311 - โม่เซียน
1622 - โม่เซียน
จิ!
รัศมีดาบสีทองพุ่งทะลุหน้าอกของสือฮ่าว รัศมีดาบอีกเส้นเกือบแทงเข้าที่ช่องว่างระหว่างคิ้วของเขา นี่เป็นพลังจากของวิเศษที่ถูกฝังไว้ในเขาของแพะทองคำ
ฮ่อง!
ในที่สุดเขาทั้งสองก็ระเบิดออกมาพร้อมกับแสงสว่างจำนวนมากจากภายในซึ่งมีสัญลักษณ์ลึกลับปรากฏออกมาด้วย
นั่นคือค่ายกลสังหารขนาดเล็กที่ระเบิดด้วยพลังอันน่าอัศจรรย์
ในสายตาของคนนอกแพะทองคำดูเหมือนว่าจะระเบิดร่างกายของตนเองเพื่อลากฮวงให้ตายไปพร้อมกัน
มีเพียงสือฮ่าวเท่านั้นที่รู้ว่านี่ไม่ใช่อย่างนั้นเลย ท้ายที่สุดแล้วผู้คุมคุกเหล่านั้นก็ยังใช้เล่ห์อุบายจนถึงที่สุด
ปู!
แพะทองคำร่างระเบิดเป็นชิ้นๆแม้แต่วิญญาณดั้งเดิมก็ดับสูญ
ในเวลาเดียวกันสือฮ่าวก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ร่างของเขาแหลกสลายไปครึ่งหนึ่ง หากไม่ได้รับความช่วยเหลือจะต้องตายภายในไม่กี่ลมหายใจ
แน่นอนว่าผู้สูงสุดที่ควบคุมดูแลคุกย่อมไม่สามารถปล่อยให้เขาตายไป เป็นเพราะฮวงเป็นคนที่เบื้องบนต้องการตัวหากปล่อยให้เขาตายทุกคนที่อยู่ที่นี่จะต้องเดือดร้อนกันทั้งตระกูล
แต่ก่อนที่เขาจะได้ลงมือช่วยเหลือ ร่างกายของสือฮ่าวก็เปล่งประกายด้วยแสงสีทองพร้อมกับเริ่มรักษาตัวเองอย่างรวดเร็ว
ร่างกายนี้มีพลังอันน่าอัศจรรย์ หากไม่สามารถสังหารเขาทันทีในไม่ช้าสือฮ่าวจะฟื้นฟูร่างกายอย่างรวดเร็ว
“ฮ่าฮ่า…” สือฮ่าวคำรามด้วยเสียงหัวเราะความเยือกเย็นทั้งเปลี่ยมไปด้วยความดูถูกเหยียดหยาม แค่ลูกไม้ตื้นๆของคนพวกนี้ยังคิดว่าจะหยุดเขาได้หรือ?
เขาสามารถได้รับชัยชนะอย่างง่ายๆ แต่คนพวกนี้ก็คอยขัดขวางอยู่ตลอด ไม่อนุญาตให้เขาสร้างชื่อเสียงต่อไป
ต๋อง!
แสงสีทองปรากฏออกมาจากท้องฟ้า ชายที่มีใบหน้างดงามพร้อมกับปีกสีทองด้านหลังปรากฏตัวออกมาอย่างรวดเร็ว ร่างกายของเขาถูกล้อมรอบด้วยรัศมีพลังศักดิ์สิทธิ์ส่งผลให้ทุกคนที่อยู่ที่นี่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว
“อย่ายุ่งเกี่ยวกับการต่อสู้ของเรา ข้าจะต่อสู้กับเขาอย่างยุติธรรม!” เขาพูดกับผู้สูงสุดที่ดูแลคุกอย่างเย็นชา
“ท่านชายจื่อหมิง!” หลายคนอุทานออกมาด้วยความตกใจ
นี่คือลูกหลานของเฮ่อู่ซวงเป็นที่รู้จักกันว่าเขาคืออันดับหนึ่งในบรรดาคนรุ่นเยาว์ของโลกใบนี้
เขาคืออันดับหนึ่งที่แข็งแกร่งมากกว่าอันดับหนึ่งทุกรุ่นเท่าที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์ ความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเขาไม่ได้ด้อยไปกว่าผู้คนจากตระกูลจักรพรรดิ
นอกจากเขาแล้วยังมีร่างที่เต็มไปด้วยพลังแห่งความโกลาหลปรากฏออกมาจากความว่างเปล่าอีกสี่คน!
