203-204
5/12
Ep.203
มังกรเพลิงทมิฬได้สติ มันพบว่ามนุษย์ที่ทำลายลมหายใจมังกรกำลังใกล้เข้ามา
แม้ไม่เต็มใจ แต่ก็ต้องยอมรับว่ามนุษย์ตรงหน้าให้ความรู้สึกอันตรายเป็นอย่างยิ่ง
โดยเฉพาะรอยยิ้มชั่วร้ายที่ผุดอยู่บนมุมปาก และสายตาที่จ้องมองมาด้วยความตะกละ คล้ายกำลังปฏิบัติราวกับตัวมันเป็นแค่เหยื่อ
ช่วงเวลานี้ หัวใจของมังกรเพลิงทมิฬเต้นครึกโครม มันกระจ่างแจ้งแก่ใจ ว่าหากไม่รีบจากไป มีโอกาสเป็นไปได้สูงที่จะตกเป็นอาหารของอีกฝ่าย
เมื่อฉุกคิดได้ มันเร่งกระพือปีกอย่างบ้าคลั่ง พยายามที่จะยกตัวลอยขึ้นฟ้าและบินหนีจากไป
เห็นฉากนี้ ทุกคนต้องตกละลึง
สถานการณ์นี่มันอะไรกัน?
มังกรเพลิงทมิฬผู้แข็งแกร่งและทรงพลังชนิดหาผู้ใดเปรียบ เวลานี้ต้องการหลบหนีกระนั้นหรือ?
มันไม่สนใจศักดิ์ศรีของเผ่ามังกรเลยรึไง?
มองไปยังมังกรเพลิงทมิฬที่คิดหลบหนี มุมปากของซูเฉินยกโค้งขึ้นเล็กน้อย แสยะยิ้มหยัน “คิดหรือว่าจะหนีไปได้?”
สิ้นเสียง หนึ่งมือสะบัดไปข้างหน้า ปลดปล่อยลำแสงสีเขียว เมื่อสัมผัสลงบนตัวมัน ลำแสงพลันแปรสภาพกลายเป็นเถาวัลย์ขนาดใหญ่ รัดขาข้างหนึ่งของมังกรเพลิงทมิฬเอาไว้อย่างแน่นหนา
มังกรเพลิงทมิฬยังไม่ทันได้บิน ทันใดนั้นมันพบว่าข้างข้างหนึ่งไม่สามารถขยับได้
เมื่อก้มลงมอง ก็พบเถาวัลย์เขียวพันอยู่รอบๆ เกิดความรู้สึกไม่อยากจะเชื่อขึ้นมา
นี่ตนกำลังถูกเทคนิคพันธนาการธาตุไม้อันกระจอกงอกง่อยควบคุมกระนั้นหรือ?
มังกรเพลิงทมิฬระเบิดพละกำลังเดือดดาล พยายามดิ้นหลุดจากพันธนาการของเถาวัลย์
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ไม่คาดคิดก็คือ เถาวัลย์นี้คล้ายมิใช่เทคนิคพันธนาการธรรมดา แต่กลับเหนียวอย่างน่าเหลือเชื่อ
แม้ระหว่างดิ้นรนจะมีเถาวัลย์ขาดไปหลายเส้น แต่หากต้องการเป็นอิสระจากมันได้อย่างสมบูรณ์ในระยะเวลาอันสั้น เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน
ต้องรู้นะว่า เทคนิคพันธนาการธาตุไม้ที่ซูเฉินปลดปล่อยออกมา มันได้ผสานรวมเข้ากับ [ไม้ศักดิ์สิทธิ์แห่งสระวิเศษ] ดังนั้นจึงมีอำนาจมากกว่าเทคนิคพันธนาการทั่วไปถึงสองเท่า
มังกรเพลิงทมิฬไม่สามารถสลัดหลุดได้ ก็สมเหตุสมผลแล้ว
เมื่อตระหนักถึงเรื่องนี้ มังกรเพลิงทมิฬก็ยิ่งตื่นตระหนก
เพราะมนุษย์ผู้นั้น จะยอมปล่อยให้มันมีเวลาจนสามารถสลัดหลุดหรือ?
