บทที่ 2 แผนการสร้างเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์
บทที่ 2 แผนการสร้างเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์
เหอซิงโจวแยกแยะคำพูดของสมองควอนตัมออปติก "ตามอธิบายของคุณมันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะทำหลายสิ่งหลายอย่างให้สำเร็จในเวลาอันสั้น!"
"ด้วยความสามารถส่วนตัวของฉันฉันเกรงว่าทั้งระบบสุริยะจะถูกทำลายลงก่อนที่จะสามารถพัฒนาการเดินทางสู่อวกาศและคงไม่ต้องพูดถึงสิ่งที่ยิ่งใหญ่อย่างการสร้างทรงกลมไดสัน"
"คุณต้องค้นหาวิธีแก้ปัญหาด้วยตัวเองซึ่งนี่เป็นการทดสอบความสามารถของคุณด้วย" สมองควอนตัมออปติกกล่าว
ความจริงนี้ทำให้เฮ่ซิงโจวอับอาย แม้ว่าเขาจะทุ่มเทเวลาทั้งหมดไปหลายทศวรรษไปกับการพัฒนาบริษัทเทคโนโลยีระดับสากลเพื่อการเริ่มต้นสร้างไดสันสเฟียร์จนไปถึงการสร้างปืนใหญ่พิฆาตดาวเคราะห์ ซึ่งในท้ายที่สุดมันก็จะต้องเริ่มต้นเปิดบริษัทที่เกี่ยวข้องขึ้นใหม่อีกมากมายหลายสิบบริษัทและแน่นอนว่าเขาคงไม่มีเวลามากมายขนาดนั้น!
“ฉันยอมรับตามตรงว่าฉันไม่สามารถแบกรับเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ได้.. แต่ทว่ามันยังพอมีโอกาศสำเร็จหากว่าฉันสามารถรวบรวมพลังและความร่วมมือของผู้คนทั้งประเทศ!” เหอซิงโจวคิด
“ฉันควรรายงานเรื่องนี้ต่อผู้นำประเทศหรือไม่? เนื่องจากมันเป็นไปได้หากภารกิจนี้ได้กลายเป็นเป้าหมายของทุกคน พวกเราสามารถเริ่มพัฒนาอาวุธ สร้างฐานป้องกันภัยคุกคาม และจากนั้นก็ออกเดินทางสู่อวกาศ”
หากเป็นในกรณีเช่นนี้ดูเหมือนว่าการทำสิ่งนี้อาจจะบรรลุเป้าหมายได้ภายในเวลาอันสั้น
แต่อีกคำถามหนึ่งก็เกิดขึ้นต่อหน้าเหอซิงโจว เขาจะสามารถทำให้ผู้คนทั้งประเทศเชื่อถือในคำพูดของเขาได้อย่างไร?
สมมติว่าถ้าหากเขาเดินไปบอกคนทั้งประเทศโดยตรงว่าอีกไม่กี่สิบปีข้างหน้าโลกจะถูกกลืนโดยเผ่าพันธ์ุเอเลี่ยนต่างดาวที่น่ากลัว อาศัยสถานะตนที่เป็นเพียงแค่นักศึกษาธรรมดาที่ไม่มีทั้งฐานะหรืออำนาจต่อรองใดๆ แน่นอนว่าคนที่ใช้ชีวิตตามปกติส่วนใหญ่ในสังคมจะต้องมองว่าเขาพูดเพ้อเจ้อ
สมองควอนตัมออปติกแนะนำ "เจ้าของ คุณสามารถเริ่มต้นทำการทดลองบางอย่างเพื่อเตือนผู้คนในประเทศของคุณให้ทราบเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ ตราบใดที่คุณพบสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ที่ปนเปื้อนยีนของเซิร์กและกระตุ้นด้วยพลังงานจากรังสีนิวเคลียร์ ซึ่งมันสามารถกระตุ้นกระบวนการวิวัฒนาการจนกลายเป็นเซิร์กตัวจริงได้เร็วยิ่งขึ้นและในเวลานั้นพวกเขาจะต้องเชื่อคุณ"
"คุณหมายถึงสัตว์กลายพันธุ์ที่มีขายตามอินเทอร์เน็ตใช่ไหม?" เหอซิงโจวเคยค้นพบสิ่งนี้มาก่อน ชาวประมงบางส่วนได้วางขายปลากลายพันธุ์ที่พวกเขาจับได้ผ่านทางออนไลน์ให้กับนักสะสมบางกลุ่ม
"ฉันจะเริ่มต้นเกี่ยวกับพลังงานนิวเคลียร์ได้อย่างไร? ฉันทราบดีว่าการรวบรวมวัสดุที่ใช้รวมถึงการค้นหาพื้นที่สำหรับการทดลองมันจะค่อนข้างยุ่งยากทีเดียว"
สมองควอนตัมออปติกไม่ได้ตอบอะไร
เหอซิงโจวครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่ความคิดบางอย่างจะผุดขึ้นในสมองของเขา "เฮ้สมองควอนตัม ถ้าหากว่าเป็นเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ขนาดเล็กมันจะสามารถบรรลุเป้าหมายนี้ได้เหมือนกันหรือไม่"
