บทที่ 12 สัตว์ประหลาดในกรงเหล็ก
บทที่ 12 สัตว์ประหลาดในกรงเหล็ก
ไม่ว่าพวกเขาจะคิดอย่างไรพวกเขาจะไม่มีวันคิดว่าสัตว์ประหลาดในวิดีโอเคยเป็นปลากะพงดำ
“เหอซิงโจวคุณกำลังล้อเล่นอะไรอยู่วันนี้ไม่ใช่วันเอพริลฟูลเดย์” ตงเฉินโกรธเล็กน้อยและทัศนคติของเขาที่มีต่อเหอซิงโจวก็เริ่มแย่ลง ถ้านักเรียนคนอื่นกล้าล้อเล่นกับเขาเช่นนี้พวกเขาจะต้องถูกอบรมโดยไม่อาจหลีกเลี่ยง
“โอเคหยุดสร้างปัญหาได้แล้ว” จางโบเหยียนกล่าวว่า "แล้วฉันควรทำอย่างไร หือ?"
“อาจารย์สองท่านผมไม่ได้ต้องการสร้างปัญหาใดๆ” เหอซิงโจวยังคงเน้นย้ำ “สัตว์ประหลาดกลายพันธุ์ตัวนี้มันอยู่ในห้องทดลองในอาคารปฏิบัติการชีววิทยาของโรงเรียน ฉันสามารถพาพวกคุณไปมันได้ถ้าฉันโกหกแม้แต่พวกคุณจะไล่ผมออกผมก็ขอยอมรับมันโดยไม่โต้แย้ง”
เมื่อเห็นท่าทางที่จริงจังจากเหอซิงโจว ทั้งคู่ต่างก็งงงวยเหอซิงโจวไม่ใช่นักเรียนธรรมดาเขาเป็นอัจฉริยะที่กล้าคิดกล้าทำ
แม้ว่าปกติเขาจะดูเป็นคนร่าเริงแต่เขาจะไม่กล้าล้อเล่นกับครูและเล่นมุขตลกเกี่ยวกับอนาคตของเขา!
"คุณแน่ใจหรือไม่?" ตงเฉินถามเพิ่มเติม
"ผมยืนยัน" เฮ่อซิงโจวตอบ "ในขณะนี้กำลังมีสมาชิกสองคนของทีมวิจัยชีววิทยากลายพันธุ์คอยจำตาดูมันอยู่ที่นั่น"
"คณบดีผมขอให้คุณติดต่อหาอาจารย์ทางด้านชีววิทยาอีกสองสามคนมาเพื่อตรวจสอบมัน และนอกจากสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ตัวนี้แล้วผมยังได้เขียน "รายงานการวิจัยของยีนเซิร์ก" ซึ่งผมหวังว่าคุณจะส่งมันไปยังสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติโดยตรง!"
ในฐานะมหาวิทยาลัยที่มีความสำคัญระดับชาติ มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งกรุงปักกิ่งนั้นมีอาจารย์มากมายในแผนกชีววิทยา พวกเขาจะต้องมีความรู้เพียงพอเกี่ยวกับการวิจัยเกี่ยวสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์
ในหมู่พวกเขามีนักวิชาการของสถาบันการศึกษาระดับชาติและหากได้รับการอนุมัติจากพวกเขา รายงานการวิจัยของยีนเซิร์กของเหอซิงโจวจะมีความน่าเชื่อถือและเป็นที่ยอมรับ
ทั้งสองมองหน้ากันจางโบเหยียนรีบลุกขึ้นและพูดอย่างร้อนรน "เอาล่ะพาฉันไปที่นั้น!"
ตงเฉินกล่าว “เราไม่จำเป็นต้องรออาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยาพวกเราไปดูกันเลย”
เหอซิงโจวเป็นผู้นำและอาคารทดลองทางชีววิทยาอยู่ไม่ไกลจากที่นี่ ในไม่ช้าพวกเขาก็มาถึงอาคารทดลอง
จนถึงตอนนี้ทั้งสองก็ยังไม่เชื่อมากนัก และถ้าหากไม่ใช่เพราะความน่าเชื่อถือของเหอซิงโจวพวกเขาคงไม่มา
ตรงทางเข้าห้องปฏิบัติการพวกเขาเห็นนักเรียนหญิงที่มีใบหน้าซีดเซียวยืนหลบมุมอยู่ตรงประตูทางเข้า
“อาจารย์สองคนมันอยู่ที่นี่” เฮ่อซิงโจวพูดและถามเจียงชานอีกครั้ง: “มันไม่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นใช่ไหม?”
เจียงชานกระซิบ "สัตว์ประหลาดนั้นมันโหดร้ายมากเมื่อมันเห็นเราเมื่อครู่มันก็ตื่นตัวและเริ่มคลั่ง"
เธอพูดกับตงเฉินและจางโบเหยียน “อาจารย์สองคนโปรดเตรียมพร้อมสำหรับความจริงที่ว่าสัตว์ประหลาดนั้นก้าวร้าวต่อผู้คนมากโปรดอย่าไปกลัวมัน!”
