ตอนที่แล้ว277-278
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป281-282

279-280


9/10

Ep.279

ซูเฉินถูจมูกเขา เอ่ยอย่างเฉยเมยว่า “เออ ฉันเองก็ไม่ได้ฆ่าพวกต่างเผ่ามาหลายวันแล้วเหมือนกัน คิดถึงซะไม่มี”

อีกฝ่ายหมายข่มขวัญเขา คนอย่างซูเฉินมีหรือจะยอม?

จึงเอ่ยประโยคนี้กลับไป ตีแสกหน้าความเย่อหยิ่งของอีกฝ่ายลง

“เผ่าวิญญาณ? เห็นอยู่ชัดๆว่าเจ้าเป็นมนุษย์ เหตุใดจึงเอ่ยภาษาของพวกเราได้?”

เสียงแหบพร่าของชายคนหนึ่งดังอออกมาจากถ้ำ

ซูเฉินชะงักไปเล็กน้อย ตอนแรกเขาเผลอตอบกลับด้วยภาษาที่อีกฝ่ายถ่ายทอดมาโดยไม่รู้ตัว เดิมเขาคิดว่าสิ่งมีชีวิตในถ้ำน่าจะมาจากเผ่าโลหิต แต่ไม่นึกเลยว่าจะกลายเป็นเผ่าวิญญาณไปได้

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าอีกฝ่ายจะมาจากเผ่าไหน เขาก็ไม่หวั่นเกรง

ซูเฉินกล่าวหยามเหยียด ริมฝีปากยกโค้งด้วยท่าทางดูถูก “บิดาเชี่ยวชาญทุกภาษาของหมื่นเผ่าพันธุ์ กับอีแค่ภาษาเผ่าวิญญาณ พูดง่ายไม่ต่างจากผายลม!”

“โอหัง!”

แทบจะในทันที เสียงคำรามด้วยความโกรธดังก้องออกมาจากถ้ำหิน จากนั้นร่างๆหนึ่งก็ค่อยๆก้าวออกมาอย่างช้าๆ

ระหว่างก้าวเดิน มันเอ่ยปากข่มขู่ว่า “ไอ้หนู เจ้ายั่วโมโหข้าสำเร็จแล้ว ข้าจะทำให้เจ้าร้องขอชีวิต อยากตายก็ไม่ได้ตาย!”

เมื่อเห็นสิ่งมีชีวิตในถ้ำชัดๆ เปลือกตาของซูเฉินกระตุกอย่างรุนแรง

เพราะการปรากฏตัวตรงหน้าเขา ไม่ใช่รูปลักษณ์ของมนุษย์เลย แต่กลับกลายเป็นกระดูกสีขาวที่ตายไปแล้ว

ในมือของกระดูกที่ตายไปแล้วถือกระดูกสัตว์อสูรขนาดใหญ่เอาไว้ สองเบ้าตาของมันจมลึก มีเปลวไฟสีเขียวสองดวงกำลังเต้นเร่าอยู่ ให้ความรู้สึกพิศวงมาก

ซูเฉินมองสำรวจดู สองตาเขาค่อยๆหรี่ลง แค่นเสียงเบาๆ “แกมาจากเผ่าวิญญาณ แสดงว่าคนอื่นๆในเผ่าก็เป็นไอ้ขี้ก้างเหมือนแกใช่รึเปล่า?”

ได้ยินแบบนั้น เปลวไฟในดวงตาของเผ่าวิญญาณสั่นไหวอย่างรุนแรง ตวาดดุร้ายว่า “ไอ้หนู เผ่าวิญญาณไม่ใช่อะไรที่คนอ่อนแอเช่นเจ้าจะดูถูกได้! เจ้าต้องจ่ายราคาแสนสาหัสที่กล้าดูหมิ่นพวกเรา!”

ซูเฉินเบ้ปาก กล่าวแดกดัน “ฟังจากที่พูดมา แกหมายความว่า ตราบใดที่ฉันแข็งแกร่ง ฉันก็สามารถเหยียดหยามเผ่าวิญญาณได้ใช่ไหม?”

หลังจากถูกซูเฉินล้อเลียนซ้ำแล้วซ้ำเล่า เผ่าวิญญาณก็แทบกักเก็บความโกรธเอาไว้ไม่อยู่ คำรามออกมา “ไอ้หนู ในเมื่อปรารถนาที่จะตาย เช่นนั้นก็สมใจอยากเจ้าแล้ว!”

สิ้นเสียง อีกฝ่ายกุมกระดูกใหญ่แน่นขึ้นเล็กน้อย ชี้ลงบนพื้น

เห็นแค่เพียงแสงสีขาวฉายวาบออกมาจากมัน และทันใดนั้นก็จมหายลงไปในพื้นดิน

ซูเฉินยังไม่ชัดเจนเกี่ยวกับสถานการณ์ แต่ทันใดนั้นพลันรู้สึกว่าพื้นเบื้องล่างเกิดการสั่นสะเทือน

ตอนแรกมันก็ค่อนข้างเบา แต่เมื่อเวลาผ่านไป ก็เริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ

จนในที่สุด เสียงแผ่นดินแยกก็ดดังเข้ามาในหูเขา

“เสียงนี้มัน ..!”

ซูเฉินกวาดสายตามองไปรอบๆ และพบว่าตอนนี้ ปรากฏกระดูกสีขาวหลายร้อยชิ้น ที่มีขนาดแตกต่างกันไปขึ้นในสายตาเขา

เห็นได้ชัดว่ากระดูกเหล่านี้ คือกระดูกที่เขาเคยตรวจเจอมาก่อนในใต้ดิน

เมื่อเผชิญหน้ากับสถานการณ์ประหลาด สีหน้าของซูเฉินขรึมลงเล็กน้อย แต่แล้วมันก็กลับมาเป็นปกติอย่างรวดเร็ว

เขาจับจ้องไปยังเผ่าวิญญาณ เอ่ยดูหมิ่นต่อว่า “แค่นี้เองหรอพลังของแก?”

“ฮี่ ฮี่ ฮี่ …”

เผ่าวิญญาณฉีกยิ้มร้ายกาจ เอ่ยเสียงเย็น “ไอ้หนู มาดูกันว่าเจ้าจะแสร้งทำทีว่าเข้มแข็งไปได้อีกสักกี่น้ำ”

ตั้งแต่แรกจนถึงตอนนี้ ซูเฉินมีท่าทีผ่อนคลาย ราวกับไม่เห็นมันอยู่ในสายตา

เรื่องนี้ทำให้เผ่าวิญญาณไม่พอใจเป็นอย่างมาก

ถึงแม้ว่ามันจะยังไม่ทราบข้อมูลใดๆของซูเฉิน แต่ดูเซินยังเด็กนัก แถมยังเป็นมนุษย์ที่อ่อนแอ

มันเลยพาลคิดไปว่าซูเฉินไม่น่าจะใช่ผู้แข็งแกร่งอย่างแน่นอน ที่ยังสงบอีกฝ่ายก็แค่แกล้งทำไปอย่างนั้น

“เด็กๆ ฆ่าเขาซะ!”

เผ่าวิญญาณไม่คิดปล่อยให้ซูเฉินพล่ามยั่วโมโหอีกต่อไป เขาเหยียดมือชี้ไปทางซูเฉิน ตะโกนเสียงแหบแห้ง

เมื่อได้รับคำสั่งจากเผ่าวิญญาณ กระดูกทั้งหมดก็กระโจนเข้าโจมตีซูเฉินพร้อมกันจากทุกทิศทาง

ตัวที่วิ่งอยู่หน้าสุดเป็นกระดูกสีขาวของมนุษย์ เห็นแค่เพียงหมัดกระดูกที่กำแน่นของมัน ชกมาทางซูเฉิน

ซูเฉินยืนนิ่งอยู่ที่เดิม ไม่ขยับเคลื่อนไหว ไม่มีความตั้งใจที่จะหลบเลี่ยงหรือป้องกัน

นั่นเพราะเขาสัมผัสได้ ว่าในบรรดากระดูกขาว ตัวที่แข็งแกร่งที่สุดคือผู้วิวัฒนาการเลเวล 2 เท่านั้น

ที่เหลือส่วนใหญ่เป็นผู้วิวัฒนาการเลเวล 1

ตัวเขาครอบครอง [กายาเทพอสูรนิรันดร์] มีคุณสมบัติคงกระพันในเลเวลเดียวกัน

แล้วแบบนี้ กับอีแค่เลเวล 1  หรือ 2 จะมาทำร้ายเขาได้อย่างไร?

10/10

Ep.280

เมื่อเห็นว่าซูเฉินไม่หลบเลี่ยง เผ่าวิญญาณก็คิดว่าซูเฉินคงหวาดกลัวจนโง่งม ลอบเยาะเย้ยในใจ “คราวนี้มาดูกันว่าเจ้ายังแสร้งทำเป็นอวดดีได้อีกหรือไม่!”

อีกด้านหนึ่ง กระดูกมนุษย์ชกลงบนหน้าอกของซูเฉิน

แต่ก็เป็นไปตามคาด ภาพที่ซูเฉินถูกซัดปลิวไม่ปรากฏขึ้น ในทางกลับกัน เป็นกำปั้นของกระดูกขาวที่แหลกเป็นเสี่ยง ผลพวงนี้ลุกลามไปถึงกระดูกแขนข้างนั้นทั้งข้างของมันด้วย

“ไม่จริง!”

ได้เป็นสักขีพยานของฉากนี้ เผ่าวิญญาณร้องอุทานด้วยความตกใจ

ความแข็งแกร่งทางกายภาพของซูเฉิน เกินกว่าความคาดหมายของมันอย่างสิ้นเชิง

“ไอ้หนู มิน่าเล่าเจ้าถึงยโสนัก ที่แท้ก็พอมีความสามารถอยู่บ้าง แต่อาศัยเพียงร่างกายที่แข็งแกร่งทนทาน คิดหรือว่าเจ้าจะหนีพ้นจากความหวาดกลัวไปได้”

เผ่าวิญญาณต้องมองซูเฉินใหม่อีกครั้ง แต่น้ำเสียงของมันยังคงเย็นชา และสั่งให้กระดูกตัวอื่นๆเริ่มโจมตีซูเฉินอีกครั้ง

ในความคิดของมัน ต่อให้ซูเฉินมีร่างกายที่แข็งแกร่ง แต่ก็ไม่น่าจะสามารถต้านทานการโจมตีพร้อมกันของกระดูกนับร้อยตัวได้

ซูเฉินแสยะยิ้มหยัน ยังคงไม่หลบเลี่ยงหรือลงมือใดๆ ปล่อยให้พวกกระดูกขาวโจมตีตัวเองอย่างต่อเนื่อง บางครั้งถึงขั้นยื่นหน้าไปให้อีกฝ่ายชก

ตูม ตูม กร๊อบ!

เกิดเสียงกังวานคมชัด กระดูกสีขาวเหล่านั้นที่โจมตีซูเฉิน ร่วงกระจัดกระจาย กลายเป็นเศษกระดูก

ตั้งแต่ต้นจบตน พวกมันถอนไม่ได้แม้กระทั่งขนเส้นเดียวของซูเฉิน

การโจมตีเหล่านี้ สำหรับซูเฉินแล้ว แค่ทำให้คันยังไม่ได้ด้วยซ้ำ

“ร่างกายของเจ้าแข็งแกร่งถึงขนาดนี้ได้อย่างไร? หรือว่าเจ้าจะเป็นผู้วิวัฒนาการเลเวล ..!”

