ตอนที่ 11
สองสามวันต่อมาหลังจากเรื่องของนิตยสารแฟชั่นนั่นทุกคนเห็นพ้องกันไม่เว้นแม้แต่วาน้องสาวของวีว่าหากวีจะรับงานเป็นนายแบบก็ไม่เป็นไร แต่หากวีทิ้งการเรียนเมื่อไหร่เป็นเรื่องแน่
ซึ่งวันนี้วีมีร้องเพลงที่ร้านเช่นเดิม ในขณะที่เขากำลังเช็คเสียงของไมค์อยู่นั้นก็ได้มีลูกค้ากลุ่มหนึ่งเดินเข้ามา ซึ่งเป็นคนที่วีไม่คิดว่าจะได้เห็น ซึ่งนั่นก็คือพี่ตุ๊กช่างภาพแฟชั่นนั่นเอง
ดูเหมือนเขาจะพาลูกน้องมาเลี้ยงข้าว เพราะทุกคนที่เดินตามพี่ตุ๊กมานั้นก็เป็นทีมงานจากกองถ่ายในวันนั้น และยังมีอีกคนก็คือเบลนางแบบสาวสวยคนนั้นด้วย
‘เอ๊ะ !?’
วีแปลกใจกับคนอีกกลุ่มที่มีกับพี่ตุ๊กซึ่งไม่คุ้นหน้า สงสัยจะเป็นลูกค้าใหม่ในครานี้คงจะมาดิลงานบวกกินเลี้ยงกันล่ะมั้ง วีไม่ได้สนใจและทำการปรับจูนเครื่องดนตรีต่อไป
พวกเขาเลือกนั่งโต๊ะใหญ่ที่อยู่ไม่ไกลจากเวทีนัก แต่ดูเหมือนพวกเขาจะไม่ได้สังเกตุเห็นวีเลยแม้แต่น้อย ก็แน่ล่ะเพราะตอนนี้วีกำลังใส่แว่นอยู่
ส่วนเหตุผลนั่นก็เพราะวีนั้นพึ่งจะเลิกอ่านหนังสือมา แน่นอนว่าไม่ใช่หนังสือเรียนหรอกแต่เป็นแคตตาล็อคกล้อง เพราะวีคิดอยากจะลองทำคอนเทนต์ออนไลน์ดูบ้างเลยต้องศึกษาเรื่องพวกนี้เอาไว้สักหน่อย
เมื่อลูกค้าเริ่มมากันเยอะแล้ววีก็ไม่รอช้านั่งลงพร้อมกับกีต้าร์ในมือ และเริ่มร้องเพลง
"เธอยังคงคิดถึงบ้างไหมในวันที่เรานั้นไกลหาง
ขอบฟ้ายังคงมองดูเลือนลาง ตั้งแต่วันที่เธอจากไป"
ทันทีที่วีร้องเพลงเสียงเชียร์ก็เริ่มดังขึ้นเล็กน้อย แต่ดูเหมือนว่าวันนี้จะดังกว่าทุกวันเนื่องจากมีลูกค้าสาวๆเยอะเป็นพิเศษ เป็นเพราะอะไรกันนะ ? วีสงสัย
เสียงร้องของวีเรียกความสนใจของกลุ่มพี่ตุ๊กทันที เมื่อหนึ่งในลูกน้องพี่ตุ๊กหันมาเห็นวีกำลังนั่งร้องเพลงอยู่บนเวทีพร้อมกับกีต้าร์ก็รู้สึกตกใจเป็นอย่างมากก่อนเธอจะหันมาพูดกับพี่ตุ๊ก
“พี่ตุ๊กคะ ดูนั่นสิค่ะ นั่นไม่ใช่น้องวีหรอกหรอ ?”
พี่ตุ๊กที่กำลังสั่งอาหารอยู่นั้นเมื่อได้ยินลูกน้องทักก็อดไม่ได้ที่จะหันไปทางเวทีก่อนจะแสดงสีหน้าแปลกใจออกมา พร้อมกับพูดขึ้นว่า
“ใช่วีจริงๆนั่นแหละ ไม่คิดเลยว่าเขาจะร้องเพลงเพราะขนาดนี้”
ก่อนที่พี่ตุ๊กจะโบกมือทักทายวี ซึ่งยิ้มก็ได้แต่พยักหน้ารับพร้อมกับร้องเพลงต่อ
"ช่วยปลอบใจดวงนี้ ที่ยังคงคอย
และยังรอคอยเธอกลับมาหา
ในคืนที่โหดร้าย หัวใจอ่อนล้า
เธอรู้ไหมว่า ฉันคิดถึงเธอ"
หลังจากได้ยินเสียงของวีพี่ตุ๊กก็อดไม่ได้ที่จะสงสัยจึงหันไปถามกับพนักงานร้าน
“นี้น้องพี่ขอถามได้ไหมว่านักร้องที่อยู่บนเวทีนั้น เป็นนักร้องประจำของร้านเหรอ ?”
พนักงานที่ได้ยินแบบนั้นก็ส่ายหน้าก่อนจะพูดออกมาอย่างยิ้มๆ
“ไม่ใช่หรอกค่ะ น้องวีเขาเป็นลูกชายเจ้าของร้านน่ะค่ะ”
พี่ตุ๊กและทีมงานรวมถึงเบลที่ได้ยินแบบนั้นก็แปลกใจออกมาก่อนที่พี่ตุ๊กจะถามไปอีกว่า
“ว่าแต่วีเขาเป็นนักร้องหรอ ถึงร้องเพลงซะเพราะเชียว ?”
“อันนี้ก็ไม่รู้เหมือนกันนะคะ เพราะน้องวีเขายังอายุน้อยอยู่ไม่น่าจะเป็นนักร้องได้”
พนักงานตอบ พี่ตุ๊กเองที่ได้ยินแบบนั้นก็พยักหน้าเข้าใจก่อนจะถามอีกว่าวีนั้นจะมาร้องเพลงวันไหนบ้าง พนักงานจึงตอบกลับไปว่าวีนั้นจะมาร้องเพลงที่ร้านทุกวันพฤหัส และเสาร์อาทิตย์
เมื่อได้ข้อมูลครบแล้วพี่ตุ๊กก็ปล่อยให้พนักงานกลับไปทำงานหน้าที่ของตนเอง ก่อนจะหันกลับไปคุยเรื่องงานกับทางลูกค้าที่พามาด้วยต่อ
ทางด้านวีเองหลังจากร้องเพลงจบก็ต่ออีกสามสี่เพลงก่อนจะลงจากเวทีเพื่อพักผ่อน วีนั่งลงที่โต๊ะประจำก่อนเปิดพัดลมเบอร์แรงสุดและดื่มน้ำด้วยความเหนื่อยอ่อน
“เฮ้อ ~ ร้อนจริงๆเลย”
วีบ่นออกมาก่อนที่จะได้ยินเสียงของใครบางคนจากด้านหลัง
“ร้องเพลงเพราะนะเรา”