“ฉันเคยเห็นระเบิดปรมาณูมาแล้วทำไมฉันจะกลัวมันละ” จางโบเหยียนยิ้ม "ฉันยังต้องพิสูจน์ว่าพวกคุณกำลังทำอะไรกันอยู่!"
เขาเดินตรงเข้าไปในห้องทดลอง
ในห้องปฏิบัติการหวู่รุ่ยกำลังเฝ้าอยู่ที่นี่
ปรากฎว่ากรงของปลากะพงดำหมายเลขสองถูกคลุมด้วยผ้าสีดำและจางโบเหยียนก็ถามขึ้น "เป็นที่นี้หรือเปล่า"
"ใช่ครับศาสตราจารย์" หวู่รุ่ยพยักหน้า “อาจารย์สัตว์ประหลาดตัวนี้จะมีเริ่มแสดงท่าทางกระสับกระส่ายเมื่อเห็นผู้คนกังนั้นคุณต้องอยู่ห่างๆมันไว้”
"ดึงผ้าออก!" ตงเฉินตะโกนขณะก้าวไปข้างหน้า
หวู่รุ่ยมองไปที่กรงและพยักหน้าเล็กน้อยเขาไม่กล้าดึงมันด้วยมือของเขาแต่ใช้แท่งเสายาวในการดึงผ้าสีดำขึ้นมา
ความสนใจของตงเฉินและจางโบเหยียนล้วนมุ่งความสนใจไปที่กรงทันทีที่ผ้าสีดำตกลงมา พวกเขาเห็นร่างที่น่ากลัวกระโจนพุ่งเข้าหาผนังกรงเหล็กพร้อมกับเสียงคำรามต่ำในลำคอที่เต็มไปด้วยความโกรธและความรุนแรง!
ตงเฉินถอยไปสองก้าวอย่างตกตะลึงจางโบเหยียนก็รู้สึกกลัวเช่นกัน ถ้าพวกเขาไม่ได้เตรียมใจไว้พวกเขาอาจจะหัวใจวายได้จริงๆ
แม้จะเห็นสัตว์ประหลาดตัวเดียวกันจากวิดีโอของเหอซิงโจวมาก่อนแล้วแต่การเห็นภาพจริงนั้นแตกต่างจากการรับชมผ่านโทรศัพท์มือถืออย่างสิ้นเชิง
พวกเขาสามารถเห็นเดือยกระดูกที่แหลมคมบนหลังของมันในปากนั้นเต็มไปด้วยฟันมากมายที่แหลมคม ดวงตาสีแดงของมันดูกระหายเลือด มันพุ่งกระแทกกรงเหล็กพร้อมทั้งคำรามออกมา
ความรู้สึกของการเผชิญหน้าโดยตรงนั้นช่างน่ากลัวจริงๆ มันเหมือนกับคนที่กำลังเผชิญหน้ากับเสือโคร่ง ที่ดุร้ายแม้ว่าจะถูกขังอยู่ในกรงแต่ผู้คนก็ยังรู้สึกหวาดกลัวอยู่ดี
จางโบเหยียนกรีดร้องออกมาด้วยความสยองขวัญ "กลายเป็นว่ามันมีสัตว์ประหลาดจริงๆ!"
แม้ว่าเขาจะเป็นศาสตราจารย์ในภาควิชาฟิสิกส์ แต่ในฐานะนักวิชาการแถวหน้าที่มีอายุมากกว่า 60 ปี เขาก็นับว่าเป็นหนึ่งในผู้ที่รู้เรื่องชีววิทยาเป็นอย่างดี
เขาไม่ได้ยินมาก่อนว่าในโลกนี้จะมีสิ่งมีชีวิตเช่นนี้ มันคือสิ่งมีชีวิตที่รวมเอาลักษณะของปลาทะเลและ สัตว์เลื้อยคลานและสัตว์กินเนื้อเลี้ยงลูกด้วยนมเข้าด้วยกัน สิ่งนี้มันไม่ได้จัดอยู่ในสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำที่เป็นที่รู้จัก!
"ทำไมพวกคุณถึงนำสิ่งอันตรายแบบนี้มาเก็บไว้ในโรงเรียน!?" ตงเฉินถามด้วยความตกใจ
เหอซิงโจวอธิบาย "มันคือปลากะพงดำหมายเลขสองซึ่งผ่านการกลายพันธุ์ครั้งใหญ่หลังจากที่มันถูกกระตุ้นโดยรังสีนิวเคลียร์ อันที่จริงทั้งปลากะพงดำหมายเลขหนึ่งและหมายเลขสามนั้นก็ได้กลายพันธุ์แล้วเช่นกันแต่อัตราการกลายพันธุ์ไม่เร็วมากนัก”
"พวกเราจดบันทึกการเปลี่ยนแปลงของมันทุกวัน"
เหอซิงโจวเปิดคอมพิวเตอร์และให้ทั้งสองดูภาพบันทึกการทดลอง พวกเขาถ่ายรูปทุกวันและเก็บตัวอย่างวัสดุชีวภาพ เช่น เลือดและเกล็ดโดยกำกับแยกเอาไว้
ทั้งสองมองผ่านบันทึกอย่างระมัดระวังและการแสดงออกของพวกเขาก็เริ่มเปลี่ยนเป็นจริงจัง เพราะพวกเขาเห็นว่าสัตว์ประหลาดตัวนี้เป็นปลากะพงดำกลายพันธุ์ที่มีความยาวลำตัวเพียงแค่หนึ่งฝามือในตอนเริ่มแรก!
