ตอนที่ 20 แม่ต้องฉวยโอกาส
ตอนที่ 20 แม่ต้องฉวยโอกาส
ไม่กี่วันหลังจากนั้น เซิ่งเสี่ยวซิงได้แอบทำการนัดเจอกับชายชราในร้านคาเฟ่เจ้าเดิม ทุกครั้งที่เธอกลับบ้าน เธอจะได้ของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ ติดกระเป๋าเป็ดน้อยมาด้วย
วันหนึ่ง เซิ่งอั้นหรานกำลังทำความสะอาดบ้านและเจอของเล่นแปลก ๆ มากมาย
“ลูกไปซื้อกำไลเจ้าหญิงเงือกน้อยตอนไหน?”
เซิ่งเสี่ยวซิงกำลังเล่นของเล่นใหม่บนเตียง พูดโดยไม่เปลี่ยนสีหน้าหลังได้ยินคำถามของแม่“หนูซื้อไอศกรีมแล้วมันแถมมา”
เซิ่งอั้นหรานขมวดคิ้ว“ร้านไอศกรีมแถวนี้เนี่ยนะ?”
เธอเกิดความสงสัยในความสงสัย แต่เซิ่งเสี่ยวซิงไม่แสดงพิรุธ เธอไม่กังวลถึงเรื่องแย่ ๆ ที่เธอทำ มันแค่ของเล่นเล็กน้อย มันไม่สำคัญ เธอจึงไม่สนใจนัก
“อืม บ่ายวันนี้แม่จะพาเราไปโรงเรียนอนุบาลแถวนี้ ดูว่าลูกชอบโรงเรียนไหน แม่ต้องหาโรงเรียนให้ลูกก่อนวันหยุดฤดูร้อนในจีน ลูกจะอยู่แต่บ้านไปตลอดไม่ได้ เข้าใจไหม?”
ถ้าเธอไม่ได้คุยกับเพื่อนสาวของเธอทางโทรศัพท์เมื่อสองวันก่อน เธอคงลืมไปแล้วว่าต้องหาโรงเรียนให้เซิ่งเสี่ยวซิง
เซิ่งเสี่ยวซิงพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง“ค้า”
เซิ่งอั้นหรานขับไปโรงเรียนอนุบาลในละแวกบ้าน เธอพาเซิ่งเสี่ยวซิงไปโรงเรียนอนุบาลหลายแห่งใกล้บ้าน แต่ผลลัพธ์ก็ไม่เป็นที่น่าพึงพอใจนัก
นั่นเป็นเพราะโรคหอบหืดของเซิ่งเสี่ยวซิง เซิ่งอั้นหรานให้ความสนใจกับสิ่งอำนวยความสะดวกทางการแพทย์ของโรงเรียนมากสุด แต่โรงเรียนอนุบาลธรรมดาในจีนมักไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องนักมากนัก ส่วนใหญ่ยังไม่มีแพทย์ที่สามารถฉีดยาได้ เธอถามความรู้ทางการแพทย์ง่าย ๆ แต่กลับมีน้อยคนที่ตอบได้ เธอจึงอดกังวลไม่ได้
“แม่ หนูอยากกินอาหารญี่ปุ่น”
พอออกจากโรงเรียนอนุบาล เซิ่งเสี่ยวซิงก็ดึงแขนเสื้อเซิ่งอั้นหรานเหมือนเด็ก ซึ่งช่วยขจัดความคิดมากมายในหัวเธอ
“ได้ วันนี้ไปกินอาหารญี่ปุ่นกัน”
เพราะมันเป็นวันจันทร์ จึงมีคนไม่มากในร้านอาหารญี่ปุ่น
หลังไปถึง พนักงานก็ได้จัดเตรียมที่นั่งริมหน้าต่างให้อย่างเงียบ ๆ และจากที่นั่ง เธอสามารถเห็นการจราจรติดขัดที่ใจกลางเมืองได้ แม่กับลูกสาวจ้องหน้ากันหลังสั่งอาหาร
“แม่ หนูคิดว่าแม่น่าจะกลับไปทำงานได้แล้วนะ”
เซิ่งเสี่ยวซิงเอามือจับแก้มพลางมองเธอ แต่ในหัวกลับคิดเพ้อฝันไปไกลแล้ว
“แม่เพิ่งได้หยุดพักเองนะ?”
โอกาสแบบนี้ไม่ได้มีบ่อย ๆ และเธอก็ไม่ต้องไปทำงานทุกวัน ไว้ค่อยคุยเรื่องนี้หลังสัปดาห์นี้ดีกว่า
“แม่ แม่ต้องคว้าโอกาสสิ”
“โอกาสอะไร?”
“เจ้านายแม่ไง เขาหล่อ รวยแถมโสด ต้องมีสาวสวยหลายคนในบริษัทที่อยากเกาะติดเขาแน่ ถ้าแม่ไม่พยายาม อนาคตหนูจะไปทำอะไรได้!”
“เสี่ยวซิง! ลูกพูดเรื่องอะไร?” เซิ่งอั้นหรานจ้องเธอ บีบจมูกอย่างแรง“ลูกไปเอาความคิดแบบนี้มาจากไหน แถมลูกยังไม่เคยเห็นเจ้านายแม่ ลูกรู้ได้ไงว่าเขาหล่อ?”
เซิ่งเสี่ยวซิงรีบหลบการจู่โจมของเซิ่งอั้นหรานและดวงตาของเธอก็พลันสว่างวาบ เธอดีดตัวออกจากเก้าอี้ และโบกไม้โบกมือ
“คุณลุง ทางนี้ ทางนี้!”
คุณลุงอะไร?
เซิ่งอั้นหรานมองไปทางนั้นด้วยความสงสัย และวินาทีที่เธอเห็นคนคนนั้น รอยยิ้มของเธอก็พลันหายไป
ที่ทางเข้าร้านอาหารญี่ปุ่น ชายตัวสูงกำลังอุ้มเด็กชายตัวน้อย หนึ่งตัวใหญ่ หนึ่งตัวเล็ก ทั้งคู่ล้วนมีสีหน้าเย็นชา ใบหน้าหล่อเหลาราวกับฟ้าประทานทั้งคู่ดูเหมือนจะมีคำว่า’ ห้ามเข้าใกล้’ เขียนอยู่ ตอนนี้ ทั้งคู่กำลังหันมาทางเธอตามเสียงใส
นั่นอวี่หนานเฉิงกับลูกเขาไม่ใช่เหรอ?
แย่แล้ว เธอบาดเจ็บอยู่ มันคงไม่ดีที่จะออกมาเดินเล่น ทำไมโลกมันกลมขนาดนี้เนี่ย?
แต่สำคัญสุด ทำไมเสี่ยวซิงถึงรู้จักเขา?
เกิดอะไรขึ้นเนี่ย?