217-218
7/10
Ep.217
“ผู้นำฟาง เป็นพวกเขา พวกเขาคือคนที่ฆ่าหัวหน้าฟาง!”
สีหน้าของเฉินตงไม่น่าดู เมื่อเห็นฟางเฉิงอู่ทะยานมาพร้อมผู้วิวัฒนาการกลุ่มหนึ่ง เขาก็พุ่งออกไปข้างหน้าอย่างไม่ลังเล ชี้ไปทางซูเฉินและคนอื่นๆ แล้วร้องตะโกน
อีกคนที่อยู่กับเขาก็วิ่งไปสมทบเช่นกัน
คนเดียวที่ยังไม่ขยับคือโจวหยุน
สีหน้าของโจวหยุนแปรเปลี่ยนไป ตะโกนสวนเฉินตง “หัวหน้าทีม นั่นคุณคิดจะทำอะไร?”
การกระทำของเฉินตง ไม่ต่างจากการขายพวกเขา ทำให้โจวรู้สึกรังเกียจ แถมยังโกรธมากอีกด้วย
ส่วนซูเฉิน แม้เขาไม่พูดอะไร แต่ใบหน้าของเขาหม่นหมองราวแอ่งโคลน
นั่นเพราะเขาคือผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตเฉินตงเอาไว้
หากไม่มีพวกเขา เกรงว่าทั้งสามคงติดอยู่ในวงล้อมซอมบี้จนตาย
แต่เจ้าเฉินตงตัวดี ไม่รู้จักกตัญญูก็ช่างประไร ทว่าตอนนี้ยังกล้าลอบกัดพวกเขา!
“โจวหยุน หยุดทำอะไรโง่ๆซะ รีบมาทางนี้เร็ว!” เห็นโจวหยุนยังยืนนิ่ง เฉินตงร้องตะโกน
เหตุผลที่เฉินตงต้องทำเช่นนี้ เพราะเขาคิดว่าแม้ซูเฉินและคนอื่นๆในกลุ่มจะเป็นผู้วิวัฒนาการทั้งหมด แต่ก็ไม่มีทางที่จะต่อกรกับกลุ่มของฟางเฉิงอู่ได้
หากไม่เปลี่ยนฝ่ายก่อน เกรงว่าจะไม่รอดชีวิต
“หัวหน้าทีม คุณมันเลอะเลือนไปแล้ว!” โจวหยุนสั่นเทาด้วยความโกรธ
เห็นอยู่ชัดๆว่าซูเฉินมาที่นี่เพื่อช่วยพวกเขา แต่เฉินตงกลับเลือกที่จะยืนเคียงข้างฟางเฉิงอู่ ทรยศกันเช่นนี้ได้อย่างไร?
สำหรับโจวหยุน แม้ตัวเขาจะไม่มองโลกในแง่ดี ไม่คิดว่าซูเฉินจะสามารถต่อกรกับฟางเฉิงอู่ได้เหมือนกันก็ตาม และตัวเขาอาจถึงขั้นเสียชีวิต แต่ก็ไม่คิดจะเป็นคนกลับกลอกเช่นเฉินตง
…
ฟางเฉิงอู่เป็นชายชราที่มีใบหน้าหยาบกระด้างยิ่งกว่าฟางปิน
ร่างกายของเขาใหญ่โตราวกับหอคอยเหล็ก พอฟัดพอเหวี่ยงกับสือต้าหนิวได้เลย
ช่วงเวลานี้ สีหน้าของเขากำลังมืดมน ถลึงตากวาดมองไปที่ร่างของเฉินตง จากนั้นค่อยๆเลื่อนไปทางซูเฉินและคนอื่นๆ กล่าวเสียงขรึมว่า “ใครเป็นคนฆ่าฟางปิน? ออกมารับโทษตายซะ!”