จักรพรรดิหนุ่มทั้งสี่มาถึงพร้อมกันแล้ว!
“แข็งแกร่งจนน่าอัศจรรย์ คู่ควรกับการเป็นคู่ต่อสู้ของพวกเรา อย่างไรก็ตามบุคคลภายนอกไม่สามารถเข้ามายุ่งได้ สิ่งที่ข้าต้องการคือการต่อสู้เด็ดขาดที่แท้จริง เขาจะเป็นหินลับคมที่ยอดเยี่ยมที่สุด!”
ชายหนุ่มคนหนึ่งพูดขึ้นด้วยความมั่นใจ
หญิงสาวผู้หนึ่งเดินออกมาจากพลังแห่งความโกลาหลเผยให้เห็นรูปลักษณ์อันงดงามเกินกว่าจะบรรยาย
ผิวของนางเป็นประกายราวกับหยกชั้นดี ดวงตาที่สดใสพร้อมกับเส้นผมยาวราวกับเทพธิดาจากดวงจันทร์
นี่คือสตรีที่งดงามที่สุดในโลกฝั่งนี้
เมื่อสือฮ่าวมองเห็นนางเขาก็มีความรู้สึกคุ้นเคยเล็กน้อย หลังจากนั้นเขาก็ตระหนักถึงตัวตนของนางว่าต้องเป็น โม่เซียน!
ว่ากันว่าต้นกำเนิดของนางเป็นมนุษย์คนหนึ่ง แต่ด้วยพรสวรรค์อันยอดเยี่ยมและน่าทึ่งทำให้จักรพรรดิผู้ไม่ดับสูญรับตัวนางไว้เป็นศิษย์พร้อมกับให้ร่วมฝึกฝนกับลูกหลานของเขา!
โม่เซียนมีรูปร่างสูงเพรียวเส้นผมยาวนุ่มสลวยคิ้วสีดำโค้งงอวางอยู่บนใบหน้ารูปไข่ดวงตากลมเต็มไปด้วยความฉลาดเฉลียว
หากไม่มีผู้ใดรู้เบื้องหลังของนางจะต้องคิดว่าเป็นคนจากตระกูลจักรพรรดิอย่างแน่นอน
เป็นเพราะว่านางงดงามเกินไปคล้ายกับไม่มีความเกี่ยวข้องกับโลกใบนี้
“น้องชายของข้าสบายดีหรือไม่?”โม่เซียนถามออกมา เมื่อนางเดินไปข้างหน้าจะมีหมอกเซียนปรากฏออกมาเพื่อรองรับเท้าของนาง ความงดงามนั้นยากที่จะมองว่าเป็นสิ่งมีชีวิตจากโลกมนุษย์
สิ่งมีชีวิตมากมายรู้สึกขายหน้าอย่างยิ่งต่อความพ่ายแพ้ของพวกเขา เมื่อถูกรับรู้โดยหญิงสาวที่งดงามผู้นี้ยิ่งทำให้พวกเขารู้สึกอับอายมากขึ้นไปอีก
“เขาทำได้ดีทีเดียว หลังจากที่เขาได้รู้ความจริงทุกอย่างเขาก็เต็มใจอยู่กับพวกเราในฐานะสหาย” สือฮ่าวตอบตามความจริง
สิ่งนี้ทำให้คนจำนวนไม่น้อยรู้สึกมึนงงโดยไม่รู้ว่าพวกเขากำลังพูดถึงอะไร เป็นเพราะในความคิดของพวกเขาหญิงสาวผู้นี้มาจากตระกูลจักรพรรดิ!
ยิ่งไปกว่านั้นนี่ควรจะเป็นครั้งแรกที่นางปรากฏตัวออกมาจากดินแดนบรรพบุรุษ แล้วนางจะไปรู้จักกับฮวงตั้งแต่เมื่อใด?
ผู้บ่มเพาะหลายล้านคนรู้สึกมึนงง มีเพียงคนจากตระกูลราชาและผู้สูงสุดไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้ว่าเบื้องหลังของนางเป็นมาอย่างไร
“ความจริงที่จะว่าเป็นเพียงเรื่องตื้นเขินเท่านั้น มีหลายสิ่งที่ซ่อนอยู่ลึกกว่านั้นมาก” โม่เซียนถอนหายใจเบาๆ
ใบหน้าที่งดงามของนางเหมือนกับถูกสวรรค์บรรจงสร้างมา นางเอื้อมมืออันเรียวยาวม้วนเส้นผมที่ถูกลมพัดมาทัดไว้ที่ใบหูเล็กๆของตัวเอง
นางเป็นหญิงสาวที่งดงามมากแต่สาเหตุที่สือฮ่าวจดจำนองได้ เป็นเพราะว่าเขากับน้องชายของนางมีความสนิทสนมคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี
สือฮ่าวได้จับตัวชายหนุ่มผู้หนึ่งนามโม่เต๋า ซึ่งก่อนหน้านี้ก่อให้เกิดความโกลาหลในสำนักเทพสวรรค์เพราะเขาเป็นสิ่งมีชีวิตต่างมิติ
ในตอนนั้นสือฮ่าวได้ทำให้เขายอมจำนนพร้อมกับติดตามมายังสำนักเทพสวรรค์ในฐานะเชลย
โม่เต๋านันเป็นคนที่เด็ดเดี่ยวมาก เมื่อได้รับความพ่ายแพ้เขาก็ปฏิบัติตามสัญญาโดยไม่บิดพลิ้ว ยอมเป็นผู้รับใช้ของสือฮ่าวตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
เขาเป็นเด็กหนุ่มที่มีความหล่อเหลาเป็นอย่างยิ่งอีกทั้งยังสามารถบ่มเพาะพลังเซียนสามเส้นได้อย่างแท้จริง
ในฐานะน้องชายของโม่เซียน ใบหน้าของพวกเขามีความคล้ายคลึงกันเป็นอย่างมากซึ่งเป็นสาเหตุที่สือฮ่าวจำโม่เซียนได้ทันที
หลังจากต่อสู้กับผู้คนจากต่างมิติเป็นจำนวนมาก สือฮ่าวก็รู้จักคนที่ชื่อโม่เซียนมานานแล้ว เพราะไม่ใช่แค่คนๆเดียวที่ยกย่องผู้หญิงคนนี้ พรสวรรค์ของนางนั้นยอดเยี่ยมเหนือกว่าโม่เต๋ามาก
เมื่อนางเป็นเพียงเด็กหญิงคนหนึ่งแต่กลับแสดงพรสวรรค์อันเหนือล้ำกว่าคนรุ่นเดียวกันไปมากมาย จึงเป็นเหตุให้จักรพรรดิผู้ไม่ดับสูญรับนางเข้าไปเป็นศิษย์และฝึกฝนนางด้วยตัวเอง
นี่เป็นสิ่งที่น่าอัศจรรย์ ผู้คนจากตระกูลจักรพรรดิมีความหยิ่งทะนงมากแค่ไหน? พวกเขาจะยอมให้เด็กหญิงเผ่าพันธุ์มนุษย์มาร่วมบ่มเพาะพร้อมกับลูกหลานของพวกเขาได้อย่างไร?
อย่างไรก็ตามโม่เซียนมีคุณสมบัติเพียงพอ นางพิสูจน์แล้วว่าแม้แต่ทายาทของตระกูลจักรพรรดิก็ยังไม่อาจเทียบกับนางได้!
