315 - หนูทดลอง
1626 - หนูทดลอง
หลายวันต่อมาการคัดเลือกนักเรียนเข้าสู่สถาบันแห่งนี้ก็จบสิ้นลง
ในวันที่สองคุกสีดำแห่งนี้ก็ถูกเปิดออก
“มันมาแล้วชะตากรรมที่น่าเศร้าของเราได้เริ่มขึ้นแล้ว” วัวชราถอนหายใจด้วยความเศร้าโศก
“เราต้องไม่ยอมให้คนพวกนั้นสามารถสร้างเทพสงครามขึ้นมา?” ดวงตาของสือฮ่าวกลายเป็นเย็นชาพร้อมกับปลดปล่อยไอสังหาร“ถ้าพวกมันกล้าทำให้เราอับอาย ข้าขอยืนยันว่าพวกมันทุกคนจะต้องตาย!”
เขาปะทุขึ้นด้วยเจตนาฆ่าจ้องมองไปที่ผู้คุมเหล่านั้นด้วยความเย็นชา
วังเต๋าใหญ่เป็นวังขนาดยักษ์ที่ลอยอยู่กลางอากาศ การจะจุคนได้หลายแสนคนไม่ใช่ปัญหาใดๆเลย มันถูกปกคลุมไปด้วยหมอกแห่งความโกลาหลตลอดทั้งปีทั้งชาติ
นี่เป็นหนึ่งในสถานที่ทำความเข้าใจเต๋าที่มีชื่อเสียงที่สุดในสถาบันเทพสงคราม เพราะทุกๆครั้งจะมีผู้เชี่ยวชาญมาที่นี่เพื่อบรรยายเกี่ยวกับญาณวิเศษอันลึกซึ้ง
ด้านล่างมีสันเขาอยู่ทุกหนทุกแห่งพลังงานจิตวิญญาณจางๆ ลอยขึ้นมา ขณะเดียวกันในกลางอากาศวังเต๋าใหญ่ลอยอยู่ตลอดทั้งปีมันเคลื่อนตัวไปอย่างมีระเบียบแบบแผนตามกฎแห่งเต๋าของโลกใบนี้
คุกสีดำถูกเปิดออก สือฮ่าวและกลุ่มคนถูกนำตัวออกมาในที่สุดทุกคนถูกส่งเข้าไปในวังเต๋าใหญ่
สำหรับบางคนนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขามาที่นี่เช่นวัวชรา ร่างกายของมันสั่นสะท้านทันทีที่เข้ามาเพราะมันคุ้นเคยกับสถานที่แห่งนี้มากเกินไป
แต่ละครั้งมันต้องพบกับความทรมานอย่างแสนสาหัส ไม่ง่ายเลยที่มันจะอยู่รอดมาจนถึงตอนนี้
นี่คือสถานที่ที่มีการสอนเกี่ยวกับการใช้ญาณวิเศษและบรรลุเต๋าแต่ก็ยังมีสนามต่อสู้อยู่อีกด้วย!
วังยักษ์นั้นกว้างใหญ่พอที่จะจุคนได้หลายแสนคน ในขณะเดียวกันสถาบันเทพสงครามอนุญาตให้เข้าร่วมได้เพียงหนึ่งพันคนต่อปีเท่านั้น
แต่ผลประโยชน์ที่พวกเขาได้รับนั้นกลับมากมายมหาศาล ทั้งการที่สามารถได้ฟังคำบรรยายจากผู้ไม่ดับสูญ รวมไปถึงการต่อสู้กลับสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่ง
สถานที่แห่งนี้จึงเหลือพื้นที่ค่อนข้างกว้างขวาง ในลานกว้างถูกปูด้วยอาสนะสวดมนต์สำหรับนั่งทำความเข้าใจเต๋าด้วยจำนวนไม่มากไม่น้อยหนึ่งพันชิ้นพอดี
และตอนนี้มีคนหลายร้อยคนนั่งอยู่ที่นั่นกำลังรับฟังสิ่งมีชีวิตระดับผู้สูงสุดบรรยายเต๋า
ในระหว่างกระบวนการนี้เต๋าอันยิ่งใหญ่ของโลกได้คำรามออกมา ราวกับว่าสวรรค์และปฐพีถูกเปิดออกส่งผลให้สัญลักษณ์จำนวนมากแผ่ซ่านไปในอากาศ
สือฮ่าวรู้สึกสะท้านหวั่นไหว แม้ว่าเขาจะได้ยินคำบรรยายเหล่านี้เพียงเล็กน้อยแต่มันก็ช่วยให้เขาสามารถทำความเข้าใจในเต๋าอันยิ่งใหญ่ได้ไม่น้อย
ว่ากันว่าแม้แต่สิ่งมีชีวิตระดับจักรพรรดิผู้ไม่ดับสูญ ก็ต้องทำความเข้าใจเต๋าไปทีละขั้นไม่มีขั้นตอนลัดในกระบวนการนี้
การที่สือฮ่าวมีโอกาสได้รับฟังคำบรรยายก็นับว่าเป็นเรื่องที่ดีเช่นกัน
หลังจากที่ผู้สูงสุดคนนั้นบรรยายจบเขาก็มองไปที่ใบหน้าของนักเรียนทุกคน พร้อมกับถามออกมาว่ามีใครไม่เข้าใจตรงไหนบ้าง
อายุของคนเหล่านี้ไม่น้อยแล้ว บางคนถึงกับก้าวเข้าสู่อาณาจักรผู้สูงสุดไปครึ่งตัว การที่มีโอกาสได้รับฟังบรรยายเต๋าอันลึกซึ้งเหล่านี้ย่อมเป็นประโยชน์สำหรับพวกเขามหาศาล
“ผู้อาวุโสข้าสับสนเล็กน้อยเมื่อศักยภาพของสิ่งมีชีวิตหมดลงอย่างสมบูรณ์…”
แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกคนจะสามารถรับรู้เต๋าอันลึกซึ้งนี้ได้ทันทียังคงมีหลายคนที่พยายามสอบถามเป็นการส่วนตัว
“มันแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคลศักยภาพย่อมแตกต่างกัน เพียงเจ้าเข้าใจในความลับของร่างกายตนเองเท่านั้นถึงจะสามารถใช้พลังออกมาได้อย่างเต็มที่” ผู้อาวุโสคนนั้นกล่าว
จากนั้นเขาก็ชูมือขึ้นฟ้าพร้อมกับเลือกหนึ่งจาก 'นักสู้' ขึ้นมาให้นักเรียนของเขาได้มีโอกาสใช้ญาณวิเศษของบรรพบุรุษอย่างเต็มที่
สิ่งที่เรียกว่านักสู้นั้นเป็นสิ่งมีชีวิตน่าสมเพช พวกเขามาที่นี่ไม่ใช่เพื่อต่อสู้ แต่ในความเป็นจริงทุกคนคือนักโทษประหาร ชีวิตของพวกเขาไม่มีค่าอะไรและพร้อมที่จะจากไปได้ทุกเมื่อ
“พยายามอย่างเต็มที่ ต่อต้านโดยทุกสิ่งที่เจ้ามี” ชายชราคนนั้นกล่าว
เมื่อนักสู้คนนั้นได้ยินดังนั้นเขาก็ตัวสั่นสถานด้วยความกลัวทันทีเพราะเขารู้ว่าเขาอาจจะตาย
ฮ่อง!
คลื่นที่ทรงพลังครอบงำเขาทำให้กระดูกของเขาปล่อยเสียงกุกกักอย่างต่อเนื่อง
คชา!
จากนั้นสิ่งมีชีวิตตัวนั้นก็ทำทุกอย่างเพื่อปกป้องตัวเอง กระดูกหลายชิ้นของเขาแตกหักภายใต้แรงกดดัน สามารถเห็นได้ว่าอำนาจของการกดขี่ข่มเหงเป็นอย่างไร
กระดูกภายในร่างกายของเขาถูกบดขยี้โดยบุคคลที่อยู่ในระดับผู้สูงสุดครึ่งก้าว
ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขายังลงมือต่อไปไม่เปลี่ยนแปลงจนกระทั่งร่างกายของนักสู้คนนั้นป่นปี้ไม่เหลือชิ้นดี
ปู!
ในที่สุดช่องว่างระหว่างคิ้วของเขาก็ระเบิดออกมา กะโหลกของเขายิ่งแตกออกเป็นชิ้นๆ
“อา…” นักสู้คนนั้นกรีดร้องอย่างน่าสังเวช ชะตากรรมของเขาเลวร้ายเกินกว่าที่นักสู้ทุกคนจะทนไหว
“ใส่ใจรายละเอียด!” ครึ่งก้าวผู้สูงสุดคนนั้นยังคงสงบนิ่ง ฝ่ามือของเขาส่องแสงมงคลจำนวนมากกระจายลงบนร่างกายของมนุษย์ทำให้ร่างกายของเขาเกือบจะโปร่งแสง
“ที่นี่ที่นี่และที่นี่พลังนั่นคือสิ่งที่เจ้าควรใส่ใจ” ผู้สูงสุดที่ทำหน้าที่บรรยายชี้ให้เห็นถึงสิ่งที่นักเรียนของเขาต้องจดจำไว้
“พวกเจ้าทุกคนพยายามมองมากขึ้น หลังจากกระดูกเหล่านี้หักร่างกายของเขาก็เปล่งประกายด้วยตัวมันเอง นี่เป็นสัญญาณของศักยภาพที่เริ่มก่อตัวขึ้น” เขาบรรยายต่อด้วยความสงบนิ่ง
เขาเพิ่มกำลังอีกครั้งหนึ่งจนกระทั่งวิญญาณดั้งเดิมของนักสู้คนนั้นถูกทำลายไป
“พวกเจ้ามองเห็นหรือไม่? เมื่อสิ่งมีชีวิตกำลังจะตายจุดที่มีศักยภาพลึกลับเหล่านี้จะเพิ่มพลังของพวกมันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว” เขาบรรยายพร้อมกับชี้ให้เห็นถึงจุดเหล่านั้น
ในระยะไกลนักสู้หลายคนสั่นสะท้านอยู่ข้างใน บางคนถูกส่งมาที่สถาบันเทพสงครามเป็นครั้งแรก พวกเขาอดไม่ได้ที่จะตัวสั่น จุดจบแบบนี้น่าสงสารเกินไป นี่เป็นชะตากรรมของพวกเขาหรือไม่?
สำหรับสือฮ่าวดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเย็นชาและความโกรธแค้น
ขณะเดียวกันเขาก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ โลกนี้ช่างโหดร้ายและน่ากลัวอย่างยิ่ง เพื่อประโยชน์ในการสำรวจเส้นทางการบ่มเพาะพวกเขาไม่ลังเลที่จะทำร้ายสิ่งมีชีวิตคนอื่นๆ
ปู!
ร่างกายของนักสู้คนนั้นระเบิดออกจากกัน ร่างที่เหลืออยู่ของเขาถูกผู้สูงสุดครึ่งเก้าคนนั้นโยนออกไปราวกับเศษขยะ
“ทุกคนควรทราบว่าเมื่อร่างกายของเขาถึงขีดจำกัดที่เขาสามารถทนได้ ความแข็งแกร่งของเขาก็ถูกปลดปล่อยออกมามากขึ้นเรื่อยๆ” ผู้สูงสุดคนนั้นกล่าวออกมาอย่างใจเย็น
สือฮ่าวกัดฟันแน่น พวกเขาไม่ได้ปฏิบัติต่อนักสู้ในฐานะของมนุษย์เลย! มันเหมือนกับการจัดการกับหุ่นฟางหรือเดียรัจฉานเท่านั้น
“ผู้อาวุโสเราจะใช้ประโยชน์จากพลังที่ยิ่งใหญ่กว่าของโลกได้อย่างไร หรือบางทีอาจใช้พลังกฎธรรมชาติและสิ่งอื่นๆเพื่อทำลายญาณวิเศษบรรพบุรุษของศัตรูและสิ่งอื่นๆ” มีคนถามขึ้นมาอีกครั้ง
“มันก็แค่เรื่องง่ายๆ โดยเนื้อแท้แล้วเราสามารถใช้กฎธรรมชาติจัดการกับศัตรูได้อย่างรวดเร็ว”
คราวนี้เมื่อเขาพูดจบลงเขาก็คว้าไปที่ร่างของวัวชราเพื่อมาให้ผู้สูงสุดครึ่งก้าวคนนั้นได้ทดลองอีกครั้ง
วัวชรานั้นแข็งแกร่งมาก แต่เขาเทียบไม่ได้กับคนที่กำลังจะกลายเป็นผู้สูงสุด
“มันก็เป็นเช่นนี้ ยืมพลังที่ยิ่งใหญ่กว่าของสวรรค์และปฐพีเพื่อปราบปรามมันอย่างง่ายดาย!” เขาอธิบายอย่างเรียบง่ายพร้อมกับให้ผู้สูงสุดครึ่งเก้าคนนั้นปฏิบัติตาม
แน่นอนว่าเขาลงมืออย่างรวดเร็วโดยไม่ใช้ญาณวิเศษของบรรพบุรุษเพียงใช้ 'พลังที่ยิ่งใหญ่กว่า' ของโลกใบนี้เพื่อทำลายญาณวิเศษของวัวชรา
ปู!
ร่างของบัวชราถูกปกคลุมไปด้วยเลือด เขาถอยกลับมาที่ด้านข้างของสือฮ่าว เขาบนหัวของเขาถูกทำลายไปหมดสิ้นได้รับบาดเจ็บสาหัสจนเกือบตาย
ดวงตาของสือฮ่าวเย็นลง คนเหล่านี้ใจดำอำมหิตเกินกว่าจะเป็นสิ่งมีชีวิต!
“ทุกคนสามารถสัมผัสได้ด้วยตัวเอง!” ผู้เฒ่ากล่าว.
จากนั้นวังยักษ์ก็มีเสียงดังวุ่นวายเล็กน้อย
แน่นอนว่ามันโหดร้ายมากเพราะการต่อสู้สองสามครั้งเกิดขึ้นในวังยักษ์ บางคนค้นคว้าศักยภาพของร่างกายบางคนเน้นการต่อสู้บางคนพยายามเข้าใจกฎธรรมชาติ
ปู!
แน่นอนว่าหลังจากนั้นไม่นานนักสู้ที่ถูกนำมาก็ถูกใช้ไปเป็นส่วนใหญ่
จากนั้นก็มีผู้เสียชีวิตมากมายในวังยักษ์ เลือดของพวกเขาสาดกระเซ็นไปทั่วห้องโถงในวัง