WS บทที่ 185 เอาตัวมันมา
รูปปั้นผู้พิทักษ์แบบเสริมพลังถูกร่ายด้วยอุปกรณ์เวทมนต์ที่เสริมความแข็งแกร่งของคาถา ดังนั้นมันจึงเทียบเท่ากับคาถาป้องกันระดับสาม นี่เป็นคาถาป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุดของเมอร์ลินในปัจจุบัน ถ้าเขาไม่สามารถป้องกันโฮมุนครุสของพ่อมดแซมเมียร์ได้ เมอร์ลินก็ไม่มีทางที่จะหลุดพ้นจากความอันตรายโดยที่เขาไม่สามารถปกป้องตัวเองได้เลย
*หวุ่ม!!*
ค้อนเงินขนาดใหญ่ฟาดฟันไปในอากาศอย่างไร้ความปรานี การเสียดสีระหว่างอากาศกับค้อนทำให้เกิดเสียงดังขึ้นมา
หลังจากนั้น ค้อนขนาดใหญ่ก็ฟาดลงบนรูปปั้นผู้พิทักษ์ ทำให้รูปปั้นผู้พิทักษ์ทั้งหมดสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ราวกับว่ารูปปั้นผู้พิทักษ์กำลังจะแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย หัวใจของเมอร์ลินแทบจะกระโจนขึ้นไปที่ลำคอขณะที่เขาจ้องมองคาถาของเขาอย่างใจจดใจจ่อ
แสงของรูปปั้นผู้พิทักษ์ยังคงกระพริบอยู่แต่สุดท้ายก็ไม่ดับ คาถานี้ร่ายผ่านอุปกรณ์เวทมนต์ทำให้รอดพ้นจากการโจมตีของโฮมุนครุสของพ่อมดแซมเมียร์ได้
พ่อมดแซมเมียร์หรี่ตาลงเล็กน้อยและแววตาของเขาฉายแววตกใจ จากนั้นเขาก็ยกมือขึ้นและโบกมือทันที ออร่าที่เดือดพล่านมุ่งตรงไปยังเมอร์ลินอย่างโกรธจัด
นี่คือคาถาระดับสามของพ่อมดแซมเมียร์ เมอร์ลินเพิ่งได้เห็นความน่าสะพรึงกลัวของคาถานี้ เขาจะถูกเปลวไฟแผดเผาทันที หากเขายังติดอยู่ในพันธนาการ
ตอนนี้เขากำลังรับมือโฮมุนครุสอยู่และเขาไม่สามารถหนีจากตรงนี้ได้ ดังนั้นเขาจึงร่ายรูปปั้นผู้พิทักษ์สองครั้งและแบบเสริมพลังผ่านอุปกรณ์เวทมนต์
ในการร่ายคาถาทั้งหมดนี้ เมอร์ลินได้ใช้หินธาตุดินไปทั้งหมดสี่ก้อน
โชคดีที่เขามีหินธาตุจำนวนมาก อย่างน้อยก็สามารถใช้งานอุปกรณ์เวทมนต์ได้ครึ่งวัน
คาถาธาตุไฟที่พ่อมดแซมเมียร์ร่ายเป็นเพียงเส้นไฟจาง ๆ ในตอนแรก จากนั้นมันก็ชนกับรูปปั้นผู้พิทักษ์ของเมอร์ลินอย่างรวดเร็ว
ทันใดนั้น ไฟก็ปะทุขึ้นและทะเลเพลิงขนาดใหญ่ได้ปกคลุมร่างกายของเมอร์ลินทั้งหมด แม้ว่าจะเป็นคาถาทั่วไปแต่คาถาระดับสามนี้ทรงพลังอย่างยิ่ง ยิ่งกว่านั้น เมอร์ลินยังต้องรับมือกับโฮมุนครุสที่น่าสะพรึงกลัวที่อยู่นอกวงแหวนแห่งเปลวเพลิง
*ครึ่ก!*
รอยแตกเริ่มปรากฏบนรูปปั้นผู้พิทักษ์ของเมอร์ลิน เขาได้ร่ายรูปปั้นผู้พิทักษ์หลายครั้งในทันทีและยังสร้างรูปปั้นผู้พิทักษ์แบบเสริมพลังผ่านอุปกรณ์เวทมนต์เพื่อป้องกันคาถาของพ่อมดแซมเมียร์
“ไม่ดีแน่ ฉันต้องออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้!”
เมอร์ลินได้รับการคุ้มครองจากรูปปั้นผู้พิทักษ์ทำให้เขาไม่เป้นอะไรมาก ดังนั้นเขาจึงสามารถทนต่อคาถาของพ่อมดแซมเมียร์และการโจมตีของโฮมุนครุสได้ อย่างไรก็ตาม เขาไม่สามารถยื้อการต่อสู้นี้ได้อีกต่อไป หากพลังเวทย์ของเหมดนั่นจะกลายเป็นจุดจบของเขาด้วยเช่นกัน
ดังนั้นเขาจึงฉวยโอกาสที่โฮมุนครุสกำลังจะโจมตี เขาได้รวบรวมพลังธาตุลมก่อในเกิดความผันผวนที่รุนแรงรอบ ๆ ตัวเมอร์ลิน
ขณะที่เขาร่ายลมพายุแบบเสริมพลัง เขาสามารถพุ่งออกจากกองไฟอย่างรวดเร็ว
“คาถาเพิ่มความเร็ว? ข้าเกลียดคาถาเพิ่มความเร็วมากที่สุด แถมเขายังมีคาถาป้องกันที่เทียบเท่าคาถาระดับสามอีก!”
พ่อมดแซมเมียร์ขมวดคิ้วขณะมองไปยังรูปปั้นผู้พิทักษ์ที่ส่องประกายของเมอร์ลิน ตัวเขานั้นไม่ได้มีคาถาเพิ่มความเร็วและคู่ต่อสู้ของเขาสามารถป้องกันเวทย์มนตร์และการโจมตีของโฮมุนครุสได้อีก หากคู่ต่อสู้หาจังหวะได้ เขาจะร่ายคาถาเพิ่มความเร็วและหลบหนีไปทันที
ในตอนแรก พ่อมดแซมเมียร์คิดว่านักเวทย์ระดับเริ่มต้นผู้นี้จะมีพลังไม่มากแต่เขาเพิ่งตระหนักได้เพียงว่าเมอร์ลินแข็งแกร่งเพียงใดหลังจากที่เขาต่อสู้กับเขา
เขาไม่มีทางหยุดไม่ให้เมอร์ลินจากที่นี่ได้ แม้ว่าเขาจะร่ายคาถาควบคุม เมอร์ลินก็สามารถปกป้องตัวเองได้ด้วยรูปปั้นผู้พิทักษ์ ดังนั้น คาถาควบคุมจึงไม่มีผลอะไรกับเขามากนัก
"เดี๋ยวก่อน พ่อมดเมอร์ลิน เรามาข้อตกลงกันดีไหม"
เมื่อเห็นว่าเมอร์ลินกำลังจะหนีไป พ่อมดแซมเมียร์ก็ตะโกนขึ้นมาทันที
เมอร์ลินที่กำลังวิ่งหนีไปหยุดลงอย่างรวดเร็ว จากนั้นเขาก็หันไปมองพ่อมดแซมเมียร์และโฮมุนครุสขนาดมหึมาด้วยความสงสัย
พ่อมดแซมเมียร์ยิ้มแล้วสั่งให้โฮมุนครุสกลับไปอยู่เคียงข้างเขา เขาพูดกับเมอร์ลินว่า "พ่อมด เมอร์ลิน ข้าไม่มีคาถาเพิ่มความเร็วดังนั้นข้าจึงทำอะไรท่านไม่ได้ ตราบเท่าที่ท่านสามารถป้องกันคาถาของข้ากับการโจมตีของโฮมุนครุสของข้าได้ ข้าจึงยอมรับความแข็งแกร่งของท่าน นั่นเป็นเหตุผลที่ข้าเสนอข้อตกลงให้ท่าน!"
เมอร์ลินจ้องไปที่พ่อมดแซมเมียร์ด้วยความระมัดระวัง เขารู้ว่าพ่อมดแซมเมียร์กำลังพูดความจริง จากจุดเริ่มต้น พ่อมดแซมเมียร์ไม่ได้ให้โอกาสเมอร์ลินได้หนีเลย เขาพร้อมที่จะจัดการเขาแทบจะทันทีที่พบหน้า
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเมอร์ลินมีอุปกรณ์เวทมน์แบบเสริมพลัง เขาจึงสามารถร่ายรูปปั้นผู้พิทักษ์ที่เทียบได้กับคาถาระดับสามได้และทำให้การโจมตีของพ่อมดแซมเมียร์เป็นโมฆะ นอกจากนี้ เมอร์ลินยังมีคาถาลมพายุ พ่อมดแซมเมียร์จึงไม่สามารถหยุดเขาไม่ให้วิ่งหนีได้
หลังจากประสบกับวิกฤตที่อันตรายเช่นนี้ เมอร์ลินก็เข้าใจถึงข้อดีของการเป็นนักเวทย์หกธาตุอย่างแท้จริง เขามีจำนวนเวทย์มนตร์เพียงพอที่จะใช้เมื่อเขาเผชิญกับอันตราย หากเมอร์ลินไม่มีคาถาเพิ่มความเร็ว เขาคงทำได้เพียงตั้งรับเท่านั้นแต่ไม่สามารถหลบหนีได้ ในท้ายที่สุด เขาอาจจะถูกจับหรือถูกฆ่าโดยพ่อมดแซมเมียร์ หลังจากที่เขาใช้พลังเวทย์มนตร์จนหมด
ในขณะเดียวกัน พ่อมดแซมเมียร์ นักเวทย์ระดับสาม แม้ว่าเมอร์ลินจะมีอุปกรณ์เวทมนต์และสามารถป้องกันคาถาของเขาได้ชั่วคราว แต่หากพ่อมดแซมเมียร์มีคาถาเพิ่มความเร็ว เขาคงจะสามารถเอาชนะเมอร์ลินได้อย่างง่ายดาย
พ่อมดแซมเมียร์ไม่มีความสามารถในการสร้างคาถาเพิ่มเติมในอดีต ดังนั้นเขาจึงคิดไม่ออกขณะต่อสู้กับเมอร์ลิน
“ข้อตกลง? ถ้าอย่างนั้น ก่อนหน้านี้ คุณส่งโคลตันมาก็เพื่อมาทำข้อตกลงกับฉันด้วยงั้นเหรอ?”
เมอร์ลินจับตาดูพ่อมดแซมเมียร์ในขณะที่เขาไม่กล้าที่จะผ่อนคลายท่าทีเลยแม้แต่ครู่เดียว
พ่อมดแซมเมียร์พยักหน้า “ถูกต้อง ข้าส่งโคลตันไปเสนอข้อตกลงกับท่าน”
“เฮอะ นี่คือวิธีที่คุณเสนอข้อตกลงเหรอ?”
เมอร์ลินยิ้มเยาะ ทั้งโคลตันและพ่อมดแซมเมียร์ต่างเข้ามาเพื่อจับตัวเขาโดยตรง
‘อย่างนี้มันไม่เรียกว่าเสนอข้อตกลงแล้ว’
พ่อมดแซมเมียร์หรี่ตาและจ้องไปที่เมอร์ลินอย่างลึกซึ้ง จากนั้นเขาก็หัวเราะ “พ่อมดเมอร์ลิน ท่านคิดว่าข้าจำเป็นต้องคุยกับนักเวทย์ระดับเริ่มต้นไหม ข้าสามารถจับเขาได้โดยตรง! แต่ความสามารถที่ท่านแสดงออกมาทำให้ข้าต้องเปลี่ยนความคิด อย่างน้อยข้าก็ไม่สามารถทำอะไรท่านได้เลย ดังนั้นข้าจึงเสนอให้มาทำข้อตกลงที่ยุติธรรมกัน ถ้าท่านสามารถปรุงยาให้ข้าได้ ข้าจะให้ทุกอย่างที่มีค่าที่ตามท่านต้องการ!”
“อะไรกัน พ่อมดแซมเมียร์ คุณไม่คิดบ้างเหรว่า ฉันอาจจะหนีโดยไม่คิดจะทำข้อตกลงอะไรนั่นบ้างเลยเหรอ?”
เมอร์ลินไม่ได้ตั้งใจจะทำข้อตกลงใดๆ กับบุคคลอันตรายอย่างแซมเมียร์ เขาเพียงต้องการจากไป อย่างไรก็ตาม พ่อมดแซมเมียร์ได้สั่งให้โฮมุนครุสของเขายืนอยู่ใกล้พ่อมดฮิลล์กับพ่อมดเบอร์ตันอย่างเงียบ ๆ ความตั้งใจของเขาชัดเจนและเป็นภัยคุกคามต่อเมอร์ลิน
เมอร์ลินไม่สนใจว่าพ่อมดเบอร์ตันจะมีชีวิตอยู่หรือตายไปแต่เขาเป็นหนี้พ่อมดฮิลล์มากเกินไป ถ้าเขาสามารถช่วยชายชราได้ เขาก็เลือกที่จะช่วยเขาก่อนเป็นอันดับแรก
เมื่อเห็นว่าเมอร์ลินไม่ไปไหน รอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของพ่อมดแซมเมียร์ เขาพูดต่อ "ถ้าอย่างนั้น ท่านต้องการอะไร ไม่ว่าจะเป้นหินธาตุ เวทมนต์คาถา อุปกรณ์เวทมนต์หรือแม้แต่เทคนิคการเล่นแร่แปรธาตุมิธริลของข้า ข้าสามารถมอบทั้งหมดให้ท่านได้!"
พ่อมดแซมเมียร์ดูค่อนข้างจริงจัง เมอร์ลินสามารถเห็นได้ว่าตอนนี้เขาดูกระสับกระส่ายเพียงใด
เมอร์ลินขมวดคิ้ว เขาตระหนักว่าน้ำยานี้อาจมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อพ่อมดแซมเมียร์มากถึงขนาดทำให้เขากระวนกระวายใจแบบนี้
อย่างไรก็ตาม เมอร์ลินไม่ต้องการเป็นมิตรกับคนอันตรายอย่างพ่อมดแซมเมียร์ ดังนั้นเขาจึงเยาะเย้ย “ฉันไม่ต้องการหินธาตุ เวทมนตร์หรืออุปกรณ์เวทมนต์ใด ๆ ถึงแม้ว่าเทคนิคการเล่นแร่แปรธาตุของมิธริลจะค่อนข้างน่าประทับใจแต่ฉันไม่ใช่นักเล่นแร่แปรธาตุ ดังนั้นฉันจึงไม่ต้องการมัน ถ้าคุณอยากจะเสนอข้อตกลงกับฉันจริง ๆ ก็เอาไขกระดูกน้ำแข็งร้อยปีมาให้ฉัน!”
เมอร์ลินเคยถามเรื่องนี้ทั่วเมืองโฟลตติ้ง แม้แต่อาคารสเตอร์ลิ่งก็ไม่มี เหล่านักเวทย์หลายคนไม่เคยได้ยินหรือรู้จักสิ่งนี้มาก่อน ดังนั้นเมอร์ลินจึงละทิ้งการฝึกฝนความสามารถของปีศาจแพนดอร่าอย่างดัชนีเยือกแข็ง
ดังนั้นเขาจึงพูดถึงไขกระดูกน้ำแข็งร้อยปีขึ้นมาเพื่อให้พ่อมดแซมเมียร์เลิกทำข้อตกลงกับเขา
“ไขกระดูกน้ำแข็งร้อยปี?”
