80Y-ตอนที่ 9 ไร้นาม?
คืนพระจันทร์เต็มดวง
พระราชวังต้องห้ามทั้งหมดได้ปกคลุมไปด้วยบรรยากาศแห่งความวิตกกังวล เหล่าราชองค์รักษ์ต่างป้องกันบริเวณพระราชวังกันอย่างเคร่งครัด
ภายในพระราชวังต้องห้าม สาวกลัทธิเต๋าและชาวพุทธต่างเฝ้ารอการมาถึงของ ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นปราชญ์การต่อสู้ ของ นิกายชุนฮวา ในห้องโถงหลัก
ดังนั้นทั่วทั้งพระราชวังแห่งนี้จึงเต็มไปด้วยรรยากาศแห่งความวิตกกังวล
องค์จักรพรรดิองค์ปัจจุบันได้นั่งเงียบ ๆ บนบัลลังก์
ไม่มีใครอยู่รอบ ๆ เขา
ตึก ตึก!
ทันใดนั้น ก็มีร่างคนผู้นึงเดินเข้ามาจากทางด้านนอก เป็นองค์ชายหก
“เสด็จพ่อ พวกเราได้วางกำลังคุ้มกันอย่างแน่นหนา โดยมี ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นปรมาจารย์ที่ยิ่งใหญ่ ทั้ง 6 เป็นผู้นำ ก่อนที่บรรพบุรุษเต๋าปีศาจจะมา ท่านรีบไปหลบยังที่ปลอดภัยจะดีกว่า”องค์ชายหกได้ทรงเร่งเร้า
“ข้าคือจักรพรรดิแห่งราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวา ถ้าข้าไม่อยู่ที่นี่แล้วจะให้ข้าไปอยู่ที่ไหน?”องค์จักรพรรดิได้ตอบกลับอย่างสงบ
เขาไม่ได้มีเจตนาที่จะหลบหนี
“เสด็จพ่อพวกเราไม่มีโอกาสตอบโต้เลยงั้นหรือไม่?”องค์ชายหกได้กล่าวถาม
“ไม่ใช่ว่าพวกเรายังมีเจ้าหรอกเหรอ?”องค์จักรพรรดิได้มองไปที่องค์ชายหกและตอบกลับด้วยท่าทีพึงพอใจ
“เดิมที ควรจะเป็นพี่ชายของเจ้าที่ได้ทำงานในตำแหน่งนี้ แต่เพราะเขาลุ่มหลงไปกับตัณหาชั่วขณะทำให้ต้องเดินไปบนเส้นทางที่คดเคี้ยว”
“แต่ทว่า การมีเจ้าอยู่ก็ทำให้ข้าสบายใจ”
“วันนี้ถึงแม้ว่าข้าจะต้องดับสูญแต่ข้าก็จะไม่มีทางหลบหนีไป พวกเราได้วางกับดักจำนวนมากเอาไว้ หากพวกปีศาจนั่นกล้าจะเข้ามา ราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวาของข้าจะสู้กับพวกมันจนตัวตาย!”องค์จักรพรรดิได้ประกาศกร้าวในทันที
องค์ชายหก ต้องการจะพูดอะไร แต่องค์จักรพรรดิได้โบกมือ“ไปเถอะ เจ้ารีบไปหลบภัยยังสุสานหลวงซะ คนที่นั่นจะคุ้มกันเจ้าให้ปลอดภัย เพราะเจ้าเป็นความหวังของราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวาของเรา พวกเราไม่อาจปล่อยให้เจ้าเป็นอะไรไปได้”
ถ้าเขาหนีไป และ ผู้บ่มเพาะพลังปีศาจ ที่หาเขาไม่เจอ มันคงไม่ใช่เรื่องดีสำหรับราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวาเท่าไหร่
ดังนั้นเขาจะนั่งรออยู่ที่นี่อย่างเงียบ ๆ
ไม่ว่าจะกรณีใด...เขาก็รู้สึกทุกข์ใจที่ราวกับกำลังเผชิญโรคร้ายที่รอวันตาย
“เด็กน้อย ในโลกปัจจุบันนี้ จำต้องมีอำนาจและพลังที่แข็งแกร่ง ไม่สำคัญว่าเจ้าจะเป็นสมาชิกของราชวงศ์หรือไม่ก็ตาม เพราะมันไม่ได้สร้างความแตกต่างใด ๆ เลย”องค์จักรพรรดิได้แนะนำ
ดังนั้น องค์ชายหกจึงพยักหน้าและจากไปตอนนี้เขาปล่อยให้องค์จักรพรรดิอยู่ตามลำพัง
อีกฝ่ายได้แหงนหน้ามองดูท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวในคืนพระจันทร์เต็มดวง สีหน้าของเขาแน่นแนะและเต็มไปด้วยสายตาเย็นชา
เขาได้รวบรวมความแข็งแกร่งทั้งหมดของราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวา มา เพื่อตอบโต้ ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นปราชญ์การต่อสู้ ในยุคปัจจุบัน
เมื่อจันทร์เต็มดวงมาถึง กลิ่นอายพลังปีศาจ ก็ตลบอบอวลอยู่เหนือพระราชวังต้องห้าม
สาวกของนิกายปีศาจนับไม่ถ้วน ได้พุ่งผ่านสถานที่แห่งนี้และวิ่งไปรอบ ๆ พร้อมกับส่งเสียงคำรามออกมาอบ่างบ้าคลั่ง
เหล่าผู้บ่มเพาะพลังปีศาจในวันนี้ต่างรู้สึกปิติยินดี!
