80Y-ตอนที่ 21 มอบของขวัญให้จักรพรรดิหยวน
หลินจิ่วเฟิง ได้ก้าวเข้าสู่ห้องโถงเฉียนหยวน และ เห็นจักรพรรดิหยวนที่ใบหน้าซีดเซียว ที่มีรูปลักษณ์ราวกับคนที่ไม่เคยรู้จัก
แม้ว่า หลินจิ่วเฟิง จะได้รับทักษะช่วยชีวิตหลังจากลงชื่อเข้าใช้ แต่เขาก็เริ่มสงสัยว่ามันจะมีผลหรือไม่หลังจากเห็นสภาพในปัจจุบันของจักรพรรดิหยวน
“พี่ใหญ่”จักรพรรดิหยวน มองไปที่ หลินจิ่วเฟิง เขาร้องไห้ออกมาด้วยตื่นเต้น
น้ำตาได้ไหลลงมาบนใบหน้าของเขา
ในช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิต คนที่เขาต้องการพบมากที่สุด ไม่ใช่ภรรยาของเขาหรือบุตรชายของเขา
แต่เป็นพี่ชายที่กำเนิดจากแม่คนเดียวกัน
เมื่อ หลินจิ่วเฟิง เกิด เขาก็ได้รับการสอนสั่งในฐานะองค์รัชทายาท
เขามีความรู้กว้างขวางและท่วงท่าที่สง่างาม
จักรพรรดิหยวน ได้เฝ้ามองดูพี่ชายของเขาตั้งแต่ยังเด็ก และ ต้องการเป็นเหมือนพี่ชายของเขาให้ได้
เมื่อตอนที่เขายังเด็ก จักรพรรดิหยวน มักจะได้ยินพี่ชายของเขาพูดถึงประเด็นต่าง ๆ กับขุนนางชั้นสูงและรัฐมนตรีต่าง ๆ อีกฝ่ายมีอำนาจอย่างมากในเมืองหลวงราชวงศ์
ตอนนั้นเขายังไม่เข้าใจ
ว่าเพราะเหตุใดเหล่าข้าราชบริพารเหล่านั้นถึงพยายามเข้าหาพี่ชายของเขาจนทำให้อีกฝ่ายรู้สึกกังวล
แต่หลังจากที่เขากลายเป็นองค์รัชทายาทและขึ้นเป็นจักรพรรดิเขาก็เริ่มเข้าใจเรื่องต่าง ๆ ภายในราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์อยู่ฮวา สิ่งเดียวที่เข้ามาในหัวของเขาก็คือ
การทวงคืนอำนาจในราชสำนัก!
เขาต้องต่อสู้กับขุนนางชั้นสูงทั้ง 9!
ด้วยเหตุนี้เองเขาจึงไม่รีรอที่จะใช้ทุกสิ่งที่มี
ตอนนี้ บั้นปลายชีวิต…
จักรพรรดิหยวนได้พบกัลหลินจิ่วเฟิง
หลินจิ่วเฟิง ยังคงโดดเด่นและดูอ่อนเยาว์ราวกับหยก
แต่เขากลับกลายเป็นคนแก่หงำเหงือกที่ใกล้ตาย
หลินจิ่วเฟิง ได้เดินไปที่ข้างเตียงและนั่งลงช้า ๆ
เขาเอื้อมมือไปจับมือจักรพรรดิหยวน
“ข้าจะช่วยเจ้าเอง”หลินจิ่วเฟิง ได้กล่าวอย่างหนักแน่น
“พี่ใหญ่ ข้ารู้สภาพของตัวเองดี เพื่อแลกกับความแข็งแกร่ง ข้าได้ผลาญพลังชีวิตมากเกินไปด้วยการฝึกฝนทักษะบ่มเพาะพลังปีศาจ แม้แต่เทพก็ยังยากที่จะช่วยข้าในตอนนี้”จักรพรรดิหยวน ได้สั่นศีรษะ
หลินจิ่วเฟิง รู้สึกพูดไม่ออก
เขาทำได้เพียงเปิดใช้ [ทักษะช่วยชีวิต] เท่านั้น
เขากางมือและฉีดอัดพลังปราณแท้จริงเข้าไปในร่างกายจักรพรรดิหยวน
แสงสีเขียวมรกตของทักษะช่วยชีวิตได้ไหลเข้าสู่ร่างกายของจักรพรรดิหยวนและเริ่มฟื้นฟูร่างกายของเขา
ใบหน้าที่ซีดเซียวของจักรพรรดิหยวน ค่อย ๆ ดีขึ้นอย่างน่าประหลาดใจ
การหายใจของเขาได้กลับมาสงบลงอีกครั้ง
จักรพรรดิหยวนมองไปที่ หลินจิ่วเฟิง ด้วยความประหลาดใจและจับมืออีกฝ่ายแน่น
