80Y-ตอนที่ 3 องค์รัชทายาทคนใหม่
หลังจากทานอาหาร และ ดื่มเครื่องดื่ม จนพอใจแล้ว หลินจิ่วเฟิง ก็มองดูสภาพแวดล้อมที่สกปรกที่เขาอาศัยอยู่
“ได้เวลาจัดระเบียบสถานที่นี้ใหม่แล้ว”หลินจิ่วเฟิง ได้พึมพัมออกมา
เขาไม่ลังเลที่จะทำความสะอาดลานใกล้ประตูตำหนักเย็นโดยไม่ลังเล
พื้นดินที่นี่ถูกปกคลุมไปด้วยวัชพืชที่หนาแน่น
หลินจิ่วเฟิง ได้ใช้กิ่งไม้เป็นกระบี่และเริ่มฟันวัชพืชเหล่านี้!
ฟวั่บ!
พลังกระบี่ได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
พลังอันแหลมคมของมันได้ถอนรากถอนโคนวัชพืชเหล่านี้โดยตรง
กระทั่ง เถาวัลย์และงูพิษก็ถูกกำจัดด้วยพลังกระบี่ของ หลินจิ่วเฟิง
หลังจากทำงานเสร็จแล้ว เขาก็ไปทำความสะอาดห้องจนเสร็จในที่สุด ไม่นานเขาก็ถอนหายใจออกมา
“ในที่สุดที่นี่ก็เริ่มเหมาะสมที่จะอยู่ขึ้นมาหน่อยแล้ว”หลินจิ่วเฟิง ได้พึมพัมออกมา
ถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาเชื่อว่าตนเองจะต้องอยู่ที่นี่อีกนาน
ดังนั้นมันคงจะดีหากเขาสร้างสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบให้กับตัวเอง
หลังจากทำความสะอาดลานบ้านแล้ว หลินจิ่วเฟิง ก็พบบ่อน้ำ
บ่อน้ำนี้ปกคลุมไปด้วยวืชพืชจำนวนมาก
กระทั่งฝาของบ่อน้ำยังถูกปิดผนึกอย่างแน่นหนา
หลินจิ่วเฟิงได้เดินเข้าไปทันใดนั้นก็มีข้อความปรากฏขึ้นตรงหน้าของเขา
[ยืนยันการเข้าใช้สถานที่ที่เป็นลางร้ายหรือไม่?”
ลู่เฟิง รู้สึกตกตะลึง สถานที่ลางร้าย?”
นั่นหมายความว่ายังไง?”
“ยืนยันการเข้าใช้!”หลินจิ่วเฟิง ได้ตอบกลับ เขายังไม่ได้ลงชื่อเข้าใช้สถานที่สำหรับวันนี้
[ลงชื่อเข้าใช้สำเร็จ ได้รับอาวุธวิเศษ : กระบี่สังหารปีศาจ!]
ในเวลาต่อมา กระบี่ยาวสีม่วงก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าของ หลินจิ่วเฟิง
แม้ว่า กระบี่ยาวจะถูกผนึกไว้ในฝักโดยไม่เห็นตัวกระบี่ แต่กลิ่นอายอันเยือกเย็นที่เล็ดลอดออกมายังคงส่งผลทำให้ หลินจิ่วเฟิง รู้สึกหนาวสั่น
“พอดีเลย ได้เวลาที่ ทักษะกระบี่ผ่าสวรรค์ขั้นสูงสุดของข้าจะได้พัฒนาสู่ขั้นต่อไปแล้ว และ ข้าต้องการฝึกใช้กระบี่”หลินจิ่วเฟิง ได้หยิบ กระบี่สังหารปีศาจขึ้นมาและฉีดพลังปราณเข้าไป
ชิ้งง!
กระบี่สังหารปีศาจสั่นสะท้านเล็กน้อยและเปล่งเสียงที่น่าขนลุกดังก้องกังวานไปทั่ว
จากนั้นมันก็เปลี่ยนเป็นแสงวูบไหวไหลเข้าไปในร่างกายของ หลินจิ่วเฟิง
หลินจิ่วเฟิง สามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่า กระบี่สังหารปีศาจนี้ทรงพลังมากและสามารถสร้างความเสียหายต่อปีศาจร้ายได้เป็นอย่างดี
หลังจากที่ลงชื่อเข้าใช้แล้ว หลินจิ่วเฟิง ก็มองไปที่ บ่อน้ำที่ปิดสนิท
“มีอะไรอยู่ในบ่อน้ำ?”หลินจิ่วเฟิง รู้สึกสงสัยเขาได้เปิดฝาบ่อแต่ก็ไม่ค้นพบอะไร
ที่มีก็แค่น้ำใสและสิ่งสกปรกเล็กน้อย
เขาไม่ค้นพบสิ่งใดนอกจากนี้เลย
ไม่นานเขาก็กลับไปนั่งฝึกฝนภายในห้อง
โดยที่เขาไม่ได้ให้ความสนใจเกี่ยวกับบ่อน้ำก่อนหน้านี้
…
3 ปีได้ผ่านไปอย่างรวดเร็ว
เป็นเวลากว่า 3 ปีแล้วที่ หลินจิ่วเฟิง ได้ลงชื่อเข้าใช้สถานที่ตำหนักเย็นอย่างต่อเนื่อง
เขาได้ติดอยู่ที่ตำหนักเย็นและไม่สามารถออกไปไหนได้ ดังนั้นเขาจึงได้ลงชื่อเข้าใช้ภายในลานเล็ก ๆ ของเขา
[ลงชื่อเข้าใช้สถานที่ใต้ต้นไม้ในตำหนักเย็น ได้รับโอสถแสงตะวัน!]
[ลงชื่อเข้าใช้สถานที่บนเตียงในตำหนักเย็น ได้รับชุดไร้ฝุ่น 30 ชุด!]
[ลงชื่อเข้าใช้ที่หน้าประตูตอนเหนือของตำหนักเย็น ได้รับทักษะกระบี่ 22 เล่ม]
[ลงชื่อเข้าใช้สถานที่หน้าลานตำหนักเย็น ได้รับทักษะนิมิตอันรุ่งโรจน์ยามฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วง!]
หลินจิ่วเฟิง ได้ลงชื่อเข้าใช้สถานที่ เขาได้รับ โอสถชำระแก่นแท้ จำนวนมาก วันเวลาผ่านไป เขาได้ใช้ โอสถแก่นแท้ไปหลายร้อยเม็ด ส่วนใหญ่ ได้ถูกกินและถูกปรับแต่งโดยหลินจิ่วเฟิง
อย่างไรก็ตามจนกระทั่งตอนนี้เขาก็ยังไม่มีความคิดที่จะจากที่นี่ไป
ในช่วง 3 ปีมานี้ เขาได้เคลื่อนไหวไปทั่วลานเล็ก ๆ ของเขา ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่า 2-3 ร้อยเมตร
ตำหนักเย็น มีขนาดใหญ่อย่างมาก และมีสถานที่ต่าง ๆ ที่หลินจิ่วเฟิง ยังไม่เคยไปเยี่ยมชม
เขาวางแผนจะสำรวจส่วนอื่น ๆ ของตำหนักเย็นต่อ
ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา หลินจิ่วเฟิง ไม่ได้ริเริ่มที่จะสอบถามเกี่ยวกับสถานการณ์ภายนอก
เขาไม่ได้มีความคิดที่จะยุ่งเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันของราชวงศ์ศักดิ์ศิทธิ์หยูฮวา
คนที่เขาพบมากที่สุดก็คือ ต้าชุน
ต้าชุน มักจะพูดคุยกับ หลินจิ่วเฟิง ทุกครั้งที่เขามาหา
และ เขาเป็นเพียงคนเดียวที่ ตนเองพูดคุยตลอดหลายปีมานี้
ดังนั้นเขาจึงไม่รู้สึกโดดเดี่ยว
หลินจิ่วเฟิง พึงพอใจที่เห็นตัวเองแข็งแกร่งและพัฒนามากขึ้นเรื่อย ๆ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อ ต้าชุน บอกว่าเมื่อ 2-3 วันก่อน สถานการณ์ของโลกภายนนอกนั้นค่อนข้างโกลาหล
นิกายปีศาจทั้ง 18 แห่งได้เผยตัวออกมา และ กลุ่มที่มีอำนาจต่าง ๆ ก็เริ่มบุกรุกเข้ามายังประเทศมากขึ้น
ความชั่วร้ายของพวกมันทำให้ ผู้ฝึกยุทธ์มากฝีมือจำนวนมากหลายคนเสียชีวิต
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลินจิ่วเฟิง ก็ตระหนักได้ในทันทีว่าเขายังไม่ควรออกไป
เขาจะอยู่ในตำหนักเย็นอย่างเงียบ ๆ และลงชื่อเข้าใช้เพื่อฝึกฝนต่อไป
…
วันรุ่งขึ้น ต้าชุน ก็ได้มาส่งอาหารอีกครั้ง
หลินจิ่วเฟิง กำลังเพลิดเพลินไปกับไวน์ของเขาขณะที่ฟัง ต้าชุน เล่าเรื่องบางอย่างให้เขาฟัง
บางข่าวก็เป็นข่าวที่มีประโยชน์ แต่ส่วนใหญ่ล้วนเป็นเรื่องไม่สำคัญ
ครั้งหนึ่ง หลินจิ่วเฟิง ได้กล่าวถามว่า เหตุใด ต้าชุย จึงคิดพูดคุยกับเขาด้วยเรื่องไม่สำคัญเหล่านี้
ต้าชุน ได้ตอบกลับ“ในตำหนักเย็นไม่มีใครคอยสนทนากับท่าน ดังนั้น องค์ชายคงจะรู้สึกเบื่อมาก ดังนั้นอย่างน้อยให้ข้าได้สนทนาเป็นเพื่อนท่านยามมาส่งอาหารก็ยังดัง และ สิ่งนี้ข้าหวังว่าจะทำให้ท่านมีความสุขมากขึ้น…”
หลินจิ่วเฟิง ยิ้มอย่างอบอุ่น เขาไม่คิดเลยว่า ต้าชุน จะพูดกับเขาแบบนี้
แต่ทว่า หลังจาก ต้าชุน พูดจบ เขาก็พูดต่อ“องค์ชาย ฝ่าบาททรงประกาศแต่งตั้งองค์รัชทายาทคนใหม่ภายในวันนี้”
หลินจิ่วเฟิง ได้กล่าวถาม“เป็นใครล่ะ?”
เขาเริ่มทบทวนความทรงจำของเขา
พี่รอง?พี่สาม หรือว่า พี่ชายคนอื่น ๆ ของเขา?
ต้าชุน ได้ตอบกลับ“เป็นองค์ชายหก เขาเอาชนะองค์ชายคนอื่น ๆ และกลายเป็นองค์รัชทายาทคนใหม่”
“น้องหก!”หลินจิ่วเฟิง รู้สึกตกใจมาก
องค์ชายหกและหลินจิ่วเฟิง เกิดในพระครรภ์เดียวกัน เขาอายุน้อยกว่า หลินจิ่วเฟิง ถึง 5 ปี แต่ทว่าก็มีความสามารถที่โดดเด่นเหมือนกับ หลินจิ่วเฟิง ตั้งแต่ยังเด็ก
ความต่างก็คือ หลังจากที่ หลินจิ่วเฟิง ได้รับการฝึกฝนหลังจากขึ้นเป็นองค์รัชทายาท องค์ชายหกผู้นี้ ก็ถูกคนจากทางราชวงศ์นำตัวไป
องค์ชายหกใกล้ชิดกับหลินจิ่วเฟิงมากก่อนที่เขาจะอายุ 5 ปี
แต่หลังจากอีกฝ่ายถูกพาตัวไปเขาก็ไม่เคยพบอีกฝ่ายอีกเลย
เขาไม่ได้คาดหวังเลยว่าจะได้ยินชื่อของเขาจาก ต้าชุน
“องค์ชายหก ข้าได้ยินมาว่าเขากลับมายังเมืองหลวงเมื่อครึ่งปีที่แล้ว”
“การบ่มเพาะพลังของเขาอยู่ที่ขั้นก่อเกิด…”
“ผู้ฝึกยุทธ์ที่บ่มเพาะพลังถึงขั้นก่อเกิดก่อนอายุ 20 ปี”
“ทุกคนได้บอกว่าเขาจะกลายเป็น ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นปรมาจารย์คนต่อไป ตอนนี้เขาได้กลายเป็นองค์รัชทายาทแล้ว เขาย่อมสร้างแรงกดดันให้กับองค์ชายคนอื่น ๆ”ต้าชุน ได้ตอบกลับ
ผู้ฝึกฝนขั้นก่อเกิดก่อนอายุ 20 ปี… หลินจิ่วเฟิง เลิกคิ้วเล็กน้อย
ไม่เลว
แต่ก็แค่นนั้น
ต้าชุน ได้กล่าวถามอย่างระวัง“องค์ชาย ท่านรู้สึกไม่สบายตรงไหนหรือไม่?”
“ข้าไม่เป็นไร เจ้าอาจจะยังไม่รู้ องค์ชายหกเป็นน้องชายแท้ ๆ ของข้า แล้วข้าจะรู้สึกไม่ดีไปทำไม?”หลินจิ่วเฟิง ได้ยิ้มและตอบกลับ
ตอนนี้เขาได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขในทุก ๆ วัน เหตุใด เขาจะต้องสนใจตำแหน่งองค์รัชทายาท?
ตำแหน่งองค์รัชทายาท เป็นตำแหน่งที่แบกภาระอันหนักอึ้ง ทำให้ไม่มีเวลามากพอที่จะมุ่งเน้นความสนใจไปที่การบ่มเพาะพลัง ซึ่งมันเทียบไม่ได้กับชีวิตสงบสุขที่ หลินจิ่วเฟิง มีในตอนนี้
“องค์ชาย เช่นนั้นข้าขอตัวก่อน ไว้คราวนี้ข้าจะมาคุยเป็นเพื่อนท่านอีกครั้ง”ตุนชวน ได้ตอบกลับและขอลา
หลิวจิ่วเฟิง ได้ส่งจานเปล่าและมองไปที่ตำหนักเย็นขนาดใหญ่
“วันนี้ลองไปลงชื่อเข้าใช้สถานที่อื่นดีกว่า”หลินจิ่วเฟิง ได้ลุกขึ้นและเดินไปที่บริเวณอื่น
ตำหนักเย็นนี้ใหญ่มาก มันมีสามชั้นข้างในและสามชั้นข้างนอก
มีสนามหญ้ามากมายและไม่ใช่เพียงแค่ที่แห่งเดียว
หลินจิ่วเฟิง ใช้เวลาสามปีในสามชั้นข้างนอกในลานเล็ก ๆ ใกล้ประตู
วันนี้เขาจะเข้าไปยังข้างใน
ขณะที่เขาก้าวเข้าสู่ธรณีประตูแรก จู่ ๆ ก็มีข้อความปรากฏขึ้นตรงหน้าของ หลินจิ่วเฟิง
[คุณต้องการลงชื่อเข้าใช้ธรณีประตูด้านในของตำหนักเย็นหรือไม่?]
“ยืนยันการเข้าใช้”หลินจิ่วเฟิง ได้ตอบกลับ
[ลงชื่อเข้าใช้สำเร็จ ได้รับโอสถปรับแต่งแกนกลาง!]
[การลงชื่อเข้าใช้ซ้ำที่นี่ได้จนกว่าผลของการลงชื่อเข้าใช้จะหายไป]
หลินจิ่วเฟิง ได้ยิ้มออกมา “ช่างน่าประหลาดใจราวกับว่ามันรู้ว่าข้าเป็น ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นแกนทองคำอยู่ก่อนแล้ว จึงได้มอบโอสถปรับแต่งแกนกลางนี้มาให้”