ตอนที่แล้วตอนที่ 1 : ย้อนกลับมา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 3 : ให้ผมช่วยไหม ?

ตอนที่ 2 : วางแผนชีวิต


หลังจากทำใจอยู่พักใหญ่วีก็ถอนหายใจออกมา

“เอาเถอะ ถึงยังไงก็เป็นไปแล้ว คงต้องยอมรับสภาพนี้ไปแล้วกัน”

วีลุกขึ้นไปถอดเสื้อผ้าและอาบน้ำแต่งตัว ดูเหมือนตอนนี้จะใกล้เที่ยงแล้วนี่่เขานอนเกือบทั้งวันเลยงั้นเหรอ ? ตอนเด็กๆฉันขี้เกียจขนาดนั้นเชียว ? วีคิดในระหว่างที่อาบน้ำ

หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ วีก็ลงมาทานข้าวซึ่งพ่อกับแม่และน้องของเขากำลังนั่งทานกันอยู่ เมื่อเห็นวีลงมาแม่ก็เรียกเขามานั่งทันที

“มาทานข้าวเร็วลูก”

“ครับแม่”

วีพยักหน้า เมื่อเขานั่งลงที่โต๊ะพ่อของวีก็พูดขึ้นมาทันที

“พ่อรู้นะว่าลูกพึ่งจะปิดเทอมแต่ก็อย่านอนเยอะเกินไปล่ะ ออกไปเที่ยวเล่นสะบ้าง”

วีได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อยที่พ่อของเขายุให้เขาออกไปเล่นข้างนอก เพราะปกติพ่อของวีมักจะชอบให้วีอ่านหนังสือมากกว่า แต่ก็พอจะเข้าใจได้ ช่วงนี้ปิดเทอมนี่นะ เป็นช่วงเวลาที่เด็กๆจะมีเวลาเป็นของตัวเอง การไปบังคับเด็กๆให้อ่านหนังสือตลอดทั้งปีคงเป็นอะไรที่โหดร้ายเกินไปสักหน่อย

วีกินข้าวไปพร้อมกับคิดอะไรไปด้วย เนื่องจากตอนนี้เขาได้มีโอกาสในการใช้ชีวิตใหม่อีกครั้งและตัวของวีเองก็มีหลายอย่างเลยที่เคยตัดสินใจพลาดไปและอยากจะแก้ไขมัน

ตัวอย่างเช่นการเซ็นสัญญาเป็นดาราในสังกัดของบริษัทหน้าเลือดนั่น มันทำให้เขาต้องทำงานทุกวันจนแทบไม่ได้มีเวลาพักผ่อน และไหนการตกลงยอมรับให้ยัยบ้านั่นมาเป็นผู้จัดการส่วนตัวของเขาอีก และยังมีอีกมากมายที่วีตัดสินใจพลาดไปหลายครั้ง และต้องมานั่งเสียใจทีหลัง

วีจึงคิดว่าโอกาสครั้งนี้เขาอยากจะวางแผนให้มันดีเสียหน่อยเพื่อที่จะได้ไม่มานั่งเสียใจทีหลัง วีคิดพร้อมกับเคาะจานไปมา

‘ฉันจะเริ่มจากตรงไหนดีนะ เรื่องเลือกคณะที่เรียนก่อนดีไหม ? ในชีวิตที่แล้วฉันดันไปเรียนด้านบริหารเสียนี่ พอจบมาก็ดันไปเป็นนักแสดงกลายเป็นว่าความรู้เรื่องบริหารไม่ได้เอาไปใช้เลย’

แกร้ง แกร้ง

เสียงเคาะจานของวีทำเอาทุกคนถึงกับเงยหน้าขึ้นมามองเป็นตาเดียวกัน แต่เนื่องจากวีกำลังตกอยู่ในห้วงความคิดของตัวเองทำให้เขาไม่ได้รู้สึกถึงบรรยากาศรอบๆเลย จนกระทั้งพ่อของวีได้ทักขึ้นมา

“อย่าเคาะจานแบบนั้นวี”

“อ๊ะ ! ขอโทษครับ”

วีได้สติพร้อมกับกล่าวขอโทษทันที เมื่อพ่อของวีเห็นแบบนั้นก็อดไม่ได้ที่จะสงสัยก่อนจะเอ่ยถาม

“กำลังคิดอะไรอยู่งั้นเหรอ ?”

