80Y-ตอนที่ 18 การมาถึงของแต่ละคน
เรื่องเกี่ยวกับการถอดยศขุนนางชั้นสูงได้กลายเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง
นอกเหนือจากผู้คนในราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวาแล้ว กองกำลังหลักทั่วโลกต่างจับจ้องเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ด้วยเช่นเดียวกัน
ใครจะเป็นผู้ชนะการต่อสู้ ระหว่างขุนนางชั้นสูงทั้ง 9 กับ จักรพรรดิหยวน?
ขุนนางทั้ง 9 ได้แสดงออกมาอย่างชัดเจนว่าพวกเขาปฏิเสธที่จะเดินทางมายังเมืองหลวงเพื่อฉลองพระชนม์พรรษครบรอบ 80 ปีของจักรพรรดินีตู๋ว่านเจ๋อ
เช่นนั้นจักรพรรดิหยวนจะทำอย่างไรต่อ?
สิ่งเหล่านี้ล้วนดึงดูดความสนใจของทุกคนในโลก
หลายคนรู้สึกประหม่ากลัวว่าการปะทุของสงครามจะส่งผลกระทบต่อพวกเขา
แต่ หลินจิ่วเฟิง ในตำหนักเย็น ไม่ได้รับผลกระทบใดเลย
[คุณต้องการลงชื่อเข้าใช้ซากปรักหักพังของนิกายซากศพหรือไม่?]
ในวันนี้ หลินจิ่วเฟิง ได้มาถึงส่วนลึกของตำหนักเย็น มันเป็นห้องโถงบรรพบุรุษที่ถูกทิ้งร้างมาเป็นเวลานาน นี่ก็คือซากปรักหักพังของนิกายซากศพ
“ยืนยันการเข้าใช้!”หลินจิ่วเฟิง ได้ตอบกลับ
[ลงชื่อเข้าใช้สำเร็จ ได้รับทักษะกระบี่กระดูกมรณะ,กระบี่กระดูก!]
หลินจิ่วเฟิง เต็มไปด้วยความยินดี
เขาไม่คิดเลยว่าเขาจะได้รับทักษะและสมบัติจากการลงชื่อเข้าใช้ในวันนี้
นี่ไม่ใช่ทักษะเพียงอย่างเดียวแต่มันเป็นทักษะชุดที่ควบคุมไปกับสมบัติ
มันไม่เคยมีฉากนี้เกิดขึ้นมาก่อน นี่เป็นครั้งแรกสำหรับเขา
หลินจิ่วเฟิง ได้กลับไปยังลานที่พักของเขาหลังจากออกจากซากปรักหักพังของนิกายซากศพ
เขาเห็นกระบี่กระดูกปักอยู่ทั่วพื้นในสนาม พวกมันเปล่งกลิ่นอายอันเยือกเย็นออกมาให้ความรู้สึกที่น่ากลัวเล็กน้อย
กระบี่เหล่านี้เป็นกระบี่ยาวที่ทำขึ้นจากกระดูกที่ดูน่ากลัวอย่างไม่น่าเชื่อ
เมื่อเขานับมันอย่างระวัง หลินจิ่วเฟิง ก็พบว่ามีกระบี่กระดูกทั้งหมด 356 เล่ม
หลินจิ่วเฟิง ได้ดึงหนึ่งในนั้นออกมา เขาถูกคลื่นพลังงานเย็นแทรกซึมเข้าร่างกายในทันที อย่างไรก็ตามเขากลับไม่ได้รับอันตรายจากพลังงานความเย็น กลับกันเขารู้สึกเพียงความเย็นที่แผ่ซ่านไปทั่วร่างและทำให้ศีรษะของเขาสั่นสะท้านจิตวิญญาณกลับเพิ่มพูนขึ้นเป็นร้อยเท่า
“กระบี่กระดูกเหล่านี้เป็นสมบัติชุด และ ดูเหมือนว่ามันจะมีความเกี่ยวข้องกับข้า”
หลินจิ่วเฟิง ได้มองไปที่ ทักษะลับที่วางอยู่บนโต๊ะ
ทักษะกระบี่กระดูกมรณะ!
เขาได้วางกระบี่กระดูกลงและเดินไปดูทักษะลับ
ข้อมูลเกี่ยวกับทักษะกระบี่ได้พุ่งเข้าไปในดวงตาของ หลินจิ่วเฟิง
บูม!
ในจิตวิญญาณของเขา หลินจิ่วเฟิง ได้เข้าใจเกี่ยวกับทักษะกระบี่กระดูกมรณะได้อย่างสมบูรณ์
เขาได้เหยียดแขนออกและยกมือขึ้น เสียงดังสนั่นได้ปรากฏขึ้นทีละครั้ง
ทันใดนั้น กระบี่กระดูกทั้ง 365 เล่ม ก็บินขึ้นไปบนฟ้าและวนรอบกายของ หลินจิ่วเฟิง ทำให้เขาดูเหมือนกับราชาผู้อยู่ยงคงกระพันของโลก
“ทักษะกระบี่กระดูกมรณะทรงพลังอย่างมาก และด้วยเจตจำนงค์การต่อสู้ของข้ารวมถึงความช่วยเหลือจากการควบคุมพลังงานทางโลก ศัตรูที่ยืนอยู่ตรงหน้าข้าล้วนเป็นเพียงภาพมายาที่ข้าสามารถทำลายได้ด้วยการสะบัดนิ้ว”
หลินจิ่วเฟิง ได้มองไปที่กระบี่กระดูกรอบตัวเขา
ความมั่นใจของเขาได้เพิ่มมากขึ้น
ในขณะนี้ เขากลับมีความรู้สึกอันสูงส่งในใจ
หลินจิ่วเฟิง ได้สลายพลังของเขาในทันที ขณะเดียวกันกระบี่กระดูกเหล่านั้นก็ร่วงลงไปทีละอันและสอดลงไปในพื้น
“น่าเสียดายที่ทักษะกระบี่กระดูกมรณะไม่มีผลในการเพิ่มฐานการบ่มเพาะพลังของข้า”หลินจิ่วเฟิง บ่นพึมพัมออกมาด้วยความเสียใจ
กระบี่และทักษะชุดนี้ทำให้พลังการต่อสู้ของเขาเพิ่มสูงขึ้นมาก แต่การบ่มเพาะพลังของเขาก็ไม่ได้พัฒนาขึ้นเลย
หลังจาก หลินจิ่วเฟิง รู้สึกตื่นเต้นในช่วงเวลาสั้น ๆ เขาก็กลับสู่ความสงบอีกครั้ง
เขามองขึ้นไป
ท้องฟ้าในเมืองหลวงมีเมฆมากและแดดเมื่อเร็ว ๆ นี้
สักครู่ท้องฟ้าก็พลันไร้เมฆ
แต่ในเวลาต่อมา ฝนที่ตกหนักก็เทลงมา
มันเหมือนกับอารมณ์ของผู้หญิง ที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา
“ช่วงนี้มีเมฆดำปกคลุมไปทั่วพระราชวังต้องห้าม ดูเหมือนว่าเรื่องใหญ่กำลังจะเกิดขึ้น”หลินจิ่วเฟิง ได้มองดูท้องฟ้าเหนือพระราชวังต้องห้ามอีกครั้ง
และจักรพรรดิหยวนก็คือต้นตอของปัญหาในขณะนี้
เขาต้องการที่จะกำจัดขุนนางชั้นสูงออกไปแต่การต่อต้านนั้นรุนแรงเกินไป
เขากังวลเกินไปที่จะเปลี่ยนแปลง เป็นผลให้สถานการณ์ในปัจจุบันเริ่มไม่เสถียร
หลินจิ่วเฟิง ได้ถอนหายใจให้กับเรื่องนี้ ไม่มีอะไรที่เขาสามารถทำได้
เขาเป็นเพียงองค์ชายที่ถูกขับไล่ ทั้งหมดที่เขาทำได้คือลงชื่อเข้าใช้สถานที่อย่างสงบในตำหนักเย็น
จักรพรรดิหยวน ยังไม่ได้พลาดท่า
แล้วเหตุใดเขาจะต้องรีบเคลื่อนไหว?
