ตอนที่แล้วตอนที่ 21 เธอถามมากไป
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 23 จิงซี ลูกพูด?

ตอนที่ 22 ให้เสี่ยวซิงซิงไปเล่นที่บ้าน


ตอนที่ 22 ให้เสี่ยวซิงซิงไปเล่นที่บ้าน

พอพูดแบบนี้ มันก็หมายความว่าอวี่จิงซีเป็นออทิสติก

“ขอโทษค่ะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ” เซิ่งอั้นหรานขอโทษอย่างจริงใจ“คือ เพื่อแสดงความขอโทษ วันนี้ฉันขอเป็นคนเลี้ยงมื้อนี้เองนะคะ?”

อวี่หนานเฉิงกลับมาได้สติ หลังมองใบหน้าอับอายของเธอ เขาก็ตระหนักว่าท่าทีของเขาอาจแข็งกระด้างไป ยิ่งคิดถึงเหตุการณ์ที่เธอช่วยจิงซีไว้ น้ำเสียงของเขาจึงอ่อนลงและอธิบาย

“จิงซีนะพูดได้ แต่เขาไม่อยากพูด”

เซิ่งอั้นหรานพยักหน้าและหยุดถาม

อีกด้าน อวี่จิงซีกำลังนั่งในทะเลลูกบอลหลากสี แต่จู่ ๆ เซิ่งเสี่ยวซิงก็หายตัวไป เขาขมวดคิ้วด้วยความกังวล

“นี่แหนะ!” ทะเลลูกบอลตรงหน้าเขาพลันระเบิดกระจาย เซิ่งเสี่ยวซิงโผล่ออกมา กระโจนจับเขาพร้อมหัวเราะอย่างร่าเริง“ฉันอยู่นี่!”

อวี่จิงซีผงะ ดูเหมือนว่านี่จะเป็นครั้งแรกที่มีคนเล่นกับเขาแบบนี้

เซิ่งเสี่ยวซิงทำอะไรไม่ถูก“พี่ชาย เป็นอะไรงั้นเหรอ?”

อวี่จิงซีส่ายหัว ยกมือขึ้น ชี้ไปทางโต๊ะกินข้าว ส่งสัญญาณให้กลับไป

ถึงแม้เธอจะยังเล่นไม่จุใจ แต่พอเห็นสีหน้าตกใจของอวี่จิงซี เซิ่งอั้นหรานก็พยักหน้าอย่างเข้าใจ“พี่ชายหิวแล้วใช่ไหม? งั้นก็กลับกันเถอะ”

ขณะกิน อวี่จิงซีนั่งข้างเซิ่งอั้นหราน อวี่หนานเฉิงเตือนจนปากเปียกปากแฉะ แต่โชคดี เซิ่งเสี่ยวซิงใจกว้างและปีนขึ้นไปนั่งข้างอวี่หนานเฉิงโดยตรง

“พี่ชายชอบแม่หนูมากเลยนะเนี่ย ปล่อยให้เขานั่งข้างแม่หนูไปเถอะ หนูจะนั่งข้างคุณลุงเอง”

พอเห็นว่าเซิ่งอั้นหรานไม่แสดงท่าทางรังเกียจ อวี่หนานเฉิงก็ยอม และเมื่อเขามองเด็กสาวแสนน่ารักข้างเขา เขาก็รู้สึกใกล้ชิดอย่างแปลกประหลาด

“เขาชื่อจิงซี”

“พี่ชายจิงซี” เซิ่งเสี่ยวซิงพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง และพลันคิดถึงบางสิ่ง“แล้วพี่ชายจิงซีอายุเท่าไรคะ? ถ้าเขาอายุน้อยกว่าหนูละ?”

“ห้าขวบ เกิดก่อนเทศกาลวันไหว้พระจันทร์หนึ่งวัน”

พอได้ยิน สีหน้าของเซิ่งอั้นหรานก็เปลี่ยนไป ก่อนเทศกาลวันไหว้พระจันทร์? บังเอิญอะไรขนาดนั้น? นั่นวันเดี่ยวกับเสี่ยวซิงซิงเลยไม่ใช่หรือไง?

“แล้วเธอละ?”

พอได้ยินคำถามของอวี่หนานเฉิง เซิ่งเสี่ยวซิงก็เกาหัวและมองเซิ่งอั้นหรานเพื่อขอความช่วยเหลือ เธอจำวันเกิดเธอไม่ได้ ยังไงซะ เธอก็แค่เด็กห้าขวบ

เซิ่งอั้นหรานไม่รู้ว่าทำไม แต่เธอกลับบอกว่าวันเกิดของเซิ่งเสี่ยวซิงคือหลังจากนั้นหนึ่งเดือน

“เสี่ยวซิงซิงเกิดวันที่ 14 กันยายน”

อวี่หนานเฉิงไม่ถามเพิ่ม มันดูเหมือนเขาจะแค่ถามตามมารยาท ไม่ได้สนใจมันจริงจัง

ระหว่างมื้ออาหาร เซิ่งเสี่ยวซิงกับอวี่จิงซีมีต่อมรับรสเหมือนกัน ทั้งคู่เป็นพวกคลั่งของหวาน หลังของหวานสุดท้ายมาถึง เซิ่งเสี่ยวซิงก็กินอย่างร่าเริง ขณะที่อวี่จิงซีกินเงียบ ๆ แต่ตัดสินจากจานที่แทบไม่มีเศษเหลือ มันก็บอกได้ว่าเขาพอใจมาก

เด็กไม่สามารถอยู่เฉยได้ หลังมื้ออาหาร ทั้งสองก็ไปวิ่งเล่นกัน เซิ่งอั้นหรานกับอวี่หนานเฉิงรอสักพัก ตอนแรกทั้งคู่ทนได้ แต่พอนานขึ้นและนานขึ้น เซิ่งอั้นหรานก็เริ่มดูเวลาบ่อย

“เสี่ยวซิงซิง กลับกันได้แล้วนะ”

เซิ่งเสี่ยวซิงแหงนมองเซิ่งอั้นหรานจากด้านในบ้านบอล“ไม่ หนูจะเล่นกับพี่ชายจิงซีอีกสักพัก”

“เซิ่งเสี่ยวซิงค่ะ”

โดยปกติ ตอนเซิ่งอั้นหรานเรียกชื่อเต็มของเซิ่งเสี่ยวซิง มันหมายความว่าเธอกำลังโกรธ

มันมักได้ผล แต่ช่วงนี้ เซิ่งเสี่ยวซิงไม่รู้ว่าไปเอาความกล้ามาจากไหน เธอทำเป็นหลับหูหลับตา และสู้กับอวี่จิงซีในบ้านบอลต่อ

สุดท้าย เซิ่งอั้นหรานก็หมดความอดทนและลากเซิ่งเสี่ยวซิงออกมา“นี่มันกี่โมงกี่ยามแล้ว ลูกควรกลับบ้านกับแม่ เซิ่งเสี่ยวซิง”

เซิ่งเสี่ยวซิงถูกจับแขนไว้ข้างหนึ่ง แต่เธอรีบใช้มืออีกข้างที่ว่างจับขาของอวี่หนานเฉิง“คุณลุงสุดหล่อ ช่วยหนูด้วย”

เดิมอวี่หนานเฉงิออกมาเพื่อเล่นกับลูกชายเขา และไม่สนใจว่าลูกเขาจะเล่นนานแค่ไหน แถมการได้มองเด็กสาวเซิ่งเสี่ยวซิงยังสบายหูสบายตามาก ตอนนี้ เขาดึงเซิ่งเสี่ยวซิง อุ้มเธอขึ้นและพูด

“เด็กชอบเล่น ปล่อยให้พวกเขาเล่นไปเถอะ”

เซิ่งเสี่ยวซิงกอดคออวี่หนานเฉิงและหันไปหาเซิ่งอั้นหราน“แม่ กลับไปแม่ก็ไม่มีอะไรทำอยู่แล้ว ทำไมไม่อยู่คุยกับคุณลุงสุดหล่อเพิ่มล่ะ จะได้กระชับความสัมพันธ์กันไง!”

พอได้ยินคำพูดเหล่านี้ เซิ่งอั้นหรานก็แทบกระอักเลือด

“ลูกพูดอะไรไม่เข้าท่า? เซิ่งเสี่ยวซิง ลงมาเดี๋ยวนี้นะ...ขอโทษค่ะประธานอวี่ ฉันไม่ได้คิดจะตีคุณนะ..”

เซิ่งเสี่ยวซิงเหมือนลิงที่เกาะไม่ยอมลงจากตัวอวี่หนานเฉิง เซิ่งอั้นหรานมักยกมือตีก้นเธอเป็นการขู่ แต่ตอนนี้ อวี่หนานเฉิงหนุนหลังเซิ่งเสี่ยวซิง ซึ่งเธอจะทำอะไรแบบนั้นไม่ได้

แม่กับลูกสาวสู้กันอยู่นาน มันทำให้คนในร้านรู้สึกเหมือนกำลังดูตลก และสุดท้ายเซิ่งอั้นหรานก็ยอมแพ้ เธอยืนนิ่งอย่างหน่ายใจ

“ประธานอวี่ วางเธอลงเถอะค่ะ ฉันไม่ใช่คนดุขนาดนั้น ฉันจะกลับไปคุยกับเธอทีหลัง”

“ไม่เป็นไร” อวี่หนานเฉิงให้รอยยิ้มหายาก“เสี่ยวซิงซิงน่ารักมา มันหายากมากที่จะมีคนทำให้จิงซีสนุกด้วยได้”

หูของเซิ่งเสี่ยวซิงไวมาก และเธอก็รีบพูด

“งั้นครั้งหน้าแม่ก็พาหนูไปเล่นที่บ้านของพี่ชายจิงซีสิ”

ใบหน้าของเซิ่งอั้นหรานเปลี่ยนเป็นสีฟ้า เธอกัดฟัน

“เซิ่งเสี่ยวซิง!”

นั่นคืออวี่หนานเฉิง บ้านของอวี่หนานเฉิงจะเปิดให้พนักงานชั่วคราวเข้าไปเล่นได้ยังไง?

“แม่ ถ้าแม่รับปากหนู หนูจะกลับบ้าน.”

เซิ่งอั้นหรานกำลังจะใช้มาตรการเด็ดขาดเพื่อพาเซิ่งเสี่ยวซิงไป แต่อวี่จิงซีก็รีบหยิบกองกระดาษบันทึกจากกระเป๋าโรงเรียนใบน้อยของเขาออกมา ขีดเขียนมัน ยกมันขึ้นเพื่อแสดงให้อวี่หนานเฉิงดู

“ให้เสี่ยวซิงไปเล่นที่บ้าน”

อวี่หนานเฉิงผงะ อวี่หนานเฉิงแทบไม่เคยขออะไรเขา นับประสาอะไรกับการหาเพื่อน

พอคิดถึงนักจิตวิทยาคนก่อนที่บอกว่าลูกเขาเป็นออทิสติกที่ต้องคุยกับคนอื่นให้มากกว่านี้ หัวใจของเขาก็อ่อนยวบ หลังไตร่ตรองสักพัก เขาก็พูดอย่างจริงจัง

“เสาร์หน้า ฉันจะส่งคนไปรับเธอ เธอจะต้องมาบ้านฉันพร้อมเสี่ยวซิงซิง”

“หะ?” เซิ่งอั้นหรานตกใจ คิดว่าเธอหูฝาด

เซิ่งเสี่ยวซิงบิดตัวไปมาด้วยความยินดี จากในอ้อมแขนของอวี่หนานเฉิง เธอคว้ามือของอวี่จิงซี และตบมือเขา

“เย้ เย้..พี่จิงซี ฉันสามารถไปเล่นกับพี่ที่บ้านได้แล้ว”

เนื่องจากอวี่หนานเฉิงเป็นคนเชิญ มันจึงยากที่จะปฏิเสธ เซิ่งอั้นหรานจำต้องยอมรับในเรื่องนี้ แต่โชคดีคือ เด็กน้อยทั้งสองยอมออกร้านอาหารญี่ปุ่นแล้ว

เซิ่งอั้นหรานรู้สึกว่าถ้าอยู่นานกว่านี้ พนักงานร้านทุกคนจะรู้จักเธอ

นอกห้าง คนขับรถของอวี่หนานเฉิงขับมา และอวี่หนานเฉิงก็แสดงความเป็นสุภาพบุรุษแบบหาได้ยาก

“ฉันจะไปส่งเธอ”

โดยไม่รอให้เซิ่งอั้นหรานปฏิเสธ เซิ่งเสี่ยวซิงได้ก้าวไปข้างหน้า ใช้สองมือกับสองเท้าปีนเข้าเบาะหลังของรถ นั่งในนั้นและยื่นหัวออกมาหาเซิ่งอั้นหราน

“แม่ ขึ้นรถสิ มันนั่งสบายมากเลย!’

เซิ่งอั้นหรานก่ายหน้าผาก เส้นเลือดปูดบนขมับเธอ และเธอก็พร่ำบอกกับตัวเองว่าหลังวันนี้ อวี่หนานเฉิงต้องรู้สึกว่าเธอเป็นแม่ที่สั่งสอนลูกไม่ดี!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด