368 - กลายเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง
368 - กลายเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง
เอี้ยนลี่เฉียงไม่ได้ถูกจักรพรรดิ์เรียกเข้าพบ แม้ว่าหลิวกงกงจะเข้าวังแต่การจะให้ผู้บัญชาการหยิงหยางตัวเล็กๆอย่างเขาเข้าพบจักรพรรดิก็ดูเป็นเรื่องที่ไร้สาระอย่างยิ่ง
หลังจากเข้าไปในวังเอี้ยนลี่เฉียงก็ถูกทิ้งให้รออยู่ที่ด้านนอกนานกว่าชั่วยามเต็ม หลังจากที่กลับออกมาแล้วหลิวกงกงก็เต็มไปด้วยรอยยิ้มแล้วบอกกับเอี้ยนลี่เฉียงว่าทุกอย่างจบลงแล้ว
ในตอนกลางคืนเอี้ยนลี่เฉียงได้ยินมาว่าจักรพรรดิทรงตำหนิเสนาบดีกรมอาญาเป็นการส่วนตัว ในขณะเดียวกันทุกคนที่เกี่ยวข้องกับคดีของเขาก็ถูกปลดออกจากตำแหน่ง
และวันพิจารณาคดีของเขาจะดำเนินขึ้นในอีกสามวันข้างหน้าโดยจะทำการพิจารณาคดีในจัตุรัสกลางเมืองหลวงเพื่อให้บุคคลทั้งเมืองสามารถเข้าฟังการพิจารณาคดีได้
ข่าวของเรื่องนี้แพร่กระจายไปทั่วเมืองหลวงอย่างรวดเร็วทำให้ทุกคนต่างก็ได้ยินชื่อเสียงของเอี้ยนลี่เฉียง
เอี้ยนลี่เฉียงรู้สึกว่าเรื่องนี้ดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่ดีสำหรับจักรพรรดิ ความผิดพลาดของกรมอาญาเปิดโอกาสให้จักรพรรดิ์สามารถใช้ประโยชน์ของเรื่องนี้ส่งคนของตัวเองสอดแทรกเข้าไปได้
นี่เป็นการต่อสู้ของยักษ์ใหญ่แห่งจักรวรรดิซึ่งตามปกติแล้วคนธรรมดาจะไม่ต้องการมีส่วนร่วมในเรื่องนี้
หากเอี้ยนลี่เฉียงยังคงเป็นเหมือนเมื่อก่อนเขาก็ไม่อยากมีส่วนร่วมเช่นกัน อย่างไรก็ตามเอี้ยนลี่เฉียงไม่สามารถถอยหลังกลับในเรื่องนี้ได้
ในตอนนี้เขาถือเป็นตัวละครที่มีความสำคัญมากที่สุดของเรื่องแล้วเขาจะปลีกตัวออกจากเรื่องนี้ได้อย่างไร? มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่เขาจะยอมให้คนอื่นเชือดเฉือนตามอำเภอใจ
ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาตั้งแต่กลับมามีชีวิตอีกครั้งเขาได้ลงมือสังหารผู้คนมากมายที่อาจเป็นภัยแก่เขาในอนาคต เรื่องนี้ก็เช่นกัน
เอี้ยนลี่เฉียงเชื่อว่าซูหลางและสหายของเขาคงไม่ใช่คนสุดท้ายที่เขาจะฆ่าในกระบวนการแย่งชิงอำนาจอย่างแน่นอน
เอี้ยนลี่เฉียงรู้ดีว่าชื่อเสียงของเขาจะกลายเป็นที่โจษจันในเมืองหลวง แต่เขาไม่ได้หวาดกลัว หลังจากนี้เขายังเตรียมที่จะลงข่าวเรื่องนี้เพื่อเรียกร้องกระแสของมวลชนอีกด้วย!
“ในช่วงเวลานี้ก่อนพิจารณาคดีเจ้าต้องอยู่ในคฤหาสน์กวางอย่าได้ไปไหนเพื่อไม่เปิดโอกาสให้ใครสามารถจับผิดเจ้าได้!”