“ท่านปู่ผู้นี้เป็นคนลงมือเอง อยากจะรู้เหมือนกันว่าแกจะทำอะไรฉันได้!” สือต้าหนิวก้าวไปข้างหน้า แค่นเสียงเย็น
พอได้อยู่กับซูเฉินนานเข้า ก็ได้รับการถ่ายทอดนิสัยมาโดยไม่รู้ตัว บุคลิกของต้าหนิวมิใช่คนขลาดกลัวเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป แต่เขาแข็งแกร่งขึ้น และมั่นใจมากขึ้น การแสดงออกมีกระทั่งร่องรอยของความเย่อหยิ่ง
“เจ้าเด็กนี่สงสัยได้เปิดโลกใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว”
ซูเฉินมองสือต้าหนิว ปาดจมูกเขา ลอบพึมพำกับตัวเอง
เขายังจำได้แม่น ในตอนที่ให้สังหารฉินหลางในเมืองจิงกัง สือต้าหนิวยังไม่กล้าลงมืออยู่เลย
แต่ผ่านไปไม่นาน ตอนนี้อีกฝ่ายกล้ายืนหยัด และเผชิญหน้ากับผู้แข็งแกร่งแล้ว
ต้องขอบอกว่าสือต้าหนิวเปลี่ยนไปมาก
อย่างไรก็ตาม นี่แหละคือสิ่งที่ซูเฉินต้องการจะเห็น
เพราะในวันสิ้นโลก บางครั้งการยอมเป็นแค่คนก้มหน้ารับกรรม สุดท้ายอาจเจอหนทางตัน มีแต่ถูกสังหารเท่านั้น
มีเพียงต้องแสดงความห้าวหาญของผู้แข็งแกร่งออกมา ถึงจะสะกดข่มศัตรูได้
“ไอ้หนู ช่างรนหาที่ตาย!” ชายหนุ่มหน้าตาดุร้ายข้างๆฟางเฉิงอู่ เลียริมฝีปากเขา ชักมีดยาวออกมาพุ่งเข้าหาสือต้าหนิว
นี่เป็นเวลาที่ดีที่สุดที่จะได้แสดงฝีมือให้ทุกคนเห็น ตราบใดที่เขาสังหารสือต้าหนิว ก็จะสามารถสร้างความประทับใจต่อฟางเฉิงอู่
เป็นผลให้สถานะของเขาในสถานชุมชนฮั่วหลางสูงขึ้น
สือต้าหนิวไม่พูดพร่ำทำเพลง ยก [ค้อนสวรรค์] แล้วกวาดเหวี่ยงออกไป
เมื่อมันปะทะกับคมมีด ได้ยินเพียงเสียง กริ๊ก
มีดของชายหนุ่มถูกทุบแหลกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
“ได้ไงกัน!”
ชายหนุ่มหวาดกลัวอกแทบแตกตาย ผละมือจากมีด ดีดตัวถอยกลับไปข้างหลัง
แต่ค้อนของสือต้าหนิวนั้นทรงพลังและมีน้ำหนักมหาศาล!
ไม่เพียงทำลายมีดแหลกเป็นเสี่ยง แต่ [ค้อนสวรรค์] ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลง ยังคงฟาดตรงไปยังร่างชายหนุ่มตรงหน้า
ได้ยินเพียงเสียงปัง!
ชายหนุ่มไม่ทันได้หลบเลี่ยง ค้อนยักษ์ก็ทุบลงบนร่างเขา ส่งทั้งคนทั้งร่างปลิวกระเด็นออกไป
8/10
Ep.218
อันที่จริงแล้ว สือต้าหนิวกับชายหนุ่มต่างก็เป็นผู้วิวัฒนาการเลเวล 1 ด้วยกันทั้งคู่ เดิมกำลังรบของทั้งสองสมควรอยู่ในสภาวะก้ำกึ่ง
อย่างไรก็ตาม สือต้าหนิวมีร่างกายที่แข็งแรงกว่า จึงสามารถใช้พละกำลังสยบคู่ต่อสู้ได้
นอกจากนี้ยังมี [ค้อนสวรรค์] ที่ปลดล็อคมาจากชิ้นส่วน มันมีอานุภาพเทียบเท่ากับอาวุธวิเศษ แถมยังมีน้ำหนักโดยรวมมากถึง 380 กิโลกรัมหรือราวๆพันชั่งอีกด้วย
เมื่อนำข้อได้เปรียบทั้งหมดมารวมกัน จึงสามารถทำลายมีดยาวและส่งเจ้าของมันปลิวออกไปราวกับว่าวสายป่านขาดได้อย่างง่ายดาย
“เจ้าหมอนั่นแข็งแกร่งมาก!”
“เขาเป็นผู้วิวัฒนาการเลเวล 2 งั้นหรอ?”
ผู้ชมที่มุงดูทั้งตกใจและตื่นตระหก เริ่มกลับมาสนทนากันอีกครั้ง
อาจกล่าวได้เลยว่า ผลการฟาดค้อนในครั้งนี้ของสือต้าหนิว มันสร้างความฮือฮา เหนือล้ำยิ่งกว่าฉากการตายก่อนหน้านี้ของฟางปินและทหารยามคนแรกซะอีก
เพราะท้ายที่สุดแล้ว ฟางปินและทหารยามเป็นแค่คนธรรมดา แต่ชายหนุ่มในกลุ่มของฟางเฉิงอู่ คือผู้วิวัฒนาการเลเวล 1 อย่างแท้จริง
แต่ถึงกระนั้น สุดท้ายเขาก็ยังถูกค้อนทุบ ส่งปลิวออกไป ตอนนี้ไม่ทราบว่าเป็นหรือตายไปแล้ว
ฉากนี้ได้แสดงให้เห็นแล้วว่าสือต้าหนิวแข็งแกร่งเพียงใด
สีหน้าของฟางเฉิงอู่ตอนแรกกลายเป็นไม่น่าดู แต่แล้วมันก็ถูกแทนที่ด้วยความโหดเหี้ยมแทบจะในทันที
เพราะเขามองออก ว่าสือต้าหนิวเป็นแค่ผู้วิวัฒนาการเลเวล 1 เท่านั้น
แม้จะเก่งกว่าผู้วิวัฒนาการเลเวล 1 ทั่วๆไปบ้างก็ตาม แต่แล้วยังไง?
สุดท้ายตัวฟางเฉิงอู่คือผู้วิวัฒนาการเลเวล 2 ด้วยความแข็งแกร่งของเขา มันมากพอที่จะบดขยี้ผู้วิวัฒนาการเลเวล 1 แม้อีกฝ่ายจะเก่งกว่าในระดับเดียวกันก็ตามที
“ไอ้เด็กอวดดี!”
ฟางเฉิงอู่โกรธเกรี้ยว กำหมัดแน่น พุ่งเข้าหาสือต้าหนิว สบถสาบานในใจว่าจักสังหารให้ตาย ล้างแค้นในหมัดเดียว
ผู้วิวัฒนาการเลเวล 1 คนอื่นๆจากสถานชุมชนฮั่วหลางเองก็เริ่มลงมือแล้วเช่นกัน พวกเขากระจายเข้าโอบล้อมสือต้าหนิว
สือต้าหนิวแม้กระจ่างแก่ใจ ว่าเมื่อต้องเผชิญหน้ากับผู้แข็งแกร่งมากมาย เขาไม่ใช่คู่ต่อสู้อย่างแน่นอน
กระนั้น เขาก็ไม่ยอมที่จะถอยหนี เจ้าตัวกัดฟัน กวัดแกว่ง [ค้อนสวรรค์] สู้สุดชีวิต
แต่ในเวลานั้นเอง ซูเฉินได้กล่าวขึ้น “พอแล้วต้าหนิว ถอยออกมา”
แค่ผู้วิวัฒนาการเลเวล 2 คนเดียว สือต้าหนิวก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้แล้ว ดังนั้นไม่ต้องกล่าวถึงการถูกปิดล้อมโจมตีจากผู้วิวัฒนาการจำนวนมาก
ซูเฉินกังวลว่าต้าหนิวจะได้รับบาดเจ็บ จึงตัดสินใจลงมือด้วยตัวเอง
รอจนสือต้าหนิวฝ่าวงล้อมถอยกลับมาได้ ซูเฉินวาดมือ และปลดปล่อยเคียวสีเทายักษ์ออกไป
“เทคนิคใบมีดสายลม!”
