353 - เดิมพัน
353 - เดิมพัน
เอี้ยนลี่เฉียงกลับไปที่คฤหาสน์กวางหลังจากมืด เขายุ่งตลอดช่วงบ่าย แผนการของเขาในการจัดทำหนังสือพิมพ์ในที่สุดก็เป็นรูปเป็นร่าง ดังนั้นหยานลี่เฉียงจึงอารมณ์ดีมาก
ระหว่างทางกลับไปที่คฤหาสน์กวางเอี้ยนลี่เฉียงพยายามคิดชื่อหนังสือพิมพ์ดีๆ หลังจากพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้ว เขาสรุปว่า 'ช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่ของอาณาจักรฮั่น' น่าจะเป็นชื่อที่เหมาะสม
หลังจากที่ฝึกฝนคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็นแล้วเอี้ยนลี่เฉียงก็เข้าสู่อาณาจักรสวรรค์ตามแผนการเดิม
ภายในอาณาจักรสวรรค์เกิดภัยพิบัติขึ้นทุกที่
การล่มสลายของเมืองหลวงทำให้มหาอำนาจต่างๆในอาณาจักรตั้งตัวขึ้นเป็นใหญ่และครอบครองพื้นที่จำนวนมากในระหว่างที่พวกเขากำลังเดินทางกลับสู่นิกายกระบี่ศักดิ์สิทธิ์
เช้าวันที่สามเอี้ยนลี่เฉียงไม่ได้ไปฝึกที่น้ำตก แต่เขาไปที่อีกด้านหนึ่งของลานยิงธนูเพื่อไปพบอาจารย์อีกคนของเขา
เมื่อเทียบกับกระท่อมมุงจากหลี่หงตู้แล้ว ที่อยู่อาศัยของชายชราแซ่จี้ดูเหมือนวิลล่าหรูหราระดับห้าดาวพร้อมทิวทัศน์ที่สวยงาม
มันเป็นบ้านหลังเล็กๆที่ตั้งอยู่ในป่าไผ่ มีลำธารและสะพานเล็กๆ ข้ามผ่านหน้าทางเข้า มีเสียงของนกร้องเพลงรวมไปถึงแปลงดอกไม้เล็กๆแสดงออกถึงรสนิยมของผู้อยู่อาศัย
เมื่อเอี้ยนลี่เฉียงมาถึง ชายชราก็กำลังเล่นพิณที่ศาลากลางป่าไผ่
เขาสวมชุดคลุมสีขาวสบายๆ เส้นผมของเขาถูกหวีสางอย่างเรียบร้อย ท่วงทำนองที่เขาบรรเลงนออกมานั้นไพเราะเสนาะโสตอย่างยิ่ง
เอี้ยนลี่เฉียงไปที่ศาลาและฟังทำนองอย่างเงียบๆ ดูเหมือนชายชราจะไม่ได้สังเกตเห็นการปรากฏตัวของเอี้ยนลี่เฉียงในขณะที่เขาจดจ่ออยู่กับการเล่นพิณของตัวเอง
เอี้ยนลี่เฉียงฟังท่วงทำนองเงียบๆ นานกว่าสองชั่วยามตั้งแต่แสงแรกของดวงอาทิตย์ยามเช้าจนถึงดวงอาทิตย์ขึ้นสูงบนท้องฟ้าในเวลาเที่ยงก่อนที่เสียงจะหยุดลง
เอี้ยนลี่เฉียงเดินขึ้นไปบนศาลาแล้วคำนับชายชราด้วยความเคารพ
“เอี้ยนลี่เฉียงคำนับผู้อาวุโส!”
“ไม่เลวเลยที่เจ้าจะอดทนฟังเสียงพิณของข้าได้นานขนาดนี้โดยที่ลมหายใจไม่แปรปรวนแม้แต่น้อย เจ้าคนแซ่หลี่นั้นมีวาสนาจริงๆที่สามารถรับศิษย์อย่างเจ้าได้!”
