ตอนที่แล้ว313 - ขัดขวางให้ถึงที่สุด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป315 - หนูทดลอง

314 - สถาบันเทพสงคราม


1625 - สถาบันเทพสงคราม

“น่าเสียดายจริงๆท้ายที่สุดแล้วกลับไม่มีใครกล้าที่จะต่อสู้กับข้าอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม” สือฮ่าวกล่าวอย่างเฉยเมย

เส้นเลือดของอวี่อวี้โผล่ขึ้นมาที่หน้าผากเมื่อเขาได้ยินสิ่งนี้ ใบหน้าของเขาเย็นชามากขึ้นเรื่อยๆ การต่อสู้เมื่อสักครู่นี้ของเขาเป็นไปได้หรือไม่ว่าผู้สูงสุดคนนั้นคิดว่าเขาต้องพ่ายแพ้อย่างแน่นอน?

“เนื่องจากเจ้ามีความดุร้ายและกระหายในการต่อสู้ข้าจะสนับสนุนเรื่องนี้เอง!” ในเมืองเสียงนั้นพูดอย่างเย็นชา

จากนั้นผู้สูงสุดในเมืองก็ประกาศบางอย่างว่าฮวงกำลังจะถูกส่งไปที่สถาบันเทพสงครามเพื่อเป็น 'นักสู้' ช่วยให้ผู้อื่นบรรลุเต๋า

เมื่อข่าวนี้ดังออกมาเด็กหนุ่มสาวมากมายก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้น ดวงตาของพวกเขามีประกายสดใส

แน่นอนว่ามีบางคนที่ผิดหวังอย่างยิ่งที่ไม่สามารถเห็นผู้เชี่ยวชาญของตระกูลจักรพรรดิสามารถเอาชนะฮวง

ท้ายที่สุดแล้วความปรารถนาของพวกเขาก็ไม่เกิดขึ้น เมื่อเห็นฮวงที่ร่างกายถูกปิดผนึกแต่ก็ยังสามารถเกือบสังหารผู้เชี่ยวชาญตระกูลจักรพรรดิ์พวกเขารู้สึกขาดความมั่นใจอย่างแท้จริง

บางทีอาจไม่มีใครในบรรดาเด็กรุ่นหลังที่สามารถเป็นคู่ต่อสู้กับฮวงได้

“สำนักเทพสงคราม …เราจะมีโอกาสเข้าไปข้างในไหม” หลายคนเริ่มพูดคุยกันเองดวงตาของพวกเขาลุกโชนเต็มไปด้วยความคาดหวัง

ต้นกำเนิดของสถาบันนี้ยิ่งใหญ่มากเป็นหนึ่งในสิบสถาบันที่ยิ่งใหญ่ของฝั่งนี้

ผู้ฝึกตนที่จบการศึกษาจากที่นี่เป็นที่รู้จักกันในนามเทพสงครามเมื่อก้าวเข้าสู่สนามรบพวกเขาจะเต็มไปด้วยความองอาจกล้าหาญอย่างที่ไม่มีใครเทียบ

แน่นอนว่าผู้ที่สามารถได้รับฉายาเทพสงครามนั้นมีไม่มากนัก สิ่งมีชีวิตส่วนใหญ่จบลงด้วยชะตากรรมการเป็นหินลับมีดให้กับผู้อื่นเท่านั้น

ต้นกำเนิดของสถาบันแห่งนี้มีความยิ่งใหญ่อย่างน่าเหลือเชื่อ มันถูกสร้างขึ้นโดยจักรพรรดิผู้ไม่ดับสูญที่ร่วงหล่นในเก้าสวรรค์

“จักรพรรดิผู้ไม่ดับสูญลั่วโม่?” เมื่อสือฮ่าวได้ยินชื่อนี้เขาก็หวั่นไหวอยู่ข้างใน

ย้อนกลับไปในดินแดนสวรรค์สีชาดเขาเคยได้ยินชื่อนี้มาแล้ว ลั่วโม่ต่อสู้จนเสียชีวิตในยุคสงครามเซียนโบราณครั้งสุดท้าย

“ทุกคนรู้ดีว่าสถาบันเทพสงครามจะรับนักเรียนเพียงหนึ่งพันต่อปีเท่านั้น พวกเจ้าก็รู้ว่าอาจารย์ที่ทำการฝึกสอนพวกเจ้าที่นั่นจะอยู่ในระดับผู้สูงสุดส่วนมาก และยังมีผู้ไม่ดับสูญมาคอยบรรยายเสริมอีกด้วย” ในเมืองเสียงอันเยือกเย็นนั้นดังขึ้นอีกครั้ง

เมื่อเทียบกับสถานที่อันกว้างใหญ่ไพศาลของโลกใบนี้ การที่รับนักเรียนเพียงพันคนต่อปีนั้นจึงถือได้ว่าน้อยนิดจนน่าสังเวช

“น่าสนใจจริงๆเนื่องจากฮวงจะถูกส่งไปที่นั่นข้าจะพลาดความสนุกครั้งนี้ได้อย่างไร” ฉิงคุนกล่าวกล่าว

“ข้าจะไปด้วย!” อวี่อวี้พยักหน้าที่เต็มไปด้วยความเย็นชา

สำหรับโม่เซียน เฮ่อจื่อหมิงและอู๋คุนพวกเขาไม่ได้คิดอะไรมากเพียงตอบตกลงไปเรียนที่นั่นทันที มีสาเหตุหนึ่งที่แน่นอนนั่นคือฮวงกำลังจะกลายเป็น 'นักสู้' ที่นั่น

มิฉะนั้นด้วยฐานะของตระกูลจักรพรรดิโบราณ เหตุไฉนถึงต้องสนใจสถาบันที่ถูกสร้างไว้โดยอดีตจักรพรรดิผู้ไม่ดับสูญ

ข่าวสะพัดสะเทือนขวัญทุกสารทิศ

เรื่องนี้กระจายออกไปทั่วเมืองน้ำดำ ไม่เพียงแค่นั้นแม้แต่เมืองใหญ่อื่นๆก็ยังได้รับข่าวด้วย

ไม่เพียงเฉพาะฮวงที่จะกลายเป็น 'นักสู้' แต่ยังมีผู้เชี่ยวชาญรุ่นเยาว์ของตระกูลจักรพรรดิอีกหลายคนที่กำลังจะมุ่งหน้าไปที่นั่น

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าสิ่งนี้ดึงดูดใจคนจำนวนมากอย่างไม่ต้องสงสัย ผู้เชี่ยวชาญรุ่นเยาว์หลายคนต่างมุ่งหน้าไปยังสถาบันเทพสงครามเพื่อเสี่ยงโชค

ท้ายที่สุดแล้วตระกูลจักรพรรดิก็มีเพียงเจ็ดตระกูลเท่านั้น การที่มีโอกาสได้เป็นสหายกับทายาทของพวกเขานับว่าเป็นโชควาสนาอย่างหนึ่ง?

สำหรับสิ่งมีชีวิตมากมาย ล้วนมองว่าสถาบันเทพสงครามแห่งนี้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่จะทำให้พวกเขาก้าวเข้าสู่อาณาจักรแห่งความเป็นอมตะ

สถาบันไม่ได้ตั้งอยู่ในเมือง แต่อยู่ในเทือกเขาที่ห่างไกล

สถานที่แห่งนี้พิเศษมาก หากมองจากระยะไกลมันจะมีรูปร่างคล้ายกับมังกรที่แท้จริงยาวนับหมื่นลี้นอนขดอยู่ตรงนั้น

สถานที่บางแห่งในเทือกเขามีหมอกสีดำที่ปกคลุมไปด้วยพลังแห่งความตายที่ไม่เป็นมงคล บางแห่งมีพลังงานสีม่วงฟุ้งกระจายไปในอากาศ

ยังมีสถานที่อื่นๆที่มีแสงสีแดงเข้มพุ่งขึ้นเป็นเกลียวเข้าสู่สวรรค์ราวกับน้ำพุโลหิต