สัมผัสได้ถึงคลื่นความผันผวนของเวทมนต์อันน่าสะพรึงที่แฝงอยู่ในคมมีด ฟางเฉิงอู่ตกใจมาก คว้ามีดที่เหน็บไว้ข้างเอวอย่างไม่ลังเล ยกขึ้นขวางหน้า
อีกหลายคนก็ใช้อาวุธในมือ ฟันเข้าใส่ใบมีดสายลมเช่นกัน
ปฏิกิริยาตอบสนองของพวกเขาไม่เชื่องช้า บ่งบอกว่ามีประสบการณ์พอสมควร รู้จักใช้กลยุทธ์ในการรับมือ
แต่มีสิ่งหนึ่งที่พวกเขาไม่เคยคาดคิดมาก่อน
นั่นคือใบมีดสายลมที่ซูเฉินปลดปล่อยออกมา นั้นเป็นถึงเวทมนต์เลเวล 3 แล้วแบบนี้พวกเขาจะต้านทานมันได้อย่างไร?
วินาทีถัดมา ได้ยินเพียงเสียง กริ๊ก
อาวุธของฟางเฉิงอู่และคนอื่นๆ รวมไปถึงร่างของพวกเขาถูกตัดเป็นสองท่อน!
‘เวทมนต์เลเวล 3 .. ที่แท้เขาเป็นปรมาจารย์มนตราเลเวล 3!’
ประโยคนี้ผุดขึ้นในใจของฟางเฉิงอู่ ต่อมาสติก็ดับวูบ ตายไปทั้งๆอย่างนั้น
หลังจากการตายของฟางเฉิงอู่และผู้วิวัฒนาการคนอื่นๆ ทั่วทั้งบริเวณประตูเมืองตกอยู่ในความเงียบอันน่าขนลุก
ฝูงชนที่มุงดู ไม่กล้าแม้จะหายใจ
ยิ่งไปกว่านั้น ในสมองของพวกเขาบังเกิดเสียงอื้ออึง ไม่ต่างจากแผ่นแป้งที่ถูกตีซ้ำๆ
ปลดปล่อยการโจมตีเพียงครั้งเดียว .. แค่ครั้งเดียวเท่านั้น! แต่ถึงขั้นสามารถสังหารผู้วิวัฒนาการเลเวล 2 และเลเวล 1 อีกหลายคนได้อย่างง่ายดาย!
นี่คือความแข็งแกร่งอันน่าหวาดกลัวอย่างไม่ต้องสงสัย
น่ากลัวจนแทบบ้า!
เห็นได้ชัดว่าความแข็งแกร่งของซูเฉินเหนือล้ำเกินกว่าความรู้ความเข้าใจของพวกเขาอย่างสิ้นเชิง ตอนนี้แต่ละคนเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
เฉินตงกลืนน้ำลายอย่างแรง เวลานี้ใบหน้าเขาน่าเกลียดอย่างถึงที่สุด คล้ายถูกบิดลำไส้
หากเขารู้ตั้งแต่แรกว่าซูเฉินแข็งแกร่งถึงขนาดนี้ เขาจะไม่มีวันกระโดดมายืนฝั่งฟางเฉิงอู่
แถมตอนนี้ฟางเฉิงอู่ตายแล้ว เมื่อปราศจากที่พึ่งพิง ชะตากรรมของเขาคงสามารถจินตนาการได้
--แต่เขายังไม่อยากตาย!
ปุก ..!
เฉินตงคุกเข่าลงกับพื้น โขกศีรษะให้ซูเฉินไม่หยุด ปากร้องตะโกนว่า “ตัวชั่วช้าผู้นี้เผลอสับสนไปชั่วขณะ วอนผู้อาวุโสโปรดเมตตา ไว้ชีวิตด้วย!”
เพื่อความอยู่รอด เขายอมละทิ้งศักดิ์ศรี ไม่เห็นแก่หน้าตัวเองอีกต่อไป