เอี้ยนลี่เฉียงพยักหน้า เขารู้ดีว่าหลิวกงกงเป็นจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ดังนั้นประสบการณ์ของเขาย่อมมีมากกว่าเอี้ยนลี่เฉียงหลายเท่า
ตลอดสามวันข้างหน้า เอี้ยนลี่เฉียงยังคงฝึกฝนอย่างไม่ลดละตามปกติในทุกๆวัน จากนั้นเขาก็เดินทางเข้าสู่อาณาจักรสวรรค์เพื่อสืบข่าวที่สามารถใช้เป็นประโยชน์ให้กับโลกแห่งความจริงได้
สามวันผ่านไปในพริบตา
ในวันที่ 8 เดือน 7 ในปีที่ 13 ของรัชกาลหยวนผิง เอี้ยนลี่เฉียงตื่นขึ้นในตอนเช้าและเปลี่ยนเป็นชุดเสื้อผ้าที่สะอาดและเรียบร้อย
หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว เอี้ยนลี่เฉียงก็ตรงไปที่ลานบ้านของหลิวกงกงและยืนรออยู่ด้านนอก เขาไม่ได้รอนานนักก็เห็นหลิวกงกงสวมชุดขันทีใหญ่แห่งจักรวรรดิเดินออกมาพร้อมกับเด็กรับใช้ของเขา
“อืม ลี่เฉียง เจ้ามานานหรือยัง? เหตุไฉนจึงไม่เข้าไปข้างใน” เมื่อเห็นว่าเอี้ยนลี่เฉียงรออยู่ข้างนอกหลิวกงกงก็พูดอย่างเป็นกันเอง
นับตั้งแต่เขาสังเกตเห็นว่าทัศนคติของเอี้ยนลี่เฉียงที่มีต่อผู้คนของกรมอาญาเป็นเช่นไร หลิวกงกงก็รู้สึกพึงพอใจในตัวเอี้ยนลี่เฉียงเป็นอย่างมาก เขาคิดว่าเด็กน้อยคนนี้คู่ควรแก่การส่งเสริม
“กลัวว่าจะรบกวนเวลาพักผ่อนของกงกง ดังนั้นข้าจึงคิดว่าน่าจะรออยู่ที่นี่ดีกว่า เมื่อคืนที่ผ่านมากงกงนอนหลับฝันดีหรือไม่” เอี้ยนลี่เฉียงยิ้มและทักทายหลิวกงกงอย่างเป็นกันเอง
ความคิดในสมองของหลิวกงกงถูกเอี้ยนลี่เฉียงล่วงรู้หมดแล้ว ขันทีเฒ่าคนนี้ชื่นชอบคนที่มีความเคารพ ดังนั้นเอี้ยนลี่เฉียงจึงแสดงความเคารพออกมาให้ฝ่ายตรงข้ามพึงพอใจ
“ใช่ แน่นอนสองสามวันที่ผ่านมาฝนตกค่อนข้างดีและอากาศก็ดีทำให้ข้านอนหลับดีมาก!” หลิวกงกงยิ้มขณะมองไปที่เอี้ยนลี่เฉียง
“ใช่ การฝึกตอนเช้าของเจ้า…”
“เมื่อวานข้าแจ้งเรื่องนี้กับอาจารย์แล้ว!”
“ได้ งั้นไปกันเลย!”
“ตามที่กงกงเห็นสมควร!”
ซึ่งแตกต่างจากเมื่อสามวันก่อน คราวนี้หลิวกงกงเลือกกรมทหารม้าจากคฤหาสน์กวางควบขับม้าแรดร่างกายสูงใหญ่เข้าสู่เมืองหลวงพร้อมกับเอี้ยนลี่เฉียง
วันนี้การกระทำของเขาไม่เหมือนกับการพาเอี้ยนลี่เฉียงไปรับฟังการพิจารณาคดี แต่มีเจตนาข่มขู่ฝ่ายตรงข้ามอย่างแน่ชัด
ฝนตกติดต่อกันหลายวันเมื่อบ่ายของเมื่อวานนี้ แต่ในวันนี้กลับมีแสงแดดอ่อนๆจึงทำให้อากาศสดชื่นเป็นอย่างมาก และมีผู้คนกลุ่มใหญ่รออยู่ที่บริเวณพิจารณาคดีแล้ว
ในขณะที่เอี้ยนลี่เฉียงนั่งอยู่ในรถมาเขาก็ได้ยินผู้คนในเมืองสนทนากันอย่างตื่นเต้น
“นี่เป็นคดีที่แปลกประหลาดที่สุดในรอบ 100 ปีของเมืองหลวง ผู้บัญชาการหยิงหยางซึ่งเป็นเพียงเด็กหนุ่มคนหนึ่งถูกกล่าวหาว่าสังหารยอดฝีมือระดับปรมาจารย์หลายคน ช่างเป็นเรื่องที่ไร้สาระจริงๆ!”
“เฮ้ เจ้าหนุ่ม เจ้าขายอะไร”
“นี่คือหนังสือพิมพ์ 'ช่วงเวลาอันยิ่งใหญ่ของอาณาจักรฮั่น' หากท่านต้องการอ่านเนื้อหาในหนังสือพิมพ์ จะต้องใช้เงินหกเหรียญทองแดง…”
สีหน้าของเอี้ยนลี่เฉียงดูแปลกไปเมื่อเขาได้ยินเสียงเรียกบนถนนด้านนอกรถม้า เขาไม่ได้คาดหวังว่าฟางเป่ยโต้วจะมีปฏิกิริยาที่รวดเร็วเช่นนี้
หลิวกงกงก็ได้ยินเสียงตะโกนเช่นกัน และเขาก็เหลือบมองไปทางเอี้ยนลี่เฉียงด้วยรอยยิ้มก่อนจะยื่นนิ้วไปเคาะที่ประตูรถมาเบาๆ
“กงกง มีอะไรเหรอ?” เสียงของหลี่น้อยดังขึ้นจากด้านข้างคนขับ
“ไปซื้อหนังสือพิมพ์จากเด็กน้อยคนนั้นมาให้ข้า…”
"ขอรับ!"
หลี่น้อยลงไปชั่วครู่จากนั้นก็รีบวิ่งกลับมาอย่างรวดเร็ว
“กงกงหนังสือพิมพ์ของท่าน…”
หลิวกงกงหยิบหนังสือพิมพ์ขึ้นมาเปิดอ่าน พาดหัวเข่าก็ทำให้เขาตกใจจนตาค้าง
'คดีแปลกที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนในช่วง 100 ปีที่ผ่านมาจะถูกพิจารณาคดีโดยตุลาการสามฝ่ายของกรมอาญาที่จัตุรัสกลางเมืองช่วงสายของวันนี้'
…
เกือบในเวลาเดียวกัน ผู้คนมากมายตามท้องถนนและในร้านอาหารเริ่มซื้อหนังสือพิมพ์ บางคนซื้อเพราะถูกดึงดูดโดยเสียงตะโกนของเด็กขายหนังสือพิมพ์
ในขณะที่บางคนซื้อเพราะได้ยินจากนักเล่าเรื่องว่าเนื้อหาของเรื่องการเดินทางสู่ตะวันตกจะถูกตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์เล่มนี้
ด้วยสองสิ่งนี้ในวันนี้ ยอดขายสิ่งพิมพ์ครั้งที่สองของ 'ช่วงเวลาอันยิ่งใหญ่ของอาณาจักรฮั่น' จึงล้นหลามจนต้องตีพิมพ์ซ้ำ
เมื่อเทียบกับการตีพิมพ์ครั้งแรก จุดขายของหนังสือพิมพ์ฉบับที่ 2 นี้น่าสนใจยิ่งกว่าขอเพียงได้อ่านพาดหัวเข่าทุกคนก็ยินยอมที่จะซื้อโดยไม่ลังเล
“พี่อู๋ ข้าขายหมดแล้ว ดูเหมือน 40 เล่มจะไม่พอขายข้าขอเป็น 50 เล่มเลยก็แล้วกัน...”
“พี่อู๋น้อย ท่านเอาให้ข้า 200 เล่มเลยเพราะร้านหนังสือฉินหัวก็สั่ง 50 เล่มแล้ว”
“ข้าต้องการ 100 เล่มเช่นกัน คนที่ฟังเรื่องราวในร้านอาหารหลายร้านล้วนแล้วแต่สนใจการเดินทางสู่ตะวันตกทั้งสิ้น…”
เสียงกระทบกันของเหรียญทองแดงที่หย่อนลงไปในกล่องเงินดังขึ้น และกองหนังสือพิมพ์ก็ถูกแจกจ่ายออกไปอย่างรวดเร็ว
ในเวลาไม่กี่ชั่วยามชื่อเสียงของเอี้ยนลี่เฉียงก็เป็นเหมือนพลุไฟที่ถูกยิงขึ้นสู่ท้องฟ้า