พ่อมดแซมเมียร์ขมวดคิ้วเล็กน้อย ดูเหมือนพ่อมดแซมเมียร์จะรู้จักมัน เขาคงไม่คาดคิดว่าจะได้ยินชื่อของมันในสถานการณ์เช่นนี้
หลังจากที่คิดอยู่นาน พ่อมดแซมเมียร์ก็เงยหน้าขึ้นทันที เขากัดฟันกรอด “ไขกระดูกน้ำแข็งร้อยปี มันเป็นของล้ำค่า นักเวทย์ทั่วไปอาจไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนแต่ข้ารู้จักชายชราผู้ครอบครองมัน! แต่ชายชราผู้นี้กลับชอบวิชาการเล่นแร่แปรธาตุมิธริลอย่างมาก ข้าเพียงแต่แลกเปลี่ยนเทคนิคการเล่นแร่แปรธาตุมิธริลสำหรับไอเทมนี้ ข้าจะมอบสิ่งที่ท่านอย่างแน่นอน!”
ในทางกลับกัน เมอร์ลินต้องตัดสินใจที่ยากลำบากเช่นกัน ในตอนแรกเขาพูดถึงไขกระดูกน้ำแข็งร้อยปีเพื่อทำให้พ่อมดแซมเมียร์ล้มเลิกความตั้งใจของเขา เขาแทบไม่คิดเลยว่าพ่อมดแซมเมียร์สามารถเสนอไขกระดูกน้ำแข็งอายุร้อยปีให้เขาได้
ไขกระดูกน้ำแข็งร้อยปีสามารถช่วยเมอร์ลินในการบ่มเพาะพลังปีศาจแพนดอร่า ดัชนีเยือกแข็ง ช่างเป็นข้อเสนอที่น่าสนใจ แต่อย่างไรก็ตาม เมอร์ลินลังเลเพราะเขาไม่ไว้วางใจในตัวพ่อมดแซมเมียร์
หลังจากที่ดูเหมือนจะสังเกตเห็นความลังเลใจของเมอร์ลิน พ่อมดแซมเมียร์ก็หยิบสูตรยาจากแหวนของเขาทันทีและสั่งให้โฮมุนครุสส่งไปให้เมอร์ลิน
เมอร์ลินที่ไม่ลดการเฝ้าระวัง เขายังคงสถานะของรูปปั้นผู้พิทักษ์เอาไว้ หากโฮมุนครุสคิดจะทำอะไรเขาล่ะก็ เขาพร้อมที่จะหนีไปด้วยคาถาลมพายุทันที
แต่ทว่าโฮมุนครุสไม่ได้ทำอะไรแปลก ๆ เมอร์ลินถอนหายใจด้วยความโล่งอกและรับสูตรยาลึกลับ
พ่อมดแซมเมียร์ดูเหมือนจะหมดหนทางเมื่อเขาลดเสียงลงและพูดว่า "พ่อมดเมอร์ลิน ข้าแน่ใจว่าท่านจะเข้าใจว่าข้ากำลังพูดความจริงหลังจากอ่านสูตรยา ข้าจะให้คุณอยู่ในสถานการณ์ที่เสียเปรียบได้อย่างไร ภายใต้สถานการณ์ปัจจุบันของข้า?”
เมอร์ลินขมวดคิ้ว เขาไม่เข้าใจคำพูดของพ่อมดแซมเมียร์ ดังนั้นเขาจึงจ้องมองไปที่สูตรยาในมือของเขา ทุกอย่างที่พ่อมดแซมเมียร์ พูด มันถูกอธิบายไว้ในสูตรยานี้