338 - ฮั่วหรูเสวี่ย
338 - ฮั่วหรูเสวี่ย
เอี้ยนลี่เฉียงและเทพธิดากระบี่พบกันเมื่อประมาณยี่สิบวันก่อน ฮั่วหรูเสวี่ยค่อนข้างมีความสงบกว่าฝูงชนรอบตัวนางและเป็นผู้หญิงที่พูดน้อยมาก
ถึงกระนั้นนางยังคงทิ้งความประทับใจไว้ให้กับเอี้ยนลี่เฉียง เดิมทีนางเป็นหญิงงามมากที่สุดเท่าที่เอี้ยนลี่เฉียงเคยพบอยู่แล้ว บวกกับความเย็นชาของนางยิ่งทำให้นางงดงามขึ้นอีกสองเท่า
ชื่อเสียงของนางในฐานะเทพธิดากระบี่นั้นนับว่าไม่เกินเลยไปจริงๆ
เนื่องจากอายุยังน้อยเอี้ยนลี่เฉียงยังเป็นน้องชายของเหลียงอี้เจี๋ย ดังนั้นเขาจึงไม่โดดเด่นท่ามกลางฝูงชนในวันนั้น เขาได้สนทนาไม่กี่ประโยคกับฮั่วหรูเสวี่ยเท่านั้น
เอี้ยนลี่เฉียงไม่ได้แสดงความหลงไหลต่อฮั่วหรูเสวี่ยเหมือนคนอื่นๆ แม้ว่านางจะเป็นหญิงที่งดงามอย่างแท้จริง
แต่ที่โลกเก่าของเขาก็มีดาราหญิงมากมายที่มีความงามเทียบเท่ากับนางดังนั้นเขาจึงมีภูมิคุ้มกันต่อความงามระดับนี้มากกว่าคนอื่นๆ
ทั้งคู่ไม่ได้โต้ตอบกันมากนักตั้งแต่ต้นจนจบ ทว่าหญิงสาวที่เอี้ยนลี่เฉียงเคยพบเพียงครั้งเดียวก็นอนอยู่บนพื้นห้องนอนของเขาและดูเหมือนจะได้รับบาดเจ็บสาหัส
ฮั่วหรูเสวี่ยนอนนิ่งอยู่บนพื้น หลับตาแน่นและใบหน้าของนางซีดราวกับกระดาษ
เอี้ยนลี่เฉียงมึนงงอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะอุ้มฮั่วหรูเสวี่ยขึ้นจากพื้นและวางนางลงบนเตียงโดยไม่ลังเล
ฮั่วหรูเสวี่ยยังคงมีชีพจรและหายใจอยู่บ้าง บาดแผลบนหน้าอกของนางมีเลือดไหลออกมาไม่หยุด
เมื่อมองดูบาดแผลของนาง เอี้ยนลี่เฉียงพยายามนึกถึงความรู้เกี่ยวกับการปฐมพยาบาลที่เขามีอยู่ในใจ
เขาหันหลังกลับอย่างรวดเร็ว ปิดประตูและหน้าต่างชั้นบนเพื่อไม่ให้ลมเข้ามา ในเวลาเดียวกันเขาได้จุดโคมไฟสองสามดวงโคมไฟส่องสว่างในห้อง นำความอบอุ่นกลับเข้ามา
ภายใต้แสงอันอบอุ่น ใบหน้าสีซีดที่สวยงามของฮั่วหรูเสวี่ยดูเปราะบางและละเอียดอ่อน แม้แต่ริมฝีปากของนางก็สูญเสียสีสันไป
หลังจากทำทุกอย่าง เอี้ยนลี่เฉียงก็หยิบซองยาของเขาขึ้นมา เขาคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วหยิบกล่องเย็บผ้าในห้องของเขาออกมาด้วยเช่นกัน
“พี่สาวฮั่ว ข้าไม่มีเจตนาล่วงเกินเจ้า แต่ข้าเกรงว่าเจ้าจะไม่สามารถรอดชีวิตได้หากไม่รักษาให้ทันท่วงที ดังนั้นโปรดยกโทษให้ข้าด้วย…!”