หลินเทียนหยวน ที่มองจากด้านข้าง ก็ยังเผยให้เห็นดวงตาที่ประหลาดใจอย่างมาก
“ท่านอาจารย์แข็งแกร่งจริง ๆ บางทีท่านอาจจะช่วยท่านพ่อได้”หลินเทียนหยวน รู้สึกยกย่องเขา
จักรพรรดิหยวน มองไปที่ หลินจิ่วเฟิง ด้วยท่าทีที่มีความสุข แต่ หลินจิ่วเฟิง กลับไม่ได้มีสีหน้าที่มีความสุขเท่าไหร่
เขามองไปที่จักรพรรดิหยวนด้วยดวงตาที่โศกเศร้า
ทักษะช่วยชีวิตไม่สามารถช่วยจักรพรรดิหยวนได้
สิ่งนี้ทำได้เพียงแค่ต่อเวลาชีวิตของจักรพรรดิหยวนไปได้ช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น
“พลังชีวิตของเจ้าเหือดแห้งเกินไป พลังปราณและทักษะของข้าสามารถยืดชีวิตของเจ้าออกไปได้เพียงแค่ 1 เดือนเท่านั้น หลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรที่ข้าสามารถทำได้แล้ว”หลินจิ่วเฟิง เต็มไปด้วยความเจ็บปวด
ข้อกำหนดสำหรับทักษะช่วยชีวิตก็คือการช่วยประคองพลังชีวิต
แต่ทว่าจักรพรรดิหยวนได้เผาผลาญพลังชีวิตของเขาไปจนหมดด้วยทักษะบ่มเพาะพลังปีศาจ
เขาไม่เหลือพลังชีวิตในตัวของเขาอีกต่อไปแล้ว
การแสดงออกของ หลินเทียนหยวน ได้กลายเป็นแข็งทื่อ
ท่านอาจารย์สามารถยืดชีวิตท่านพ่อไปได้แค่เดือนเดียว?
จักรพรรดิหยวนรู้สึกประหลาดใจ
เขาได้คว้ามือของหลินจิ่วเฟิงด้วยมือทั้งสองข้างและพูดขึ้น“พี่ใหญ่ ขอบคุณท่านมาก”
“ตอนที่ข้าฝึกทักษะบ่มเพาะพลังปีศาจ ข้าก็เข้าใจว่าข้าได้เสียชีวิตไปแล้ว”
“เดิมข้าน่าจะตายไปแล้ว…”
“แต่เพราะพลังอันยิ่งใหญ่ของท่านอย่างน้อยข้าก็ยังสามารถอยู่รอดไปได้อีก 1 เดือนมันมากพอที่ข้าจะจัดการสิ่งต่าง ๆ ในราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวาที่ยังค้างคาให้เสร็จ”
เขากลับรู้สึกขอบคุณแทน
หลินจิ่วเฟิง ได้หยุดฉีดพลังปราณเข้าไป ทักษะช่วยชีวิตสามารถต่อชีวิตของจักรพรรดิหยวนได้เป็นเวลา 1 เดือน
นอกจากนี้ น้องชายของเขากลับยังมองโลกในแง่ดีมากกว่าเขา
สิ่งนี้ทำให้ ความรู้สึกผิดของ หลินจิ่วเฟิง ลดลง
“หลินเทียนหยวน!”จักรพรรดิหยวน ได้ตะโกนขึ้น
หลินเทียนหยวน สะดุ้งขึ้นในทันที“ขอรับ!”
ตอนนี้เขาดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารสูงสุดในกองทัพราชวงศ์
ทำให้เขาคอยอยู่คุ้มครององค์จักรพรรดิและเพื่อดูแลความปลอดภัยของจักรพรรดิหยวน
ซึ่งเขาสามารถทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยม
จักรพรรดิหยวน มองไปที่ หลินเทียนหยวน ด้วยท่าทีจริงจัง
“คุกเข่าลงต่อหน้าท่านลุงของเจ้าซะ!”
หลินเทียนหยวน มองไปที่จักรพรรดิหยวนอย่างตกใจ
ลุง?
เขาอดไม่ได้ที่จะมองไปที่หลินจิ่วเฟิง
หลินจิ่วเฟิง ก็คือ ลุงของเขา?
เป็นท่านลุงงั้นหรือไม่?
