ตอนที่ 24 เตรียมแต่งงาน
ตอนที่ 24 เตรียมแต่งงาน
“แล้วถามเธอถึงแผนงานเลี้ยงครบรอบโรงแรมหรือยัง?”
อวี่หนานแงถามสิ่งที่เขาสั่งไปตอนเช้า
โจวฟางได้สติและพยักหน้า“ผมถามแล้วครับ ผู้จัดการเซิ่งบอกว่าจะรีบส่งให้เร็วที่สุด เธอไม่รู้ธรรมเนียมของบริษัทจริง ๆ โชคดี ผมเตือนเธอ แต่ช่วงนี้เธอดูเหนื่อยมากเลยครับ เธออาจไม่มีเวลาเตรียมตัวมากนัก” “เธอทำอะไรอยู่?”
“ดูเหมือนจะกำลังหาโรงเรียนอนุบาลให้ลูกสาวเธออยู่ครับ”โจวฟางมีความสามารถจดจำสูง และรายงานชื่อของโรงเรียนอนุบาลที่เซิ่งอั้นหรานกำลังดิ้นรนเข้าให้ได้อยู่
“ผมไม่คิดเลยนะเนี่ย ผู้จัดการเซิ่งยังดูสาวมากแท้ ๆ แต่ยังไงซะเด็กทุกคนก็ต้องไปโรงเรียนอนุบาล”
เดิม คิ้วของอวี่หนานเฉิงคลายไปแล้ว แต่ไม่รู้ว่าทำไม หลังได้ยินคำเหล่านี้ คิ้วของเขากลับขมวดใหม่ ใบหน้าของเขากลายเป็นอึมครึม
พอพูด ด้านหลังโจวฟาง อวี่จิงซีพลันวิ่งมา ลูบกระดานวาดรูปตรงหน้าอวี่หนานเฉิง
“ผมอยากไปโรงเรียนอนุบาล”
“จิงซี อย่าสร้างปัญหา”อวี่หนานเฉิงขมวดคิ้ว“โรงเรียนอนุบาลวุ่นวายไป ลูกมีอาจารย์คอยสอนที่บ้านอยู่แล้ว”
พอได้ยิน อวี่จิงซีก็ระเบิดอารมณ์ เขาปัดกองเอกสารบนโต๊ะทิ้งกระจายเต็มพื้น โจวฟางกลัวมาก เขารีบนั่งลงเก็บมันขึ้นมา
จิงซีหยิบกระดานวาดรูปและรีบเขียนบางสิ่ง จากนั้นก็ส่งให้อวี่หนานเฉิง
“ผมอยากไปโรงเรียนอนุบาลเหมือนเสี่ยวซิงซิง”
อวี่หนานเฉิงขมวดคิ้วแน่นกว่าเดิม“ไม่”
อวี่จิงซีพูดไม่ได้ พอเข้าไปโรงเรียน เขาจะโดนแกล้งแน่ สิ่งสุดท้ายที่เขาไม่อยากให้เกิดคือโรคออทิสติกของลูกเขาไม่หาย เขาจะไม่มีวันส่งลูกไปสภาพแวดล้อมไม่คุ้นเคยจนเกิดอุบัติเหตุอีก
อวี่จิงซีพ่นลมหายใจ หยิบกองเอกสารที่โจวฟางเพิ่งจัดใหม่กระแทกลงพื้น เขาเขียนบนกระดานวาดรูปด้วยความโกรธ
“ถ้าพ่อไม่ให้ผมไป ผมจะบอกปู่เจิ้งว่าพ่อไม่ดี และผมอยากอยู่กับปู่เจิ้ง”
อวี่หนานเฉิงโกรธ เส้นเลือดปูดขึ้นบนขมับเขาอย่างช่วยไม่ได้
โจวฟางนั่งลงยองกับพื้นและถอนหายใจ ประธานแห่งกลุ่มเซิ่งถังผู้ยิ่งใหญ่กลับโดนลูกชายบังคับทุกวี่วัน ใครจะไปเชื่อถ้าไม่เห็นกับตาตัวเอง?
หลังจ้องตากันอยู่นาน อวี่หนานเฉิงก็ยอม
“พ่อขอเวลาคิดสักสองวัน อย่าสร้างปัญหาให้พ่อ ตกลงไหม?”
จิงซีดูเหมือนจะไม่พอใจกับคำตอบ แต่การประท้วงของเขาก็โดนขัดด้วยเสียงเปิดประตู
“หนานเฉิง”ร่างสูงของเกาย่าเหวินเดินเข้ามา ยืนตรงประตูด้วยรอยยิ้มหวาน“ฉันมากวนนายหรือเปล่า?ฉันซื้อข้าวมาให้นายกับเสี่ยวจิงซีนะ”
พอเขาได้ยินเสียงหวานนี้ อวี่จิงซีก็หดหัวทันที และพลันวิ่งไปห้องรับรองด้านข้างพร้อมกระดานวาดรูป อวี่หนานเฉิงคิดว่าเขาคงเห็นด้วยกับข้อเสนอและไม่สนใจ
“ไม่เป็นไร เข้ามาสิ”เขาเหลือบมองเกาย่าเหวิน
“ประธานอวี่ งั้นผมขอตัวออกไปก่อนนะครับ”
โจวฟางเตรียมออกไป แต่โดนอวี่หนานเฉิงหยุดไว้
“โจวฟาง หยุดสิ่งที่นายกำลังทำไปก่อน และเตรียมการสำหรับงานแต่ง”
“งานแต่ง?”โจวฟางไม่รู้เรื่อง“ใครจะแต่งงานครับ?” “ฉัน”สีหน้าอวี่หนานเฉิงเฉยชา ราวกับเขากำลังพูดเรื่องธรรมดาทั่วไป
ท่าทีของอวี่หนานเฉิงสงบมาก แต่ข่าวนี้กลับทำให้เกาย่าเหวินกับโจวฟาง ผู้ช่วยคนสนิทที่เกาะติดเขามาห้าปีตกตะลึง
โจวฟางเดินออกไปด้วยคำถามมากมายในหัว ขณะที่เกาย่าเหวินยืนนิ่งเหมือนกำลังฝัน “หนานเฉิง นายพูดจริงงั้นเหรอ?” “เธอคิดว่าฉันจะล้อเล่นกับเรื่องแบบนี้หรือไง?แต่ฉันไม่ค่อยรู้จักคนอื่น ถ้าเธอไม่อยาก เธอสามารถพูดมาตรง ๆ ได้”
“ไม่ ไม่อยู่แล้ว”เกาย่าเหวินดีใจมาก“ฉันแค่ไม่ทันตั้งตัวนะ”
อวี่หนานเฉิงดูไม่มีความสุขมากนักบนหน้า มีแค่สีหน้าเฉยชา
“เธอพูดถูก จิงซีต้องการแม่ นอกจากพี่เลี้ยงที่บ้าน ผู้หญิงที่เขารู้จักดีสุดก็คือเธอ ไม่มีใครเหมาะไปกว่าเธอแล้ว”
วินาทีที่สิ้นเสียงนั้น
‘ปึก’อวี่จิงซีที่ยืนตรงทางเข้าห้องรับรองก็โยนกระดานวาดรูปทิ้งลงพื้น มองอวี่หนานเฉิงอย่างไม่อยากเชื่อ ทันใดนั้นเขาก็หน้าแดงและกระโดดกระทืบเท้า
“จิงซี?”อวี่หนานเฉิงไม่เข้าใจ เขารีบเดินไปตรวจสอบ“เป็นอะไร?กระดานวาดรูปตกใส่เท้างั้นเหรอ?”
จิงซีกระวนกระวาย เขาคว้าแขนเสื้ออวี่หนานเฉิงและส่ายหัว
“ลูกเป็นอะไร?ไม่สบายงั้นเหรอ?”
อวี่หนานเฉิงกำลังจะแตะหน้าผากเขา แต่ก็โดนปัดมือทิ้ง อวี่จิงซีพลันล้มลงและนั่งลงเหมือนคนสิ้นหวัง
“จิงซี..”
อวี่จิงซีไม่สามารถแสดงความคิดเห็นที่อยากแสดง ตอนเขาได้ยินอวี่หนานเฉิงบอกว่าจะแต่งงานกับเกาย่าเหวิน เขาก็ระเบิดอารมณ์ทันที เขารู้สึกเหมือนอวี่หนานเฉิงหลอกเขา ตอนนี้ ไม่ว่าอวี่หนานเฉิงจะปลอบเขายังไง เขาก็ดูเหมือนปีศาจร้าย
เหมือนสิงโตน้อยที่พองขน เขากลับไปห้องรับรอง โยนข้าวของทุกอย่างที่จับได้
ห้องรับรองกลายเป็นเละเทะ
เกิดเรื่องแบบนี้หลายครั้งแล้ว และอวี่หนานเฉิงก็ยืนที่ประตูด้วยสีหน้าอมทุกข์
เขารู้ว่าจิงซีระบายอารมณ์ออกมาเพราะเขาไม่สามารถแสดงสิ่งที่อยากพูดได้ เขาแค่ต้องการระบาย แต่การระบายเช่นนี้สามารถทำร้ายคนอื่นรวมถึงตัวเขาเองได้
เป็นเวลานาน ไม่มีการเคลื่อนไหวในนั้น
“จิงซี ออกมาเถอะ”อวี่หนานเฉิงเคาะประตู
อวี่จิงซีปิดประตูไว้ ไม่ว่าอวี่หนานเฉิงจะเรียกยังไง เขาก็ไม่ยอมเปิดประตู
แม้ประตูห้องรับรองจะล็อคไม่ได้ อวี่หนานเฉิงก็กังวลว่าการเปิดประตูจะทำให้จิงซีหงุดหงิดกว่าเดิม เขาจึงลังเล
“จิงซี..”
“หนานเฉิง ให้ฉันเข้าไปดูไหม”
เกาย่าเหวินยืนข้างเขา ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความกังวล“จิงซีดีกับฉันมาก ให้ฉันลองเถอะ”
อวี่หนานเฉิงขมวดคิ้ว มองประตูห้องรับรองและพยักหน้า
เกาย่าเหวินดูสงบ และเปิดประตู
“เสี่ยวจิงซี นี่ป้าเหวินเองนะ”
ในห้อง อวี่จิงซีหดตัวที่มุม หลังได้ยินเสียงว่าเกาย่าเหวินจะเข้ามา เขาก็ดูเหมือนจะโดนฉีดยา กลัวจนไม่กล้าขยับ แม้กระทั่งตาก็ยังเบิกโพล่ง
‘กริ้ก’ เกาย่าเหวินปิดประตู ก้าวข้ามตุ๊กตาบนพื้น ตอนเธอเดินเข้าหาอวี่จิงซี เงาของเธอก็บดบังเขา
อวี่จิงซีนั่งตัวสั่นกอดเข่า
“เสี่ยวจิงซี”
เสียงของเกาย่าเหวินเบาลง“อย่ากลัง นี่ป้าเหวินเอง”
ห้องสลัว มีแค่โคมไฟตั้งพื้นที่ล้มลงกับพื้นถึงให้แสงสว่าง และดวงตาของเกาย่าเหวินก็แสดงความอ่อนโยนแปลก ๆ ซึ่งกลายเป็นหดหู่เรื่อย ๆ
“ป้าบอกให้เธอเป็นเด็กดีไม่ใช่เหรอ?ทำไมถึงโยนของแบบนี้ละ?”
อวี่จิงซีสะดุ้ง ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความกลัว มีชิ้นส่วนภาพความทรงจำยุ่งเหยิงมากมายในหัว เกี่ยวกับผู้หญิงเลวร้ายตรงหน้าเขา
พ่อของเขากลับอยากให้ผู้หญิงแบบนี้มาเป็นแม่เขา
“จิงซี เธอจำที่ป้าพูดได้ใช่ไหม?”