"แน่นอนว่าเป็นไปได้เช่นกันเนื่องจากยีนกลายพันธ์ุของเซิร์กต้องการเพียงแค่การกระตุ้นจากพลังงานนิวเคลียร์เท่านั้น มันไม่จำเป็นต้องป้อนพลังงานนิวเคลียร์อย่างต่อเนื่องเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย"
เหอซิงโจวรู้สึกตื่นเต้นทันทีและพูดว่า “เข้าใจแล้ว! ฉันจะสร้างเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ขนาดเล็กเพื่อกระตุ้นสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์เป็นอันดับแรกเพื่อแสดงให้ทุกคนเล็งเห็นถึงลักษณะและภัยคุกคามของพวกเซิร์ก และจากนั้นจึงนำเสนอรายงานไปยังผู้นำประเทศและขอความช่วยเหลือจากพวกเขา!”
เหอซิงโจวเป็นนักศึกษาภาควิชาฟิสิกส์และเขามีความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับการสร้างเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์อยู่บ้าง
แน่นอนว่าเขาจะไม่สร้างเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ขนาดใหญ่ที่ใช้สำหรับการผลิตพลังงานไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ แต่มันจะเป็นเพียงเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ขนาดเล็กสำหรับการทดลองชนิดหนึ่งเท่านั้น
สมองควอนตัมออปติกแสดงให้เขาเห็นข้อมูลเกี่ยวกับเทคโนโลยีนิวเคลียร์ในแผนผังข้อมูลทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทันที ก่อนที่จะแสดงข้อมูลเกี่ยวกับเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ฟิชชันขนาดเล็ก
แม้ว่าเหอซิงโจวจะเคยเรียนรู้บางส่วนจากหนังสือมาแล้ว แต่เขาก็ตื่นเต้นทันทีเมื่อค้นพบว่าข้อมูลที่แสดงในแผนผังเทคโนโลยีมีรายละเอียดที่สมบูรณ์แบบ ทั้งยังแสดงเงื่อนไขการปลดล็อก 'จำเป็นต้องมีหน่วยพลังงาน'
"หน่วยพลังงานนั้นระบุได้อย่างไร?" เหอซิงโจวถาม
"เทียบเท่ากับการบริโภคไฟฟ้าของโรงงานสมัยใหม่ตลอด 24 ชั่วโมง!" สมองควอนตัมออปติกตอบ
เหอซิงโจวพูดไม่ออก เขาจะได้รับพลังงานมากมายขนากนี้ได้จากที่ใดและถึงแม้เขาจะหาทางได้รับมันมาได้แต่เขาก็ไม่สามารถแบกรับค่าใช้จ่ายได้มากขนาดนั้น
“ระบบของฉันยังมีพลังงานสำรองสามหน่วยซึ่งสามารถช่วยให้คุณปลดล็อกเทคโนโลยีที่ต้องการได้ในทันที และหลังจากนี้เจ้าของจำเป็นต้องจัดหาพลังงานด้วยตนเอง” สมองควอนตัมออปติกกล่าว
"ไม่เลวเลยสิ่งนี้เปรียบได้กับของขวัญสำหรับมือใหม่" เหอซิงโจวขมวดคิ้วก่อนจะตรวจสอบความสามารถของโฟโตเบรนควอนตัมอีกครั้ง จากนั้นเขาเลือกที่จะปลดล็อกเทคโนโลยี 'เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ฟิชชันขนาดเล็ก' ทันที
กระแสข้อมูลจำนวนมากหลั่งไหลเข้าสู่สมองของเหอซิงโจวและความรู้นี้ได้ถูกจดจำและซึมซับอย่างสมบูรณ์
เหอซิงโจวได้บรรลุความรู้ความและมีความเข้าใจเกี่ยวกับเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ฟิชชันขนาดเล็กมากในทันที ความมั่นใจที่อธิบายไม่ได้เกิดขึ้นในใจของเขาและตราบใดที่เขาได้รับวัสดุที่เพียงพอเขาก็จะสามารถสร้างเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ฟิชชันได้ด้วยตัวเอง!
