219-220
9/10
Ep.219
ซูเฉินกวาดสายตาเย็นชา กระทุ้งหมัดออกไปแม้อยู่ในระยะไกล
บังเกิดลมกรรโชก ม้วนเข้าใส่เฉินตงและอีกคน ระเบิดร่างพวกเขาเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ตายไปทั้งๆอย่างนั้น
ดอกหญ้าเช่นเฉินตง เก็บไว้ก็รั้งแต่จะสร้างหายนะ ดังนั้นคิดตัดหญ้าต้องถอนถึงโคน จะได้ไม่เป็นปัญหาในอนาคต
หลังจากสังหารเฉินตง ซูเฉินกวาดสายตามองรอบประตูเมือง
แต่ไม่มีใครกล้าสบตาเขาเลยแม้แต่คนเดียว
“ใครคือรองผู้นำของสถานชุมชนฮั่วหลาง ก้าวออกมา!” ซูเฉินตะโกนเสียงดัง
แต่ผ่านไปนาน ก็ยังไม่มีใครกล้าก้าวออกมา
“เรียนอาวุโส รองผู้นำทั้งสองคนถูกท่านฆ่าไปแล้ว” โจวหยุนเอ่ยขึ้นในตอนนี้
พอได้ยิน ซูเฉินก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย
เมื่อไม่เหลือผู้นำในสถานชุมชนฮั่วหลาง งั้นเขาจะให้ใครไปรวบรวมหินรวมดารามาให้?
อย่าบอกนะว่าต้องออกไปหาด้วยตัวเอง?
แบบนั้นมันยุ่งยากและเสียเวลาเกินไป
หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ซูเฉินก็พูดอีกครั้งว่า “ในหมู่พวกคุณ ใครเป็นผู้วิวัฒนาการ ก้าวออกมา ถ้ายังหลบซ่อน ก็อย่าหาว่าฉันไม่ปราณี!”
ทันทีที่คำนี้กล่าวออกไป สามคนในฝูงชนเริ่มกระสับกระส่าย หลังจากมองหน้ากัน ในที่สุดก็ก้าวออกมา กล่าวกับซูเฉินอย่างนอบน้อมว่า “ผู้อาวุโส พวกเราสามคนคือผู้วิวัฒนาการเลเวล 1 ทั้งหมดที่เหลือ”
ซูเฉินหรี่ตาลง เอ่ยทวนคำ “เหลือแค่พวกคุณสามคนที่เป็นผู้วิวัฒนาการในสถานชุมชนฮั่วหลาง?”
ก่อนจะมา เขารู้จากปากของเฉินตงแล้ว ว่ามีผู้วิวัฒนาการและปรมาจารย์มนตราถึง 20 คนในสถานชุมชนฮั่วหลาง แม้ตนจะฆ่าไปบ้าง แต่ก็ไม่น่าจะเหลือแค่สามคน
ชายวัยกลางคนที่สวมชุดสีเทารีบตอบว่า “เรียนอาวุโส ความจริงแล้วยังไม่หมด แต่มีสองคนออกไปทำภารกิจข้างนอก และอีกหลายคนไปยังเมืองทงเทียนเขตหยูหลิน”
“เมืองทงเทียน …” ซูเฉินพึมพำ จากนั้นถามต่อว่า “เมืองทงเทียนเกี่ยวข้องอะไรกับพวกคุณ?”
ซูเฉินเคยมีปัญหาใหญ่กับเมืองทงเทียน ก่อนหน้านี้เขาได้สังหารคนจำนวนมากที่มาจากเมืองทงเทียนไปไม่น้อย
“พวกเรากับเมืองทงเทียนมีความสัมพันธ์ด้านการค้าเท่านั้น แร่ที่เราผลิตที่นี่ ทั้งหมดถูกซื้อโดยพวกเขา” ชายชุดเทาตอบด้วยเสียงสั่นเทิ้ม
“แร่ที่คุณกำลังพูดถึง ใช่อันนี้รึเปล่า?” ซูเฉินหยิบหินรวมดาราออกมา วางลงบนมือเขา
ตอนนี้บอกตรงๆเขาชักจะเริ่มกังวลแล้ว
เพราะหากหินรวมดาราทั้งหมดถูกกว้านซื้อไปโดยเมืองทงเทียน เช่นนั้นทริปนี้จะไม่เสียเปล่าหรือ?
“เป็นแร่ชนิดนี้” ชายชุดเทาพยักหน้ารับ
คิ้วของซูเฉินขมวดมุ่น ถามต่อทันทีว่า “แล้วคุณยังมีแร่ชนิดนี้อยู่ในสถานชุมชนฮั่วหลางอีกไหม?”