นี่เป็นภูมิประเทศที่ซับซ้อนมากหากไม่ทราบเส้นทางเฉพาะย่อมไม่สามารถมาถึงได้

ย้อนกลับไปตอนนั้นจักรพรรดิผู้ไม่ดับสูญลั่วโม่ เคยอาศัยอยู่ในสถานที่แห่งนี้พร้อมกับก้าวเข้าสู่อาณาจักรราชาอมตะ

แน่นอนว่าในส่วนลึกของดินแดนนี้เป็นที่อยู่อาศัยของลูกหลานจักรพรรดิลั่วโม่ มันไม่มีความแตกต่างระหว่างดินแดนของตระกูลจักรพรรดิอื่น

อย่างไรก็ตามนี่ก็ยังคงเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์!

ในสถาบันเทพสงครามเนื่องจากอายุของนักเรียนและขอบเขตระดับการบ่มเพาะแตกต่างกันค่อนข้างมาก จึงถูกแบ่งออกเป็นหลายระดับ

แต่ถึงจะอย่างนั้นผู้ที่สามารถเข้าเรียนได้ก็ย่อมมาจากชนชั้นสูงหรือไม่ก็อัจฉริยะแห่งแดนดินทั้งสิ้น

เป็นเพราะเมื่อมีการเปิดสถาบันการศึกษาอีกครั้งในแต่ละปีก็จะเกิดการท้าทายระหว่างผู้มาใหม่และนักเรียนเก่า ผู้พ่ายแพ้จะตต้องจากไปในขณะที่ผู้ชนะยังคงอยู่

ในท้ายที่สุดแล้วในแต่ละปีก็จะมีนักเรียนพันคนไม่มากไม่น้อยไปกว่านี้

ประตูภูเขากว้างใหญ่มีหมอกจางๆลอยขึ้นมา ดินแดนที่สถาบันเทพสงครามยึดครองนั้นกว้างใหญ่ไพศาลมาก

สือฮ่าวเข้ามาที่นี่ไม่ใช่เพราะว่าเขาเป็นหนึ่งในพันคน แต่เขาเข้าร่วมในฐานะนักสู้ที่มีหน้าที่ทำให้นักเรียนที่นี่บรรลุเต๋า

ในขณะที่การคัดเลือกที่เข้มข้นกำลังดำเนินอยู่ สือฮ่าวได้ถูกนำตัวเข้ามาในสถาบันและถูกขังไว้ในคุกแห่งหนึ่ง

หลังจากที่เขามาที่นี่เขาก็รู้สึกสะเทือนใจเป็นอย่างมากเพราะเขาเห็นสิ่งมีชีวิตหลายร้อยตัวที่เหมือนกับเขา ทุกคนถูกขังอยู่ในกรงเหมือนกับนักโทษ

“อีกคนแล้วเหรอ ไอ้หนูเจ้าทำผิดอะไรถึงถูกส่งมาที่นี่?” สิ่งมีชีวิตตนหนึ่งถาม

“อู๋ เป็นมนุษย์จริงๆ นี่เข้าท่ากว่ามาก ลูกหลานของผู้พ่ายแพ้ส่วนใหญ่จะจบลงด้วยการเป็นทาสรับใช้ทั้งชีวิต!”

เมื่อเขาได้ยินคำเหล่านี้ดวงตาของสือฮ่าวก็เย็นชา

ในเวลาเดียวกันหัวใจของเขาก็สั่นไหวเพราะเขาเห็นคนหลายสิบคนที่นี่รวมถึงมนุษย์ด้วย อย่างไรก็ตามสภาพของพวกเขาย่ำแย่มาก

“เจ้า…เป็นมนุษย์ที่มาจากฝั่งเก้าสวรรค์สิบพิภพใช่หรือไม่” สือฮ่าวสอบถามคนที่อยู่ด้านข้าง

แน่นอนว่าชายวัยกลางคนคนนั้นไม่ได้พูดอะไร ดวงตาของเขาเฉยเมยไร้ประกายคล้ายกับว่าปลงต่อชีวิตแล้ว

“ทำไมเจ้าไม่พูดอะไรเลย?!” สือฮ่าวตะโกนออกมาและพูดกับคนอื่นๆ

“เนื่องจากพวกเขาถูกลิขิตให้มาตายที่นี่ หัวใจของเขาแลกสลายไปแล้ว ไม่มีความหวังใดๆเหลืออยู่ พวกเขาสิ้นหวังต่อชีวิตมาตั้งนานแล้ว” ผู้อาวุโสคนหนึ่งกล่าว

นี่คือวัวป่าเถื่อนแม้ว่าเขาจะไม่ใช่มนุษย์ แต่สือฮ่าวก็รู้สึกว่านี่น่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตจากเก้าสวรรค์ เพราะภาษาที่อีกฝ่ายใช้สนทนา

“เจ้า…มาจากฝั่งเมืองจักรพรรดิ์ด้วยเหรอ?” สือฮ่าวถาม

“บรรพบุรุษของข้ามาจากฝั่งนั้น แน่นอนว่ามันไม่ได้น่าตื่นตาอะไรเลย ย้อนกลับไปตอนนั้นเขาถูกจับและบังคับให้เป็นทาสของตระกูลราชา” วัวป่าเถื่อนชรากล่าว

มันเต็มไปด้วยความเสียใจเมื่อมองไปที่สือฮ่าว เป็นเพราะมันสามารถเข้าใจคำพูดของเด็กคนนี้จากการสนทนาผ่านความประสงค์ของเทพเจ้า แต่ไม่สามารถเข้าใจคำพูดของเขาได้ นี่อาจเป็น ... ภาษาของเก้าสวรรค์?

“หลังจากหลายปีผ่านไปเจ้ายังสามารถพูดภาษาของเก้าสวรรค์สิบพิภพได้อีกหรือ” วัวป่าเถื่อนเก่าถาม

“ข้าเพิ่งมาจากเมืองจักรพรรดิได้ไม่กี่เดือน” สือฮ่าวกล่าว

"อะไร?!" สิ่งมีชีวิตมากมายมองมาทางเขาพร้อมกับอุทานออกมาด้วยความตื่นตระหนก

“การต่อสู้เริ่มขึ้นอีกแล้วหรือ พวกเขาพ่ายแพ้อีกแล้วหรือ!” มีคนถาม.

"ยัง." สือฮ่าวส่ายหัว จากนั้นเขาถามคนเหล่านี้ว่าเกิดอะไรขึ้น

“เจ้าจะสามารถเห็นด้วยตาของตัวเอง ผู้คนที่นี่ล้วนเป็นลูกหลานของสิ่งมีชีวิตเก้าสวรรค์ เมื่อถูกส่งมาที่นี่ชะตากรรมของเรามีเพียงความตายเท่านั้น” วัวชรากล่าวอย่างสะทกสะท้อน

ในอดีตมีสิ่งมีชีวิตมากมายที่ถูกจับจับมาเพื่อเป็นทาส หลายคนถูกส่งมาที่สถาบันแห่งนี้เพื่อเป็นหนูทดลองให้กับลูกหลานของผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหลาย

หลังจากมาที่นี่แล้วแทบจะไม่มีจุดจบที่ดีเลย พวกเขาต้องต่อสู้กับนักเรียนของสถาบันเพื่อทำให้อัจฉริยะพวกนั้นสามารถแข็งแกร่งขึ้นได้จากการต่อสู้ระหว่างความเป็นความตาย

แน่นอนว่ามีสิ่งมีชีวิตจากโลกแห่งนี้มากมายที่กระทำความผิดแล้วถูกส่งตัวมาที่นี่เช่นกัน

เมื่อสือฮ่าวเข้าใจสถานการณ์ที่นี่อย่างถ่องแท้แล้วเขาก็ถอนหายใจด้วยความเสียใจ หลังจากหลายปีผ่านไปยังคงมีลูกหลานของเก้าสวรรค์อยู่ที่นี่และสถานการณ์ของพวกเขาก็อยู่อย่างเลวร้าย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด