231-232
1/10
Ep.231
“นี่แก … เป็นใครกันแน่?” ซอมบี้ตัวเตี้ยกัดฟัน พยายามฝืนลุกขึ้นจากพื้น
“กำลังจะตายอยู่แล้ว ยังอยากรู้อะไรอีก?”
ซูเฉินกล่าวล้อ ขยับเท้าวูบไหว พริบตาเดียวไปปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าซอมบี้ ง้างแขนขึ้นฟ้า เกร็งเป็นกำปั้นและทุบลงไป
“นายท่าน โปรดแก้แค้นให้เรา!”
ซอมบี้ตัวเตี้ยกระจ่างแก่ใจ ว่าเมื่อต้องเผชิญหน้ากับคนแข็งแกร่งเช่นซูเฉิน มันไม่มีทางรอดไปได้
มันจึงเลิกต่อต้าน ขณะเดียวกันใช้แรงเฮือกสุดท้ายตะโกนเข้าไปในเมืองอี้เถียน ก่อนจบชีวิตลง
ตูม!
หัวซอมบี้ตัวเตี้ยระเบิดเป็นเศษเนื้อ วินาทีที่ร่างมันล้มลง ลำแสงสีทองพลันสะท้อนขึ้นมาจากศพ
“ชิ้นส่วนสีทอง!” ซูเฉินรู้สึกตื่นเต้นมาก
ชิ้นส่วนสีทองคือชิ้นส่วนที่ดรอป [คุณสมบัติอย่างเต็มรูปแบบ] ซึ่งในบรรดาชิ้นส่วนทั้งหลายที่สามารถปลดล็อคได้ด้วยจำนวนหนึ่งชิ้น เป็นมันที่มีค่ามากที่สุด
ซูเฉินสูดหายใจลึก คว้าจับชิ้นส่วนสีทอง
“คุณได้รับ [คุณสมบัติเลเวล 4 อย่างเต็มรูปแบบ] *1 , ชิ้นส่วนที่ต้องการ (1/1) , จำนวนองค์ประกอบครบแล้ว คุณต้องการเลือกปลดล็อคหรือแลกเปลี่ยนเป็นแต้มพลังงาน?”
“ปลดล็อค”
ซูเฉินตอบอย่างไม่ลังเล
แทบจะในทันที เขาสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของร่างกาย เนื้อหนังทนทานขึ้น ขณะเดียวกัน พละกำลังเพิ่มพูนขึ้นเป็นอย่างมาก
นอกจากนี้ พลังเวทย์และพลังแห่งจิตวิญญาณก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน
ยังไม่พอ เมื่อยกระดับสู่เลเวล 4 นั่นหมายความว่า [เกล็ดแขนทองคำ] สามารถต้านทานการโจมตีของพวกเลเวล 5 ได้แล้ว
ขณะเดียวกัน [กายาเทพอสูรนิรันดร์] ก็เพิ่มขึ้นมาอีกขั้น ทุกการโจมตีใดๆในเลเวล 4 ล้วนมิอาจทำร้ายเขา
กล่าวได้เลยว่า ซูเฉินแม้ยกระดับไปแค่เลเวลเดียว แต่กำลังรบของเขาพุ่งทะยานเป็นเท่าทวี
ปัจจุบัน ต่อให้ต้องเผชิญกับผู้วิวัฒนาการเลเวล 5 เขาก็มั่นใจมากว่าสามารถสังหารศัตรูได้
หลังจากหยิบชิ้นส่วนสีทองขึ้นมา ซูเฉินก็เตรียมไปล่าซอมบี้ต่อ แต่ในตอนนั้นเอง แรงกดดันอันน่าสะพรึงกลัวก็ดังมาจากเมืองอี้เถียน
“มนุษย์! กล้าดียังไงถึงได้มาอาละวาดในเมืองอี้เถียนของข้า? วันนี้จะเป็นวันตายของเจ้า!”
เสียงคำรามด้วยความโกรธดังสะท้อนเข้ามาจากระยะไกล วิ่งทะลุทะลวงเข้าหูซูเฉิน
“สิ่งมีชีวิตจากโลกอื่น?”
