บทที่ 19 เหอซิงโจวกำลังทำอะไร?
บทที่ 19 เหอซิงโจวกำลังทำอะไร?
“ไม่รู้สิมันต้องมีอะไรสำคัญมากแน่ๆ”
“ฉันเพิ่งเคยเห็นสถานการณ์แบบนี้เป็นครั้งแรก” ผู้คนใกล้เคียงต่างออกมากันมากขึ้นจนเริ่มเกิดความวุ่นวายแต่ทันใดนั้นพวกเขาก็ได้ยินเสียงประกาศจากห้องกระจายเสียง
“ประกาศแจ้งให้ทราบเวลาเรียนของนักเรียนทุกคนในอาคารเรียนหมายเลข 5 ขยายออกไปอีก 30 นาที โปรดอย่าเดินออกไปก่อนได้รับอณุญาติ!”
“ห้องเรียนที่ตึก5พวกเรารีบไปกันมันต้องมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นที่่นั้น!” นักเรียนบางกลุ่มรีบติดตามออกไป
ขบวนรถจี๊ปจากทหารหน่วยพิเศษมุ่งหน้าไปตลอดทางจนถึงอาคารเรียนที่ห้าซึ่งเป็นอาคารเรียนของเหอซิงโจวในขณะนี้ ศาสตราจารย์จางโบเหยียนตะโกนขึ้น "นักเรียนฉันเพิ่งได้รับแจ้งว่าเวลาเรียนของเราจะถูกขยายเวลาออกไปอีก 30 นาที แต่ไม่ต้องกังวลพวกคุณสามารถทบทวนบทเรียนจนกว่าถึงเวลาเลิกคลาส"
นักศึกษาต่างงงงวย "เกิดเรื่องอะไรขึ้น"
“ถ้าอย่างนั้นฉันก็ไปโรงอาหารไม่ได้แล้วสิ!”
“ฉันพูดไม่ออก”
พวกเขาต่างไม่พอใจแต่ทันใดนั้นได้เกิดเสียงตบเท้าดังขึ้นที่ด้านนอกห้องเรียน
"เกิดอะไรขึ้น?" หวังเจียห่าวซึ่งนั่งถัดจากเหอซิงโจวมองออกไปนอกหน้าต่างด้วยความสงสัย เขาเห็นหน่วยตำรวจพิเศษยืนประจำตำแหน่งอยู่นอกห้องเรียน พวกเขายืนตัวตรง สีหน้าเรียบเฉยไร้ความรู้สึกขณะถือปืนไรเฟิลไว้ในมือทั้งสองข้าง
การแสดงออกของพวกเขาทำให้นักเรียนเริ่มกลัว
“นี่มันคือเรื่องบ้าอะไรเกิดอะไรขึ้นหน่วยตำรวจพิเศษมาที่นี่ทำไม?”
“ปืนนั้นคงไม่มีลูกกระสุนอยู่จริงๆใช่ไหม”
“ที่นี่มีอาชญากรหรือเปล่า”
“ทำไมตำรวจพิเศษถึงมาที่นี่” เฟิงเต๋าและจางหยางต่างงงงวย
“พวกเขาน่าจะมารับตัวฉันสินะ” เหอซิงโจวกล่าวขึ้น มันเป็นเพราะรายงานการทดลองของเขาที่ดึงดูดสายตาของผู้มีอำนาจ
“พวกเขามารับนาย?” เพื่อนร่วมชั้นที่อยู่รอบๆต่างหัวเราะ “เหอซิงโจวคุณใจกล้าเกินไปคุณต้องกังวลมากกว่าหากต้องถูกพวกเขาพาตัวไป”
“มันเริ่มขึ้นอีกแล้วคุณกำลังเริ่มสร้างเรื่องราวครั้งใหม่”
พวกเขากำลังจะพูดล้อเล่นต่อทว่ากัปตันของหน่วยตำรวจพิเศษได้เดินเข้ามาอยู่ที่ประตูก่อนจะทักทายจางโบเหยียน “สวัสดีศาตราจาร์ยโปรดให้ความร่วมมือในระหว่างการปฏิบัติงาน หน้าที่ของพวกเราคือการมารับตัวเหอซิงโจวนักศึกษาในชั้นเรียนของคุณ!”
“พวกคุณมาเร็วมากฉันเพิ่งได้รับการแจ้งเตือนเมื่อครู่นี้เอง” จางโบเหยียนตอบรับข้อความทางโทรศัพท์มือถือจากอาจาร์ยใหญ่ ที่ได้ส่งข้อความหาเขาว่าหน่วยรักษาความปลอดภัยกำลังจะไปรับตัวเหอซิงโจว
เมื่อได้ยินสิ่งที่พวกเขาพูดนักเรียนทุกคนต่างก็ตกตะลึง
ตำรวจพิเศษเหล่านี้มาที่นี่เพื่อรับตัวเหอซิงโจว!
ลืมมันไปเถอะเขาเพิ่งพูดเมื่อก่อนหน้านี้ทว่ามันกลับมีคนกลุ่มหนึ่งมาจริงๆ
นักเรียนที่ติดริมหน้าต่างสามารถมองออกไปนอกอาคารเรียนและเห็นยานพาหนะพิเศษจอดรออยู่ด้านล่าง และห้ามไม่ให้ฝูงชนข้างเข้าใกล้!
“พวกเขามาเพื่อรับคุณจริงๆหรือเนี่ย!” หวางเจียห่าวกลายเป็นโง่งมเป็นไปได้ไหมว่าสิ่งที่เหอซิงโจวพูดนั้นเป็นความจริงทั้งหมด
“พี่ใหญ่นายทำให้ฉันประหม่าเกินไปแล้ว!” เฟิงเต๋ากระซิบ
สำหรับจางหยางเมื่อเห็นว่ากัปตันตำรวจพิเศษมองข้ามเขาไปแต่เขาก็ไม่กล้าพูด!
ภายใต้สายตาของนักเรียนทุกคนเหอซิงโจวลุกขึ้นยืนอย่างสงบก่อนจะพูดกับเพื่อนร่วมห้องของเขา “รบกวนพวกนายช่วยนำหนังสือของฉันกลับไปที่หอพักด้วย”
ขณะพูดเขาเดินไปที่ประตูห้องเรียน "ผมคือเหอซิงโจว"
“สวัสดีนักศึกษาเหอซิงโจว” กัปตันตำรวจพิเศษทำความเคารพ "ฉันอยู่ในระหว่างการปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาดังนั้นโปรดให้ความร่วมมือ"
"ตกลง" เหอซิงโจวพยักหน้าและเดินตามเขาออกไปทั้งสองเดินออกจากห้องเรียนพร้อมกัน โดยมีกลุ่มตำรวจพิเศษอยู่รายล้อมเพื่อพาตัวเหอซิงโจวออกไป
กระบวนการทั้งหมดเกิดขึ้นภายใต้สายตาของนักเรียนหลายร้อยและพวกเขาทุกคนก็ปิดปากเงียบ!
พวกเขาไม่รู้ว่าจะพูดอะไรในตอนนี้ฉากที่ทรงพลังติดอยู่ในใจพวกเขาอย่างลึกซึ้ง พวกเขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าจะได้เห็นตัวละครหลักที่ถูกตำรวจพิเศษนำทางออกไป
ซึ่งสิ่งที่สำคัญที่สุดคือคนๆนี้ยังคงเป็นเพื่อนร่วมชั้นของพวกเขา และเมื่อไม่นานมานี้พวกเขายังแซวเหอซิงโจวว่าเขากำลังล้อเล่นอีกด้วย
“พวกคุณไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเหอซิงโจวเพื่อนร่วมชั้นของเรา” จางป๋อเหยียนกล่าว
“ฉันจะไม่ได้รับผลกระทบกับเรื่องนี้ได้อย่างไร” หวางเจียห่าวบ้าไปแล้วเขาดึงแขนเฟิงเต๋าและพูดกับจางหยาง "พวกนายเห็นไหมหน่วยตำรวจพิเศษเพิ่งนำทางเหอซิงโจวออกไป!"
“ฉันเห็นมันเหมือนกันแต่ทำไมนายถึงทำตัวงุ่มง่ามอย่างนี้”
“ไม่ใช่ว่าเขาบอกเรามาตลอดหรอกหรอ” เฟิงเต๋ากล่าวขึ้น
“งั้นถ้าหากสิ่งที่เขาพูดก่อนหน้านี้มันเป็นความจริงทั้งหมดละ?” จางหยางกล่าวด้วยความหวาดกลัว
“เหอซิงโจวรู้ความลับของรัฐจริงๆเหรอ” นักเรียนที่อยู่รอบๆจำสิ่งที่เหอซิงโจวเคยพูดไว้ก่อนหน้านี้ได้และเริ่มขนลุก
“เขาไม่ได้ล้อพวกเราเล่น”
“กลายเป็นว่าตัวตลกคือฉันเองเหรอเนี่ย”
นักศึกษามองออกไปนอกหน้าต่างและเห็นเหอซิงโจวก้าวขึ้นไปนั่งบนรถจี๊ปทหารสีดำที่มีป้าย "special pass" ที่จอดอยู่ใต้อาคารก่อนที่มันจะขับตามขบวนออกไปจากมหาวิทยาลัย
"ฉันเห็นการเกิดของพี่ชายใหญ่ด้วยตาของฉันเอง!" เพื่อนร่วมชั้นพูดด้วยความชื่นชม
“อ๊ะ ฉันเสียใจจริงๆหากฉันรู้เรื่องนี้มาก่อนฉันจะสารภาพรักกับเหอซิงโจว!” นักศึกษาหญิงสองสามคนถึงกับพูดออกมาโดยไม่ปิดบังซึ่งในหมู่พวกเธอยังเป็นถึงดาวเด่นของคณะ
"ใครมีข้อมูลติดต่อของเหอซิงโจวหรือว่า QQ ของเขาบ้างไหมฉันอยากเพิ่มเขาเป็นเพื่อน!" เพื่อนร่วมชั้นบางคนตะโกนขึ้น
“คุกเข่าให้กับบอสเหอ!”
จางโบเหยียนก็อยู่ที่หน้าต่างและเฝ้าดูรถจี๊ปวิ่งหายไปต่างจากความตื่นเต้นและความประหลาดใจของนักศึกษาเพราะเขากลับกังวลมากกว่า
“หน่วยงานความมั่นคงจริงจังกับการพาตัวเหอซิงโจวออกไปมาก อาจหมายความว่าการวิเคราะห์ของเหอซิงโจวได้รับการยืนยันแล้ว ในอนาคตประเทศของเราจะต้องมีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้น”
...
ความตื่นเต้นและข่าวลือในโรงเรียนไม่เกี่ยวอะไรกับเหอซิงโจวที่นั่งอยู่ในยานพาหนะพิเศษ ในไม่ช้าเขาก็มาถึงสถาบันวิจัยลับของสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ
สถานที่แห่งนี้เป็นเขตหวงห้ามทางการทหารที่นี้มีทหารคุ้มกันด้วยปืนและกระสุนจริง และบุคคลภายนอกไม่สามารถเข้าออกได้ถ้าไม่มีใบอนุญาต!
ที่นี่ทุกคนต้องผ่านการตรวจสอบความปลอดภัยหลายขั้นตอนก่อนจะได้รับการอณุญาติให้ผ่านเข้าประตู และเหอซิงโจวก็ไม่มีข้อยกเว้น
เหอซิงโจวมองเห็นบุคลากรสามคนที่เป็นผู้รับผิดชอบในการก่อตั้งหน่วยงานการรับมือกับภัยพิบัติจางเซิร์ก และเมื่อคงชิงเห็นชายชราก็ยิ้มขึ้นและเดินเข้ามาหา "สหายน้อยพวกเขาทำให้คุณกลัวหรือเปล่า?"
“ไม่ต้องกังวลเราแค่ต้องการข้อมูลบางอย่างจากเธอ”
เขายังตำหนิชุยเว่ยหมินและกล่าวว่า "เราต้องการเลือกตัวแทนเป็นใครสักคนสำหรับการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่เช่นนี้"
ชุยเว่ยหมินก็รีบพูดเช่นกัน “ฉัน.. ฉันวิตกกังวลเกินไปแต่ไม่ต้องห่วงฉันจัดการเรื่องนี้ไปแล้วและเรื่องเกี่ยวกับเหอซิงโจวจะไม่ถูกเผยแพร่ออกไป”
“ฉันคิดว่าชายหนุ่มคนนี้ดูสงบมากเขาดูไม่ประหม่าเลย” ฉินเผิงมองไปที่เหอซิงโจว
เหอซิงโจวตอบรับ “ท่านผู้นำทั้งสามล้วนเป็นผู้อาวุโสที่น่าเคารพและผมเองก็ไม่ได้ทำอะไรผิดดังนั้นแน่นอนว่าผมไม่มีอะไรต้องกังวล”
"ฮะๆนั่นสินะ" ฉุยเว่ยหมินยิ้ม
คงชิงกล่าวขึ้น "นั่งลงก่อนอย่าได้มากพิธีเกินไป พวกเราได้อ่านรายงานการทดลองของเธอแล้วและหลังจากการวิเคราะห์และตรวจสอบอย่างละเอียด เราก็เห็นพ้องว่าการอนุมานของเธอนั้นสมเหตุสมผลมาก”
“เธอเป็นผู้ที่ปลุกพวกเราให้ตื่นขึ้นและเรียกได้ว่าเธอเป็นบุคคลสำคัญเป็นผู้แจ้งเบาะแสถึงวิฤติการณ์วันสิ้นโลกที่กำลังมาถึง!”
ชุยเว่ยหมินกล่าวว่า "สหายหนุ่มบอกตามตรงที่พวกเรารับตัวเธอมาในวันนี้ เพียงเพราะต้องการทราบข้อมูลอื่นๆจากเธอ และถ้าหากเธอมีความคิดเห็นเช่นไรเกี่ยวกับยีนเซิร์กหรือวิกฤตในครั้งนี้ เธอสามารถกล่าวข้อเสนอแนะกับพวกเราได้"
ฉินเผิงยังกล่าวอีกว่า "เธอสามารถมั่นใจได้ว่าความคิดเห็นของเธอจะได้รับการบันทึกเอาไว้และพวกเราจะพิจารณามันอย่างจริงจัง"