ในที่สุดชายชราก็จ้องมองใบหน้าของเอี้ยนลี่เฉียงขณะที่รอยยิ้มเล็กๆปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา
“แม้ว่าเจ้าจะมีมารยาทดี แต่การที่เจ้าเรียกข้าว่าผู้อาวุโสแทนที่จะเรียกอาจารย์ หรือเจ้ายังมีความเข้าใจในตัวข้าอยู่?”
เอี้ยนลี่เฉียงก็ไม่รู้สึกอายเช่นกัน เขามองชายชราอย่างใจเย็นและพยักหน้าเห็นด้วย
“ข้าได้บรรลุชั้นสวรรค์ชั้นที่สี่ในวิชายิงธนูและสามารถวาดธนูยี่สิบต้านได้ ลูกธนูของข้าสามารถยิงแมลงวันที่บินอยู่บนอากาศในระยะพันวาไม่มีพลาดเป้า ดังนั้นข้าจึงไม่มั่นใจว่าผู้อาวุโสจะมีอะไรสั่งสอนให้อีก”
“ฮ่าฮ่าฮ่า ไม่เลวไม่เลวเลย เป็นเวลานานมากแล้วที่ข้าไม่ได้เห็นใครก็ตามที่มาถึงระดับสวรรค์ชั้นที่สี่ในการยิงธนูในวัยเดียวกับเจ้า ยิ่งไปกว่านั้นเจ้ายังมาถึงระดับนี้ด้วยตัวเองโดยไม่มีอาจารย์…”
ชายชรามองเอี้ยนลี่เฉียงด้วยดวงตาที่เป็นประกายพร้อมกับกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า
“แต่ในเมื่อเจ้ามั่นใจในตัวเองนัก แล้วทำไมเราไม่ลองเดิมพันกันดู?”
“เดิมพันแบบไหน?”
“ง่ายมาก ข้าจะยืนห่างจากเจ้าห้าสิบวา แล้วเจ้ายิงลูกธนูจากคันธนูสิบต้านมาใส่ข้าอย่างเต็มกำลังสามครั้ง แล้วข้าจะป้องกันด้วยการยิงลูกธนูออกไปตอบโต้
หากเจ้ายิงโดนแม้แต่ชายเสื้อของข้าข้าจะเรียกเจ้าว่า 'อาจารย์' แต่ถ้าเจ้าทำไม่สำเร็จเจ้าก็ต้องคุกเข่ากราบข้าสามครั้งและฝากตัวเป็นศิษย์ของข้า เจ้าเห็นว่าอย่างไร?”
“ท่านแน่ใจนะผู้อาวุโส…?”
เอี้ยนลี่เฉียงกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง ต้องเข้าใจว่าเขาเคยยิงสังหารปรามาจารย์ยันต์มาแล้วด้วยคันธนูระดับห้าต้าน ดังนั้นการใช้ธนูสิบต้าน จะอันตรายขึ้นเป็นสิบเท่าอย่างแน่นอน
"เจ้าสามารถลองดูได้ ข้าแน่ใจว่าเจ้าจะทำไม่สำเร็จ!” ชายชราพยักหน้าอย่างสงบ
เอี้ยนลี่เฉียงประสานมือให้กับชายชราพร้อมกับกล่าวว่า
“ถ้าอย่างนั้นเอี้ยนลี่เฉียงต้องขอล่วงเกินผู้อาวุโสแล้ว…”
ชายชราเดินออกจากศาลา เขาเดินไปหาหยานลี่เฉียงและถามว่า
“เจ้าสามารถใช้คันธนูที่แข็งแกร่งกว่านี้ก็ได้?”
“ข้าจะใช้ธนูสิบต้าน เพราะมันเหมาะสมกับข้ามากที่สุดในตอนนี้” เอี้ยนลี่เฉียงตอบอย่างใจเย็น
“จี้อัน!” ชายชราเรียกเสียงเบา
ทันทีที่สิ้นเสียงของเขา ชายชราซึ่งน่าจะเป็นคนรับใช้ของเขาก็ไปหยิบคันธนูออกมาให้เอี้ยนลี่เฉียง
คันธนูทั้งสองเป็นคันธนูงูเหลือมเขา คันหนึ่งเป็นสีเหลืองเข้ม อีกคันเป็นสีแดงเข้ม คันธนูทั้งสองมีลักษณะงดงามย่อมถือเป็นอาวุธพิเศษชิ้นหนึ่ง
เมื่อมองแวบแรก เอี้ยนลี่เฉียงก็สามารถบอกได้ว่าคุณภาพของคันธนูพวกนี้ถือว่าอยู่ในระดับหนึ่งของโลกอย่างแน่นอน
ต้องเข้าใจว่าในโลกนี้แม้จะมีคันธนูยี่สิบต้านอยู่ก็จริง แต่มันไม่ใช่อาวุธที่สามารถใช้พกพาได้ ต่อให้เป็นมือธนูที่แข็งแกร่งที่สุดก็สามารถยิงออกได้เพียงลูกเดียวเท่านั้น
“เลือกอันที่เจ้าชอบ!” ชายชราในชุดคลุมสีขาวยิ้มและให้เอี้ยนลี่เฉียงเลือกก่อน
“ไม่จำเป็น สำหรับข้าพวกมันเหมือนกันหมด!” เอี้ยนลี่เฉียงกล่าวจบก็หยิบเอาลูกศรสามลูกออกจากซองธนูแล้วกล่าวกับชายชราว่า
"ผู้อาวุโสเชิญนำทาง…”
ชายชรายิ้มและหยิบเอาคันธนูที่เหลือก่อนจะเดินผ่านป่าไผ่บนเส้นทางหินแคบๆและหยุดอยู่ที่ลานกว้างแห่งหนึ่ง
นี่เป็นพื้นที่เปิดโล่งที่เหมาะสมกับการยิงธนูเป็นอย่างมาก
เมื่อเห็นว่าชายชรายืนนิ่งอยู่กับที่ เอี้ยนลี่เฉียงก็เดินไปอีกด้านหนึ่ง โดยเว้นระยะห่างระหว่างพวกเขาประมาณห้าสิบวา เขาหยุดอยู่ที่นั่น ปักลูกศรสองลูกลงบนพื้น และมองดูชายชราในชุดคลุมสีขาว
“ผู้อาวุโสพร้อมหรือไม่”
"เจ้าสามารถเริ่มได้ตลอดเวลา!”
เอี้ยนลี่เฉียงชำเลืองมองชายชราในชุดขาวอีกครั้งและสูดหายใจเข้าลึกๆ ในเวลาไม่ถึงสิบวินาที เขาก็หยิบลูกธนูที่อยู่บนพื้นออกมาก่อนจะเล็งยิงชายชราอย่างรวดเร็ว
ระยะห้าสิบวาถือเป็นระยะที่ดีที่สุดสำหรับมือธนู มันจะสามารถแสดงศักยภาพอันยอดเยี่ยมมากที่สุดของพวกเขาออกมา
ลูกธนูที่ยิงด้วยธนูสิบต้านอย่าว่าแต่ชุดเกราะเลย ต่อให้เป็นโล่เหล็กขนาดใหญ่ก็ต้องถูกยิงทะลุ
เอี้ยนลี่เฉียงปล่อยลูกธนูลูกแรกออกไปด้วยพลัง 7 ใน 10 ส่วน
ลูกศรขอเอี้ยนลี่เฉียงบินด้วยความเร็วสูง มิหนำซ้ำยังเคลื่อนที่ด้วยทิศทางแปลกๆยากแก่การตรวจจับ
แคร้ง…!
เสียงก้องกังวานไปทั่วป่าไผ่อันเงียบสงบ
เป็นไปไม่ได้…!
เอี้ยนลี่เฉียงแทบอ้าปากค้าง ในจังหวะที่เกิดการปะทะนั้น เขาเห็นประกายไฟของหัวลูกศรโลหะสองหัวปะทะกันด้วยความเร็วสูงกลางอากาศ ก่อนที่พวกมันจะถูกผลักและติดลึกลงไปในพื้น
ต่อให้เห็นด้วยตาของตัวเองเอี้ยนลี่เฉียงก็ไม่คิดว่าจะมีใครในโลกสามารถทำได้
"อีกครั้ง! อย่ารอช้า…”
ชายชรายิ้มและรับลูกธนูอีกอันจากคนรับใช้ชราที่อยู่เคียงข้างเขา