EP 544 การทักทายของเจ้านายเก่า!
EP 544 การทักทายของเจ้านายเก่า!
By loop
ในยามบ่าย.
คณะกรรมการตรวจสอบวินัยเขตหนานฉาน
ดงซูบิน บอกหวู่เหลียงถึงกระบวนการทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับชุมชนหลิวเซียน
หลังจากฟังเช่นนั้นหวูเหลียงก็เงยหน้าขึ้นมองเขา "มีกี่คนกันที่ชักอาวุธขึ้นมาที่นั้น?"
ดงซูบิน กล่าวว่า "มีคนประมาณ 30 คนปิดล้อมพนักงานของเรา ทุกคนใช้อาวุธท่อนเหล็กมากกว่าสิบท่อนและท่อนไม้อีกมากมาย ถ้าไม่นับรวมจำนวนคนที่ถือมีดแล้วที่เหลือบางส่วนก็เป็นหม้อกับกระทะด้วย ณ จุดนี้ผมจะส่งรายงานโดยละเอียดไปยัง สถานการณ์เฉพาะ แต่ถ้ารู้สึกไม่สบายใจจะสอบสวนคนของสำนักงานเขตและสำนักงานตำรวจก็ได้นะ
หวู่เหลียง พยักหน้า ใบหน้าของเขาดูผ่อนคลายเล็กน้อย "แม้ว่าจะเป็นทางเลือกสุดท้ายแม้ว่าจะเป็นการปกป้องชีวิตของผู้คนก็ตามหรือแม้แต่เจ้าหน้าที่ของเรา แต่ในฐานะเลขาธิการ คุณควรรู้มากที่สุดเกี่ยวกับผลกระทบของการทำร้ายผู้คนของชุมชนในครั้งนี้ แต่ทำไมก่อนหน้านี้ถึงไม่มีเหตุการณ์เช่นนี้ แล้วทำไมถึงตัดสินใจรื้อถอนสิ่งกองสร้างเหล่านั้น? หากคิดวางแผนมากกว่านี้อาจจะไม่เกิดเหตุการณ์เหล่านี้ขึ้น และนี้อาจเป็นเหตุผลพื้นฐานที่ทำให้พวกพ่อค้าขุ่นเคือง! ที่ว่าการตำบลกวางหมิงของคุณมีปัญหาใหญ่ในเรื่องนี้! “
เมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ทำให้ดงซูบินระเบิดอารมณ์ขึ้นมาทันที“เลขานุการหวู่ มีอีกสิ่งหนึ่งที่ฉันต้องการรายงานให้คุณทราบ”
“เรื่องอะไรอย่างงั้นหรอ”
"เราจะไม่รับผิดชอบต่อพ่อค้าเหล้านั้นเลยไม่ว่ากรณีใดทั้งสิ้น!"
"ว่ายังไงนะ?"
ดงซูบินสูดหายใจเข้า: "ในตอนนั้น เราทำได้ดีมากที่คิดเกี่ยวกับการควบคุมการชุมนุม! พ่อค้าเหล่าและคนในชุมชนบางคนเท่านั้นที่เป็นตัวปัญหา! พวกเขาพยายามต่อต้านการทำงานของพวกเรา ซึ่งมีแกนนำเพียงสามคนเท่านั้น! ตำรวจในโรงพักของเราสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ จะไม่มีความขัดแย้งเลย! แต่ ณ เวลานี้ เผิงกุนผู้ช่วยรัฐมนตรีเขาได้ปรากฏตัวขึ้น ลงจากรถ มาแทรกแซงงานของเรา บอกไม่ให้รื้อถอน เพราะเรื่องนี้ต้องสร้างความเข้าใจก่อนตั้งข้อหาสร้างสิ่งผิดกฎหมาย ผมรู้ว่าหนึ่งในคนที่เป็นผู้นำในการปลุกระดมมวลชนเป็นลูกพี่ลูกน้องของรัฐมนตรีซู! ไม่อย่างงั้นเขาคงไม่ออกตัวแรงขนาดนี้!”
หวู่เหลียงขมวดคิ้ว “เผิงกุน?”
ดงซูบินกล่าวว่า “การดำเนินการนี้นำโดยสำนักงานเขต และผมมีหน้าที่รับผิดชอบ หลังจากเผิงกุนมา เขาบอกเราเกี่ยวกับเรื่องนี้ ผมไม่ได้ทำตามคำสั่งของเขา และผมก็พอจะเดาออกว่าสิ่งที่รัฐมนตรีเผิงจะทำต่อไปคืออะไร ในเวลานั้นผมตะโกนสุดเสียงว่าถ้าเกิดความขัดแย้งกับคนในชุมชนในระหว่างกำลังจะรื้อถอนผมจะไม่ปล่อยคนที่ก่อความวุ่นวายให้ลอยนวลไปแน่ๆ ตอนนั้นเอง ที่พ่อค้าแสดงความกลัวออกมา แต่เมื่องรัฐมนตรีเผิงพูดว่าเราไม่อำนาจในเรื่องนี้ทั้งๆที่ไม่ใช่ความจริง มันทำให้พวกพ่อค้าเหล่านั้นกลับมาสร้างปัญหาอีกครั้งและรุนแรงกว่าตอนแรก ซึ่งก่อให้เกิดการปะทะครั้งใหญ่ในภายหลัง ผมอยากจะถาม ว่าเผิงคุนนั้นทำอะไรลงไป!?”
คิ้วของหวู่เหลียงชนกัน “รัฐมนตรีเผิงพูดอย่างนั้นจริงเหรอ?”
“ใช่ ไม่ถึงแม้จะไม่มีประโยคที่ปลุกใจเลย แต่ด้วยประโยคสุดท้ายของเขาทำให้ดันไปกระตุ้นอารมณ์พวกพ่อค้า!” ดงซูบินกล่าวว่า: “นอกจากนี้ หลังจากพวกพ่อค้าเริ่มปิดล้อมเรา เผิงกุนเองก็เผนหางจุกตูดวิ่งขึ้นรถไป เลขาหวู่ลองคิดดูว่านี้คือสิ่งที่ผู้บริหารเมืองควรทำเช่นนี้ไหม?”
แน่นอน หวู่เหลียงจะไม่เพียงแค่ฟังคำพูดของดงซูบินเขา ยังต้องรู้เรื่องนี้อีกและไปรายงานกับทางมณฑลอีกครั้งแต่หลังจากฟังคำพูดของดงซูบินหวู่เหลียงก็รู้ว่าพวกผู้ชุมนุม 10 กว่าคนหน้าสำนักงานนั้นอาจมาด้วยสาเหตุนี้ แต่เมื่อได้ฟังเรื่องของดงซูบินทุกอย่างก็กระจ่างขึ้นทันที ต้นเหตุสำคัญคือเผิงกุน เขาทำอะไรลงไป? เขาเป็นถึงผู้บริหารสูงของแผนกองค์กร แต่กลับเข้าไปแทรกแซงสำนักงานของคนอื่น และปลุกระดมมวลชนให้มาต่อต้านหน่วยงานรัฐ? นี่มันไร้เหตุผลจริงๆ! อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับฝ่ายองค์กรเท่าที่หวู่เหลียงรู้รัฐมนตรีเผิงกุนจะต้องเขาโรงเรียนของพรรคคอมมิวนิสต์ในเดือนหน้า ตามขั้นตอนเข้าต้องเลื่อนเลขาธิการเขตเช่นกัน คงเพราะเรื่องนี้สินะที่เขาจึงตัดสินใจเข้าไปแทรกแซ.เพื่อสร้างผลงาน และตำแหน่งที่เขาจะขึ้นไปก็คือตำแหน่งเดียวกันกับฉันด้วยฉันต้องระวังเขาไว้
“เลขาธิการซูบนิคุณกลับไปก่อนเถอะ” หวู่เหลียงพูด ดงซูบินถามว่า: "เลขานุการหวู่ คุณสามารถบอกฉันเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ ... " หวู่เหลียงมองไปที่เขา "แล้วรายละเอียดจะกล่าวถึงในเขตนี้ดังนั้นโปรดจัดการงานติดตามผลให้ดีก่อน"
"เข้าใจแล้ว แล้วพวกพ่อค้าล่ะ?”
หวู่เหลียงไม่เคยรู้มาก่อน ตอนนี้เขารู้รายละเอียดแล้ว เขาก็มีไฟในใจ “เราควรจับคนพวกนั้นไว้ เราต้องใช้ไม่แข็งเมื่อต้องรับมือกับอาชญากรเช่นนี้ เราต้องไม่สนับสนุนบรรยากาศแบบนี้!” ถึงแม้ว่าดงซูบินจะดูเป็นคนอารมณ์ร้อนแต่หวู่เหลียง เห็นด้วยกับสิ่งที่เขาพูด พวกจำเป็นจะต้องใช้ไม้แข็งเมื่อต้องเผชิญกับอาชญากร มิเช่นนั้น การบังคับใช้กฏหมายจะดำเนินไปอย่างไร? ทุกคนจับมีดขึ้นสู้กับเจ้าหน้าที่ ที่มีหน้าที่ทำตามกฎหมาย การตอบโต้ก็คงเป็นทางเลือกที่เหมาะสมจริงไหม?