เอี้ยนลี่เฉียงสูดลมหายใจเข้าลึกๆขณะที่มองไปที่ฮั่วหรูเสวี่ยที่หมดสติ
ไม่ว่านางจะได้ยินคำพูดของเขาหรือไม่ เขาก็ยังต้องแจ้งให้นางทราบก่อนที่เขาจะใช้กรรไกรตัดเสื้อผ้าของนางออกทั้งหมด
นางใช้แถบผ้าสีดำรัดหน้าอกของตัวเองไว้ อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถแกะแถบผ้านั้นออกได้เพราะว่าอาจจะทำให้อาการบาดเจ็บของนางกำเริบขึ้นมา
ดังนั้นเขาต้องใช้กรรไกรตัดมันออกโดยตรง
นี่เป็นครั้งแรกที่เอี้ยนลี่เฉียงถอดเสื้อผ้าของเด็กผู้หญิงออกในชีวิตนี้ แม้ว่าเขาจะมีกรรไกรอยู่ในมือ แต่หัวใจของเขาก็เต้นแรงและความต้องการของเขาก็พุ่งพล่านทันที
ชั้นของชุดชั้นในสีขาวปรากฏอยู่ใต้เสื้อผ้าสีเข้มที่ถูกตัดออก ในเวลานี้ มันถูกย้อมเป็นสีแดงเข้มเลือดของนางเอง
เอี้ยนลี่เฉียงสงบสติอารมณ์ จากนั้นจึงเปิดชุดชั้นในสีขาวออกด้วย ใต้ชุดชั้นในสีขาวมีเสื้อกล้ามสีขาวอีกตัวหนึ่ง หลังจากผ่าเปิดออก
ผ้าพันแผลที่ดูเหมือนผ้าที่ใช้ห่อมัมมี่ก็สูญเสียความสามารถของมันไป ในที่สุดคุณสมบัติความเป็นหญิงของฮั่วหรูเสวี่ยที่เก็บไว้อย่างดีก็ทะลักออกมา
มือของเอี้ยนลี่เฉียงไม่สามารถหยุดสั่นได้อีกเมื่อเห็นผ้าพันแผล แถบนั้นถูกย้อมด้วยเลือดของนาง ในขณะเดียวกันลูกโลกขนาดมหึมาสองลูกก็สั่นไหวเบาๆทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก!
“ว้าว ไม่คิดว่านางจะรัดพวกมันไว้ถึงสองชั้น แต่ที่จริงแล้วมันใหญ่มหึมาถึงขนาดนี้…?”
เอี้ยนลี่เฉียงเช็ดเหงื่อออกจากหน้าผาก พยายามอย่างเต็มที่ที่จะไม่จ้องมองลูกกลมๆสีขาวพวกนั้น เขาเปิดผ้าห่มบนเตียงแล้วหยิบผ้าฝ้ายออกจากผ้าห่ม
จากนั้นเขาก็เช็ดเลือดออกจากร่างกายของฮั่วหรูเสวี่ยอย่างระมัดระวังเพื่อเปิดเผยบาดแผลของนาง
แผลอยู่ใต้ราวนมซ้ายของนาง ด้านล่างมีบาดแผลสองนิ้ว มันค่อนข้างลึกด้วยรูปร่างซิกแซก
ดูราวกับว่ามันเกิดจากอาวุธบางชนิดที่มีความพิเศษมาก เพราะแม้กระทั่งตอนนี้เลือดก็ยังไหลออกมาไม่หยุด
เอี้ยนลี่เฉียงมองดูบาดแผลและตระหนักว่าเป็นเรื่องยากมากที่จะหยุดเลือดไหลเพียงแค่ใช้ผ้าพันแผล หากต้องการให้นางมีชีวิตรอดเขาต้องเย็บแผล
แต่ถึงจะอย่างนั้นก็มีความยากลำบากบ้างเพราะว่าบาดแผลอยู่ติดกับหน้าอกของนาง
ดังนั้นมันจึงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับของสงวนของหญิงสาวที่ได้ชื่อว่างดงามที่สุดในเมืองหลวง
เอี้ยนลี่เฉียงเหลือบไปที่ฮั่วหรูเสวี่ยอีกครั้ง ในเวลานี้ใบหน้าของนางซีดขาวลงเรื่อยๆ เขาไม่มีเวลาให้ชักช้าแล้ว
“ยังไงก็ต้องช่วยนางก่อน…!”
เอี้ยนลี่เฉียงกัดฟันและหยิบกล่องเย็บผ้าที่อยู่ด้านข้าง
เขาดึงเข็มยาวออกมา งอเป็นตะขอ อุ่นด้วยเปลวไฟเพื่อฆ่าเชื้อ จากนั้นจึงร้อยเข็มด้วยด้ายฝ้ายสีขาวที่แข็งแรงแล้วผูกเป็นปม
หลังจากสงบสติอารมณ์แล้ว เขาก็เริ่มเย็บแผลของนาง
นี่เป็นงานที่ยากที่สุดที่เอี้ยนลี่เฉียงเคยทำมาในชีวิตนี้ คิ้วของเขาเต็มไปด้วยเหงื่อและมือของเขาสั่นเทา
ถึงกระนั้นเอี้ยนลี่เฉียงก็กัดกรามของเขาและยืนกรานเย็บแผลจนเสร็จ
ตามที่คาดไว้ เลือดหยุดทันทีที่ปิดปากแผล
เอี้ยนลี่เฉียงปาดเหงื่อออกจากหน้าผากของเขาและรีบลงไปข้างล่าง
เขาค้นหาขวดเหล้าที่มีดีกรีแรงที่สุดจากนั้นก็ใช่มันเป็นอุปกรณ์ฆ่าเชื้อบาดแผลก่อนที่เขาจะใช้ขี้ผึ้งป้ายทับบาดแผลของนางอีกชั้นหนึ่ง
เขาประคองฮัวหรูเสวี่ยขึ้นเล็กน้อยและป้อนยาให้กับนาง จากนั้นเขาก็ปล่อยให้นางนอนอยู่ที่เตียงของเขาและห่มผ้าไว้ด้วย
เอี้ยนลี่เฉียงทำดีที่สุดแล้ว ไม่ว่าฮั่วหรูเสวี่ยจะสามารถรอดชีวิตหรือไม่มันก็อยู่ที่โชคชะตาของนางเอง
เขาเหลือบมองไปที่เสื้อผ้าเปื้อนเลือดของฮั่วหรูเสวี่ยผ้าพันแผลที่เปื้อน และเลือดบนพื้นห้องนอน เอี้ยนลี่เฉียงส่ายหัวเขาจัดการของทุกอย่างออกมาด้านนอกและทำการเผาทันที
เนื่องจากนี่เป็นบ้านส่วนตัวของเขาในคฤหาสน์กวางซึ่งมันค่อนข้างจะอยู่ห่างจากคนอื่น ดังนั้นจึงไม่มีใครสังเกตว่าเขาเผาอะไรในลานบ้านของตัวเองแม้จะเป็นเวลากลางคืนก็ตาม
หลังจากที่เขาทำเสร็จแล้วเอี้ยนลี่เฉียงก็กลับไปที่ห้องนอนชั้นบนของเขาเพื่อตรวจสอบสภาพของฮั่วหรูเสวี่ย
แม้ว่านางจะยังไม่รู้สึกตัว แต่ริมฝีปากของนางก็กลับเป็นสีดอกกุหลาบด้วยการดูแลที่เหมาะสม แม้แต่ลมหายใจของนางก็ค่อยๆสงบลงแล้ว
เมื่อเห็นการพัฒนาของฮั่วหรูเสวี่ย ในที่สุดเอี้ยนลี่เฉียงก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
เขาไปที่ห้องที่อยู่ติดกับห้องนอนของเขาและเริ่มฝึกฝนคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็นก่อนจะเดินทางเข้าสู่อาณาจักรสวรรค์
เอี้ยนลี่เฉียงในอาณาจักรสวรรค์และกลุ่มคนจากหน่วยพิทักษ์ซีไห่พักค้างคืนในเมืองเฟิงเพียงคืนเดียว จากนั้นก็เดินทางกลับสู่นิกายกระบี่ศักดิ์สิทธิ์ทันที…
……
เช้าวันรุ่งขึ้นเอี้ยนลี่เฉียงก็เดินไปดูอาการของฮั่วหรูเสวี่ย นางยังคงนอนอย่างสงบนิ่งในห้องของเขา เอี้ยนลี่เฉียงรู้สึกโล่งใจอย่างยิ่งเมื่อพบว่าผิวของนางดูมีน้ำมีนวลขึ้นเล็กน้อย
หลังจากเสร็จสิ้นการฝึกฝนในช่วงเช้า เขาได้ล็อกลานบ้านและออกไปฝึกวิชาทวนและการยิงธนูบนเขาเหมือนเส้นปกติ
โกลดี้ในช่วงสองวันที่ผ่านมาดูเหมือนจะกระวนกระวายเล็กน้อย ดังนั้นเอี้ยนลี่เฉียงจึงตัดสินใจที่จะปล่อยให้มันใช้เวลาอยู่กับตัวเองสักพักและอนุญาตให้มันไปไหนก็ได้
ดังนั้นช่วงนี้เขาจึงไม่เห็นมันเลย