คิ้วของซูเฉินขมวดเข้าหากัน เขาได้ยินอย่างชัดเจน ว่าเสียงคำรามนี้ไม่ใช่ภาษามนุษย์
“เผ่าพันธุ์ไหนล่ะทีนี้?”
ซูเฉินพึมพำ หันศีรษะไปทางเมืองอี้เถียน
ภายในสายตาเขา ไม่นานก็ปรากฏสิ่งมีชีวิตต่างเผ่าที่มีความสูงประมาณ 3 เมตร
สิ่งมีชีวิตต่างเผ่าตนนี้ ร่างของมันราวกับเนินเขาขนาดย่อม จากความเร็วดั่งสายลมกรรโชกแรงที่มันแสดงให้เห็น บ่งบอกว่าอยู่ในระดับผู้วิวัฒนาการเลเวล 4
ทุกฝีก้าวที่วิ่งเข้ามา ยามเหยียบย่ำลงกับพื้นจะได้ยินเสียง ตึง ตึง!
ใช้เวลาไม่กี่อึดใจ มันก็มาหยุดอยู่เบื้องหน้าซูเฉิน ทิ้งระยะห่างแค่ประมาณ 10 เมตร
ซูเฉินหรี่ตาลง เพ่งสำรวจร่างของมัน
เมื่อได้เห็นรูปลักษณ์อย่างชัดเจน หัวใจของเขาก็เต้นแรงขึ้นเล็กน้อย
เพราะสิ่งมีชีวิตต่างเผ่าตนนี้ มีลักษณะค่อนข้างคล้ายคลึงกับมนุษย์ ตรงส่วนใบหน้าของมันรูปทรงเหมือนกับมนุษย์เลย แต่หยาบกระด้างกว่ามาก
ทั่วทั้งใบหน้าเต็มไปด้วยหนวดเครา ผมยาวฟูยุ่งเหยิง ปิดคลุมไปครึ่งใบหน้า
และบนร่างอันเปลือยเปล่าของมัน ถูกปกคลุมไปด้วยขนสัตว์สีเหลือง
แขนขาดูแข็งแกร่งและทรงพลัง เต็มไปด้วยมัดกล้าม คล้ายกับว่าพร้อมระเบิดพลังออกมาได้ตลอดเวลา
บวกกับความสูงสามเมตร ทำให้รูปลักษณ์โดยรวม เหมือนกับคนเถื่อนไร้อารยธรรม
“เจ้าตัวใหญ่ แกมาจากเผ่าไหน?”
เมื่อสิ่งมีชีวิตต่างเผ่าเข้ามาใกล้ ซูเฉินก็เอ่ยถามขึ้นทันที เมื่ออีกฝ่ายได้ยินว่าซูเฉินสามารถพูดภาษาของพวกมันได้ ก็ชะงักไป
เพ่งมองซูเฉินอยู่พักหนึ่ง ปริปากอีกครั้งด้วยท่าทีดุร้ายว่า “เจ้าหนู ทำไมเจ้าถึงพูดภาษาครึ่งออร์คของพวกเราได้?”
“ที่แท้ก็มาจากเผ่าครึ่งออร์คนี่เอง” ซูเฉินพึมพำ ถามต่อด้วยใบหน้ายิ้มคล้ายไม่ยิ้ม “เจ้าตัวใหญ่ แกมาที่ทวีปเสวียนเทียนของฉันได้ยังไง”
“เจ้าหนู ข้าจะสอนอะไรให้อย่าง การรู้มากไปก็ใช่ว่าจะเป็นสิ่งที่ดี!” ใบหน้าของครึ่งออร์คเปลี่ยนเป็นเย็นชา จากนั้นหัวเราะอย่างชั่วร้ายและกล่าวว่า “จงรีบตอบคำถามข้าโดยเร็ว มิฉะนั้นอย่าตำหนิว่าข้าหยาบคาย!”
2/10
Ep.232
“งั้นถ้าแกหยาบคาย มันจะเป็นยังไง?” ซูเฉินปาดจมูก
ครึ่งออร์คตรงหน้าเป็นแค่เลเวล 4 มีหรือจะสะกิดแผลเขาได้?
ต้องรู้นะว่า ปัจจุบันซูเฉินขึ้นเป็นเลเวล 4 แล้ว ดังนั้นคงกระพันในเลเวลเดียวกัน เป็นธรรมดาที่เขาจะไม่เห็นครึ่งออร์คอยู่ในสายตา
มองไปยังท่าทีโคตรมั่นใจของซูเฉิน ราวกับมองตัวมันเป็นเพียงอากาศธาตุ ครึ่งออร์คก็โกรธจัด
“ในเมื่อเจ้าไม่รู้จักชั่วดี เช่นนั้นข้าจะสั่งสอนให้รู้สำนึก!”
สีหน้าของครึ่งออร์คแปรเปลี่ยนเป็นดุร้าย มันแค่นเสียงเย็นชา ทุบกำปั้นเข้าใส่ซูเฉิน
แม้กำปั้นยังไม่ถึงตัว แต่กระแสลมแรงกระพือเข้าใส่ใบหน้าเขาก่อนแล้ว
บ่งบอกว่าพละกำลังอันทรงพลังของผู้วิวัฒนาการเลเวล 4 ถูกระเบิดออกมาเต็มเหนี่ยว
ซูเฉินยังคงยืนนิ่งไม่ขยับ ขณะที่กำปั้นใหญ่ใกล้เข้ามา เขาก็ระเบิดกำปั้นสวนกลับไป ในวินาทีเดียวกัน จากแขนไล่มา เปล่งประกายไปด้วยแสงสีทองเจิดจ้า
บังเกิดเสียงดังปงงงง!
สองกำปั้นปะทะกัน บังเกิดสภาวะชะงักงันเล็กน้อย แต่แล้วเห็นแค่เพียงกำปั้นใหญ่โตของครึ่งออร์ค ทุกกระดูกนิ้วของมันแหลกเป็นเสี่ยง เนื้อฉีกขาดทะลักไปด้วยเลือด
“อ๊ากกกกก!”
ถูกทำร้ายสาหัส ครึ่งออร์คกรีดร้อง ชักฝีเท้าถอยหลัง
เพียงแต่ว่า มันถอยไปได้แค่ไม่เกินสามก้าว ทันใดนั้นพลันรู้สึกว่าใต้ฝ่าเท้าตัวเอง คล้ายถูกพันธนาการด้วยบางสิ่ง
ในเวลาเดียวกัน พลังมหาศาลที่มองไม่เห็นโถมกดลงมาจากทุกทิศทาง จนตัวมันหายใจไม่ออก
ครึ่งออร์คสีหน้าแปรเปลี่ยนเป็นสยดสยอง มันไม่สนใจความเจ็บปวดบนมืออีกต่อไป รีดเร้นพละกำลังไปยังเบื้องล่าง พยายามสลัดสิ่งที่รัดพันเท้าให้หลุด
อย่างไรก็ตาม ในขณะนั้นเอง ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงอันน่าประหลาดขึ้นอีกครั้ง
มันสัมผัสได้ถึงบรรยากาศเย็นยะเยือกที่ทิ่มแทงเข้าไปในกระดูกขา จากนั้นไล่ขึ้นมา แผ่ไอเย็นถึงเอวและหน้าท้องในพริบตาเดียว
ภายใต้การกัดกร่อนของไอเย็น ร่างกายส่วนล่างของมันสูญเสียการควบคุมไปอย่างสิ้นเชิง
“บ้าอะไรวะ!”
ครึ่งออร์คโวยวายตื่นตระหนก ก้มลงมอง
สิ่งที่มันเห็นก็คือ ตรงเท้าถูกพันธนาการด้วยเถาวัลย์เขียว ส่วนตรงขาถูกปกคลุมไปด้วยชั้นน้ำแข็งหนา ให้ความรู้สึกเย็นเยียบไปถึงกระดูก
มองไปยังฉากนี้ บังเกิดเสียงอื้ออึงขึ้นในหัวของมัน
อาศัยเพียงเทคนิคพันธนาการธาตุไม้ และเทคนิคเยือกแข็งเพียงอย่างเดียว สามารถหน่วงเหนี่ยวตัวมันได้ถึงขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน?
ต้องรู้นะว่า ตัวมันคือผู้วิวัฒนาการเลเวล 4
ยิ่งไปกว่านั้น ในฐานะเผ่าพันธุ์ครึ่งออร์ค มันครอบครองสมรรถภาพทางกายภาพที่เหนือกว่าเผ่าพันธุ์อื่นๆ ด้อยกว่าเผ่าปีศาจราตรีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
แล้วเหตุใด เทคนิคที่มนุษย์แสนอ่อนปลดปล่อยออกมา ถึงสามารถพันธนาการตนเองได้?
ต่อให้เวทมนต์ที่ซูเฉินปลดปล่อยจะเป็นเวทย์เลเวล 4 ก็ตาม อ้างอิงตามสถานการณ์ปกติ มันก็ยังไม่มากพอที่จะสกัดกั้นครึ่งออร์คได้อยู่ดี
แต่สิ่งที่ครึ่งออร์คไม่รู้ก็คือ ไม่ว่าจะเป็นเทคนิคพันธนาการธาตุไม้หรือเทคนิคเยือกแข็ง ก็ล้วนมีอำนาจมากกว่าพลังเวทมนต์ปกติ
เพราะอย่างแรกถูกหลอมรวมเข้ากับ [ไม้ศักดิ์สิทธิ์แห่งสระวิเศษ] อันหลังถูกรวมเข้ากับ [เหมันต์เก้าเร้นลับ]
ด้วยการเสริมพลังจากสองสิ่งที่กล่าวมา ส่งผลให้อำนาจเวทย์ของทั้งคู่เกินกว่าเลเวล 4 ไปมาก ชนิดที่ว่าอาจถึงขั้นแข็งแกร่งกว่าเวทย์เลเวล 5 อยู่เล็กน้อย
แม้ว่าครึ่งออร์คจะแข็งแกร่งกว่าผู้วิวัฒนาการเลเวล 4 ทั่วๆไป แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับเวทย์ที่สูงกว่าเลเวล 5 มันก็มิอาจระเบิดพละกำลังเข้าต่อต้าน
“ตอนนี้ก็น่าจะบอกฉันได้แล้วมั้ง ว่าแกมาจากที่ไหน”
ซูเฉินเดินไปข้างหน้าด้วยรอยยิ้ม พร้อมดาบสงครามสีดำในมือที่กำลังแผ่เจตนาฆ่าอันเย็นเยียบออกมา
“ฮ่า ฮ่า …” ครึ่งออร์คหัวเราะหยัน กล่าวด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยอารมณ์เหยียดหยาม “เจ้าหนู ข้ายอมรับว่าเจ้าแข็งแกร่งมาก แต่ถ้าเจ้าต้องการบีบคั้นครึ่งออร์คอย่างพวกเรา ฝันไปเถอะ!”
“ในเมื่อเป็นแบบนี้ หมายความว่าแกจะไม่ยอมพูดใช่ไหม?” ดวงตาของซูเฉินค่อยๆหรี่ลง จู่ๆก็มีสิ่งมีชีวิตต่างสายพันธุ์ปรากฏขึ้นในเมืองอี้เถียน แสดงว่าที่นี่ต้องมีความลับอะไรบางอย่างซ่อนอยู่แน่ๆ
หากซูเฉินสามารถงัดข้อมูลจากปากครึ่งออร์คตัวนี้ได้ มันจะเป็นการดีที่สุด
แต่หากอีกฝ่ายยอมตายดีกว่ายอมพูด
งั้นเขาก็จะฆ่ามันอย่างไร้ปราณีเหมือนทุกๆครั้งที่ผ่านมา และเข้าไปในเมืองอี้เถียน ตรวจสอบด้วยตัวเอง