…
ตอนดึก!
พระราชวังต้องห้าม ห้องโถงกลาง
จักรพรรดิหยวนได้ทรงงานราชกิจอยู่เช่นเคย
พระราชวังต้องห้าม ตั้งแต่ฤดูใบไม้ผลิจนถึงฤดูใบไม้ร่วง เขาเป็นจักรพรรดิพระองค์เดียวที่ทรงงานหนัก
หลินเทียนหยวน ประทับใจในความขยันของพ่อของเขา
แต่ในขณะเดียวกันเขาก็รู้สึกหนักใจ
ราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวา ที่กำลังเผชิญหน้ากับวิกฤติเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่แต่กลับมีจักรพรรดิที่ลุกขึ้นมาต่อต้านสิ่งนั้น ไม่รู้ว่านี่เป็นโชคดีของราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวาหรือโชคร้ายของจักรพรรดิหยวนกันแน่
“นี่ก็ดึกมากแล้ว เจ้ากลับไปฝึกฝนต่อเถอะ”
เมื่อเห็นว่ายังมีงานราชกิจกองขนาดใหญ่ จักรพรรดิหยวน มองไปที่ หลินเทียนหยวน ที่เฝ้าเขาตลอดทั้งวันทั้งคืน
หัวใจของจักรพรรดิหยวน รู้สึกอบอุ่นอย่างมาก
มีองค์ชายจำนวนมาก แต่ไม่มีใครสามารถทำให้เขารู้สึกสบายใจเท่ากับ หลินเทียนหยวน
“ท่านพ่อ ข้ายังไม่เหนื่อย”หลินเทียนหยวน ได้สั่นศีรษะ
เขาจะเฝ้าจักรพรรดิหยวนต่อไป
เขาไม่ได้มีความสุขกับการดูแลพ่อของเขามาหลายปีแล้ว แต่ตราบใดที่เขาอยู่กับพ่อตอนนี้ หลินเทียนหยวน รู้สึกมีความสุขมาก
“ตกลง”จักรพรรดิหยวน ได้เผยรอยยิ้มที่อ่อนล้า
เขายังคงทบทวนงานราชกิจต่อไป แต่ในใจของเขากลับรู้สึกอบอุ่น
“ทบทวนงานราชกิจจนดึกดื่น ดูเหมือนว่าเจ้าจะทรงงานหนักมากทีเดียว…”
“ไม่ทราบว่างานราชกิจเหล่านั้นคือหนทางในการกำจัดขุนนางชั้นสูงใช่หรือไม่?”จู่ ๆ ก็มีเสียงที่เย็นชาดังขึ้น ร่างหนึ่งได้ปรากฏขึ้นด้านนอกห้องโถงกลาง
แสงจันทร์ได้สาดส่องบนร่างกายของเขา มีเงาขนาดใหญ่ฉายเข้ามาภายในห้องโถง
มันเต็มไปด้วยภูเขาเนื้อจำนวนมาก
“เจ้าเป็นใคร?”
หลินเทียนหยวน ได้ตะโกนขึ้นอย่างรวดเร็ว และ ไปปรากฏตัวด้านหน้าจักรพรรดิหยวนอย่างเร่งรีบพร้อมกับเตรียมท่าต่อสู้
“โกวเทียนเต๋อ นั่นเป็นชื่อที่ข้าได้รับข้าไม่ได้เปลี่ยนหรือคิดซ่อนมัน!”ชายที่ดูเหมือนภูเขาเนื้อได้พูดขึ้น
“โกวเทียนเต๋อ!”จักรพรรดิหยวน เงยหน้าขึ้นด้วยความประหลาดใจ
เขาจับหลินเทียนหยวนและกระซิบทันที“อย่าได้เข้ามายุ่ง นี่คือคำสั่ง!”
หลินเทียนหยวน ได้ถูกจักรพรรดิหยวนดึงออกไปเขาไม่อยากให้อีกฝ่ายมีส่วนร่วมในครั้งนี้
“ในบรรดาคนที่ติดตามจักรพรรดิผู้ก่อตั้งในการสร้างราชวงศ์ มีคนที่แซ่ โกว อยู่ เจ้าเกี่ยวข้องอะไรกับเขา?”จักรพรรดิหยวน ได้ยืนขึ้น
เขาได้เดินอย่างใจเย็นไปที่ใจกลางห้องโถงและกล่าวถาม
“ข้าคือคนที่ต่อสู้เพื่อสร้างราชวงศ์ให้กับตระกูลหลินของเจ้า แต่ตอนนี้ เจ้ากลับจะทวงดินแดนที่จักรพรรดิผู้ก่อตั้งทรงมอบให้กับพวกเราคืนกลับไปหรือไม่ ? เจ้าคิดว่าพวกเราไร้ตัวตนมากขนาดนั้นเลยเหรอ?”โกวเทียนเต๋อ ได้หัวเราะออกมา
เขาเป็น 1ใน9 ขุนนางชั้นสูง และ เขามาที่นี่เพราะการเดิมพัน
เขามาที่นี่เป็นคนแรกเพื่อสังหารจักรพรรดิหยวน
“ทุกดินแดนในพื้นที่ราชวงศ์ล้วนเป็นของจักรพรรดิ ทุกคนในราชวงศ์ล้วนเป็นข้ารับใช้ของจักรพรรดิ!”
“ดินแดนที่มอบให้พวกเจ้าในตอนนั้นก็เพราะเป็นการทำงานหนักของพวกเจ้า! มันเป็นรางวัลให้แก่พวกเจ้าทุกคน โดยหวังว่าพวกเจ้าจะจัดการมันได้เป็นอย่างดี”
“แต่จนถึงตอนนี้ พวกเจ้ากลับกดขี่และเอารัดเอาเปรียบประชาชน ไม่สนใจกฏหมาย สร้างกองทัพส่วนตัว และ แม้กระทั่งจะริเริ่มสงคราม พวกเจ้าคือพวกกบฏ!”
“ดังนั้นพวกกบฏสมควรถูกกำจัด!”
จักรพรรดิหยวน ไม่ได้มีรูปร่างใหญ่โต่และกลิ่นอายพลังที่สะกดข่มเหมือนกับ โกวเทียนเต๋อ แต่คำพูดของเขาหนักแน่นดั่งขุนเขา มันคือคำพูดขององค์จักรพรรดิที่แท้จริง
“เจ้ากล้าอวดดีต่อหน้าข้าต่อหน้าคนที่แข็งแกร่งกว่าเจ้า วันนี้จะเด็ดศีรษะของเจ้าให้หลุดออกจากบ่านั่นเอง ข้าจะส่งเจ้าไปพบกับจักรพรรดิผู้ก่อตั้งราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวา เพื่อที่เจ้าจะได้คุกเข่าลงต่อหน้าเขาด้วยความเสียใจที่เจ้าได้กระทำลงไป”
โกวเทียนเต๋อ รู้สึกโกรธมาก
เขาโกรธแค้นกับพฤติกรรมของจักรพรรดิหยวน ดังนั้นเขาจึงพุ่งออกไปหมายจะคว้าร่างของจักรพรรดิหยวนและเด็ดศีรษะของอีกฝ่ายออกมา
บูม!
แต่วินาทีต่อมา ไร้นาม ก็ปรากฏตัวขึ้นจากความมืด
เขาได้ซัดฝ่ามือของ โกวเทียนเต๋อ ออกไปด้วยกำปั้นของเขา
คลื่นพลังจากการปะทะส่งผลให้พื้นที่โดยรอบพลันระเบิดออก ห้องโถงกลางกว่าครึ่งได้ถูกทำลายโดยตรง และ สิ่งนี้ทำให้องค์รักษ์ของพระราชวังล้วนตื่นตระหนก
“นี่คือเหตุผลที่เจ้ากล้ามากเพียงนี้? เพราะมีผู้ฝึกยุทธ์ขั้นปราชญ์การต่อสู้ ซ่อนตัวอยู่ในพระราชวังต้องห้าม?”โกวเทียนเต๋อ ได้หัวเราะออกมา แม้ว่าไร้นามจะหยุดเขาจากการสังหารจักรพรรดิหยวน แต่เขาก็ไม่ได้รับบาดเจ็บใด ๆ
ร่างกายที่เหมือนภูเขาเนื้อของเขาได้เคลื่อนไหวอย่างสมบูรณ์แบบกว่าเมื่อก่อน
“ข้าจะทุบตีผู้ฝึกยุทธ์ขั้นปราชญ์การต่อสู้คนนี้ให้เป็นชิ้น ๆ จากนั้นค่อยฆ่าเจ้า!”
โกวเทียนเต๋อ ได้คำรามออกมาและพุ่งเข้าใส่ ไร้นาม
บูม!
การต่อสู้ระหว่าง ปราชญ์การต่อสู้ สองคนนั้นเป็นการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่และมันทรงพลังมาก
จักรพรรดิหยวน มองไปที่ โกวเทียนเต๋อ อย่างเย็นชา เขาไม่ได้สังเกตุเลยว่าข้างหลังเขามีเงาร่างหนึ่งปรากฏตัวขึ้นจากเงามืด และ มันถือกริชอันแหลมคม
นักฆ่าเงา!
ยิ่งไปกว่านั้น นักฆ่าเงา คนนี้จะเป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นปราชญ์การต่อสู้ที่มาลอบสังหารองค์จักรพรรดิ
“เหิมเกริมยิ่งนัก! จักรพรรดิแห่งราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวา หาใช่คนที่ถูกลอบสังหารโดยตัวตลกที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืดตลอดเช่นเจ้าไม่?”
ปราชญ์การต่อสู้ ของราชวงศ์ จักรพรรดิเฒ่าเมื่อ 2 รุ่นก่อน และ ปู่ของจักรพรรดิหยวน ได้ปรากฏตัวขึ้น
ภายใต้ความโกรธของเขา เขาได้ซัดการโจมตีออกไปอย่างรุนแรงและสกัดกั้นพลังของ นักฆ่าเงา ได้ในพริบตา
ต่างฝ่ายต่างพัวพันกันและกัน
จักรพรรดิหยวน ขมวดคิ้วแน่น เขาไม่ได้คาดหวังเลยว่าตระกูลขุนนางชั้นสูงทั้ง 9 จะส่ง ปราชญ์การต่อสู้ สองคนมาลอบสังหารเขา
แต่ขณะที่เขาคิดว่าตนเองปลอดภัยแล้ว
วินาทีต่อมา หอกยาวขนาดใหญ่อันน่าสะพรึงกลัวก็พุ่งมาจากระยะไกล
เป้าหมายก็คือจักรพรรดิหยวน
“ตายซะ! ข้าคือผู้ที่ชนะการเดิมพันในครั้งนี้!”
ชายวัยกลางคนที่ปาหอกออกไป รู้สึกภูมิใจในตัวเองมาก
การโจมตีของ ปราชญ์การต่อสู้เช่นเขา สามารถฆ่าจักรพรรดิหยวน ที่เป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นปรมาจารย์ได้อย่างง่ายดาย
เปรี้ยง!
ขณะที่สถานการณ์กำลังตาลปัตร หอกยาวที่ถูกขว้างออกมาก็ถูกแยกออกเป็นสองส่วนโดยตรง
เพร้ง!
คลื่นพลังอันน่าสะพรึงกลัวได้ระเบิดออกมา
ชายผู้ที่ขว้างหอกยาวนี้ดวงตาเบิกกว้างไปด้วยความตกใจ“เป็นไปได้ยังไง?”