คำตอบนั้นชัดเจน
ช่วงเวลานี้ ซูเฉินกุมดาบสงครามสีดำสนิทเอาไว้ในมือ ทั้งคนทั้งร่างทะยานดั่งลมกรรโชก
มังกรเพลิงทมิฬไม่รอรับความตายอยู่เฉยๆ มันยกอุ้งเท้าขึ้น กางกรงเล็บอันแหลมคม ตะปบสวนซูเฉิน
ซูเฉินมิได้เลือกทานรับตรงๆ สองเท้าทอประกายสีม่วง [รองเท้าเพิ่มความเร็ว] ถูกเปิดใช้งานทันที ตัวเขาหายวับไปจากที่เดิม
วินาทีถัดมา กรงเล็บของมังกรเพลิงทมิฬกระแทกลงบนพื้น ก่อให้เกิดแผ่นดินสะเทือน ส่งเสียงหึ่ง หึ่ง
ร่างของซูเฉินกระพริบไหวมาปรากฏขึ้นด้านหน้าของมังกรเพลิงทมิฬ ง้างสองแขนชูขึ้นเหนือหัวและสับลงไป
เห็นแค่เพียงรังสีสายฟ้าบนใบดาบ จากนั้นพายุสีฟ้าพลันโหมกระหน่ำ ม้วนเป็นเกลียวคลื่นโถมเข้าใส่ศีรษะของมังกรเพลิงทมิฬ
“ช่างเป็นเวทย์สายฟ้าที่น่ากลัวอะไรเช่นนี้!” หานคุนบนกำแพงเมือง กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นระริก
แม้ตัวอยู่ไกล แต่เขายังสามารถรับรู้ได้อย่างชัดเจน ว่าอำนาจสายฟ้าที่อัดแน่นอยู่ในเกลียวคลื่นสีฟ้านี้ น่าสยดสยองเพียงใด
ฉะนั้นความรู้สึกของมังกรเพลิงทมิฬที่เป็นผู้ทานรับมันโดยตรง จะลึกล้ำยิ่งกว่าขนาดไหน คงไม่ต้องกล่าวถึง
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับการโจมตีด้วยเวทย์สายฟ้าอันน่าสะพรึง มันสั่นสะท้าน ส่วนลึกในจิตใจบังเกิดความรู้สึกไร้กำลัง
คล้ายกับว่าจำนนแล้วต่อโชคชะตา มันยอมให้กระแสสายฟ้าโถมเข้ากลืนกิน
ตูม เปรี้ยง!
ท่ามกลางกระแสสายฟ้า พายุสีฟ้ากระแทกเข้าใส่ศีรษะของมังกรเพลิงทมิฬ ระเบิดหัวทั้งหัวกลายเป็นหมอกเลือด
หลังจากนั้น ร่างไร้ศีรษะของมังกรเพลิงทมิฬก็ร่วงลงกับพื้น
“เขา .. เขาสังหารมังกรเพลิงทมิฬได้ในดาบเดียว!” หานคุนอ้าปากค้าง กรามแทบหลุดด้วยความตกใจ
จิตใจของเขากังวานก้องไปด้วยเสียงหึ่ง หึ่ง คล้ายตกอยู่ในสถานะสับสนอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
6/12
Ep.204
“ท่านผู้นำ … พวกเรารอด … พวกเรารอดตายแล้ว!” ฝูงชนรอบๆหานคุนโห่ร้อง ตื่นเต้นจนทำอะไรไม่ถูก
เมื่อมังกรเพลิงทมิฬตาย คลื่นสัตว์กลายพันธุ์ที่เหลือก็ตกอยู่ในความโกลาหล
พวกมันแตกฮือดั่งสัตว์หลงฝูง พากันถอนตัวจากการปิดล้อม นับว่าสามารถรักษาสถานชุมชนเฝิงซีเอาไว้ได้แล้ว
“พี่เฉินสุดยอดไปเลย!”
หยางฮ่าวบนรถฐานทัพกระโดดโลดเต้น
เฉาหรานที่อยู่ข้างๆกำหมัดแน่น
สือต้าหนิวพึมพำ แม้ไม่ทราบว่าเขาพูดอะไร แต่สังเกตเห็นได้ว่าตรงมุมปากมีน้ำลายไหล
เฉาหรานถามด้วยความสงสัย “ต้าหนิว นายเป็นอะไร?”
สือต้าหนิวกลืนน้ำลาย ยิ้มซื่อๆ “ฉันอยากกินเนื้อมังกร”
เฉาหรานกับหยางฮ่าวมองหน้ากัน ในแววตาพวกเขาทอประกายเจิดจ้าพร้อมกัน
หวู่หยางเห็นทั้งสามคนนี้คิดถึงแต่เนื้อมังกร ก็อดยิ้มออกมาไม่ได้
อีกด้านหนึ่ง คลื่นสัตว์กลายพันธุ์ชะงักงันไปชั่วขณะ เมื่อเห็นผู้นำถูกฆ่า ก็แตกฮือกระเจิดกระเจิง หนีกลับไปยังทิศทางเทือกเขาเหยกู่โดยพร้อมเพรียงอย่างมิได้นัดหมาย
“บัดซบ! อย่าหนีนะ!” ซูเฉินเริ่มกังวล ร้องโวยวาย
เขามาที่นี่เพื่อสังหารสัตว์กลายพันธุ์ แต่ตอนนี้พวกมันกลับกำลังหนีไปกันหมด! แล้วแบบนี้เขาจะดรอปชิ้นส่วนได้อย่างไร?
ซูเฉินโบกมือให้ [รถศึกอัจฉริยะ] ส่งสัญญาณว่าโจมตีพวกสัตว์กลายพันธุ์ได้
เพื่อที่จะฆ่าให้ได้มากที่สุด ซูเฉินจึงไม่คิดออมมืออีกต่อไป
เวทมนต์ธาตุๆต่างๆถูกผลัดออกมาใช้ในสนามรบ บังเกิดพายุนองเลือดกลางดงสัตว์กลายพันธุ์
ตูมมม!
เวทย์ไฟแตกตัว สัตว์กลายพันธุ์ในที่เกิดเหตุตายลงนับสิบในคราวเดียว
วู้มมม!
ใบมีดสายลมสีเทาพุ่งออกไป ผ่าร่างสัตว์กลายพันธุ์หลายสิบตัวนอนแหมะกับพื้น
เปรี้ยงงง!
เวทย์สายฟ้าอันทรงพลังโหมกระหน่ำ สัตว์กลายพันธุ์คล้ายถูกโยนลงในโรงเชือด ล้มตายเป็นเบือ
…
“ธาตุสายฟ้า , ธาตุไม้ , ธาตุไฟ , ธาตุลม , ธาตุน้ำแข็ง … ให้ตายเถอะไอ้แม่ย้อย! เขาคือปรมาจารย์มนตราที่เชี่ยวชาญทุกธาตุ!”
หานคุนบนกำแพงเมืองไล่นับธาตุทั้งหมดที่ซูเฉินปลดปล่อยออกมา ทั้งคนทั้งร่างของเขาแข็งทื่อเป็นหิน
ในเวลาเดียวกัน [รถศึกอัจฉริยะ] ก็เริ่มลงมืออย่างรวดเร็ว
เมื่อเข้าสู่สนามรบ หวู่หยางและคนอื่นๆกรูกันลงมา กระโจนเข้าร่วมการสังหารหมู่
[รถศึกอัจฉริยะ] ไม่น้อยหน้า ระดมยิงเต็มกำลังเช่นกัน
[ปืนกลแก็ตลิ่ง (ไม่จำกัดเลเวล)] สาดกระสุนต่อเนื่อง ปลิดชีพสัตว์กลายพันธุ์อย่างไร้ปราณี
ยังไม่พอ ‘ตาข่ายพายุแม่เหล็ก’ ที่เป็นฟังก์ชั่นใหม่ก็ถูกปลดปล่อยออกมาเช่นกัน
สัตว์กลายพันธุ์ตัวใดถูกตาข่ายโถมเข้าปกคลุม พวกมันจะถูกไฟฟ้าช็อตจนกลายเป็นศพไหม้เกรียม
…
“ท่านผู้นำ .. คนพวกนี้ .. แข็งแกร่งมาก!” ชายคนหนึ่งที่อยู่ข้างๆหานคุนกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
กลุ่มของซูเฉินมีทั้งหมดเก้าคน รวมรถฐานทัพอีกหนึ่ง กลับสามารถสังหารฝูงสัตว์กลายพันธุ์ได้ทุกหนแห่ง
กำลังรบระดับนี้ เหนือล้ำกว่าจินตนาการของเขา
หานคุนไม่ตอบคำ สีหน้าของเขาคล้ายตกอยู่ในห้วงภวังค์ เห็นได้ชัดว่ายังไม่หายจากอาการช็อค
ซูเฉินและคนอื่นๆออกยังคงไล่ล่าสัตว์กลายพันธุ์อย่างต่อเนื่อง สังหารจนฟ้ามืด
กินเวลายาวนานกว่าหนึ่งชั่วโมง พวกเขาถึงค่อยหยุด
ภายในหนึ่งชั่วโมงนี้ จำนวนสัตว์กลายพันธุ์ที่สังหารได้ ปรากฏว่ามีมากถึงเจ็ดพันตัว!
แน่นอน นั่นหมายความว่ามีอีกสองถึงสามพันตัวสามารถหลบหนีเข้าไปในเทือกเขาเหยกู่ได้
เนื่องจากภูมิประเทศของที่นั่นค่อนข้างซับซ้อน ประกอบกับการกอบโกยครั้งนี้ได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจแล้ว ซูเฉินจึงไม่สะดวกตามเข้าไปล่า
ซูเฉินยืนนิ่งอยู่กับที่ ถอนหายใจและมองไปรอบๆ ไม่ช้า ชิ้นส่วนต่างๆหลายร้อยชิ้นก็สะท้อนเข้ามาในตาเขา
มองไปยังฉากนี้ มุมปากของซูเฉินยกยิ้มขึ้นโดยไม่รู้ตัว
เวลาที่เหลือ คือการเก็บชิ้นส่วนและพลังงาน
ซูเฉินไม่จำเป็นต้องออกคำสั่ง หยางฮ่าวและคนอื่นๆก็เริ่มลงมือ
ซูเฉินมิได้นิ่งเฉยเช่นกัน เดินเข้าไปตรงหน้าชิ้นส่วนและคว้ามัน
“คุณได้รับ [อัญมณีอัพเกรด]*1 , ชิ้นส่วนที่ต้องการ (1/1) , จำนวนองค์ประกอบครบแล้ว คุณต้องการเลือกปลดล็อคหรือแลกเปลี่ยนเป็นแต้มพลังงาน?”
“ปลดล็อค”