มองไปยังกระดูกขาวนับร้อย ที่ทั้งหมดกลายเป็นกองกระดูกแตกหักไปแล้ว มุมปากของเผ่าวิญญาณสั่นสะท้าน

ช่วงเวลานี้ มันถึงขั้นคิดเลยเถิดไปว่าซูเฉินอาจเป็นผู้วิวัฒนาการเลเวล 6 เพราะต่อให้เป็นผู้วิวัฒนาการเลเวล 5 ก็ไม่น่าจะต้านทานการโจมตีที่รุนแรงเช่นนี้โดยปราศจากการป้องกันใดๆได้

“ฉันเป็นผู้วิวัฒนาการเลเวลไหน เดี๋ยวแกก็จะได้รู้เอง”

ซูเฉินเบ้ปาก ทะยานเข้าหาเผ่าวิญญาณ

“ผู้วิวัฒนาการเลเวล 4 !” เผ่าวิญญาณร้องอุทานออกมา

ตัดสินจากความเร็วของซูเฉิน เขามั่นใจว่าซูเฉินเป็นผู้วิวัฒนาการเลเวล 4 อย่างไม่ต้องสงสัย

ทว่าด้วยร่างของผู้วิวัฒนาการเลเวล 4 จะสามารถต้านทานการโจมตีที่รุนแรงเช่นเมื่อครู่ได้อย่างไร?

ตรงจุดนี้ทำให้มันเกิดความสับสนเป็นอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม มันสลัดเรื่องนี้ทิ้งไปอย่างรวดเร็ว ความรู้สึกยินดีเริ่มเข้ามาแทนที่

เพราะหากซูเฉินคือผู้วิวัฒนาการเลเวล 4 มันไม่จำเป็นต้องหวาดกลัวเลย

เนื่องจากตนเป็นปรมาจารย์พลังจิตเลเวล 5 เรียกได้ว่ามีอำนาจมากพอที่จะสะกดผู้วิวัฒนาการเลเวล 4

“ไอ้หนู ข้าจะแสดงให้เจ้าดู ว่าความแข็งแกร่งที่แท้จริงคืออะไร!” เผ่าวิญญาณหัวเราะเสียงดัง จากนั้นปลดปล่อยพลังจิตออกมา

พลังแห่งจิตวิญญาณของปรมาจารย์พลังจิตเลเวล 5 มิใช่เรื่องล้อเล่น

นอกจากนี้ เผ่าวิญญาณได้สาบานว่าจะสังหารซูเฉินให้สิ้นซาก มันจึงกระตุ้นพลังถึงขีดสุด พลังจิตล้นทะลักเป็นสายธารไหลเชี่ยว โถมกลืนซูเฉิน

“พลังจิตเลเวล 5 ? นี่น่ะหรอไพ่ตายของแก”

สัมผัสได้ถึงพลังที่มองไม่เห็นอันทรงพลังกระทบใส่เขา ซูเฉินกลับไม่มีท่าทีตื่นตระหนกเลย

เขาได้ปลดปล่อยพลังจิตออกมาเช่นกัน เพียงแต่ว่าพลังจิตของซูเฉินอยู่ในเลเวล 4 เท่านั้น

เดิมทีมันไม่อาจเทียบได้กับพลังจิตของเผ่าวิญญาณ

แต่ด้วยร่างกายที่ครอบครอง [กายาเทพอสูรนิรันดร์] แม้จะไม่สามารถทำลายพลังจิตเลเวล 5 ได้อย่างสิ้นเชิง แต่ก็สามารถสลายอำนาจส่วนใหญ่ของมันลงได้

ยิ่งได้รับการสนับสนุนไปกับพลังจิตเลเวล 4 ส่งผลให้พลังจิตเลเวล 5 ของเผ่าวิญญาณไม่สามารถทำอะไรเขาได้

เมื่อเห็นว่าพลังจิตของตนไม่ส่งผลใดๆกับซูเฉิน เผ่าวิญญาณตกใจเป็นอย่างมาก สีหน้าของมันราวกับเห็นผี

ชั่วเวลานี้ มันกระจ่างชัดแล้ว ว่าซูเฉินไม่ได้เป็นแค่ผู้วิวัฒนาการเลเวล 4 แต่ยังเป็นปรมาจารย์พลังจิตเลเวล 4 ด้วย เรื่องนี้ราวกับฝันร้ายที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน

ยิ่งไปกว่านั้น สิ่งที่ทำให้มันสับสนยิ่งกว่าเดิมก็คือ แม้ซูเฉินจะมีถึงสองอาชีพหลัก แต่ก็ไม่น่าจะล้มล้างพลังจิตเลเวล 5 ของมันได้อยู่ดีมิใช่หรือ?

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด