339 - ทวนคำรามเหมือนมังกร
339 - ทวนคำรามเหมือนมังกร
หลังจากฝึกฝนมายี่สิบวัน เอี้ยนลี่เฉียงสามารถถือทวนยืนนิ่งบนหินที่ลื่นได้ และเขาเริ่มทำสมาธิให้จิตใจของเขารู้แจ้งในวิถีทวน
จิตใจของเขาล่องลอยไปกับความคิด และไม่มีวิธีใดที่จะดีไปกว่าการสลัดความคิดออกไป เขาจึงจดจ่ออยู่กับการฝึกฝนและทำการลืมทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวกับภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
ทวนเหล็กกระดูกสันหลังมังกร แม้จะหนัก 400 จิน แต่ก็เคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็วเมื่ออยู่ในมือของเอี้ยนลี่เฉียง
เขาตั้งใจแน่วแน่ที่จะไม่ยอมแพ้ และนั่นเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้เขาก้าวต่อไปได้ตราบเท่าที่เขายังมีลมหายใจ...
ขณะที่เอี้ยนลี่เฉียงคิดว่าเขาใกล้จะถึงขีดจำกัดแล้วในวันนั้น ก็มีเสียงดังก้องในหัวของเขา
ฉวัดเฉวียน…
มันลึกและเกิดเสียงดังคล้ายกับเสียงคำรามของมังกร และมันมาจากทวนในมือของเขา
เอี้ยนลี่เฉียงลืมตาขึ้น โดยที่เขาไม่รู้ตัว เขากำลังเขย่าทวนด้วยความถี่ที่สูงจนเขาไม่สามารถเห็นด้วยตาของตัวเองได้อีกต่อไป ณ จุดนี้ ทวนเหล็กกระดูกสันหลังมังกรได้ส่งเสียงฟู่ฟ่าๆอย่างต่อเนื่อง…
เสียงนี้ทำท่าเหมือนสนามพลังงานลึกลับเมื่อมันทะลุผ่านร่างกายของเอี้ยนลี่เฉียง
เขาไม่เข้าใจว่าทำไม แต่เขาสัมผัสได้ถึงมือและเท้าของตัวเองอย่างช้าๆ และรู้สึกว่ามันมีความคล่องแคล่วขึ้น คล้ายกับอาหารแช่เย็นที่สัมผัสกับความร้อน
สายน้ำจากน้ำตกตกลงมาบนด้ามทวนที่สั่นสะเทือน และพวกมันก็กลายเป็นหยดน้ำละเอียดจำนวนนับไม่ถ้วนที่กระเด็นออกมาจากทวนสร้างหมอกหนาทึบซึ่งปกคลุมเอี้ยนลี่เฉียง
เมื่อดวงอาทิตย์อยู่เหนือศีรษะของเขารุ้งเล็กๆ ที่มนุษย์สร้างขึ้นก็ก่อตัวขึ้นเหนือสระที่อยู่ด้านหลัง
ขณะที่ทวนยังคงส่งเสียงหึ่งๆหลี่หงตู้ซึ่งกำลังนอนหลับไหลก็รีบพังประตูกระท่อมออกมาอย่างรวดเร็ว ในเวลานี้เขากำลังจ้องมองไปที่รุ่งเล็กๆเนื้อศีรษะของเอี้ยนลี่เฉียง
เขาขยี้ดวงตาของตัวเองอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าสิ่งที่เขามองเห็นนี้ไม่ใช่เรื่องโกหก…
เมื่อได้ยินเสียงเคลื่อนไหวจากกระท่อมเอี้ยนลี่เฉียงก็เสียสมาธิเล็กน้อยดังนั้นเขาจึงตกลงไปในน้ำตกที่อยู่ด้านหลัง
เอี้ยนลี่เฉียงลากตัวเองขึ้นจากน้ำและนั่งข้างๆสระเพื่อผ่อนคลายร่างกายจากการฝึกฝนอันหนักหน่วง เขาตระหนักอาจารย์ของเขาอยู่ที่นี่แล้วและกำลังจ้องมองเขาด้วยความประหลาดใจ
"อาจารย์ท่านมาตั้งแต่เมื่อไหร่?"
เอี้ยนลี่เฉียงอ้าปากค้างขณะที่เขาเช็ดน้ำบนใบหน้าก่อนจะเดินขึ้นไปหาหลี่หงตู้
“เจ้าสังเกตเห็นความผิดปกติหรือไม่?” ชายชราถามด้วยความกังวล
“ก็… ตอนแรกข้ารู้สึกชาไปทั้งตัว เหมือนกับว่าร่างกายของข้าไม่อยู่ในการควบคุม อย่างไรก็ตาม เมื่อทวนส่งเสียงข้ารู้สึกว่าสามารถควบคุมร่างกายได้อีกครั้งและอาการเหนื่อยล้าก็จางหายไป”
จากนั้นเอี้ยนลี่เฉียงก็หยุดในขณะที่เขาเกาหัวด้วยความเขินอายแล้วพูดว่า
“อาจารย์ ความคืบหน้าของข้าช้าเกินไปหรือไม่? ข้าฝึกฝนมายี่สิบวันแล้ว แต่สิ่งที่ข้าทำได้ก็เพียงแค่ยืนอยู่บนก้อนหินอย่างมั่นคงเท่านั้น…”
“เจ้ารู้หรือไม่ว่าการยืนอยู่บนก้อนหินอย่างมั่นคงและทำให้ทวนส่งเสียงคำรามของมังกรออกมาต้องใช้เวลานานแค่ไหนสำหรับคนปกติ”
“เอ่อ… ไม่รู้สิ อาจจะสิบวัน?” เอี้ยนลี่เฉียงเดาสุ่มสี่สุ่มห้า
"ฮ่า ๆ ๆ ๆ!"
หลี่หงตู้ระเบิดเสียงหัวเราะ เมื่อเขาหยุดเขาก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง
“ใกล้เคียง ข้าใช้เวลามากกว่าสิบวันเล็กน้อย แต่พรสวรรค์ของเจ้าก็ไม่ได้แย่เกินไป ถือว่ามีพัฒนาการที่รวดเร็วอย่างยิ่ง”
"จริงหรือ? ข้ายังรู้สึกว่ายังเร็วไม่พอ มาตรฐานของอาจารย์นั้นยิ่งใหญ่มาก…” เอี้ยนลี่เฉียงพึมพำด้วยความท้อแท้
หลี่หงตู้กลอกตาขณะที่ได้ยินสิ่งที่เอี้ยนลี่เฉียงกล่าวจากนั้นเขาก็สั่งด้วยเสียงดังว่า
“หยิบทวนนั่นมา”
เอี้ยนลี่เฉียงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยที่ได้ยินเรื่องนี้ แต่เขาก็ยังทำตามที่ชายชราบอก เขากระโดดลงไปในสระแล้วงมทวนที่อยู่ใต้น้ำขึ้นมา
“แทงสองครั้ง…” ชายชราสั่ง
“แทงที่ไหน”
“เจ้าโง่! ก็แทงอากาศสิ หรือเจ้าคิดว่าชีวิตชราของข้าอยู่มานานพอแล้ว จะใช้ข้าเป็นเป้าทวนก็ได้” หลี่หงตู้ตะโกน
เอี้ยนลี่เฉียงหัวเราะคิกคักขณะที่เขาถือทวนและเดินไปที่พื้นที่ว่างตรงหน้า เขาแทงอากาศดึงทวนกลับแล้วแทงอีกครั้ง
เพียงชั่วครู่เอี้ยนลี่เฉียงก็สามารถสังเกตเห็นความแตกต่างในการแทงของเขาได้
นี่เป็นการสุ่มแทง แต่ทวนกับสามารถสร้างเงาขึ้นกลางอากาศ มันตัดผ่านอากาศด้วยความแม่นยำสูง เอี้ยนลี่เฉียงสามารถใช้มันออกราวกับเป็นแขนขาของตัวเอง
เขาตื่นเต้นมากแล้วรีบละล่ำละลักกะว่า
“ท่านอาจารย์ นี่คือสิ่งที่ท่านกำลังบอกใช่หรือไม่”
“นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น อย่าได้หย่อนยานในการฝึกฝน” หลี่หงตู้กล่าวด้วยใบหน้าเคร่งขรึมขณะที่ชี้ไปที่สระน้ำ
“ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปให้ฝึกบนหินตามปกติในตอนเช้า แต่หลังจากพักเที่ยงให้ฝึกเขย่าแทงทวนในตอนที่เจ้าอยู่ในน้ำ”
"ในน้ำ?"
"แน่นอนเจ้าต้องสามารถแทงทวนอยู่ในน้ำโดยที่ไม่ต้องหายใจเลยแม้แต่ครั้งเดียวตลอดครึ่งชั่วยาม วันนี้เจ้ากลับได้แล้วข้าจะไปนอนต่อ…” พูดจบชายชราก็เดินกลับไปที่กระท่อมของตัวเอง
เอี้ยนลี่เฉียงไม่ได้เห็นสีหน้าของหลี่ของตู้ในตอนที่หันหลังกลับ สีหน้าเคร่งขรึมบนใบหน้าของเขาหายไปแล้วและถูกแทนที่ด้วยความตื่นเต้น
“ข้าใช้เวลาเจ็ดปีกว่าจะเชี่ยวชาญ! เจ็ดปี! และเจ้าทำอย่างนั้นในเวลาเพียงยี่สิบวันเท่านั้น! ยี่สิบวันและเจ้าก็มาถึงระดับเดียวกันกับข้าในตอนนั้นแล้ว”
……
ในทางกลับกันเอี้ยนลี่เฉียงไม่ได้กลับบ้านโดยตรง แต่เขาเดินทางไปพบกับหลิวกงกงเพื่อสอบถามข่าวคราวที่เกิดขึ้นในเมืองหลวงเมื่อคืน
หลี่น้อยและชุนน้อยเป็นตาและหูของหลิวกงกง พวกเขารายงานทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในเมืองแก่หลิวกงกงทุกวัน
ข่าวที่เอี้ยนลี่เฉียงรวบรวมได้คือ จั่วเถิงผู้ช่วยเสนาบดีโยธาถูกลอบสังหารในบ้านของเขาเมื่อคืนนี้…