หลังจากนั้นดงซูบินก็กลับไปที่สำนักงานเขต โจวหยินหยูก็วิ่งเข้ามาหาดงซูบิน
สีหน้าของโจวหยินหยูเองดูกังวลมาก: "ผู้อำนวยการคณะกรรมการวินัย ... "
ดงซูบินกล่าวเบา ๆ : "เรื่องดังกล่าวได้รับการรายงานไปยังเลขานุการหวู่ แล้วน่าจะไม่เป็นไร"
โจวหยินหยูโล่งใจ" อย่างไรก็ตามดิฉันได้ยินว่ารัฐมนตรีเผิงจะเขาโรงเรียนพรรคคอมมิวนิสต์ เพื่อรับการฝึกต้นเดือนหน้า ฉันเองก็จะต้องไปเช่นเดียวกัน เพื่อรอรับการเลื่อนตำแหน่ง”
ดงซูบินมองเธอ “จริงเหรอ?”
“ใช่ค่ะ ถ้าไม่เกิดอะไรผิดพลาด”
ดงซูบินพยักหน้าเดินกลับไปที่สำนักงานของเขาไฟบุหรี่และรมควันพัฟไ. เป็นไปได้สูงหรือไม่การที่เขาทำเช่นนั้นจะทำให้เขาจะสามารถที่จะเข้าหลักสูตรของพรรคคอมมิวนิสต์ได้อย่างราบรื่น แต่ ตอนนี้เรื่องกลายเป็นปัญหาใหญ่ไปแล้ว ตอนนี้แม้แต่หัวหน้ามณฑลก็ยังให้ความสนใจ เกรงว่าการเลื่อนตำแหน่งของเผิงกุนจะเกิดคำถามใหญ่ขึ้นนะ ฉันคิดว่าสำนักงานเขตของเราอาจเป็นกางขวางคอใหญ่ของเขา
ในเวลานั้นโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เมื่อดูจากหมายเลข กลับกลายเป็นหมายเลขโทรศัพท์ของ
เฉาซูเผิง เลขาธิการรัฐบาลเทศมณฑลหยานไท ดงซูบิน ตอบ ด้วยรอยยิ้ม “สวัสดีครัลท่านเลขาเฉา”
" โอ้. “เฉาซูเผิงพูดอย่างมีความสุข:”เป็นอย่างไรบ้าง นายไปสร้างปัญหาอะไรไว้ที่นั้นหรือยัง?”
ดงซูบินถึงกับสะอึ๊ก, ไอและปฏิเสธไป:" ไม่มีเลยครับ “
การที่นายจัดการคนมากกว่า 20 คนนี้ยังไม่ถือว่าสร้างปัญหาใหญ่หรอ?“”เฉาซูเผิงพูดเชิงหยอกล้อ: “ดูเหมือนนายจะอารมณ์ไม่ดี มันน่าจะเป็นเรื่องปกติของนายอยู่แล้วสำหรับเรื่องนี้!” "
ดงซูบินกล่าวอย่างหดหู่: "คุณรู้เรื่องนี้ได้อย่างไรครับ"
เฉาซูเผิงส่ายหัวและพูดว่า "ฉันมีการประชุมในเมือง ฉันเพิ่งวิ่งเข้าไปในพบกับเลขาธิการคณะกรรมการพรรคเขตหนางฉาง ของนายมา เราไม่ได้พูดคุยกันมาก พูดได้คำเดียวว่า "ช่วยแนะนำคณะลูกขุนจากมณฑลหยานไทให้ที" ฉันรู้ทันทีที่ได้ยินเรื่องนี้ ว่านายต้องไปก่อเรื่องอะไรไว้อีกแน่ๆ ดงซูบิน "
"ผมเองก็ไม่ต้องการเช่นนั้น "
ดงซูบิน รู้สึกอายเล็กน้อยเพราะเขาพึงเข้ารับตำแหน่งได้ไม่นาน ดงซูบินเองก็ไม่ได้แก้ตัวแม้แต่น้อย เนื่องจากเขาได้จัดการกับพวกผู้กระทำผิดไปหมดแล้ว และอาคารที่ผิดกฎหมายได้รับการแก้ไขแล้ว การเลื่อนตำแหน่งของเผิงกุนก็พึงจะพังลงไป ดงซูบินก็ไม่มีอะไรต้องเสียใจ ถ้าอย่างงั้นมีเรื่องอะไรที่เขาต้องกลัวอีก...