หึ่มม!
ทันใดนั้นเอง เงากระบี่ก็ปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็ว กลิ่นอายอันน่าสะพรึงกลัวได้ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า ทุกสิ่งภายใต้ผืนฟ้าแห่งนี้กำลังสั่นสะเทือน
แสงจันทร์ที่สวยงามได้ควบแน่นเป็นเส้นไหมที่สาดส่องลงมา
ร่างของชายสูงอายุได้ร่อนลงมาพร้อมกับมัน
ศีรษะของเขาเต็มไปด้วยผมสีขาวใบหน้าเคร่งขรึม อีกทั้งยังแผ่กลิ่นอายอันน่าสะพรึงกลัวออกมา กระบี่ยาวในมือ ได้ฟาดฟันไปบนท้องฟ้า
“จักรพรรดิแห่งราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวา หนี้แค้นที่เจ้าทำลายนิกายชุนฮวาของข้า จะต้องถูกคิดบัญชีในวันนี้! ข้าจะปลิดชีวิตของเจ้าซะ!”
ท่ามกลางฝูงชน ชายชราคนนี้ได้มองไปที่ทิศทางของห้องโถงกลางด้วยสายตาที่ห่างเหิน
สำหรับคนอื่น ๆ เขาไม่ได้สนใจเลย เขาได้มองไปยัง ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นปรมาจารย์ที่ยิ่งใหญ่ทั้ง 6 คน
“เจ้าปีศาจ อย่าได้ริอาจมาทำตัวหยาบคายที่นี่ ราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวาของเราไม่ใช่สถานที่ที่เจ้าจะมาทำตัวอวดดีได้!”
“ราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวา ยืนหยัดมาได้จนถึงยุคปัจจุบัน พวกเรามีเขตอำนาจการปกครองมากมายมีประชากรมากกว่าหลายร้อยล้าน เมื่อเทียบกับเจ้าแล้วจะนับเป็นอะไรได้ ราชวงศ์ของเราไม่มีทางถูกปีศาจชั้นต่ำอย่างเจ้าทำลายลงได้”
“วันนี้พวกเราเหล่าปรมาจารย์ที่ยิ่งใหญ่แห่งราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวา จะร่วมมือกันเพื่อสังหารเจ้า!”
…
เสียงโห่ร้องได้ดังมาจากทุกทิศทาง เหล่าปรมาจารย์ที่ยิ่งใหญ่ทั้ง 6 ของราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวา ได้ทำงานร่วมกัน พวกเขาได้ผสานโลหิตและพลังปราณ ทันใดนั้น พลังลึกลับบางอย่างก็ทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า
คนทั้ง 6 คนได้ปรากฏขึ้นจาก 6 ทิศทาง ล้อมรอบ บรรพบุรุษอาวุโสของนิกายชุนฮวา คนนี้
“ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นปรมาจารย์ที่ยิ่งใหญ่?”ท่ามกลางกลุ่มคนเหล่านี้ บรรพบุรุษอาวุโสของนิกายชุนฮวา เต็มไปด้วยความรังเกียจ
“ช่องว่างระหว่าง ปราชญ์การต่อสู้ และ ปรมาจารย์ที่ยิ่งใหญ่ ไม่ใช่สิ่งที่พวกเจ้าจะสามารถรับมือได้ ดังนั้นใสหัวไปซะ”บรรพบุรุษอาวุโสของนิกายชุนฮวาได้ตวาดออกมา
เขาได้สบัดการโจมตีใส่ปรมาจารย์ที่ยิ่งใหญ่ทั้ง 6 คนนี้
แค่ก แค่ก แค่ก!
ปรมาจารย์ที่ยิ่งใหญ่ทั้ง 6 คนได้พ่นโลหิตจำนวนมากออก ร่างของพวกเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส และ ถูกส่งลงไปด้านล่างพระราชวังในทันที
แม้แต่การร่วมมือกันของปรมาจารย์ที่ยิ่งใหญ่ทั้ง 6 คน ก็ไม่สามารถต้านทานการโจมตีของ ปราชญ์การต่อสู้ บรรพบุรุษอาวุโสของนิกายชุนฮวา เพียงคนเดียวได้?
พลังของปราชญ์การต่อสู้ น่าสะพรึงกลัวขนาดนี้เลยงั้นเหรอ?
เมื่อผู้คนจากราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวา และ เจ้าหน้าที่ของราชสำนักทุกระดับมองเห็นฉากนี้ ในใจของพวกเขาก็รู้สึกสิ้นหวัง
พวกเขาได้จ้องมองหน้ากันและกัน
ปีศาจตัวนี้แข็งแกร่งมาก!
ทันทีที่เขามาถึงที่นี่ เพียงแค่การโจมตีเดียวก็สามารถทุบตีผู้ฝึกยุทธ์ขั้นปรมาจารย์ที่ยิ่งใหญ่ทั้ง 6 คนได้แล้ว
ใครกันที่จะสามารถหยุดยั้งเขาได้?
กระทั่งบางคนยังกัดฟันแน่นและบ่นพึมพัมออกมา“นี่หรือว่าสวรรค์ ต้องการจะทำลายราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวาของข้าจริง ๆ ?”
เหล่า สาวกลัทธิเต๋าและนิกายต่าง ๆ พวกเขาล้วนทำสีหน้าไม่ถูก เมื่อมองไปที่ บรรพบุรุษอาวุโสของนิกายชุนฮวา
นี่ไม่ใช่การต่อสู้ที่เท่าเทียมกันแม้แต่น้อย
อีกฝ่ายได้ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของพระราชวังต้องห้าม ทุกย่างก้าวของเขา ล้วนถึงดูดความสนใจของผู้คนนับล้าน
กระทั่ง สาวกนิกายปีศาจ บางคนยังส่งเสียงเชียร์ออกมา พวกเขาได้หัวเราะอย่างชอบใจและหวังจะได้รื่นรมย์ไปกับค่ำคืนนี้
บางถึงถึงกับบุกเข้าไปในพระราชวังต้องห้ามและคำนับให้กับปราชญ์การต่อสู้บรรพบุรุษอาวุโสของนิกายชุนฮวา
ตอนนี้ ผู้คนทั้งหมดในราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวา ล้วนกลายเป็นใบ้
พวกเขาที่มองเห็นฉากนี้ ร่างกายของพวกเขาราวกับไร้เรี่ยวแรงในทันที
จักรพรรดิที่นั่งอยู่ในห้องโถงได้ถอนหายใจออกมาและหลับตาลงพร้อมกับสมเพชตัวเอง
กับดักที่เขาวางไว้นั้นไม่มีผลกับผู้ฝึกยุทธ์ขั้นปราชญ์การต่อสู้ที่มาจากนิกายปีศาจผู้นี้ แม้แต่ ราชองค์รักษ์ที่เฝ้าพระราชวัง ก็ยังรู้สึกสิ้นหวัง
อาศัยเพียงแค่ ปราชญ์การต่อสู้จากนิกายปีศาจก็สามารถปราบปรามราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวา ได้เพียงลำพัง!
ในเวลานี้ ต้าชุน ได้เฝ้าประตูด้านข้างของพระราชวังต้องห้ามเพียงลำพัง
ที่นี่อยู่ห่างไกลมาก จึงไม่มีผู้บ่มเพาะพลังปีศาจมาที่นี่
เขามองดู บรรพบุรุษอาวุโสของนิกายชุนฮวา ด้วยท่าทีตกใจ
“ใครกันที่จะสามารถเอาชนะเขาได้?”
หากเพ่งพินิจดู ก็สามารถคาดเดาได้แล้วว่าคงไม่มีใครสามารถเอาชนะบรรพบุรุษอาวุโสของนิกายชุนฮวาได้
ราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวา เกรงว่าจะต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
ตึก ตึก!
ในเวลานั้นเองก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น
มีคนกำลังมาที่นี่
ต้าชุน ได้เงยหน้ามองด้วยความสงสัย ที่นี่เป็นพื้นที่ห่างไกลมาก เหตุใดยังมีคนมาที่นี่อีก?
ภายใต้แสงจันทร์ที่ส่องประกาย ชายหนุ่มในลักษณะที่โดดเด่น ได้เดินมาพร้อมกับชายวัยกลางคน ที่ดูห่างเหินตั้งแต่หัวจรดเท้า
ต้าชุน อุทานขึ้นด้วยความตกใจ“องค์ชาย เหตุใดพระองค์ถึงออกมาจากตำหนักเย็น?”
คนที่มาก็คือ หลินจิ่วเฟิง
เขาได้ชี้ไปอย่างใจเย็นและตอบกลับ“ข้ามาเพื่อจัดการเขา”
ต้าชุน ได้มองตามนิ้วของ หลินจิ่วเฟิง อีกฝ่ายได้ชี้ไปที่ บรรพบุรุษอาวุโสของนิกายชุนฮวา
ต้าชุนได้ถอนหายใจและตอบกลับ“องค์ชาย การบ่มเพาะพลังของท่านถูกทำลายมาตั้ง 4 ปีกว่าแล้ว ท่านไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ ท่านรีบกลับไปดีกว่า แล้วข้าจะแสร้งทำเป็นว่าไม่เห็นอะไรเลย”
หลินจิ่วเฟิง ได้ยิ้มอย่างสงบและกล่าวถาม“ไร้นาม เจ้าสามารถเอาชนะเขาได้หรือไม่?”
หลินจิ่วเฟิง กำลังพูดกับบรรพบุรุษอาวุโสของนิกายซากศพที่อยู่เบื้องหลังของเขา
อีกฝ่ายได้ผ่านการปรับแต่งโดยทักษะควบคุมศพจากความตาย อีกทั้งจิตวิญญาณยังได้รับการหล่อเลี้ยงขึ้นมาใหม่
ตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นร่างกายหรือพลังของอีกฝ่ายล้วนทำงานภายใต้คำสั่งของเขา
หลินจิ่วเฟิง ไม่รู้จักชื่อเดิมของเขา ดังนั้น เขาจึงตั้งชื่อให้ใหม่
ไร้นาม!
“นายท่าน เมื่อพันปีก่อน ปรมาจารย์แห่งนิกายชุนฮวา คนนั้นได้พ่ายแพ้ในการต่อสู้ให้กับข้ามาแล้ว”ไร้นาม ได้ตอบกลับอย่างเฉยเมย
หลินจิ่วเฟิง ได้สั่งการ“เอาล่ะ เช่นนั้นไปฆ่าเขาซะ!”
ไร้นาม ได้ตอบรับคำสั่งในทันที ร่างของเขาราวกับลูกศรที่ถูกคันธนูง้างและยิงขึ้นไป
เขาได้พุ่งไปถึงบนดาดฟ้าสูงสุดของพระราชวังต้องห้าม
หึ่มม!
ขณะที่คนจากราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวากำลังสิ้นหวัง กลิ่นอายพลังของปราชญ์การต่อสู้ ได้ปรากฏขึ้น กลิ่นอายพลังนี้ ได้สะกดแรงกดดันของกลิ่นอายพลังปีศาจในพื้นที่โดยทันที อีกทั้งมันยังได้ปะทะเข้ากับพลังของบรรพบุรุษอาวุโสจากนิกายชุนฮวาโดยตรง
ทุกคนในราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวาต่างประหลาดใจ
“นี่มัน...ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นปราชญ์การต่อสู้?”
“นี่คือผู้ฝึกยุทธ์ขั้นปราชญ์การต่อสู้จากราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวาของข้าหรือไม่?”
“ปรากฏว่า บรรพบุรุษอาวุโสของนิกายชุนฮวา ไม่ใช่ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นปราชญ์การต่อสู้เพียงคนเดียวในโลก”
“เยี่ยมมาก เยี่ยมจริง ๆ ราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวา ของข้า ในที่สุดก็มีผู้ฝึกยุทธ์ขั้นปราชญ์การต่อสู้”
องค์จักรพรรดิที่อยู่ในห้องโถงกลาง ได้แสดงความแปลกใจออกมา
“แต่ทว่า ราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวาของข้า ไม่เคยมีผู้ฝึกยุทธ์ขั้นปราชญ์การต่อสู้มาก่อน เป็นไปได้หรือไม่ว่า ผู้อาวุโสบางคนได้ทะลวงขั้นพลังและจงใจปกปิดมันเอาไว้?”
การมาถึงของ ไร้นาม ได้จุดประกายความหวังให้กับ เจ้าหน้าที่พลเรือนและทหารของราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวา รวมไปถึง องค์จักรพรรดิในปัจจุบัน
และอีกทางด้านนึง ต้าชุน ได้จ้องมองไปที่ หลินจิ่วเฟิง ดวงตาของเขาได้กระพริบอย่างไร้เดียงสา
“องค์ชาย คนผู้นี้…”ต้าชุน ได้กล่าวถามออกไป
เขามองดู หลินจิ่วเฟิง และ สัมผัสได้ถึงความหวาดกลัวในนใจ
องค์ชายกลับมี ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นปราชญ์การต่อสู้ภายใต้เขางั้นหรือไม่?
นี่มันไม่น่ากลัวเกินไปหน่อยเหรอ?
แล้วเหตุใดอีกฝ่ายถึงยังนิ่งเช่นนี้ได้อีก?