แต่เขาไม่เคยทักทายอีกฝ่ายในฐานะลุงของเขามาก่อน
เนื่องจากเขาเป็นบุตรนอกสมรส อีกทั้งยังไม่ได้รับการจัดเข้าสู่ลำดับวงศ์ตระกูลของราชวงศ์
แน่นอนว่ากระทั่งเขายังไม่สามารถเรียกจักรพรรดิหยวนว่า ‘เสด็จพ่อ’ ได้
แต่เมื่อพวกเขาอยู่กันสองต่อสองโดยไม่มีใครอื่นมาเกี่ยวข้อง เขาสามารถเรียกอีกฝ่ายว่า ‘พ่อ’ ได้
หลังจากเข้าร่วมราชสำนักในฐานะเจ้าหน้าที่ในราชสำนัก เขาได้เปลี่ยนไปเรียกอีกฝ่ายว่า ‘ฝ่าบาท’ ซึ่งนี่ถือเป็นคำเรียกของขุนนางที่มีต่อองค์จักรพรรดิ
ส่วน หลินจิ่วเฟิง เขามักจะให้ หลินเทียนหยวน เรียกเขาว่า อาจารย์
หลินเทียนหยวน เคยชินกับมันแล้ว
และเขาคิดว่ามันจะเป็นแบบนี้ตลอดไป
เขาไม่ได้คาดหวังเลยว่า จักรพรรดิหยวน จะอนุญาติให้เขาเรียกหลินจิ่วเฟิง ว่าท่านลุง
นี่มันหมายความว่ายังไง?
หลินเทียนหยวน นั้นค่อนข้างฉลาดไม่นานเขาก็ตระหนักได้
จากนั้นเขาก็รู้สึกตกใจ
มันเป็นความรู้สึกตกใจสุดขีด
หลังจากช็อคไปชั่วครู่ เขาก็รู้สึกกลัว
เขากลัวว่า หลินจิ่วเฟิง จะไม่ยอมรับเขา
ดังนั้นเขาจึงมองไปที่ หลินจิ่วเฟิง อย่างวิตกกังวล
หลินจิ่วเฟิงเองก็ได้มองไปที่จักรพรรดิหยวน
จักรพรรดิหยวน ได้ตอบกลับเบา ๆ“พี่ใหญ่ ข้าได้วางรากฐานสำหรับการปฏิรูปราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวาไว้แล้ว หากผู้สืบทอดของข้าโง่เขลา ความพยายามของข้าในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้คงจะสูญเปล่าและทำให้ราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวาตกลงไปในเหวลึก”
“งั้นเขาก็คือ ทายาทที่เจ้าเลือก?”หลินจิ่วเฟิง ได้มองไปที่ หลินเทียนหยวน
โดยไม่คาดคิด เด็กคนนี้ยังไม่แม้แต่จะถูกจัดเข้าสู่ลำดับวงศ์ตระกูลของราชวงศ์แต่กลับได้รับเลือกให้เป็นผู้สืบทอดของจักรพรรดิหยวน
“ใช่ เขาจะสานต่อความหวังในการปฏิรูปของข้าในอนาคต”จักรพรรดิหยวนได้พยักหน้า
“พี่ใหญ่ข้าหวังว่าท่านจะช่วยเหลือเขาในยามวิกฤติได้”จักรพรรดิหยวนได้อ้อนวอน
หลินจิ่วเฟิง ได้มองไปที่ หลินเทียนหยวน
ซึ่งนี่ทำให้ หลินเทียนหยวน รู้สึกกังวล แต่เขายังยืนตัวตรงและปล่อยให้ หลินจิ่วเฟิง มองสำรวจตัวเองอย่างชัดเจนขณะที่เขากำลังรอการยินยอมจากอีกฝ่าย
หากปราศจากการยินยอมของ หลินจิ่วเฟิง เขาก็ไม่กล้าที่จะคุกเข่า
หลังจากอยู่ด้วยกันมาเป็นเวลา 10 ปี หลินเทียนหยวน ย่อมเข้าใจอุปนิสัยและอารมณ์ของ หลินจิ่วเฟิง
“คุกเข่าลง”หลินจิ่วเฟิงได้พยักหน้า
เขาเฝ้าดู หลินเทียนหยวน เติบโตขึ้น
เขาไม่ใช่ผู้สืบทอดที่ไม่ดีต่อราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวา
แน่นอนว่าเขาดีกว่าองค์ชายคนอื่น ๆ ของจักรพรรดิหยวนอย่างแน่นอน
“ขอรับท่านลุง”หลินเทียนหยวน ได้คุกเข่าลงอย่างเคร่งขรึม
“เสด็จพ่อ”จากนั้นเขาก็โค้งคำนับให้กับจักรพรรดิหยวน
เขาได้เปลี่ยนสรรพนามในการเรียกทันที
แทนที่จะเรียกอีกฝ่ายว่า ‘ฝ่าบาท’ เขาได้เปลี่ยนเป็น ‘เสด็จพ่อ’
“ดี ข้าเชื่อมั่นว่าเจ้าจะตระหนักได้ถึงความฝันของข้าและทำให้ผู้คนหลายร้อยหลายพันล้านบนโลกนี้มีชีวิตที่ดีขึ้น”จักรพรรดิหยวน ได้เผยรอยยิ้มออกมาอย่างโล่งใจ
ตอนนี้เขาได้เลือกผู้สืบทอดของเขาแล้ว ในที่สุดเขาก็วางใจได้
มิฉะนั้นการต่อสู้ทั้งหมดที่ผ่านมาของเขามันจะไม่มีค่าอะไรเลย
“น่าเสียดายที่ข้าใช้เวลาทั้งหมดไปกับการเผาผลาญพลังชีวิตเพื่อปฏิรูปราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวา แต่ถึงอย่างนั้นข้าก็ยังไม่อาจกำจัดขุนนางชั้นสูงทั้ง 9 ลงได้”
จักรพรรดิหยวน รู้สึกทำอะไรไม่ถูก
หลินเทียนหยวน กล่าวพูดด้วยความมั่นใจ“เสด็จพ่อ ข้าจะกำจัดพวกขุนนางเหล่านั้นให้ได้”
“อย่าได้รีบร้อนเดินตามรอยข้า”
“แม้ว่าท่านลุงของเจ้าจะสามารถกำจัดปราชญ์การต่อสู้ทั้ง 9 ได้ในการโจมตีเดียว แต่พวกนั้นก็ยังได้รับการสนับสนุนจากนิกายปีศาจ…”
“พวกนิกายปีศาจมีกลวิธีแปลก ๆ มากมาย เจ้าจะต้องยืนหยัดและต่อสู้กับพวกมันอย่างมั่นคง”จักรพรรดิหยวน ได้สั่นศีรษะ ในที่สุดเขาก็ตระหนักว่าเขารีบเร่งเกินไปในแผนการกำจัดขุนนางเหล่านั้น
“หากเจ้าไม่เข้าใจสิ่งใด ก็จงไปหาท่านลุงของเจ้า…”
“เขาจะให้คำแนะนำแก่เจ้า”จักรพรรดิหยวน มองไปที่ หลินเทียนหยวน
“ข้าเข้าใจแล้ว”หลินเทียนหยวน ได้พยักหน้าทันที
หลินจิ่วเฟิง มองไปที่ พ่อลูกคู่นี้
จากนั้นเขาก็พูดอย่างใจเย็นขึ้น“ระยะเวลาหนึ่งเดือนก็เพียงพอแล้วที่ข้าจะกำจัดพวกขุนนางเหล่านั้น”
“พี่ใหญ่!”จักรพรรดิหยวน มองไปที่ หลินจิ่วเฟิง อย่างประหลาดใจ
เขาพยายามจะหยุดอีกฝ่าย
แต่หลินจิ่วเฟิง ได้ลุกขึ้นยืนและพูดขึ้น“พี่ใหญ่คนนี้ยังไม่เคยให้ของขวัญอะไรแก่เจ้าเลย”
“ครั้งนี้ข้าจะช่วยกำจัดพวกขุนนางชั่วเหล่านั้นไป มันเป็นของขวัญจากข้าคนนี้”
“ข้าจะทำในสิ่งที่เจ้าต้องการให้ลุล่วง!”หลินจิ่วเฟิง ได้ตอบกลับเสียงดัง
จักรพรรดิหยวน มองไปที่ หลินจิ่วเฟิง ด้วยความกังวล
“ท่านลุง แต่เหล่าขุนนางพวกนั้นได้รับการสนับสนุนจากนิกายปีศาจ”หลินเทียนหยวน ได้ตอบกลับเบา ๆ
“พวกมันก็เป็นเพียงแค่กลุ่มคนไร้ค่า!”การแสดงออกของ หลินจิ่วเฟิง ไม่ได้แยแส
หลังจากสังหารปราชญ์การต่อสู้ 9 คนได้ในการโจมตีเดียว หลินจิ่วเฟิง ก็รู้ว่าระดับพลังของเขาได้มาถึงจุดสูงสุดแล้วท่ามกลางการฟื้นฟูพลังของโลกในตอนนี้
เขาไม่ได้ต้องการพูดว่าตัวเขาอยู่ยงคงกระพัน
แต่ถ้าเป็นการลบเหล่าขุนนางชั่วทั้ง 9 ทิ้งไป มันไม่ใช่เรื่องยากเลย
ดังนั้นเขาจะมอบมันเป็นของขวัญให้จักรพรรดิหยวน