340 - ภายใต้หลังคาเดียวกัน
340 - ภายใต้หลังคาเดียวกัน
เมื่อเอี้ยนลี่เฉียงกลับมาที่บ้านของเขาในที่สุด คนรับใช้ที่ส่งอาหารประจำวันของเขาก็รออยู่ที่นั่นพร้อมกับตะกร้าที่เต็มไปด้วยอาหาร
“ผู้บัญชาการเอี้ยน…” คนรับใช้เห็นเอี้ยนลี่เฉียงกลับมาจึงทักทายเขาอย่างสุภาพด้วยรอยยิ้มขณะส่งตะกร้าอาหารให้
“นี่คืออาหารกลางวันของท่าน…”
“มีอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า”
“อาหารสองสามจานที่มีผักสด ลูกชิ้นกวาง และซุปเต่าต้นโสมชั้นดี ทั้งหมดนี้ปรุงอย่างพิถีพิถันโดยพ่อครัวของพวกเราเอง!”
"ยอดเยี่ยม ช่วงนี้ข้ารู้สึกเหน็ดเหนื่อยมากและได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจากการฝึกฝน บอกครอบครัวให้เตรียมอาหารสำหรับฟื้นฟูอาการบาดเจ็บให้ด้วยในช่วงไม่กี่วันต่อจากนี้”
“ข้าน้อยจะจำไว้...”
"ขอบคุณ…"
“ด้วยความยินดีอย่างยิ่ง ผู้บัญชาการเอี้ยน…”
เอี้ยนลี่เฉียงพยักหน้าอย่างสงบด้วยรอยยิ้มขณะที่เขารับตะกร้าอาหาร เขาผลักประตูหน้าและเข้าไปในลานบ้านขณะที่คนใช้อยู่ข้างนอกตามปกติ
เอี้ยนลี่เฉียงถืออาหารกลางวันเดินเข้าไปในบ้านและตรงไปที่ชั้นสอง
เขาผลักประตูห้องนอนและเดินเข้าไปข้างใน
ทันใดนั้น กระบี่อันคมกริบก็พุ่งออกมาจากด้านหลังประตู มันพาดอยู่ที่ลำคอของเอี้ยนลี่เฉียงโดยตรง
เอี้ยนลี่เฉียงรู้ตั้งแต่แรกว่าคนลงมือคือฮั่วหรูเสวี่ยโดยไม่ได้มองด้วยซ้ำ นอกจากนี้กระบี่ของนางเพียงใช้ข่มขู่เท่านั้นไม่ได้มีเจตนาฆ่าแอบแฝงมาด้วย
ฮั่วหรูเสวี่ยยังคงดูซีดเซียว แต่อาการของนางดูเหมือนจะดีขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับเมื่อคืนนี้ อย่างน้อยนางก็สามารถถือกระบี่ได้มั่นคง
ทันทีที่หยานลี่เฉียงเห็นนาง ดวงตาของเขาจับจ้องไปที่ร่างของนางโดยไม่ตั้งใจ
ฮั่วหรูเสวี่ยสวมชุดฝึกสีดำของเอี้ยนลี่เฉียง แม้ว่าเอี้ยนลี่เฉียงจะแข็งแกร่งและดูกำยำ
แต่ไม่ว่าจะอย่างไรเขาก็เป็นผู้ชายไม่มีทางที่ส่วนหน้าอกของเขาจะสามารถรองรับหน้าอกขนาดมหึมาของนางได้
นางพยายามติดกระดุมทั้งสองข้างใกล้กับปกเสื้อ แต่น่าเสียดาย เนื่องจากรูปร่างที่งดงามของนาง นางจึงทำได้เพียงติดกระดุมเม็ดเดียวเท่านั้น
เสื้อผ้าที่คับแน่นเผยให้เห็นส่วนเว้าส่วนโค้งของนางและผิวสีนวลที่บริเวณปกเสื้ออาจทำให้ผู้คนหลงทางในจินตนาการอันสุดเหวี่ยงได้
ฮั่วหรูเสวี่ยมักจะรัดหน้าอกของตัวเองอยู่ตลอดเวลา แต่เอี้ยนลี่เฉียงตัดผ้ารัดหน้าอกของนางทิ้งตั้งแต่เมื่อวานแล้วเมื่อนางตื่นขึ้นนางจึงไม่มีเวลารัดหน้าอกของตัวเอง
สำหรับเอี้ยนลี่เฉียงแล้วฮั่วหรูเสวี่ยดูเย้ายวนจนเขาแทบคลั่ง
ฮั่วหรูเสวี่ยที่อยู่ข้างหน้าเขาตอนนี้ดูเป็นผู้หญิงที่น่าหลงใหลมากกว่าตอนที่นางเป็นเทพธิดากระบี่ในลานประลองเสียอีก
“เจ้ามองไปที่ไหน…”
เมื่อสังเกตเห็นว่าการจ้องมองของเอี้ยนลี่เฉียงอยู่ที่ส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายส่วนบนของนาง ฮั่วหรูเสวี่ยก็หน้าแดงก่ำทันทีและยกกระบี่ให้สัมผัสกับลำคอของเขา
“เฮ้ เฮ้ ระวัง อย่าเพิ่งขยับมือ…..” เอี้ยนลี่เฉียงยกคางขึ้นและตะโกน
“ข้าก็แค่มองดูเสื้อผ้าของตัวเอง เกิดอะไรขึ้นกับมัน? นั่นเป็นเสื้อผ้าของข้าที่ข้าผูกพันมานานหลายปี ข้าไม่โทษว่าเจ้าใส่เสื้อผ้าของข้าแต่เจ้ากับคิดจะเอาผิดข้าอย่างนั้นหรือ…”
“เมื่อคืน… เจ้า…เจ้าเป็นคนที่ช่วยข้าทำความสะอาดบาดแผล…?”
แก้มของฮั่วหรูเสวี่ยลุกเป็นไฟ และมือของนางที่ถือกระบี่ก็เริ่มสั่น นางต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการสู้หน้ากับเอี้ยนลี่เฉียง
ความจริงก็คือฮั่วหรูเสวี่ยเพิ่งตื่นนอนไม่ถึงครึ่งชั่วยามและพบว่าตัวเองนอนเปลือยอยู่ใต้ผ้าห่ม บาดแผลบนหน้าอกของนางได้รับการรักษาอย่างระมัดระวังและพันผ้าพันแผลด้วยวิธีพิเศษ
ส่วนอื่นๆของร่างกายนางไม่ได้รับบาดเจ็บ สิ่งนี้ทำให้ฮั่วหรูเสวี่ยเต็มไปด้วยความวิตกกังวลและอับอาย
“ข้าเป็นคนเดียวที่อยู่ในบ้านหลังนี้ แล้วจะมีใครอีกในคฤหาสน์กวางที่ยินดีจะช่วยเจ้านอกจากข้า”
เอี้ยนลี่เฉียงเหลือบไปที่ฮั่วหรูเสวี่ยจากนั้นค่อยๆผลักกระบี่ของนางออกจากคอด้วยสองนิ้วอย่างง่ายดายเนื่องจากมือของฮั่วหรูเสวี่ยอ่อนแอมาก
“เจ้าสวมชุดดำบุกรุกเข้าสู่คฤหาสน์กวาง หากเป็นคนอื่นเห็นเจ้าเจ้าจะต้องตายอย่างแน่นอน มันไม่สำคัญว่าเจ้าจะเป็นหญิงงามแค่ไหน เจ้าไม่มีทางไปถึงคุกได้เพราะเจ้าจะเสียเลือดจนตายก่อน…”
เอี้ยนลี่เฉียงเดินไปที่โต๊ะและวางอาหารลงไป
“เลิกคิดมากได้แล้ว มากินอาหารก่อน เมื่อคืนเจ้าเสียเลือดมากเกินไป แม้ว่าข้าจะป้อนยาวิเศษให้กับเจ้าแล้วแต่มันอาจจะไม่เพียงพอ…”
ในระหว่างนี้เขาได้หยิบอาหารออกจากตะกร้า ไม่นานห้องก็เต็มไปด้วยกลิ่นหอมของอาหาร
“ทำไม… เจ้าถึงช่วยข้า”
ฮั่วหรูเสวี่ยลดกระบี่ของตัวเองลงและเดินไปนั่งที่เก้าอี้ตรงข้ามกับเอี้ยนลี่เฉียง
“ได้โปรดเก็บกระบี่ด้วย ข้ารู้สึกว่าคำถามของเจ้ามันเป็นเหมือนกับการสอบปากคำมากกว่า…”
ฮั่วหรูเสวี่ยหน้าแดงเล็กน้อยและสอดกระบี่ของตัวเองกลับเข้าไปในฝัก
“การที่เจ้าหนีมาหลบภัยในห้องพักของข้าย่อมแสดงให้เห็นว่าข้าเป็นคนดีอยู่บ้างในสายตาเจ้า ดังนั้นข้าจะทำให้เจ้าผิดหวังได้อย่างไร”
เอี้ยนลี่เฉียงยิ้มและขยิบตาให้ฮั่วหรูเสวี่ย
“ข้าจะตอบแทนความเมตตาของเจ้าอย่างแน่นอน แต่เจ้าต้องลืมเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนซะ!” ฮั่วหรูเสวี่ยกล่าวขณะที่กัดริมฝีปากของตัวเอง
“ฮ่าฮ่าฮ่า… ไม่ต้องกังวล ข้าเป็นคนขี้ลืมอยู่แล้ว เอ๊ะ! เมื่อกี้จะพูดว่าอะไร?” เอี้ยนลี่เฉียงหัวเราะและพูดติดตลก พยายามบรรเทาความอับอายของฮั่วหรูเสวี่ย
“เจ้าพักผ่อนอยู่ที่นี่ได้เต็มที่ หลังจากที่เจ้าหายดีแล้วเจ้าค่อยออกไป ที่นี่เป็นที่ประทับของฝ่าบาทไม่มีทางที่ใครจะมาตามล่าเจ้าได้ หลังจากที่เจ้าหายดีพวกเราค่อยปรึกษากันเรื่องอื่น!”
“เจ้าไม่อยากรู้ว่าเมื่อวานข้าทำอะไรลงไป? เจ้าไม่กังวลหรือว่าข้าอาจทำร้ายเจ้าได้?”
“ฉันได้ยินมาว่าจั่วเถิงรองเสนาบดีกรมโยธาถูกลอบสังหาร แต่ข้าไม่ใช่ลูกเขยของเขาแล้วทำไมข้าถึงต้องสนใจด้วย ข้าไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฆาตกรหน้าตาเป็นอย่างไร อาจเป็นชาย หญิง หรือแม้แต่ปีศาจ
นอกจากนี้ข้าเป็นผู้บัญชาการหยิงหยางของหน่วยทหารม้าแห่งจักรวรรดิ ดังนั้นสิ่งนี้จึงไม่อยู่ภายใต้เขตอำนาจของข้า ต่อให้บิดาของเขาตายไปด้วยข้าก็ไม่สนใจ! ดังนั้นเจ้าก็เลิกพูดเรื่องนี้ได้แล้ว”
เอี้ยนลี่เฉียงกล่าวอย่างไร้กังวลขณะยกซุปเต่าตุ๋นโสมให้หญิงงามที่สุดในเมืองหลวงชิม
“ลองดู นี่เป็นฝีมือของพ่อครัวที่ดีที่สุดในเมืองหลวง ที่นี่มีตะเกียบคู่เดียวเจ้าใช้ไปก่อนเดี๋ยวข้าจะไปหักกิ่งไม้ข้างนอกมาใช้…”
หลังจากพูดอย่างนั้น เอี้ยนลี่เฉียงก็ลงไปชั้นล่าง เพียงชั่วพริบตา เขาก็กลับมาพร้อมกับตะเกียบคู่หนึ่งซึ่งเขาทำมาจากกิ่งไม้ในสวน
“ได้โปรด กินอะไรสักหน่อย!” เอี้ยนลี่เฉียงกล่าวขณะเปิดฝาหม้อออก เพื่อใช้เป็นชามข้าวของตัวเอง
“ข้าฝึกทั้งเช้า ตอนนี้ข้าหิวแล้ว…”
เมื่อเห็นว่าเอี้ยนลี่เฉียงเริ่มกิน ฮั่วหรูเสวี่ยก็มองไปที่ชามซุปที่อยู่ข้างหน้าและยกขึ้นมาชิมด้วยท่าทางเรียบร้อย
ฮั่วหรูเสวี่ยไม่สามารถกินได้มากเนื่องจากอาการบาดเจ็บ ดังนั้นหลังจากชิมซุปเต่าไปเพียงไม่กี่คำนางก็นั่งอยู่ที่เดิม เอี้ยนลี่เฉียงไม่รอช้ารีบยกซุปเต่านั้นมากินต่อโดยไม่มีความรังเกียจ
การได้ทานอาหารร่วมกันในครั้งนี้ทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเขากลมเกลียวกันมากยิ่งขึ้น