่มขึ้นอย่างมาก

ต่อจากนั้น เมอร์ลินก็วางแผนที่จะดื่มน้ำยามนตราอสูร เขาเชื่อว่ามันให้ผลลัพธ์ที่มากกว่าน้ำยาบลูเบอร์รี่

หลังจากที่พวกมันทั้งหมดแล้ว พลังจิตของเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว พลังจิตของเขาเพิ่มขึ้นจากเดิมถึงสองเท่า

ในที่สุดพลังจิตของเมอร์ลินก็มาถึงระดับสองขั้นสูงสุดแล้ว ทำให้ตอนนี้เขาน่าจะสร้างคาถาน้ำค้างเยือกแข็งหรือเขตแดนแสงดำได้แล้ว

อย่างไรก็ตาม ถ้าเขาต้องการสร้างน้ำค้างเยือกแข็งและเขตแดนแสงดำในเวลาเดียวกัน พลังจิตของเมอร์ลินก็ยังไม่เพียงพอ พลังจิตที่จำเป็นสำหรับเขตแดนแสงดำนั้นมีมากเกินไป ด้วยพลังจิตในปัจจุบันของเมอร์ลิน มันมากพอที่จะสร้างคาถาแต่มันยากเกินไปสำหรับเขตแดนแสงดำ ดังนั้นเขาจึงเลือกคาถาน้ำค้างเยือกแข็ง

แม้ว่าแบบจำลองคาถาของน้ำค้างเยือกแข็งจะซับซ้อนแต่การใช้พลังจิตนั้นค่อนข้างน้อยกว่าเขตแดนแสงดำ ถ้าเขาสร้างน้ำค้างแข็งเยือกแข็งเสร็จ พลังจิตของเขาก็น่าจะเพียงพอที่จะสร้างคาถาที่เหลืออีกสองคาถาได้

ยิ่งกว่านั้น เมอร์ลินในตอนนี้มีไขกระดูกน้ำแข็งร้อยปี หลังจากที่เขาสร้างน้ำแข็งเยือกแข็งแล้ว เขาก็สามารถฝึกฝนพลังปีศาจแพนดอร่าด้วยไขกระดูกน้ำแข็งร้อยปีได้

ดังนั้น เมอร์ลินจึงตัดสินใจโดยไม่ลังเลอีกต่อไป เขาจะสร้างน้ำค้างเยือกแข็งก่อน ถ้าเขามีพลังจิตเหลืออยู่ เขาก็จะยังคงสร้างโครงสร้างเวทมนต์คาถาสายลมแห่งอิสระกับลูกสายฟ้า

เมื่อพลังจิตของเขาไปถึงระดับสามในอนาคต เมอร์ลินจะพิจารณาสร้างเขตแดนแสงดำอีกครั้ง ท้ายที่สุดแล้ว เมอร์ลินก็เป็นนักเวทย์หกธาตุ โครงสร้างเวทมนต์แต่ละอันนั้นใช้พลังจิตจำนวนมาก

เมอร์ลินตัดสินใจสร้างน้ำค้างเยือกแข็งก่อน ดังนั้นเขาจึงสงบสติอารมณ์และคลายความคิดที่วุ่นวาย หลังจากนั้น เขาก็เริ่มเปิดใช้งานดอะเมทริกซ์ทันที

"เดอะเมทริกซ์ เริ่มทำการวิเคราะห์คาถาระดับหนึ่ง น้ำค้างเยือกแข็ง!"

บี๊บ ภารกิจถูกสร้าง เริ่มต้นการวิเคราะห์!

เมอร์ลินคุ้นเคยกับกระบวนการสร้างคาถาโดยใช้เดอะเมทริกซ์  เมื่อได้ผลลัพธ์แล้ว เมอร์ลินจึงเลือกแบบจำลองคาถาที่ดีที่สุดในแง่ของความเข้ากันได้ ความเสถียร และพลังโจมตี

จากนั้นรูปแบบคาถาที่ซับซ้อนปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็วในหัวของเมอร์ลิน

น้ำค้างเยือกแข็งเป็นคาถาที่ซับซ้อน นอกเหนือจากเขตแดนแสงดำแล้ว มันเป็นคาถาที่ซับซ้อนที่สุดที่เมอร์ลินเคยสร้างมาในบรรดาคาถาอื่น ๆ ทั้งหมด มันต้องมีพลังที่มหาศาลแน่นอน

ด้วยโครงสร้างคาถาที่ซับซ้อนเช่นนี้ หากไม่มีพลังจิตที่แข็งแกร่งเขาคงไม่สามารถทำได้อย่างแน่นอน

โชคดีที่เมอร์ลินเตรียมพลังจิตได้เพียงพอแล้วและได้เลือกโครงสร้างเวทมนต์ที่ถูกใจเขาแล้ว ขั้นตอนต่อไปเป็นส่วนที่ยากที่สุดคือการจำลองคาถา

ตอนนี้เขาแค่ต้องการสงบสติอารมณ์ อดทน และจำลองโครงสร้างเวทมนต์อย่างช้า ๆ ในจิตใต้สำนึกของเขา

กระบวนการจำลองได้ดำเนินไปเป็นเวลานาน เกือบสองวันผ่านไป เมื่อจิตใต้สำนึกของเมอร์ลินสั่นสะท้าน ทันใดนั้นโครงสร้างเวทมนต์อันใหม่ล่าสุดก็ปรากฏตัวขึ้นในจิตใต้สำนึกของเขา

เขาประสบความสำเร็จในการสร้างคาถาน้ำค้างเยือกแข็ง!

ในเวลาเดียวกัน เมอร์ลินรู้สึกเย็นยะเยือกที่สันหลังของเขา เขาสามารถสัมผัสได้ชัดเจนว่าโครงสร้างเวทมนต์ลองคาถาของน้ำค้างเยือกแข็งกำลังดูดซับพลังธาตุน้ำแข็งอย่างต่อเนื่องจากภายนอก

เมื่อสร้างแบบจำลองคาถาแล้ว มันจะดูดซับพลังธาตุจากภายนอกโดยอัตโนมัติและเปลี่ยนพลังธาตุให้กลายเป็นพลังเวทย์ซึ่งถูกเก็บไว้ในโครงสร้างเวทมนต์ อย่างไรก็ตาม กระบวนการนี้ใช้เวลานาน ดังนั้นเมอร์ลินจึงใช้หินธาตุน้ำแข็งบางส่วนเพื่อเร่งอัตราการสะสมพลังเวทย์ในโครงสร้างเวทมนต์

หลังจากนั้น เมอร์ลินยังคงสร้างคาถาสายลมแห่งอิสระต่อไป

พลังจิตที่จำเป็นในการสร้างสายลมแห่งอิสระนั้นน้อยกว่าน้ำค้างเยือกแข็งมาก ดังนั้น เมอร์ลินจึงใช้เวลาสร้างไม่ถึงวัน นอกจากนี้ พลังจิตของเขาดูเหมือนจะสามารถรองรับการสร้างคาถาได้อีกหนึ่งคาถา

เมอร์ลินจึงตัดสินใจสร้างคาถาลูกสายฟ้า

โครงสร้างเวทมนต์ของลูกสายฟ้านั้นก็เหมือนกับสายลมแห่งอิสระ มันใช้พลังจิตน้อยกว่าน้ำค้างเยือกแข็งมาก ดังนั้นเมอร์ลินจึงใช้เวลาน้อยกว่าหนึ่งวันในการสร้างคาถาเช่นกัน

เมอร์ลินได้สร้างคาถาระดับหนึ่งทั้งสามอย่างต่อเนื่อง ในจิตใต้สำนึกของเขามีคาถา เพลิงพิโรธ, สายลมแห่งอิสระ, น้ำค้างเยือกแข็ง, รูปปั้นผู้พิทักษ์และลูกสายฟ้า!

ในบรรดาคาถาหกธาตุของเขา เมอร์ลินได้สร้างไปห้าคาถาแล้ว ยกเว้นคาถาระดับหนึ่งอันสุดท้าย เขตแดนแสงดำ

หากเมอร์ลินประสบความสำเร็จในการสร้างเขตแดนแสงดำ เมอร์ลินก็จะกลายเป็นนักเวทย์ระดับหนึ่ง เขาก็ไม่ต้องกังวลกับการถูกไล่ออกจากดินแดนมนต์ดำอีกต่อไป เนื่องจากเขาสามารถบรรลุเงื่อนไขการเป้นสมาชิกทางการแล้ว

อย่างไรก็ตามเขตแดนแสงดำนั้นซับซ้อนเกินไปและต้องการพลังจิตอันมหาศาล ตอนนี้พลังจิตของเมอร์ลินไม่เพียงพอที่จะทำอย่างนั้นดังนั้นเขาจึงต้องเพิ่มพลังจิตให้มากกว่านี้

เมอร์ลินคาดการณ์ไว้ว่า หากพลังจิตของเขาถึงระดับสามเขาก็จะลองสร้างเขตแดนแสงดำดู

ตอนนี้ เมอร์ลินเริ่มเร่งอัตราเพื่อเพิ่มพลังเวทย์ด้วยหินธาตุ หลังจากที่พลังเวทย์ของเขาเพียงพอที่จะร่ายเวทย์หลายสิบครั้งได้ในคราวเดียว เมอร์ลินก็หยุดใช้หินธาตุทันที

ท้ายที่สุด หากใช้มากเกินไปก็อาจจะส่งผลเสียมากกว่าผลดีและอีกอย่างมันสิ้นเปลืองโดยความจำเป็น เขาปล่อยให้พลังเวทย์เพิ่มตามธรรมชาติจะดีกว่า

*ฟึ่บ!*

ภาชนะแก้วขนาดยักษ์ได้ปรากฏขึ้นในมือของเมอร์ลิน ในนั้นคือไขกระดูกน้ำแข็งร้อยปีที่เขาเพียรพยายามตามหา

“ตอนนี้น้ำค้างเยือกแข็งค่อนข้างคงที่แล้ว ได้เวลาฝึกฝนความสามารถของปีศาจ ดัชนีเยือกแข็งแล้ว!”

เขากำลังจะฝึกฝนดัชนีเยือกแข็ง เมอร์ลินรู้สึกตื่นเต้นอย่างท่วมท้น

ผ่านไปครู่หนึ่ง เมอร์ลินก็สูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อสงบสติอารมณ์อีกครั้ง จากนั้นเขาก็เปิดฝาที่ปิดสนิทบนภาชนะแก้วในทันที ทันใดนั้น ออร่าอันเยือกเย็นก็รั่วออกมาจากภาชนะแก้วหนาพร้อมกับควันสีขาว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด