บทที่ 20 มาตรการรับมือ
บทที่ 20 มาตรการรับมือ
เหอซิงโจวอธิบาย "ผมคิดว่าข้อสังเกตุในรายงานนั้นอาจมีรายละเอียดไม่ถูกต้องนัก"
"บางทีเผ่าพันธ์ุเซิร์กอาจเป็นอาวุธชีวภาพที่มาจากต่างดาว สังเกตุได้ชัดเจนว่าลักษณะทางกายภาพของพวกมันเทียบได้กับอาวุธมีชีวิต ซึ่งพวกมันสามารถออกปล้นทรัพยากรหรือออกทำลายล้างชีวิตบนดาวดวงอื่น!"
"ทั้งนี้เซิร์กยังมีแนวโน้มที่จะให้กำเนิดชนชั้นผู้บัญชาการที่ชาญฉลาดอย่างยิ่งและพวกมันก็รู้จักวิธีการซ่อนตัวในพ้นจากสายตาของมนุษย์ ซึ่งถ้าหากพวกมันสะสมกำลังได้มากพอพวกเราจะต้องพร้อมสำหรับสงครามระดับโลก!"
"ดังนั้นเราต้องอาศัยความร่วมมือจากผู้คนทั้งประเทศเพื่อเตรียมการรับมือกับเรื่องนี้!"
เมื่อได้ยินสิ่งที่เหอซิงโจวพูดทั้งสามก็คิดเกี่ยวกับความร้ายแรงของมันอีกครั้ง คงชิงถามขึ้น "เธอสงสัยว่าพวกเซิร์กอาจเป็นสิ่งมีชีวิตต่างดาว?"
"ทว่าในความคิดของฉันพวกเซิร์กเป็นไปได้มากกว่าที่จะเป็นสิ่งมีชีวิตโบราณจากอดีต เพราะถ้าหากพวกมันเป็นเผ่าพันธ์ุต่างดาวที่สามารถเดินทางระหว่างดวงดาวได้ละก็เทคโนโลยีของพวกมันควรจะล้ำหน้ากว่าพวกเราไปมากและสามารถทำลายล้างพวกเราได้โดยตรง!"
เหอรู้ดีว่าคำพูดของเขายังไม่เป็นที่เชื่อถือนัก และถ้าบอกพวกเขาในเวลานี้ว่าเซิร์กนั้นสามารถกลืนทั้งระบบสุริยะได้พวกเขาคงไม่เชื่ออย่างแน่นอน
จากนั้นเหอซิงโจวก็หลีกเลี่ยงที่จะพูดความจริง "นี่เป็นเพียงการคาดเดาของผมเท่านั้นแต่ไม่ว่าคำตอบมันจะเป็นเช่นไรแต่พวกเราก็ต้องเผชิญกับภัยพิบัติในครั้งนี้อยู่ดี"
“เธอบอกว่าต้องการระดมกำลังของคนทั้งประเทศทว่าสำหรับในตอนนี้มันยังเป็นเรื่องยากที่จะทำเช่นนั้น เนื่องจากการการค้นหาเซิร์กในมหาสมุทรยังหาพบได้ยากและเรายังมีความเข้าใจเกี่ยวกับพวกมันที่จำกัดเราจึงจำเป็นจะต้องพิจารณาเรื่องนี้อย่างรอบคอบ” ชุยเว่ยหมินกล่าว
“และถ้าหากเราเลือกที่จะประกาศเรื่องนี้ต่อสาธารณะผู้คนคงไม่เชื่อเรามากนัก ทั้งมันยังเป็นการจุดชนวนให้เกิดความตื่นตระหนกต่อผู้คนในสังคมและจะส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อสภาพเศรษฐกิจรวมถึงกฏระเบียบของสังคม ซึ่งด้วยเหตุนี้เองมันจึงเป็นเรื่องที่ไม่เอื้อต่อการดำเนินงานของเรา”
"เราจำเป็นต้องมีมาตรการในเรื่องนี้อย่างแน่นอน" ฉินเผิงกล่าวว่า "แต่สิ่งสำคัญคือต้องใช้มาตรการเช่นไร"
มันเป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้พบเจอเรื่องแบบนี้และการหาวิธีจัดการกับปัญหานั้นยากจริงๆ
คงชิงถามขึ้น "เหอซิงโจวคุณสามารถพักอยู่ที่นี่ได้และในสองสามวันนี้เธอควรติดต่อเพื่อทำความคุ้นเคยกับผู้เชี่ยวชาญคนอื่นๆ"
"เราจะจัดประชุมเพื่อหารือเกี่ยวกับมาตรการรับมือภายในหนึ่งสัปดาห์นี้และในวันนั้นคุณสามารถนำเสนอแนวคิดของคุณในที่ประชุมได้"
"ตกลง" เฮ่อซิงโจวเห็นด้วย
ในแง่ของการเรียนแน่นอนว่าเขาไม่กังวลในเรื่องนี้เลย และการอยู่ในสถาบันวิจัยเขาก็ไม่ได้ถูกจำกัดเสรีภาพใดในที่นี้เขาสามารถสื่อสารกับโลกภายนอกได้อย่างอิสระ
ข้อกำหนดเพียงอย่างเดียวคือเขาเก็บเรื่องที่เกี่ยวข้องไว้เป็นความลับก่อนที่หน่วยงานจะตัดสินใจประกาศเรื่องนี้ออกไป
ในช่วงเวลานี้ผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการหลายคนได้มาพบเหอซิงโจวและเหอซิงโจวก็ได้เน้นย้ำถึงภัยคุกคามของเซิร์กต่อพวกเขาและมันจบลงโดยที่ทำให้พวกเขากังวลมากขึ้น
หนึ่งสัปดาห์ผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ในห้องประชุมเต็มไปด้วยผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการ และสมาชิกจากหน่วยงานต่างๆที่มาหารือเกี่ยวกับมาตรการรับมือ
คงชิงเป็นประธานผู้นำการประชุมเขากล่าวขึ้น “พวกคุณทุกคนที่นี่เป็นนักวิชาการชั้นนำจากสถาบันวิจัยหลัก หน่วยงานการทหารและอาจาร์ยมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศ! พวกคุณล้วนเป็นหนึ่งในผู้มีความสามารถชั้นนำในทุกสาขาของจีน!”
“ในการประชุมครั้งนี้พวกเราได้รวมตัวกันเพื่อหารือเกี่ยวกับภัยพิบัติครั้งใหญ่ที่มาจากเผ่าพันธ์ุเซิร์ก ซึ่งในกรณีที่เลวร้ายที่สุดพวกมันเข้าครอบครองดาวดวงนี้และทำลายล้างมนุษย์ชาติ!”
“ทุกคนได้ปรึกษาหารือเรื่องนี้มาตลอดทั้งสัปดาห์ถ้าหากคุณมีแผนการใดโปรดนำเสนอมันจากนั้นพวกเราจะลงคะแนนเพื่อตัดสินใจ!”
ซ่งจิ่งหงลุกขึ้นก่อนและพูดกับทุกคน "ทุกท่านฉันได้ร่างแผนงานร่วมกับสหายจากสถาบันชีววิทยา"
“เราเชื่อว่าเซิร์กไม่ได้อยู่ยงคงกระพันในฐานะสิ่งมีชีวิตพวกมันสมควรมีจุดอ่อนบางอย่าง ตราบใดที่อาวุธชีวภาพเช่น 'ยาฆ่าแมลง' หรือสารยับยั้งการก่อตัวของยีนบางชนิดสามารถยับยั้งพวกมันได้ มันจะทำให้พวกเรามีโอกาศชนะมากขึ้น”
“ดังนั้นแผนของเราคือการดำเนินงานวิจัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับยีนเซิร์กเพื่อพยายามพัฒนาวิธีการยับยั้งทางชีวภาพที่สอดคล้องกัน และเราจำเป็นต้องเร่งกำจัดภัยคุกคามเหล่านี้ออกไปก่อนที่สัตว์ทะเลเหล่านี้จะกลายพันธุ์อย่างสมบูรณ์!”
หลังจากที่ซ่งจิงหงแสดงแผนการดำเนินงานผู้เชี่ยวชาญหลายคนต่างปรบมือเห็นด้วย
“อาจารย์ซ่งพูดถูก” คงชิงยกย่อง "นี่เป็นความเสี่ยงน้อยที่สุดสำหรับเรา"
“แต่ฉันคิดว่าแผนนี้ยังไม่เพียงพอ!” ผู้เชี่ยวชาญอีกคนก้าวออกมาข้างหน้าเขาเป็นนักวิชาการจากสถาบันวิทยาศาสตร์การทหารเหอหงเหว่ย
เสียงของเหอหงเหว่ยดังขึ้นและเขาพูดว่า “แผนของนักวิชาการซ่งเสมือนการป้องกันก่อนที่เหตุการณ์จะเกิดขึ้น”
“แต่ทว่าคราวนี้มันเป็นหายนะที่เราไม่เคยพบมาก่อนและพวกเราไม่สามารถมองข้ามความเป็นไปได้อื่นๆ ซึ่งถ้าหากวิธีการทางชีวภาพไม่ได้ผลเรายังคงต้องพึ่งพากำลังทหาร เพื่อปกป้องความปลอดภัยของประเทศและประชาชน”
“ดังนั้นแผนของฉันคือจัดตั้งกองกำลังพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อจัดการกับเซิร์กโดยเฉพาะ พวกเราต้องพัฒนาอาวุธที่สามารถยับยั้งพวกมันได้และทำการฝึกจำลองการโจมตี อาวุธและประสบการณ์ของหน่วยนี้ยังสามารถส่งต่อไปยังหน่วยอื่นๆได้อีกด้วยดังนั้นเมื่อภัยพิบัติเซิร์กมาถึงเราจะสามารถรับมือกับมันได้!”
“ท่านแม่ทัพพูดถูก!” ฉินเผิงชมเชย “เรื่องนี้ต้องมีหลักประกันโดยกองกำลังทหารที่เข้มแข็งเนื่องจากศัตรูจะไม่มีเมตตากับเราอย่างแน่นอน!”
คนอื่นๆต่างพยักหน้าทีละคน
คงชิงพยักหน้าและพูดขึ้นว่า "ตอนนี้มีการเสนอมาแล้วสองแผนการดำเนินงานซึ่งทุกท่านต่างสนับสนุนมัน ตอนนี้มีใครมีข้อเสนออื่นๆอีกหรือไม่"
นักสังคมสงเคราะห์หญิงอีกคนหนึ่งชื่อหลู่เหม่ยยืนขึ้น "การมาถึงของภัยพิบัติเซิร์กจะนำไปสู่ความไม่สงบทางสังคมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"
“เราต้องเตรียมการล่วงหน้า เช่น การเสริมสร้างการศึกษาฉุกเฉินด้านภัยพิบัติสำหรับประชาชน ทั้งการยกเครื่องและปฏิรูปศูนย์พักพิงผู้ลี้ภัยขึ้นทั่วประเทศ การเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกและการผลิตอาวุธที่สามารถต้านทานเซิร์กได้”
“เพิ่มปริมาณสำรองทางยุทธศาสตร์ เช่น ธัญพืช น้ำมัน อาวุธ ฯลฯ และสร้างระบบบัญชาการและการจัดการระดับหน่วยงานในประเทศที่สมบูรณ์ขึ้น หากเกิดกรณีฉุกเฉินเราจะสามารถออกคำสั่งให้ประชาชนลี้ภัยได้ในทันที”
“การจัดระดับและการจัดการรัฐวิสาหกิจที่สำคัญบางแห่งในประเทศก็สามารถดำเนินการได้เช่นกัน หากพบสถานการณ์วิกฤตเราสามารถส่งคนไปเพื่อเข้าควบคุมกิจการโรงงานเหล่านี้ได้เพื่อปกป้องการดำเนินชีวิตของประชาชนให้เป็นไปตามปกติ”
ทุกคนปรบมือและพูดขึ้น "นี่คือสิ่งที่เราควรทำ"
"มีข้อเสนอแนะอื่นๆอีกไหม?" คงชิงถาม
คนอื่นๆได้เสนอแนะออกมาเช่นกันแต่ไม่มีอะไรมากไปกว่าการเสริมความแข็งแกร่งให้กับกองทัพ การเสริมความแข็งแกร่งให้กับการวิจัยเกี่ยวกับเซิร์ก การจัดการทางสังคมและความร่วมมือระหว่างประเทศ
เนื่องจากเหอซิงโจวเป็นเพียงนักศึกษาที่มีอายุน้อยที่สุดในห้องประชุม เขาไม่ใช่นักวิชาการที่มีชื่อเสียงหรือเป็นผู้เชี่ยวชาญที่เป็นที่รู้จัก เขาจึงยังคงนั่งเงียบๆอยู่ในมุมของห้องประชุมโดยที่ไม่ได้พูดอะไร
“ถ้าหากไม่มีข้อเสนออื่นใดงั้นพวกเราจะวางแผนและดำเนินงานตามคำแนะนำเหล่านี้” ในช่วงที่คงชิงกำลังจะกล่าวสรุปแต่ทันใดนั้น เหอซิงโจวก็ลุกขึ้นยืน "ทุกท่านผมมีอะไรจะพูด!"
ผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการ และบุคคลสำคัญต่างมองมาที่เขา แน่นอนว่าทุกคนต่างรู้จักเหอซิงโจวดี เพราะเขาเป็นผู้แจ้งเบาะแสวิกฤตจากเซิร์ก และถึงแม้ว่าเขาจะยังเด็กแต่ก็ไม่มีใครกล้าดูถูกเขา
“นักเรียนเหอโปรดกล่าวออกมา” คงชิงโบกมืออณุญาตให้เขาพูด
เหอซิงโจวมองดูผู้คนภายในห้องและพูดอย่างชัดเจน “ผู้อาวุโสทุกท่านผมคิดว่าแผนดังกล่าวนั้นดูดี แต่—”
เขาได้มาถึงจุดเปลี่ยนสำคัญ "แต่พวกท่านทั้งหมดคิดในแง่ดีจนเกินไปและการทำนายถึงภัยพิบัติที่อาจเกิดจากเซิร์กนั้นก็ต่ำเกินไปเช่นกัน! ผมยังขอเน้นย้ำว่านี่เป็นหายนะที่จะทำลายประเทศและแม้แต่มนุษยชาติทั้งหมดบนดาวดวงนี้ดังนั้นแผนเบื้องต้นดังกล่าวจึงไม่เพียงพอที่จะรับมือกับวิกฤติ!”
ทุกคนภายในห้องต่างตกตะลึงความคิดที่พวกเขาได้เสนอออกมานั้นต้องการทรัพยากร กำลังคน วัตถุดิบ และทรัพยากรทางการเงินเป็นจำนวนมากและทุกการกระทำก็ต้องการอำนาจของประเทศจึงจะสำเร็จ
และมันเป็นไปไม่ได้ที่คนธรรมดา องค์กร และกลุ่มต่างๆ เพียงกลุ่มเดียวจะทำได้ แต่ทว่าเหอซิงโจวในฐานะของนักศึกษาวิทยาลัยที่ยังไม่สำเร็จการศึกษา กลับกล้ากล่าวว่าพวกเขาทั้งหมดคิดในแง่ดีเกินไป?
ชุยเว่ยหมินถาม“คุณเห็นว่าแผนข้างต้นนั้นคิดในแง่ดีเกินไปแล้วแผนของคุณคืออะไรล่ะ?”