ตอนที่แล้ว346 - ล้างแค้น
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป348 - การลุกฮือของนิกายบัวขาว

347 - จ้างงาน


347 - จ้างงาน

เอี้ยนลี่เฉียงขี่ม้าแรดของเขาไปเรื่อยๆในขณะที่กำลังครุ่นคิดถึงเหตุการณ์ต่างๆ

เอี้ยนลี่เฉียงมาที่ประตูเมืองทางทิศตะวันตกอีกครั้งและเข้าไปในตลาดโดยคิดจะจ้างคนมาทำงานเกี่ยวกับสำนักหนังสือพิมพ์ที่เขากำลังจะก่อตั้งขึ้น

ตลาดร้อยตระกูลเป็นเมืองเล็กๆที่อยู่ด้านนอกของประตูเมืองตะวันตก ที่นี่เป็นตลาดแรงงานที่มีขนาดใหญ่มากที่สุดของอาณาจักรมันอยู่ติดกับเส้นทางหลวง

แม้ว่าที่นี่จะถูกเรียกว่าตลาดแรงงาน แต่ในความเป็นจริงแล้วที่นี่ไม่แตกต่างอะไรจากตลาดค้าทาส

ในขณะที่เขาขี่ม้าไปเรื่อยๆนายหน้าค้าทาสมากมายต่างก็วิ่งเข้ามาเพื่อเสนอสินค้าพวกเขาครอบครองให้กับลูกค้าที่ดูเหมือนจะมีเงินอย่างเขา

เอี้ยนลี่เฉียงทำได้เพียงถอนหายใจหลังจากที่ฟังคำพูดของนายหน้าพวกนี้เขาก็เข้าใจถึงความต่ำช้าในจิตใจมนุษย์

โดยปกติยิ่งพวกเขาอยู่ในสังคมชั้นต่ำเท่าไร พวกเขาก็ยิ่งสามารถเสนอตัวเพื่อความอยู่รอดได้มากเท่านั้น โดยเฉพาะผู้หญิงในยุคนี้ที่ไม่มีวิชาชีพอะไรพวกนางจึงทำได้เพียงขายตัว

“ข้ากำลังตามหาสวีเอิ้นต้า…?”

ทันทีที่นายหน้าได้ยินคำพูดของเอี้ยนลี่เฉียงความสนใจของพวกเขาก็ลดลงทันทีก่อนจะมีคนหนึ่งที่ชี้ไปด้านหลัง

“คิดว่าเขาคงอยู่ที่นั่น…”

“ขอบคุณ!”

เอี้ยนลี่เฉียงป้องหมัดแสดงความขอบคุณแล้วจึงขี่ม้าไปตามทิศทางนั้น เขาใช้เวลาไม่นานและพบว่าสวีเอิ้นต้ากำลังโต้เถียงกับใครบางคน

เอี้ยนลี่เฉียงมองดูการโต้เถียงของพวกเขาอยู่ในระยะไกล

เนื่องจากเขามีประสาทสัมผัสการได้ยินที่เฉียบแหลมเหนือกว่ามนุษย์ทั่วไป ดังนั้นเอี้ยนลี่เฉียงจึงสามารถได้ยินการสนทนาของพวกเขาทั้งหมด

“ถ้าเราทำงานร่วมกันครึ่งวัน ทุกคนจะได้รับเงิน 25 เหรียญทองแดงและอาหารหนึ่งมื้อ

หากไม่มีอาหารเลี้ยงท่านก็ต้องจ่าย 38 เหรียญทองแดงพวกเราไม่สามารถละเมิดกฎค่าแรงขั้นต่ำของที่นี่ได้! …” สวีเอิ้นต้ากล่าวด้วยสีหน้าลำบาก

“แพงเกินไป แพงเกินไป! ข้าสามารถจ่ายได้เพียง 28 เหรียญทองแดงโดยไม่มีอาหาร? หากเจ้าไม่เอาข้าจะไปหาคนอื่น!” พ่อบ้านรูปร่างอ้วนหันไปมองพวกเขาแล้วกล่าวเสริมว่า

“ที่ข้าตามหาพวกเจ้าก่อนก็เพราะว่าพวกเราเป็นคนคุ้นเคยกันเท่านั้น…!”

สวีเอิ้นต้ากัดฟันของเขา

“พ่อบ้านหลิว นี่นับเป็นราคาที่เหมาะสมอย่างยิ่ง? การขนย้ายอิฐไม่ใช่งานเบาๆ ไม่เพียงแค่นั้นพวกเรายังต้องทำตั้งแต่เช้าจนถึงตอนดึก แม้แต่อาหารพวกเราก็ไม่สามารถรับประทานแล้วเราจะเอาแรงที่ไหนมาทำงานให้ท่าน…”

อ้วนตะคอกออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“แม้ว่าข้าจะเสนอเงินนี้ให้กับคนอื่นเพียง 20 เหรียญทองแดงก็จะมีคนมากมายมาทำงานกับข้า ข้าจะถามเจ้าอีกครั้งว่าจะรับหรือไม่…!”

“ท่านมองหาคนอื่นเถอะพ่อบ้านหลิว!” สวีเอิ้นต้าสงบลง

“ดี ดีมาก เจ้าพวกเนรคุณ…!” พ่อบ้านอ้วนคนนั้นสะบัดแขนเสื้อด้วยความโมโหแล้วเดินจากไป

เอี้ยนลี่เฉียงมองดูและฟังอยู่ไกลๆรู้สึกว่าสวีเอิ้นต้าเป็นคนที่น่าเชื่อถือและมีจิตใจที่เข้มแข็งอย่างแท้จริง เอี้ยนลี่เฉียงจึงกระตุ้นม้าเข้าหาพ่อเขา

“อ๊ะ น้องชาย! ไม่คิดว่าพวกเราจะเจอกันอีกครั้งเร็วขนาดนี้!”

กลุ่มของสวีเอิ้นต้าหันไปรอบๆเมื่อได้ยินเสียงกีบเหล็กและพบว่าเอี้ยนลี่เฉียงเข้ามาหาพวกเขาพร้อมกับม้าแรด สวีเอิ้นต้าก็ทักทายเขาด้วยรอยยิ้มทันที

“ข้าต้องการจ้างคนงานระยะยาวหลายคน พวกท่านสนใจหรือไม่” เอี้ยนลี่เฉียงบอกพวกเขาด้วยรอยยิ้ม

เมื่อได้ยินว่าเป็นงานระยะยาวสวีเอิ้นต้าได้แลกเปลี่ยนสายตากับชายหนุ่มสองสามคนรอบตัวเขาขณะที่ดวงตาของพวกเขาเป็นประกาย

งานระยะยาวให้รายได้ที่มั่นคงและมักจะมีค่าจ้างที่มั่นคงมากกว่างานระยะสั้น แน่นอนว่าพวกเขาทั้งหมดสนใจ

สวีเอิ้นต้าเลียริมฝีปากที่แห้งของเขาและถามอย่างระมัดระวังว่า

“ไม่ทราบว่าเถ้าแก่น้อยต้องการให้พวกเราทำงานแบบใด พวกเราขวัญอ่อนไม่มีความกล้าทำงานผิดกฎหมาย”

“ถ้าต้องการเปิดโรงงานขึ้นไม่ทราบว่าพวกเจ้าสนใจหรือไม่…”

“แล้วเถ้าแก่ต้องการจ่ายเท่าไหร่”

“2 ตำลึงต่อเดือนต่อคน อาหารอีกวันละ 3 มื้อ พอใจหรือไม่”

ชายหนุ่มสองคนที่อยู่ข้างๆสวีเอิ้นต้าไม่สามารถระงับเสียงอุทานด้วยความตกใจออกมาได้ พวกเขาทั้งหมดกำลังเร่งเร้าสวีเอิ้นต้าให้ยอมรับข้อเสนออย่างรวดเร็ว

“มันมากเกินไป ไม่ทราบว่าท่านจริงจังหรือไม่”

"เงินห้าตำลึงนี้เป็นค่ามัดจำให้กับพวกเจ้า!” เอี้ยนลี่เฉียงหยิบเศษเงินออกมาจากอกเสื้อของเขาแล้วส่งให้สวีเอิ้นต้า

“อีกสามวันกลับมาพบข้าที่นี่อีกครั้งในตอนบ่าย ถ้าข้าไม่ปรากฏตัวก็ถือเป็นค่าเสียเวลาให้กับพวกเจ้า”

“แน่นอน… ไม่มีปัญหา!” สวีเอิ้นต้าจับเงินในมือของเขาและพยักหน้าอย่างแรง

“เอาล่ะ อีกสามวันเจอกัน…!”

……

สวีเอิ้นต้าและคนอื่นๆยังคงมึนงงแม้ว่าพวกเขาจะเห็นเอี้ยนลี่เฉียงขี่ม้าออกไปนานแล้ว

“วันนี้เราพบดาวนำโชคเข้าให้แล้ว…!”

…..

เอี้ยนลี่เฉียงกลับมาที่คฤหาสน์กวางและฝึกฝนคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็นสองรอบจากนั้นจึงเข้าสู่อาณาจักรสวรรค์อย่างเร่งรีบ

เมื่อนึกถึงการจลาจลของนิกายบัวขาวที่จะเริ่มต้นในอีกไม่ช้าเอี้ยนลี่เฉียงก็ปรารถนาจะกลับสู่นิกายกระบี่ศักดิ์สิทธิ์อย่างรวดเร็ว

สิ่งที่เอี้ยนลี่เฉียงไม่คาดคิดก็คือคลื่นที่โหมกระหน่ำจากความโกลาหลในอาณาจักรสวรรค์ได้เริ่มปรากฏขึ้นอย่างช้าๆ หลังจากการล่มสลายของเมืองหลวงจักรวรรดิ…

ในขณะที่พวกเขากำลังเดินทาง พวกเขาก็เห็นผู้คนขบวนใหญ่กำลังเดินมาในทิศทางของพวกเขาห่างออกไปสองลี้

“นี่อะไร? การอพยพครั้งใหม่หรือไม่ เหตุไฉนมันดูเร่งร้อนถึงขนาดนี้…” เอี้ยนลี่เฉียงหรี่ตามองคนเหล่านั้นที่อยู่ห่างไกลในขณะที่เขาพึมพำกับตัวเอง

“พี่หวัง ข้างหน้านี้เป็นที่ไหน”

เอี้ยนลี่เฉียงหรี่ตาและถามหวังฮุ่ยเนื่องจากเขามีสายตาที่ดีที่สุดในบรรดาทุกคนในขบวน ในขณะนี้กลุ่มคนที่อยู่ด้านหน้าของพวกเขาเห็นได้ชัดว่ากำลังถูกทหารม้าบางคนไล่กวาดต้อน

“ข้างหน้าเรา 20 ลี้ คือเมืองเป่ยหลิงของแคว้นหยวนหลังจากที่เราผ่านเมืองนี้เราจะเข้าสู่ภาคใต้ของอาณาจักรฮั่น”

วันนี้เป็นวันที่ 2 ของเดือน 10 ในปีที่ 17 ของรัชกาลหยวนผิงในอาณาจักรสวรรค์

เกือบยี่สิบวันแล้วที่เอี้ยนลี่เฉียงและพรรคพวกของเขาได้ออกจากเมืองเฟิง ตลอดยี่สิบวันนี้พวกเขาเร่งเดินทางตลอดทั้งวันจนอยู่ห่างจากนิกายกระบี่ศักดิ์สิทธิ์เพียงไม่กี่พันลี้แล้ว

“เดี๋ยวก่อน มีบางอย่างเกิดขึ้นข้างหน้า มีใครบางคนกำลังกวาดต้อนคนเหล่านี้…” กงเต๋อฉวนชี้ให้เห็นทันที

แน่นอนว่าเอี้ยนลี่เฉียงเห็นเหตุการณ์ที่อยู่ข้างหน้าอยู่แล้ว ฝูงชนจำนวนมากกำลังวิ่งมาในทิศทางของพวกเขาราวกับจะเอาชีวิตรอด

มีความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียวที่ทำให้คนจำนวนมากวิ่งหนีอย่างเอาเป็นเอาตาย ก็คือพวกเขาหลบหนีจากภัยพิบัติ หรือไม่ก็มีใครบางคนกำลังไล่ล่าพวกเขาอยู่

“เตรียมตัวให้พร้อม! เราจะหันหลังกลับหากสถานการณ์ดูไม่ถูกต้อง!”

ขณะที่เอี้ยนลี่เฉียงกำลังประกาศเรื่องนี้เขาก็ต้องสะดุ้งเพราะตอนนี้มีชายคนหนึ่งกำลังขี่ม้าอยู่บนเนินเขา สายตาของเขาเย็นชาและออกคำสั่งให้คนของเขาไล่กวาดต้อนผู้คนอย่างเร่งรีบ

เขาสวมชุดเกราะหนังเรียบง่ายและใช้ผ้าสีดำคาดศีรษะ เขาสะพายคันธนูไว้บนไหล่ในขณะที่มือของเขาถือสวนขนาดใหญ่ไว้

สิ่งที่ทำให้เอี้ยนลี่เฉียงตกใจก็คือ ผ้ารัดศีรษะสีดำของพวกเขาปักดอกบัวสีขาวไว้ที่บริเวณกึ่งกลางหน้าผาก

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด