ตอนที่ 842 ส่งไฟล์ที่แอบบันทึกมานะ
แต่ตอนนี้เมื่อพวกเขารู้แล้ว เธอก็ไม่มีอะไรให้ต้องปิดบังอีก
เธอไม่เคยคิดที่จะปิดบังอะไรอยู่แล้ว
เธอยิ้มและเดินออกจากห้องน้ำ
เธอเหลือบมองทั้งสองคนและพูดว่า
“ที่นี่เป็นร้านอาหารนี่คะ คนไหนในเมืองหยุนเฉิงก็มาที่นี่ได้ทั้งนั้น คุณซูกับคุณเฉียว คุณไม่คิดว่าคำถามของพวกคุณดูตลกไปหน่อยเหรอ?”
ซูเจ๋อตกตะลึง ริมฝีปากของเขาขยับราวกับว่าเขาต้องการจะพูดอะไร แต่ก่อนที่เขาจะทำอะไร เฉียวอันซินก็พูดแทรกขึ้นเสียก่อน
“เฉียวเมียนเมียน แกมันคนชั้นต่ำ มาแอบฟังคนอื่นเขาคุยกัน”
เฉียวเมียนเมียนอดหัวเราะไม่ได้
“ฉันน่ะเหรอแอบฟังคุณ? อย่ามาขวางทางคนอื่นเขาจะได้ไหม พวกคุณกำลังขวางประตูห้องน้ำอยู่นะ แล้วยังจะมาโทษว่าคนอื่นแอบฟังอีก?”
“คิดว่าฉันอยากจะฟังงั้นเหรอ? ไร้สาระน่า ทำไมฉันจะต้องมาแอบฟังด้วย? ในเมื่อพวกคุณกำลังขวางทางฉัน หลีกทางด้วยค่ะ”
เฉียวเมียนเมียนมองไปที่ทั้งสองคนด้วยความรังเกียจอย่างไม่ปิดบัง
“ถ้าฉันไปแล้ว พวกคุณอยากจะคุยอะไรกันต่อ ก็ตามสบาย จะให้ฉันพูดอีกครั้งไหม ว่าฉันไม่สนใจเรื่องที่พวกคุณกำลังพูด”
สิ่งที่เฉียวอันซินเกลียดที่สุดคือสิ่งที่เธอทำ
ความคิดที่ว่าเฉียวเมียนเมียนได้ยินบทสนทนาระหว่างเธอกับซูเจ๋อนั้น ทำให้เฉียวอันซินรู้สึกอับอายเป็นอย่างมาก
ซูเจ๋อต้องการเลิกกับเธอ
และเฉียวเมียนเมียนก็มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ด้วย
เฉียวอันซินเป็นคนที่ต้องการจะแข่งกับเฉียวเมียนเมียน และไม่ต้องการตามหลังเฉียวเมียนเมียนในทุก ๆ ด้าน
เหตุผลที่เธอหลอกล่อซูเจ๋อให้ออกห่างจากเฉียวเมียนเมียน ก็เป็นส่วนหนึ่งในการแข่งขันนั้น
เพราะเธอรู้สึกว่าซูเจ๋อเป็นที่น่าสนใจ และอีกส่วนหนึ่งเป็นเพราะซูเจ๋อเป็นแฟนของเฉียวเมียนเมียน
เธอรู้สึกถึงความสำเร็จที่เธอสามารถแย่งซูเจ๋อมาได้
แต่ตอนนี้เฉียวเมียนเมียนกลับไปอยู่กับผู้ชายที่มีอำนาจมากกว่า
เธอเลิกชอบซูเจ๋อได้แล้ว
ความรู้สึกเหนือกว่าของเฉียวอันซินที่เคยมีต่อเธอหายไป
เธอเคยเห็นเรื่องอื้อฉาวระหว่างเฉียวเมียนเมียนกับกงเซลี ทำให้เธอมั่นใจมากว่าเฉียวเมียนเมียนต้องมีอะไรเกี่ยวข้องกับกงเซลี
นายน้อยเพียงคนเดียวของตระกูลกง ทั้งหล่อเหลาและร่ำราวย
ผู้หญิงจำนวนมากในเมืองหยุนเฉิงต้องการครอบครองเขา
เขาติดต่อกับเฉียวเมียนเมียน
ไม่แปลกใจเลยที่เธอจะหยิ่งทระนงเช่นนี้
เธอรู้สึกว่ามันวิเศษมากที่เธอได้รับการสนับสนุนอันทรงพลังสินะ
เธอคงรู้สึกว่าสะใจและหัวเราะลับหลังเธอสินะ หลังจากที่เห็นซูเจ๋อทิ้งเธอ
ยิ่งเฉียวอันซินคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้มากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งโกรธมากขึ้นเท่านั้น
“เฉียวเมียนเมียน เธอแอบบันทึกเรื่องที่พวกเราคุยกันไว้หรือเปล่า เธอพยายามจะเปิดโปงฉันและทำให้ฉันอับอายสินะ”
“ก่อนจะไป เอาบันทึกนั้นมาก่อน”
เฉียวเมียนเมียนตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะตระหนักถึงอาการป่วยทางจิตของเฉียวอันซิน
จินตนาการของเธอไม่ฟุ้งเฟ้อไปหน่อยเหรอ?
ถ้าเธอไม่เป็นฝ่ายยั่วยุก่อน เธอก็คงไม่สนใจพวกเขาเสียด้วยซ้ำ
“ฉันไม่ได้บันทึกอะไรทั้งนั้น”
เฉียวเมียนเมียนพยายามสงบ
“ไม่ใช่ทุกคนที่จะทำตัวน่ารังเกียจเหมือนเธอหรอกนะ ถอยไป”
“เป็นไปไม่ได้”
เฉียวอันซินยืนนิ่งและจ้องมองไปที่เธอ
“ถ้าเธอไม่ได้แอบบันทึกไว้ เธอจะยืนแอบฟังได้นานขนาดเหรอ? เฉียวเมียนเมียน ฉันไม่ปล่อยให้เธอไปหรอก จนกว่าเธอจะส่งมันมา”