ตอนที่ 10
1 สัปดาห์ต่อมา
ฮื้ม ฮื้ม ~
วาน้องสาวของวีที่กำลังเดินกลับบ้านพร้อมกับฮำเพลงไปด้วยอย่างอารมณ์ ในขณะที่วากำลังเดินผ่านร้านขายหนังสืออยู่นั้นสายตาของเธอก็ไปเห็นกับหน้าปกของหนังสือนิตยสารแฟชั่นเจ้าดัง
โดยปกติแล้ววาไม่ได้สนใจแฟชั่นมากนักเนื่องจากเธอคิดว่ามันไร้สาระที่จะเสียงเงินไปมากมายกับการที่จะซื้อเสื้อผ้าตามเทรนคนอื่น แต่ก็ไม่ใช่ว่าวานั้นจะไม่สนใจเสื้อผ้าสวยๆหรือของแบรนด์เนมเธอเพียงแค่คิดว่าตอนนี้มันยังไม่จำเป็นสำหรับเธอก็เท่านั้น
แต่ในวันนี้เธอกับสนใจนิตยสารแฟชั่นรายสัปดาห์เล่มนี้เป็นพิเศษ เนื่องจากปกของนิตยสารนั้นมีรูปของวีโชว์หราอยู่บนนั้น วาไม่รอช้ารีบซื้อมันและเดินกลับบ้านทันที
ตึง !
วากลับมาถึงด้วยความรีบร้อน เมื่อมาถึงห้องนั่งเล่นพ่อก็ทักทายวาทันที
“โอ้ ~ กลับมาเร็วจังเลยนะลูก”
วาเดินเลยผู้เป็นพ่อไปอย่างไม่สนใจและตรงไปยังวีที่กำลังนั่งจิ้มโทรศัพอยู่ที่โต๊ะกินข้าว
ตึง !!
“เห้ย !!”
วีตกใจเมื่อจู่ๆก็มีมือหนึ่งฟาดลงบนโต๊ะ วีเงยหน้าพร้อมกับมองน้องสาวด้วยความสงสัย
“มีอะไรยัยวา ?”
“มีอะไรงั้นเหรอ ?”
วาพูดพร้อมกับมองไปยังวีที่กำลังแสดงสีหน้างุนงงอยู่ ก่อนจะพูดว่า
“พี่นั่นแหละมีอะไรทำไมไม่บอกฉันสักคำเลย !”
วีที่ได้ยินแบบนั้นก็ถึงกับงุนงงไปในทันทีก่อนจะถามกลับ
“มีอะไร ? พี่มีอะไรเหรอ ?”
วาได้ยินแบบนั้นก็หยิบนิตยสารเล่มนั้นออกมาจากกระเป๋าผ้าและชูให้วีได้ดู วีแปลกใจปนสงสัยเล็กน้อยว่าทำไมน้องสาวของเขาถึงได้หยิบหนังสือขึ้นมาโชว์
แต่เมื่อวีมองหนังสือเล่มนั้นดีๆแล้วก็อดไม่ได้ที่จะต้องร้องออกมา
“โอ้ว ~ วางแผงแล้วงั้นเหรอเนี้ย ไหนๆเอามาให้พี่ดูหน่อยซิ”
วีหยิบนิตยสารมาจากมือของวาพร้อมกับจ้องมองมันอย่างตื่นเต้น พร้อมกับกล่าวชมออกมา
“อื้ม ~ ฉันก็ถ่ายรูปขึ้นไม่เบาเลยนะเนี้ย นี่สินะฝีมือของมืออาชีพ”
แม่ที่กำลังทำอาหารอยู่ในครัวเมื่อได้ยินเสียงเอะอะของสองพี่น้องก็อดไม่ได้ที่จะเดินออกมา
“มีอะไรกันหรอลูก ?”
วาที่เห็นแม่กำลังเดินออกมาก็รีบเข้าไปฟ้องแม่ทันที
“ดูสิคะแม่ พี่วีน่ะ”
“ดูอะไรหรอลูก ?”
“พี่วีน่ะ จู่ๆก็ไปโผล่ออยู่ที่หน้าปกนิตยสารแฟชั่นเฉยเลย โดยที่ไม่บอกอะไรพวกเราเลยสักคำ”
เมื่อแม่ได้ยินคำพูดของวาก็อดไม่ได้ที่จะแสดงสีหน้าแปลกใจออกมาและถามกับวี
“ที่น้องพูดจริงหรือเปล่าวี ?”
วีที่ได้ยินแบบนั้นก็พยักหน้า
“จริงครับ”
จากนั้นวีก็ยื่นนิตยสารเล่มนั้นให้กับแม่ เมื่อแม่รับมาก็แสดงท่าทีตกใจออกมาก่อนจะพูดขึ้นว่า
“มาดูสิพ่อ ลูกเราขึ้นปกนิตยสารด้วย !”
พ่อที่นั่งฟังอยู่สักพักก็ลุกขึ้นมาและเริ่มดูนิตยสารเล่มนั้นพร้อมกับแม่ ในขณะเดียวกันพ่อก็ถามวีว่า
“เรื่องมันเป็นมายังไงกันลูก ถึงได้มีรูปลูกขึ้นปกหนังสือแบบนี้ ?”
วียิ้มพร้อมกับเล่าเหตุการณ์วันนั้นให้กับทุกคนได้ฟัง เมื่อทุกคนได้ฟังก็ถึงกับแสดงท่าทีตกใจออกมาก่อนที่พ่อจะเข้ามาตบไหล่วีพร้อมกับหัวเราะ
“ฮ่าๆ ลูกนี่เก่งจริงๆไม่ทันไรก็ฉายแววการเป็นดาราดังซะแล้ว”
วีที่ได้ยินแบบนั้นก็เกาหัวด้วยความเขินอาย ส่วนแม่ก็นั้นก็เพียงแค่ยิ้มพร้อมกับเปิดนิตยสารเล่มนั้นไปเรื่อยๆเพื่อหาดูว่าด้านในนั้นมีรูปของวีอีกไหม ซึ่งไม่นานก็เจอเมื่อแม่ได้เห็นรูปอื่นๆก็อดไม่ได้ที่จะชมออกมา
“แหม ~ ลูกนี่ขึ้นกล้องจริงๆเลยนะทั้งที่ทำเป็นครั้งแรกแท้ๆ”
วีได้ยินแบบนั้นก็ปฏิเสธทันที
“ไม่หรอกครับที่ต้องชมน่าจะเป็นพี่ตุ๊กที่คอยถ่ายและกำกับท่าโพสมากกว่า”
วาที่ได้รูปอื่นๆพร้อมกับแม่ก็อดไม่ได้ที่จะเห็นด้วย
“นั่นสินะ แต่ละรูปที่เขาถ่ายออกมามันดูดีจริงๆ”
จากนั้นวาก็หันมาถามกับวีว่า
“ว่าแต่ พี่จะเข้าวงการบันเทิงงั้นเหรอ ?”
ทุกคนที่ได้ยินคำถามของวาก็อดไม่ได้ที่จะมองวีเป็นตาเดียวกัน วีที่ได้เห็นแบบนั้นก็แสดงท่าทีครุ่นคิดก่อนจะตอบกลับไปอย่างสบายๆว่า
“ก็ไม่รู้เหมือนกัน เพราะนี่ก็ใกล้จะเข้ามหาลัยแล้ว คงต้องโฟกัสไปที่เรื่องมหาลัยก่อนล่ะนะ”
วาพยักหน้าเข้าใจ ทางด้านพ่อของวีที่ได้ยินคำตอบก็พยักหน้าเห็นด้วยก่อนจะพูดขึ้นว่า
“พ่อเห็นด้วยนะ การจะเป็นดารงดาราอะไรนั่นพ่อไม่ขัดหรอกแต่การจะทิ้งเรื่องเรียนนั้นพ่อไม่เห็นด้วยเด็ดขาด แต่ถ้าพอเข้ามหาลัยได้แล้วแล้วค่อยคิดก็ได้”
ส่วนทางด้านแม่นั้นก็ถอนหายใจออกมาเล็กน้อยก่อนจะพูดว่า
“ลูกจะตัดสินใจยังไงแม่ไม่ว่าหรอกนะ ถ้าลูกชอบมันจริงๆแต่แม่เห็นด้วยกับพ่อเรื่องการเรียน แม่ไม่อยากให้ลูกทิ้งเรื่องเรียนเพื่อแลกกับชื่อเสียงที่ไม่แน่นอนเข้าใจไหม ?”
วีพยักหน้า
“เข้าใจแล้วครับ”