“ก็พอมีบ้างแต่น้อยมาก”
“เท่าไหร่” ซูเฉินถามอย่างร้อนรน
ชายชุดเทาครุ่นคิดครู่หนึ่ง แล้วตอบว่า “น่าจะมากกว่า 20 ก้อน”
ซูเฉินถอนหายใจ มากกว่า 20 ก้อน นั่นเพียงพอแล้วสำหรับการใช้อัพเกรดตาข่ายพายุแม่เหล็กของ [รถศึกอัจฉริยะ]
“เอาแร่ทั้งหมดมาเดี๋ยวนี้ ห้ามชักช้า!” ซูเฉินสั่งชายชุดเทา
“ขอรับ!”
ชายชุดเทาหันหลังกลับ และวิ่งเข้าเมืองทันที
เมื่อชายชุดเทาจากไป ซูเฉินก็หันไปมองผู้วิวัฒนาการอีกสองคนที่เหลือ เอ่ยถามว่า “พวกคุณขายแร่ให้เมืองทงเทียนไปเท่าไหร่?”
เนื่องจากหินรวมดาราสามารถใช้อัพเกรดตาข่ายพายุแม่เหล็กได้ เขาย่อมไม่อยากทิ้งมันไป
หากเมืองทงเทียนรับซื้อไปเยอะ เขาก็ว่าจะแวะไปเที่ยวเมืองทงเทียนซักหน่อย
“ประมาณหนึ่งพันก้อน” หนึ่งในนั้นโค้งคำนับและตอบ
“เยอะขนาดนั้นเชียว!” ซูเฉินเลิกคิ้ว
จำนวน 1,000 ก้อน มันมากพอที่จะทำให้หัวใจเขาเต้นแรง
ณ ขณะนี้ ซูเฉินตัดสินใจแล้ว ว่าภายหลังจะต้องไปเยี่ยมเยือนเมืองทงเทียนให้จงได้
หลังจากนั้นอีกพักหนึ่ง ชายชุดเทาก็รีบวิ่งกลับมา
เขาชะลอฝีเท้า เดินมาทางซูเฉิน ยื่นถุงผ้าให้และกล่าวว่า “ผู้อาวุโส แร่ทั้งหมดอยู่ในนี้ ไม่ขาดเหลือแม้แต่ชิ้นเดียว”
10/10
Ep.220
ซูเฉินปล่อยพลังจิต กวาดเข้าไปในถุงผ้า และพบว่ามีหินรวมดาราทั้งสิ้น 27 ก้อน มุมปากเขายกสูงขึ้นเล็กน้อย
จากนั้นเอ่ยถามว่า “คุณชื่ออะไร?”
“ผู้น้อยเฝิงเจ๋อ” ชายชุดเทาประสานมือโค้งคำนับเขา
ซูเฉินนิ่งมองเขาพักหนึ่ง ก่อนประกาศว่า “นับแต่วันนี้ไป คุณคือผู้นำคนใหม่ของสถานชุมชนฮั่วหลาง”
“อะไรนะ!?”
เฝิงเจ๋อตะลึงจนตัวแข็งทื่อ
ซูเฉินหันไปมองผู้วิวัฒนาการอีกสองคน “ส่วนคุณสองคนเป็นรองผู้นำ”
“ขอบพระคุณท่านอาวุโส!” ทั้งคู่ทั้งตกใจทั้งตื่นเต้น โค้งตัวแสดงความเคารพต่อซูเฉิน
แม้ซูเฉินจะไม่ใช่สมาชิกของสถานชุมชนฮั่วหลาง ซึ่งตามหลักเหตุผลแล้วไม่สามารถออกคำสั่งกำหนดตัวผู้นำและรองผู้นำได้
กระนั้น ในวันสิ้นโลก ใครก็ตามที่มีหมัดหนัก ผู้นั้นย่อมมีสิทธิ์พูด
ความแข็งแกร่งของซูเฉินไม่มีผู้ใดเทียมเทียบ ดังนั้นคำพูดเขาย่อมเฉกเช่นเดียวกัน ไม่มีผู้ใดกล้าพอที่จะโต้แย้ง
“ท่านอาวุโส ผู้น้อยเฝิงเจ๋อ ขอสาบานว่านับจากนี้ไปจะยอมเป็นม้าเป็นลาให้รับใช้ท่าน” เฝิงเจ๋อได้สติกลับมา กล่าวด้วยความตื่นเต้น
การได้ขึ้นเป็นผู้นำสถานชุมชน นั่นหมายถึงสิทธิไม่จำกัด และชาวเมืองทุกคนต้องปฏิบัติตามคำสั่งเขา
ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยคิดฝันว่าจะได้ตำแหน่งนี้
แต่ปัจจุบัน ซูเฉินได้มอบโอกาสให้แก่เขาแล้ว
ณ ตอนนี้ ความเคารพและซาบซึ้งที่มีต่อตัวซูเฉินพุ่งทะยานถึงขีดสุด
ซูเฉินโบกมือรับ จากนั้นดึงตัวโจวหยุนมาข้างๆ “โจวหยุนถือว่าเป็นสหายของฉันเหมือนกัน ดังนั้นฝากให้คุณดูแลด้วย ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับเขาล่ะก็ ฮี่ ฮี่ ..”
กล่าวถึงจุดนี้ เขาก็หยุดพูดไป แต่ความหมายนั้นชัดเจนในตัวมันเอง
สีหน้าของเฝิงเจ๋อแข็งค้าง รีบเอ่ยคำมั่นสัญญา “ท่านอาวุโสโปรดวางใจ หากโจวหยุนเป็นอะไรไป ท่านสามารถทวงถามความผิดจากผู้น้อยได้เลย”
ซูเฉินพยักหน้า “แล้วฉันจะกลับมาดูเมื่อมีเวลาว่าง”
แม้จะเป็นเพียงประโยคสั้นๆ แต่ความนัยไม่ธรรมดา มันแฝงไปด้วยคำเตือน
ก่อนจากไป ซูเฉินได้ช่วยเหลือโจวหยุนอีกครั้ง
ว่าจบ เขาก็พาทุกคนขึ้นรถ และออกจากสถานชุมชนฮั่วหลางไป
เมื่อ [รถศึกอัจฉริยะ] หายไปจากสายตา ฝูงชนรอบๆประตูเมืองก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ไม่เว้นกระทั่งเฝิงเจ๋อ
บน[ รถศึกอัจฉริยะ] โจวหยุนมองไปที่ซูเฉินด้วยความงุนงงว่างเปล่า กล่าวด้วยอารมณ์ที่มาจากก้นบึ้งของหัวใจ “ผู้อาวุโส ขอบคุณท่านจริงๆ”
สิ่งที่ซูเฉินพูดก่อนหน้านี้ สื่อความหมายชัดเจนว่าห้ามมีใครสร้างปัญหาให้โจวหยุนอีกในอนาคต
เกรงว่ากระทั่งสมาชิกที่อาศัยในเนินเขาหินก็ยังได้รับอานิสงฆ์จากคำพูดนี้เช่นกัน
“ไม่ต้องคิดมากหรอก” ซูเฉินยิ้ม
เหตุผลที่เขาช่วยพูดให้โจวหยุนในครั้งนี้ หากไม่นับรวมเรื่องหินรวมดาราแล้ว
ก็คงเป็นเพราะการแสดงจุดยืนเมื่อครู่ของโจวหยุน
ในตอนที่เฉินตงกับอีกคนแปรพักตร์ไปอยู่กับฟางเฉิงอู่ แต่โจวหยุนยังคงยืนหยัดอย่างเด็ดเดี่ยวอยู่ฝั่งเขา
แค่เฉพาะสิ่งนี้ มันก็คุ้มค่าแล้วที่จะให้ซูเฉินออกปากช่วยเหลือเขาสักครั้ง
…
เนินเขาหินอยู่บนเส้นทางมุ่งหน้าสู่เมืองอี้เถียนพอดี ดังนั้นซูเฉินเลยให้โจวหยุนติดรถมาด้วย
เมื่อใกล้ถึงเนินเขาหิน โจวหยุนก็ลงจากรถ
ก่อนออกเดินทาง ซูเฉินมอบขวด [โพชั่นกายภาพ เลเวล 1 ] ให้ขวดหนึ่ง
[โพชั่นกายภาพเลเวล 1 ] แม้มันจะมีค่ามาก แต่บนตัวซูเฉินยังมีอะไรอีกเยอะ และคนอื่นๆก็เป็นผู้วิวัฒนาการกันหมดแล้ว ดังนั้นเก็บไว้ก็ไม่มีประโยชน์อะไร
อีกประเด็นก็คือ เขารู้สึกถูกชะตากับโจวหยุน ดังนั้นมอบโอกาสนี้ให้อีกฝ่าย
ยืนส่งซูเฉินจนลับสายตา โจวหยุนก้มมองขวดแก้วในมือ จากนั้นยกมันขึ้นดื่มอย่างไม่ลังเล
ในตอนที่ยื่น [โพชั่นกายภาพเลเวล 1 ] ให้ ซูเฉินไม่ได้บอกสรรพคุณของมัน
โจวหยุนไม่รู้ว่าเจ้าสิ่งนี้ช่วยอะไร แต่เขาเชื่อสุดหัวใจ ว่าของที่ซูเฉินมอบให้ ต้องไม่เลวร้ายอย่างแน่นอน
หลังจากดื่มไปพักหนึ่ง ดวงตาของโจวหยุนสว่างไสวขึ้นทันใด ปากขยับพึมพำไร้เสียง แต่จับใจความได้ว่า “ผู้วิวัฒนาการ …”
บังเกิดเสียงดังปึก! สองเข่ากระแทกลงกับพื้น ตามด้วยโป๊ก โป๊ก โป๊ก! โขกศีรษะสามครั้งไปยังทิศทางทางที่ซูเฉินจากไป
โจวหยุนสาบานในใจ ว่าหากมีโอกาส เขาจะตอบแทนบุญคุณอันยิ่งใหญ่นี้อย่างแน่นอน