หลังจากการกลายพันธุ์เป็นเวลาไม่กี่สัปดาห์มันกลับกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวเช่นนี้ได้อย่างไร
เหอซิงโจวยังกล่าวอีกว่า “จากการวิจัยนั้นผมได้ตั้งชื่อยีนที่มีความพิเศษตัวนี้ว่า 'Zerg Gene' ในสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์นั้นล้วนมียีนชนิดนี้เหมือนกัน พวกน่าจะจัดอยู่ในหมวดหมู่ของไวรัสทางพันธุกรรมหรือเรียกได้ว่าเป็นยีนกาฝากชนิดหนึ่ง”
“และเมื่อยีนตัวนี้ถูกกระตุ้นโดยสภาวะภายนอกหรือเมื่อมันกลายสภาพอย่างเต็มที่ เมื่อนั้นมันจะสามารถเข้าควบคุมร่างกายของสิ่งมีชีวิตนั้นๆและพัฒนาเป็นสัตว์ประหลาดที่ชื่อว่า 'เซิร์ก' ผมได้เขียนขั้นตอนเกี่ยวกับการทดลองและสรุปรายละเอียดไว้ในแบบจำลองเบื้องต้นของวิวัฒนาการของยีนเซิร์กไว้แล้ว”
“ผมยังคิดว่ายีนชนิดนี้ไม่ได้มีแค่ในปลากะพงดำกลายพันธุ์เท่านั้น เพราะจากข้อมูลที่พวกเราค้นพบมันยังมีสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์อื่นๆที่มียีนเซิร์กแบบเดียวกันอีกด้วย!”
“ตามทฤษฎีแล้วเมื่อพวกมันกลายพันธุ์เป็นสัตว์ประหลาดอย่างเซิร์กแล้ว เมื่อนั้นโครงสร้างทางสรีรวิทยาของพวกมันจะพลิกกลับหรือแม้แต่การเปลี่ยนแปลงรูปโฉมใหม่ พวกมันมีลักษณะเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับการโจมตีที่แข็งแกร่งและความสามารถของสมองของพวกมันนั้นก็พัฒนาอย่างรวดเร็วอย่างน่าทึ่งและพวกมันอาจจบลงด้วยการมีสติปัญญาขั้นสูง! นอกจากนี้เกล็ดของสัตว์ประหลาดนั้นแข็งมากมันแม้กระทั่งต้านทานการโจมตีจากกระสุนปืน ทั้งนี้มันยังมีความสามารถพิเศษมากมายที่พวกเรายังตรวจไม่พบอีก”
"อาจารย์สองลองจินตนาการดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าหากมีมอนสเตอร์เซิร์กจำนวนมากเกิดขึ้นในโลกนี้"
เมื่อเหอซิงโจวพูดจบใบหน้าของทุกคนในห้องก็เริ่มแย่ลง ไม่ว่าการคาดเดาของเหอซิงโจวจะถูกต้องหรือไม่ก็ตามเมื่อเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นพวกเขาทุกคนจะตระหนักถึงวิกฤตการณ์
จางโบเหยียนถามขึ้นทันที “ยีนนี้มีผลกระทบต่อมนุษย์หรือไม่? พวกมันเป็นไวรัสหรือสิ่งใด? ฉันกลัวว่าพวกมันจะแพร่เชื้อสู่มนุษย์!”
เหอซิงโจวส่ายหน้าก่อนจะตอบ “ตอนนี้เรายังไม่พบไวรัสใดๆและสิ่งนี้เกิดขึ้นก็พบแค่ในตัวของสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ แต่อาจารย์ทั้งสองสามารถมั่นใจได้ว่าห้องปฏิบัติการนี้จะได้รับการทำความสะอาดและตรวจสอบเพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่พบเชื้อไวรัสใดๆ”
ตงเฉินสูดหายใจเข้าลึกๆแล้วพูดว่า “ถ้าฉันไม่ได้เห็นกับตาตัวเองฉันจะไม่มีวันเชื่อเลย”
“ตัวอย่างที่มีชีวิตอยู่ตรงหน้าฉันแล้วแต่เป็นเรื่องยากที่ฉันจะยอมรับมัน”
“เรื่องนี้เร่งด่วนมากฉันจะรีบดำเนินการแจ้งทุกคนทันที!”