"เอาล่ะพวกเรามาเริ่มต้นจากการสร้างเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ฟิชชันกัน!" เหอซิงโจวตัดสินใจและเขายังต้องการตรวจสอบว่าทั้งหมดนี้เป็นความจริงหรือไม่
เมื่อเทียบกับวันโลกาวินาศแน่นอนว่าเหอซิงโจวชอบที่จะอาศัยอยู่ในยุคที่สงบสุขมากกว่าอย่างแน่นอน และด้วยเหตุนี้เองเขาจึงเต็มใจที่จะดำเนินการเพื่อรักษาดาวบ้านเกิดของตนไว้
เหอซิงโจวเริ่มคิดเกี่ยวกับแนวทางต่อไปในทันที ตามระเบียบการจัดการของสำนักงานพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศและการบริหารความปลอดภัยนิวเคลียร์แห่งชาตินั้น เมื่อมีการทดลองที่เกี่ยวข้องกับพลังงานนิวเคลียร์ผู้รับผิดชอบจะต้องส่งใบคำร้องไปยังสำนักงานบริหารทางด้านความปลอดภัยนิวเคลียร์โดยตรง
ซึ่งในเรื่องนี้มันค่อนข้างยากแต่โชคดีที่มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่เหอซิงโจวเรียนอยู่นั้นเป็นมหาวิทยาลัยสำคัญระดับประเทศที่มีห้องปฏิบัติการวิจัยฟิสิกส์นิวเคลียร์เป็นของตัวเอง
คุณเพียงต้องได้รับลายเซ็นอนุญาตจากอาจารย์ประจำห้องปฏิบัติการเพื่อยืนยันว่าการทดลองของตนไม่มีอันตราย ดังนั้นหากนักศึกษาต้องการมันก็ควรได้รับการอนุมัติ
สิ่งนี้ทำให้เขาต้องวางแผนการทดลองอย่างละเอียดรอบครอบ
นอกจากนี้ที่นั้นยังเป็นไซต์สำหรับทำการทดลองอีกด้วย ดังนั้นเหอซิงโจวจึงไม่เสียเวลาและเริ่มต้นเขียนรายงานแผนการทดลองในทันที เขาเริ่มเขียนสิ่งที่เขาคิดจนกระทั้งเพื่อนร่วมห้องสามคนของเขากลับมาจากห้องอ่านหนังสือ
“วันนี้มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ในห้องศึกษา ฉันบอกได้เลยว่าเธอสวยมากและเธอยังมีขาที่เรียวสวยเหมือนกับราชินีแมงมุม! ฉันเสียใจที่ไม่ได้ขอช่องทางติดต่อจากเธอ!” คนแรกที่เข้าประตูเป็นนักเรียนที่ผอมและสูงเขาคือจางหยาง
“มาเถอะเพื่อนแม้นายจะมีโอกาศแต่ฉันรู้ดีว่านายคงไม่กล้าขนาดนั้น” เพื่อนร่วมห้องอีกคนหวางเจียห่าวขยับแว่นก่อนจะเดินตามเข้ามา
“เอาล่ะการฝึกงานในปีนี้ใกล้จะเสร็จสิ้นแล้วฉันควรคิดหาหน่วยฝึกงานที่เหมาะสมกับฉัน!” เฝิงเต๋ารูมเมทคนสุดท้ายกล่าว
ทั้งสามคนเป็นเพื่อนนักศึกษาในแผนกฟิสิกส์และเป็นรูมเมทกับเหอซิงโจว
"การฝึกงานคืออะไร? ฉันวางแผนที่จะเรียนต่อ" จางหยางกล่าว
“ฉันก็ด้วยตอนนี้นักศึกษาไม่ได้หางานง่ายอีกต่อไปแล้วพวกเรามาสอบเข้าปริญญาโทกันเถอะ!” หวางเจียห่าวตอบตกลง
“พวกนายทุกคนจะสอบเข้าปริญญาโท?” เฟิงเต๋าลังเล “แต่ฉันคิดว่าฉันคงต้องออกไปหางานหลังจากเรียนจบ”
ทั้งสามพูดคุยกันสองสามคำก่อนที่พวกเขาจะพบว่าเหอซิงโจวกำลังเขียนบางอย่างบนคอมพิวเตอร์อย่างเงียบๆ เพียงลำพัง
“เฮ้พี่เหอคุณกำลังเขียนอะไรในตอนนี้?” หวางเจียห่าวเอนหลังมองก่อนจะเห็นชื่อแผนงานอย่างรวดเร็ว
"รายงานการทดลองปฏิกิริยาฟิชชันไมโครนิวเคลียร์"? เมื่อเห็นเครื่องหมายนี้หวางเจียห่าวก็ตกตะลึงในตอนแรก จากนั้นสีหน้าที่เหลือเชื่อก็ปรากฏขึ้น
เขาแปลกใจมาก "นายจะทำเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์เหรอ?"