วีได้ยินแบบนั้นก็ตอบกลับ

“อืม… กำลังคิดถึงเรื่องอนาคตนะครับ”

“อนาคตงั้นเหรอ ?”

พ่อของวีพูดออกมาพร้อมกับจ้องมองวีผู้เป็นลูกชายของตัวเองอย่างจริงจัง วีที่เห็นแบบนั้นก็ชะงักเล็กน้อยก่อนจะถามกลับไปว่า

“ทำไมพ่อมองผมแบบนั้นหล่ะ ?”

พ่อกับแม่ของวีมองหน้ากันเล็กน้อยก่อนที่พ่อของวีจะแสดงสีหน้าซาบซึ้งออกมา

“ดูสิแม่ ตอนนี้ลูกของเราเริ่มคิดถึงอนาคตของตัวเองแล้ว ลูกของเราโตแล้วจริงๆ”

แม่ของวีหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดน้ำตาเล็กน้อยก่อนจะพูดตอบโต้กับพ่อ

“นั่นสิพ่อ ลูกของเราโตแล้วจริงๆ”

วีที่ได้เห็นแบบนั้นก็ถึงกับตกตะลึงฉากตรงหน้านี่มันอะไรกัน ? ทำไมพ่อกับแม่ต้องซาบซึ้งขนาดนั้นแค่ฉันคิดเรื่องอนาคตของตัวเองเท่านั้นเองนะ

นี้ตอนเด็กฉันกลายเป็นคนไม่ได้เรื่องขนาดนี้เลยงั้นเหรอ ? วีเริ่มรู้สึกไม่ดีกับตัวเอง เพราะความทรงจำในช่วงวัยรุ่นของเขานั้นค่อนข้างจะเลือนลางนิดหน่อย ฉะนั้นเขาจึงจำไม่ค่อยได้เลยว่าในตอนนั้นนิสัยของเขาเป็นยังไง

จำเพียงแค่ว่าเขาเป็นเด็กที่ค่อนข้างซนเล็กน้อยเท่านั้น แต่มันก็ไม่น่าจะทำให้พ่อกับแม่ของเขาซาบซึ้งได้ขนาดนี้นี่หน่า ?

วีลูบคางพร้อมกับมองพ่อกับแม่ของตัวเองกำลังแสดงท่าทีราวกับว่าได้ถ้วยรางวัลงั้นแหละ จนทำเอาเขารู้สึกประหลาดใจ และเมื่อหันมามองที่น้องสาวของตัวเองก็พบว่า น้องของเขานั้นกำลังนั่งดูโทรศัพโดยที่ไม่สนใจอะไรเลย

วีที่เห็นแบบนั้นก็อดไม่ได้ที่จะถามออกมา

“กำลังดูอะไรอยู่ ?”

น้องสาวของวีก็พูดขึ้นโดยไม่หันมามองว่า

“จี้ฟางหยุนน่ะ”

“จี้ฟางหยุน ?”

“นักแสดงซีรี่ย์ สมุดพกของยมฑูต ที่กำลังดังอยู่ในตอนนี้ไงล่ะ”

วีที่ได้ยินแบบนั้นก็คิดเล็กน้อย จี้ฟางหยุน… จี้ฟางหยุน อืม… วีคิดเล็กน้อยเพราะเหมือนเคยได้ยินชื่อที่นี้ไหน

‘อ๊ะ ! จำได้แล้ว จี้ฟางหยุนดาราหน้าใหม่ของจีนในช่วงปี 2015 โด่งดังมากจากการเล่นทีวีซีรี่ย์แต่ไม่นานนักเขาก็ต้องมีข่าวฉาวเรื่องในอดีตจากนั้นอนาคตในวงการของจี้ฟางหยุนก็ดับลง เขาถอนตัวออกจากวงการอย่าเงียบๆในไม่กี่เดือนต่อมา’

‘อา ~ ช่างน่าเศร้า’

วีพูดกับตัวเองเมื่อเห็นดวงดาวที่กำลังเจิดจรัสกำลังจะดับแสงในไม่ช้า บางครั้งการรู้อนาคตก็เป็นสิ่งที่ลำบากใจเหมือนกัน

วีถอนหายใจออกมาก่อนจะลุกจากโต๊ะ

“อิ่มแล้วครับ”

เขาถือจานเข้าไปในครัวและจัดการล้างมัน ในระหว่างนั้นเองเขาก็เริ่มคิดถึงเรื่องต่างๆ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด