235-236
5/10
Ep.235
จากนั้น ซูเฉินก็เริ่มเก็บชิ้นส่วนต่อ
“คุณได้รับ [เพลิงทะเลทราย] *1 , ชิ้นส่วนที่ต้องการ (9/10) , จำนวนองค์ประกอบยังไม่ครบ ไม่สามารถปลดล็อคได้ ต้องการแลกเปลี่ยนเป็นแต้มพลังงานหรือไม่?”
“ไม่แลก”
“คุณได้รับ [เมล็ดพันธุ์ต้นแอปเปิ้ล] *1 , ชิ้นส่วนที่ต้องการ (1/1) , จำนวนองค์ประกอบครบแล้ว คุณต้องการเลือกปลดล็อคหรือแลกเปลี่ยนเป็นแต้มพลังงาน?”
“แลกแต้มพลังงาน”
“คุณได้รับ [อัญมณีฟิวชั่นเวทมนต์] *1 , ชิ้นส่วนที่ต้องการ (4/10) , จำนวนองค์ประกอบยังไม่ครบ ไม่สามารถปลดล็อคได้ ต้องการแลกเปลี่ยนเป็นแต้มพลังงานหรือไม่?”
“ไม่แลก”
…
หลังจากเก็บชิ้นส่วนเรียบร้อยแล้ว หวู่หยางและคนอื่นๆ ก็ฆ่าซอมบี้ที่เหลือได้พอดี ตอนนี้กำลังก้มขุดหินพลังงาน
ซูเฉินเดินไปเก็บชิ้นส่วนทางฝั่งนู้นต่อ
หนึ่งชั่วโมงผ่านไป ชิ้นส่วนที่เหลือก็ถูกเก็บ ซูเฉินเริ่มนับสินสงครามที่ได้มา
คราวนี้มีชิ้นส่วนดรอปมากกว่า 1,000 ชิ้น ส่วนใหญ่ถูกแปลงเป็นแต้มพลังงาน ส่งผลให้จำนวนแต้ม เพิ่มขึ้นเกินหลักพันอีกครั้ง
นอกจากนี้ [เพลิงทะเลทราย] สามารถรวบรวมชิ้นส่วนได้ครบ และหลอมรวมเข้ากับเวทมนต์ธาตุไฟแล้ว
ปัจจุบัน มีเวทมนต์สี่ธาตุที่สามารถหลอมรวมชิ้นส่วนเข้าด้วยกัน ได้แก่
ธาตุไฟถูกรวมเข้ากับ [เพลิงทะเลทราย]
ธาตุไม้ถูกรวมเข้ากับ [ไม้ศักดิ์สิทธิ์แห่งสระวิเศษ]
ธาตุสายฟ้าถูกรวมเข้ากับ [สายฟ้าศักดิ์สิทธิ์แห่งความป่าเถื่อน]
ธาตุน้ำถูกรวมเข้ากับ [เหมันต์เก้าเร้นลับ]
พลังเวทย์ของทั้งสี่ธาตุนี้ ทรงพลังยิ่งกว่าธาตุอื่นๆมาก และพวกมันแทบไม่ด้อยไปกว่าเวทย์เลเวล 5 เลย
ยิ่งเวลาถูกปลดปล่อยโดย [ดาบเสริมมนตรา] อำนาจโจมตีของมันจะเหนือกว่าเลเวล 5 อย่างสิ้นเชิง ซึ่งเพียงพอแล้วที่จะใช้สร้างความเสียหายร้ายแรงต่อผู้วิวัฒนาการเลเวล 5
นอกจากนี้ ซูเฉินยังได้รับ [โพชั่นกายภาพ] มากว่า 20 ขวด ในบรรดาพวกมันมีเลเวล 3 รวมอยู่ด้วยถึงสองขวด
ซึ่งเป็นจำนวนพอดีที่จะช่วยให้หวู่หยางและหยางหลิงเทียนเลื่อนขั้นเป็นเลเวล 3
หลังจากนับสินสงครามแล้ว หันกลับไปมองเมืองอี้เถียน
ในเมืองอี้เถียนมีครึ่งออร์ค นั่นหมายความว่าจะต้องมีทางผ่านเขตแดนอยู่ข้างใน
นอกจากนี้ ทางผ่านที่ว่าคงยังไม่สมบูรณ์ เลยไม่สามารถเข้าออกตามต้องการได้
มิฉะนั้นแล้ว เผ่าครึ่งออร์คที่บุกเข้ามาสู้กับซูเฉิน คงมีมากกว่าหนึ่งตน
“หัวหน้าหวู่ ผมจะเข้าไปดูในเมือง ฝากทางนี้ด้วย”
ก่อนออกเดินทาง ซูเฉินเข้าไปคุยกับหวู่หยาง กำชับเขา
“วางใจได้เลย” หวู่หยางยิ้ม
ปัจจุบัน ซอมบี้ทั้งหมดถูกกวาดล้างแล้ว ไม่น่าจะมีอันตรายใดๆอีกต่อไป
นอกจากนี้ ยังมีผู้พิทักษ์อย่าง [นักรบจักรกล] ที่เทียบได้กับผู้วิวัฒนาการเลเวล 4 ดังนั้นปลอดภัยหายห่วง
ซูเฉินพยักหน้า มุ่งลึกเข้าไปในเมืองอี้เถียน
ภายในเมืองอี้เถียนรกร้างว่างเปล่า ปรากฏตึกรามพังทลายทุกหนแห่ง คล้ายกลายเป็นซากปรักหักพังไปแล้ว
บริเวณโดยรอบเงียบสงัด เต็มไปด้วยบรรยากาศน่าขนลุก
ซูเฉินกวาดสายตามองรอบๆ แต่ไม่พบซอมบี้หรือครึ่งออร์คเลย
ส่วนทางผ่านเขตแดน ไม่ทราบเหมือนกันว่าซ่อนอยู่ที่ไหน
หลังจากเดินสำรวจรอบเมือง ก็ยังไม่พบเบาะแสใดๆ ซูเฉินจึงปลดปล่อยพลังจิตกระจายออกตรวจสอบ
ไม่นาน เขาก็สัมผัสได้ว่าตรงเชิงเขาแห่งหนึ่ง มีคลื่นความผันผวนของพลังงานเล็กน้อย
“ตรงนั้นน่าจะเป็นทางเข้าทางผ่านเขตแดน” ซูเฉินหรี่ตาลง พึมพำกับตัวเอง
ทางผ่านเขตแดน ก่อนหน้านี้เขาเคยเจออีกแห่งหนึ่งในเหมืองที่เทือกเขาฮวงเจ๋อ
ในตอนนั้นเนื่องจากกังวลว่าจะเจออันตราย เลยไม่ได้เข้าไปสำรวจอย่างรอบคอบ
แต่ปัจจุบัน ความแข็งแกร่งของเขาพุ่งทะยานอย่างก้าวกระโดด ต่อให้เป็นผู้วิวัฒนาการเลเวล 5 ก็สามารถสังหารได้ ดังนั้นเกิดความคิดที่จะสำรวจทางผ่านเขตแดนให้ละเอียด
เดินมาถึงตีนเขา ซูเฉินชกไปที่ผนังกำแพงหิน
ซึ่งเป็นตำแหน่งที่คลื่นพลังงานเล็ดลอดออกมา
กราว กราว …
หลังจากที่กำแพงหินพังทลายลง ก็ปรากฏทางเดินสีขาวพรั่งพราวขึ้น มันมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณสามเมตร ส่องสว่างสดใส ภายในนั้นยังแฝงไปด้วยจิตสังหารอันน่าสะพรึงกลัว
บางครั้งก็เลือนลาง บางครั้งก็รุนแรงมาก ดูเหมือนยังไม่เสถียรเท่าที่ควร
ซูเฉินไม่กล้าเข้าใกล้ เพราะจิตสังหารนี้ทำให้เขารู้สึกใจสั่น
หลังจากเพ่งมองอย่างตั้งใจครู่หนึ่ง เขาก็เหยียดมือ และยิงบอลสายฟ้าเข้าไปในช่องทางเดิน
6/10
Ep.236
ทางผ่านเขตแดน แห่งนี้ น่าจะเชื่อมต่อกับโลกของเผ่าครึ่งออร์ค เมื่อมันเสถียรแล้ว กองทัพเผ่าครึ่งออร์คคงบุกเข้าสู่เกาะเฉียนหยู
ซูเฉินไม่รู้ว่าระดับฝึกตนของเผ่าครึ่งออร์ค แข็งแกร่งที่สุดอยู่ในระดับใด ดังนั้นไม่มีความตั้งใจที่จะปล่อยให้ทางผ่านนี้ค่อยๆฟื้นฟูจนเกิดความเสถียร
บังเกิดเสียงระเบิดดังกึกก้อง
หลังจากกระแสสายฟ้าแปล่บปลาบในช่องทางเดิน จิตสังหารที่มองไม่เห็นก็กวาดสวนออกมา ราวกับพายุร้ายแรง ทุกสิ่งทุกอย่างรอบบริเวณถูกหั่นเป็นชิ้นๆ
อำนาจของมัน ต่อให้อยู่ไกล แต่ก็ยังพอที่จะปลิดชีพมนุษย์ได้
อย่างไรก็ตาม ซูเฉินมี [กายาเทพอสูรนิรันดร์] จิตสังหารเหล่านี้จึงไม่อาจทำร้ายเขาจนถึงขั้นได้รับอันตราย มันเพียงทำให้เขาตกอยู่ในสถานการณ์อึดอัดก็เท่านั้น
“อำนาจเขตแดนช่างทรงพลังจริงๆ!” ซูเฉินงึมงำด้วยหัวใจที่สั่นกลัว
เขาเกิดจินตนาการขึ้นมา ว่าหากตนอยู่ในช่องทางเดินนี้ แล้วโดนโจมตีอย่างรุนแรงแบบเมื่อกี้เข้า ต่อให้เป็นเขา ก็คงทุกข์ทรมานไม่น้อย
และจากการระเบิดของท่าพายุสายฟ้า ทำให้ซูเฉินค้นพบว่า ทางผ่านเขตแดนดูยุ่งเหยิงกว่าเดิมมาก คล้ายกระบวนการล่มสลายกำลังขยับใกล้เข้ามา
เป้าหมายของซูเฉินคือทำลายทางผ่านเขตแดนนี้ ฉะนั้นแน่นอน ว่าพวกมันยิ่งปั่นป่วนเท่าไหร่ก็ยิ่งดี
จากนั้น เขาเริ่มสร้างบอลสายฟ้าอีกครั้ง แต่ขณะที่จะยิงมันออกไปนั้นเอง ปลายทางอีกด้านหนึ่งของทางผ่านเขตแดน ร่างขนาดใหญ่ที่สูงถึงสิบเมตรก็เผยโฉมออกมา
แม้จะอยู่ห่างไกล แต่ซูเฉินยังคงรับรู้ได้ถึงกลิ่นอายอันน่าเกรงขามของมัน
เห็นได้ชัดว่า ผู้มาเยือนคือผู้แข็งแกร่งคนหนึ่งของเผ่าครึ่งออร์ค
ซูเฉินคิดว่าระดับฝึกตนของมัน อย่างน้อยน่าจะอยู่ในเลเวล 6 หรือสูงกว่า ไม่อย่างนั้นคงไม่ทำให้เขารู้สึกได้ถึงแรงกดดันเช่นนี้
“มนุษย์ เจ้าช่างใจกล้านัก บังอาจคิดทำลายทางผ่านเขตแดนของเผ่าครึ่งออร์คของเรา? รู้หรือไม่ว่าความผิดนี้มีโทษถึงตาย!”
เสียงตำหนิที่ฟังดูดุร้าย ดังมาจากปลายสุดของทางผ่านเขตแดน
ในน้ำเสียงของมัน แฝงไปด้วยความเหยียดหยามและโกรธจัด ราวกับว่าพร้อมที่จะกระโจนเข้าบดขยี้ซูเฉินได้ตลอดเวลา
“ไปบอกป้าข้างบ้านแกเถอะ! คิดว่าตัวเองเป็นใคร กล้าดียังไงมาขู่บิดา?” ซูเฉินแค่นเสียงเย็นชา ยกมือขึ้นพร้อมยิงบอลสายฟ้าออกไปอีกลูก
ตามมาด้วยเสียงระเบิดสนั่นหวั่นไหว ทางผ่านเขตแดนสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ภูเขารอบๆได้รับผลพวงจากแรงสั่น ชั้นดินขนาดใหญ่ทรุดตัวลง
หินบนภูเขานับร้อยนับพันก้อน ทั้งเล็กใหญ่ร่วงกราวลงมา แต่ก่อนที่พวกมันจะทันตกถึงพื้น ก็ถูกจิตสังการที่พุ่งสวนออกมาทำลายเป็นผงไปเสียก่อน
“อ๊า! ให้ตายเถอะเจ้ามนุษย์!”
ครึ่งออร์คที่อยู่ฝั่งตรงข้าม เมื่อเห็นซูเฉินเมินเฉยต่อคำขู่ แถมยังกล้าที่จะทำลายทางผ่านเขตแดนต่อ มันก็ร้องโวยวายด้วยความโกรธ
“แกคิดว่าตัวเองเจ๋งนักใช่ไหม? งั้นทำไมไม่ออกมาสู้กับฉันเล่า!” ซูเฉินยั่วโมโหเสียงดัง
เพราะแม้ฝ่ายตรงข้ามจะแข็งแกร่งมาก แต่ก็ไม่สามารถข้ามทางผ่านเขตแดนมาได้ ดังนั้นไม่อาจเป็นภัยคุกคามต่อเขา
ซูเฉินสามารถหยอกล้อมันได้ตามต้องการ และสามารถปล่อยสายฟ้าอีกลูกได้ทุกเมื่อ เพื่อทำลายทางผ่านเขตแดนให้สลายลงโดยสมบูรณ์
“บังอาจ!!!”
เผ่าครึ่งออร์คไม่สามารถทำอะไรซูเฉินได้ มันได้แต่หัวฟัดหัวเหวี่ยง ตะโกนลั่นดั่งฟ้าร้อง
“มนุษย์ ถ้าเจ้าหยุดอาละวาด ข้าสามารถมอบผลประโยชน์บางอย่างแก่เจ้าได้”
มันถอนหายใจอย่างช้าๆ เหมือนจะนึกอะไรบางอย่างออก ครึ่งออร์คระงับความโกรธของตน กล่าวเปิดบทสนทนา พยายามใช้น้ำเสียงหนักแน่นจริงใจ
ทางผ่านเขตแดนแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นโดยพวกมัน ซึ่งใช้วัสดุไปเป็นจำนวนมาก หลังจากพยายามหลายทศวรรษเพื่อฟื้นฟูเสถียรภาพให้มั่นคง และใกล้จะเป็นรูปเป็นร่างอยู่แล้ว แต่มาวันนี้กลับถูกป่วนโดยซูเฉิน
ถึงกระนั้น แม้เสถียรภาพในปัจจุบันจะลดลง แต่เผ่าครึ่งออร์คก็ไม่ต้องการให้ทางผ่านเขตแดนถูกทำลายลงอย่างสิ้นเชิง
เนื่องจากมันไม่สามารถออกไปหยุดซูเฉินได้ ฉะนั้นเลยชวนคุย แม้ว่าจะต้องจ่ายราคาไปบ้าง แต่ก็ยังอยากหยุดซูเฉินให้ได้
ได้ยินแบบนี้ ดวงตาของซูเฉินสว่างไสวขึ้นทันใด ในสมองเริ่มเกิดความคิด
‘การทำลายทางผ่านเขตแดนเป็นแค่เรื่องง่ายดายราวพลิกฝ่ามือ แต่ก่อนหน้านั้น หากฉันหลอกตบทรัพย์จากอีกฝ่ายมาได้ มันจะไม่น่าสนุกกว่าหรอ?’