"ฮะ?" จางหยางและเฟิงเต๋าเดินมารวมกันและเมื่อพวกเขาเห็นชื่อเนื้อหาพวกเขาอดไม่ได้ที่จะร้องออกมา
"บ้าเอ้ยเพื่อนนายกำลังเขียนอะไรอยู่"
เหอซิงโจวพูดขึ้นโดยที่ไม่ได้หยุดการพิมคีย์บอร์ดของเขา “ฉันวางแผนที่จะสร้างเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ขนาดเล็กด้วยตัวเองดังนั้นฉันจำเป็นต้องเขียนแผนการทดลองก่อน”
ทั้งสามเบิกตากว้างพร้อมๆกันหวังเจียห่าวยกมือขึ้นจับหูพลางตะโกนขึ้น "นี่ฉันได้ยินถูกต้องไหมนายจะสร้างเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์เหรอบอกฉันอีกครั้งว่านายไม่ได้ล้อพวกเราเล่น"
“ใช่ พวกเราได้ยินเหมือนกัน” จางหยางกล่าวทันที
“ให้ตายเถอะ! หลังจากการศึกษาด้วยตนเองรูมเมทของฉันเขาบอกว่ามันเป็นรายงานเกี่ยวกับเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์!” เฝิงเต๋ากล่าวว่า "นี่ฉันเข้าผิดห้องหรือเนี่ย!"
“ไปหอไหนก็ไม่สำคัญ!” หวังเจียห่าวกล่าวว่า "ถ้านายสามารถหาหอพักนักศึกษาแห่งใดในประเทศที่มีเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์เจอฉันจะเรียกนายว่าพ่อทันที!"
"ฉันคงไม่มีวันหาเจอแน่นอน" เฟิงเต๋าพยักหน้า
เหอซิงโจวยังคงพิมพ์ต่อไประหว่างที่เพื่อนร่วมห้องแสดงความตกใจ แต่เมื่อทั้งสามมองเห็นการแสดงออกที่จริงจังของเหอซิงโจว พวกเขาก็เริ่มสงสัยว่า "เหล่าเหอนายดูจริงจังมาก"
“แน่นอนฉันจริงจัง” เหอซิงโจวกล่าว
"ฉันตั้งใจจะใช้สิ่งนี้เป็นโครงการรับปริญญาของฉันถ้าการทดลองสำเร็จด้วยดีฉันจะเขียนวิทยานิพนธ์จบการศึกษาด้วยตัวเองได้"
“หือ? นายจริงจังเหรอ?” ทั้งสามคนมองหน้ากันยังไม่อยากจะเชื่อ
แม้ว่ามันจะมีขนาดเล็ก แต่ก็เป็นเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์!
ทั้งสามคนเอนเอียงไปทางด้านข้างและมองดู
“ดูคร่าวๆเหมือนว่าข้อมูลส่วนใหญ่มันค่อนข้างถูกต้อง!” หวางเจียห่าวกล่าวด้วยความประหลาดใจ
“แต่ทำไมพอมองดูแล้วฉันบอกได้เลยว่าฉันไม่เข้าใจมันจริงๆ!” เฟิงเต๋าโอดครวญ "ช่องว่างระหว่างฉันกับนักศึกษาหัวแถวจะกว้างใหญ่ขนาดนี้เลยเหรอ?"
"ไม่ว่าการทดลองนี้จะสามารถทำได้หรือไม่แต่ฉันบอกตามตรงว่าเอกสารลงทะเบียนการทดลองนี้เขียนออกมาได้ดีมาก" Zจางหยางแสดงความคิดเห็น
“เฮ้พวกสิ่งที่พวกนายควรทำตอนนี้คืออะไร” เหอซิงโจวเริ่มบ่น "ตอนที่ฉันทำงานพวกนายควรมองดูอย่างเงียบๆฉันไม่สามารถเขียนต่อไปได้หากพวกนายรบกวนฉัน!"
"ไป ไป ไป เหล่าเหอโกรธแล้ว!" หวางเจียห่าวยิ้ม “ถ้าอย่างนั้นนายก็ศึกษาเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ของนายต่อไป ฉันขอล่วงหน้าไปที่หุบเขาซัมมอนเนอร์ก่อนนะพวก!”
“ฉันต้องไปคุยโทรศัพท์กับแฟน”
"ฉันจะพักผ่อน"
พวกเขาทั้งสามต่างมองหาสิ่งต่างๆแต่บางครั้งพวกเขาก็เดินมาดูเหอซิงโจวอย่างเงียบๆ และรู้สึกเหลือเชื่อที่เห็นเขาจริงจังมากขนาดนี้
ไม่เพียงเท่านั้นพวกเขายังเริ่มนำไปพูดคุยในกลุ่มแชทของสาขา
หวางเจียห่าว ภาพถ่าย : ตกตะลึงฉันสงสัยว่าฉันอยู่ในหอพักแบบไหนฉันเพิ่งไปปั่นจากรถจักรยานกลับมาก่อนที่จู่ๆ จะพบว่าเพื่อนร่วมห้องของฉันกำลังจะสร้างเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์!"
โจวเสี่ยวฉิน: "นี่ไม่ใช่เหอซิงโจวหรอกหรือ ล้อกันเล่นน่าพวกนายหมายถึงเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์แบบไหนนี่ทุกคนกำลังพูดถึงเกมกันเหรอ?"
เฝิงเต๋า: "ไม่ใช่เกม แต่เป็นเรื่องจริง! ฉันเห็นกับตาตัวเองว่าเหอซิงโจวกำลังเขียนเอกสารสำหรับขออนุมัติการทดลอง!"
จางหยาง “ใช่เราถามเขาแล้วและเขายังบอกด้วยว่าเขาจะถือว่านี่เป็นโครงการจบการศึกษาของเขาบอกเลยงาสฉันสับสนมาก!”
โจว เสี่ยวฉิน "จริงเหรอ? เขากล้าบอกว่ามันเป็นเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์! แม้ว่าเราจะเป็นนักศึกษาแผนกฟิสิกส์ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเรามีความสามารถในการสร้างเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์เพื่อพิสูจน์ตัวเอง!"
หลี่เว่ย: "???? เหอซิงโจวถูกใครบางคนกระตุ้นหรือไม่?"
หม่าเจิ้งหมิง: "666! เป็นเรื่องที่น่ายกย่องที่กล้าที่จะสร้างเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์แต่ฉันอยากจะบอกว่าเป็นการเสียเวลา แม้ว่าคุณจะรู้หลักการของการแตกตัวของนิวเคลียร์แต่มันก็ไม่ง่ายอย่างนั้น"
“ใช่ เขาอาจจะเคยเห็นเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่สร้างโดยนักฟิสิกส์ชาวอเมริกันเมื่อตอนที่เขายังเด็ก และเขาอาจจะต้องการเลียนแบบมัน?” ในกลุ่มแชทสาขาเพื่อนร่วมชั้นเริ่มพูดคุยกัน
“นั่นเป็นสิ่งที่เลียนแบบได้หรือไม่คนพวกนั้นคือคนที่เก่งและเก่งที่สุดในโลก!”
“อย่างไรก็ตามความคิดของเขานั้นกล้าหาญมากในฐานะเพื่อนร่วมชั้น เราควรชื่นชมสิ่งที่เขาทำแต่แน่นอนฉันยังคิดว่ามันเป็นไปได้ยากที่จะสร้างมันขึ้นมา”
นักศึกษาเริ่มพูดมากขึ้นเรื่อยๆก่อนที่มันจะกินวงกว้างไปทั่วมหาลัยในเวลาไม่นาน สิ่งใหม่ที่น่าสนใจนี้แพร่กระจายทันทีทว่าเหอซิงโจวไม่สนใจเรื่องอื่นในขณะนี้เพราะเขากำลังเสร็จสิ้นการเขียนเอกสารการสมัคร
วันรุ่งขึ้นก่อนที่ชั้นเรียนฟิสิกส์ปรมาณูจะเริ่มคลาสเหอซิงโจวมาที่ห้องเรียนล่วงหน้าสิบนาที
ทันทีที่เขาเดินเข้าไปในห้องเรียนวันนี้เขากลับพบว่ามีบางอย่างผิดปกติ โดยไม่รู้ว่าใครตะโกนขึ้นมาเป็นคนแรก "เหอซิงโจวอยู่ที่นี่" จากนั้นนักเรียนทุกคนในห้องเรียนใหญ่ต่างก็หันมาหาเหอซิงโจว
"?" เหอซิงโจวดูสับสน เกิดอะไรขึ้น? มีบางอย่างติดบนใบหน้าของฉันหรือไม่? หรือว่าฉันใส่เสื้อผ้าผิดด้าน?