“ข้าค่อนข้างกังวลแทนน้องชายของข้า ในอนาคตโลกจะเต็มไปด้วยความโกลาหลเกินกว่าที่ทุกคนจะจินตนาการถึง เมื่อถึงตอนนั้นข้าไม่รู้ว่าจะได้พบเขาอีกหรือไม่” โม่เซียนกล่าวอย่างสะท้อนใจ
สือฮ่าวไม่คิดว่านางจะเป็นมิตรถึงขนาดนี้
“ผู้ยิ่งใหญ่ตระกูลจักรพรรดิโปรดปราบปรามฮวง เพื่อกอบกู้ศักดิ์ศรีของฝ่ายเรา!” ในระยะไกลมีใครบางคนตะโกนออกมาเขารู้สึกร้อนใจเกินกว่าที่จะทนไหว
เป็นเพราะเผ่าพันธุ์จักรพรรดิ์เป็นที่รู้กันว่าคือตระกูลที่มีอำนาจมากที่สุด ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขายังปรากฏตัวออกมาพร้อมกันถึงสี่คนอย่าบอกนะว่าพวกเขายังทำให้ฮวงยอมจำนนไม่ได้?
ตอนนี้ทุกคนเต็มไปด้วยความตื่นเต้นช่วงเวลาที่พวกเขารอคอยได้มาถึงแล้ว
ไม่กี่วันที่ผ่านมาพวกเขาได้รับความอับอายจากฮวงครั้งแล้วครั้งเล่าเพียง แม้จะถูกเขาเหยียดหยามมากถึงขนาดนี้แต่ทุกคนก็ไม่สามารถตอบโต้กลับไปได้
ทางฝั่งของพวกเขาต้องอับจนปัญญาถึงระดับนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?
หากไม่ใช่ดินแดนโบราณที่ตระกูลจักรพรรดิอาศัยอยู่นั้นน่ากลัวเกินไปจนคนปกติไม่สามารถเข้าใกล้ได้ ไม่เช่นนั้นคงมีผู้คนมากมายมุ่งหน้าไปเชิญพวกเขามาตั้งนานแล้ว
อย่างไรก็ตามโม่เซียนไม่ได้มีทีท่าว่าจะลงมือใดๆเลย
“น้องโม่ไม่ปรารถนาที่จะลงมือหรือ? ข้าคิดว่าเจ้าสนิทสนมกับเขาเกินไปแล้ว” ด้านข้างมีคนพูดขึ้นมา ชื่อของเขาคืออู๋คุนซึ่งเป็นบุคคลในตระกูลจักรพรรดิที่แท้จริง
สถานะของอู๋คุนนั้นสูงส่งมากแม้ว่าเขาจะอยู่ในร่างมนุษย์ แต่เขาก็มีรูปร่างสูงใหญ่ที่เต็มไปด้วยพลังแห่งความโกลาหลคนราวกับสัตว์ร้ายจากยุคดึกดำบรรพ์
เส้นผมสีม่วงของเขาปลิวสะบัดไปพร้อมกับพลังแห่งความโกลาหล ในขณะเดียวกันร่างกายของเขาก็แข็งแกร่งอย่างน่าเหลือเชื่อ กล้ามเนื้อของเขามีลักษณะคล้ายกับก้อนโลหะ
ทุกคนสูดลมหายใจเข้าไปยังหนาวเหน็บ นี่คือผู้คนจากตระกูลจักรพรรดิเพียงการเคลื่อนไหวเล็กน้อยของเขาก็สามารถทำให้เกิดช่องว่างมิติขึ้นมาในความว่างเปล่า ความแข็งแกร่งของเขาจะไม่ไร้เหตุผลไปหน่อยหรือ?
“เฮ้อนี่มันน่าอายไปหน่อย เมื่อเร็วๆนี้ข้าได้รู้แจ้งบางอย่างเกี่ยวกับวิชาฝึกฝนร่างกายโดยเฉพาะ ทำให้ตอนนี้ข้าไม่สามารถควบคุมความแข็งแกร่งของมันได้อย่างเต็มที่” อู๋คุนอธิบาย
ทุกคนแสดงสีหน้าแปลกๆเมื่อได้ยินเรื่องนี้ ญาณวิเศษของตระกูลจักรพรรดินั้นเป็นสิ่งที่พวกเขาเคยได้ยินจากในตำนานเท่านั้น
ความแตกต่างระหว่างวิชาเหล่านี้กับวิชาของพวกเขามีมากเกินไป ทุกคนจึงเต็มไปด้วยความชื่นชมแต่ไม่ได้รู้สึกอิจฉาแม้แต่น้อย