201-202
3/12
Ep.201
“ไม่ดีแล้ว! มังกรทมิฬกำลังคิดโต้กลับ!” ชายคนที่เพิ่งพูดกับหานคุน จู่ๆก็ตะโกนขึ้นด้วยความตื่นตระหนก
หัวใจของหานคุนคล้ายถูกบีบรัด สะบัดหน้าไปทางมังกรเพลิงทมิฬอย่างรวดเร็ว
และพบว่าเวลานี้ มังกรเพลิงทมิฬลุกขึ้นจากพื้นดินแล้ว มันส่ายหัวสลัดเศษหินเศษฝุ่น เมื่อพบว่าคนที่ลอบโจมตีเป็นแค่มนุษย์เล็กจ้อย มันก็โกรธเกรี้ยว
“โฮกกกก!”
เสียงมังกรคำรามดังกึกก้องไปทั่วผืนฟ้า สั่นสะเทือนชั้นอากาศที่ว่างเปล่า
ในเวลาเดียวกัน แรงกดดันมหาศาลชนิดหาผู้ใดเทียบ กวาดกระจายออกไปทุกทิศทาง
ทุกหนแห่งที่กวาดผ่าน สัตว์กลายพันธุ์จะขดตัว หมอบคลานลงกับพื้น สั่นงันงก
หานคุนและคนอื่นๆที่อยู่บนกำแพงเมือง ก็ถูกแรงกดดันนี้บังคับให้ถอยไปด้านหลังเช่นกัน
มีเพียงซูเฉินที่ยังหนักแน่นดั่งขุนเขา ยืนหยัดอยู่ที่เดิมไม่หวั่นไหว
อย่างไรก็ตาม เสื้อผ้าบนตัวเขากลับกระพือไปข้างหลังแม้ไม่มีลม ส่งเสียงพรึ่บพรั่บดังไม่หยุด
“เจ้าหมอนี่อวดเก่งชะมัด!” ซูเฉินปาดจมูกเขา บ่นพึมพำ
มังกรเพลิงทมิฬร้องคำราม พ่นเปลวเพลิงที่หนืดราวกับแมกมาใส่ซูเฉิน
“ลมหายใจมังกร!”
เห็นฉากนี้ ใบหน้าของหานคุนแปรเปลี่ยนไปอย่างบ้าคลั่ง ลมหายใจมังกรคือเปลวไฟที่แท้จริงของมังกรเพลิงทมิฬ นับเป็นเวทย์ธาตุไฟสายหนึ่ง
ยังไงก็ตาม เมื่อเทียบกับเวทย์ธาตุไฟทั่วๆไปแล้ว อำนาจของลมหายใจมังกรร้ายแรงกว่าถึงสองเท่า
ยกตัวอย่างเช่น แม้มังกรเพลิงทมิฬตัวนี้จะมีเลเวลแค่ 3 ทว่าเปลวเพลิงที่มันพ่นออกมานั้น ร้ายแรงยิ่งกว่าเวทย์บอลไฟเลเวล 4 ของมนุษย์
“จบสิ้นแล้ว” หานคุนถอนหายใจ
เดิมที เขายังมีความหวังริบหรี่ในตัวซูเฉิน แต่เมื่อเห็นลมหายใจมังกร ความหวังในใจก็ดับวูบลงอย่างสิ้นเชิง
ในความเห็นเขา ต่อให้เป็นผู้วิวัฒนาการเลเวล 4 หากต้องเผชิญหน้ากับอำนาจทำลายล้างของลมหายใจมังกร จุดจบคือความตายอย่างไม่ต้องสงสัย
ไม่ต้องกล่าวถึงซูเฉินที่อายุยังน้อย แถมยังมีร่างกายอ่อนแอเพราะเป็นปรมาจารย์มนตรา
หวู่หยางบน [รถศึกอัจฉริยะ] เมื่อเห็นลมหายใจมังกร หัวใจเขากระตุกวูบ
เขาเองก็คิดเช่นเดียวกันว่าซูเฉินคงไม่สามารถต้านทานลมหายใจมังกรได้ กรีดร้องในใจ “เร็วเข้า รีบหนีไป!”
คนอื่นๆไม่รู้จักลมหายใจมังกร แต่มองไปยังลูกไฟขนาดใหญ่ที่ร้อนระอุราวกับดาวตกกำลังพุ่งลงใส่ซูเฉิน สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนเป็นไม่สู้ดี
…
“ลูกไฟที่มีพลังทำลายเหนือกว่าเวทย์เลเวล 4 อย่างงั้นหรอ?” ซูเฉินหรี่ตาลง
เขาเองก็ไม่รู้จักลมหายใจมังกรเช่นกัน แต่สัมผัสได้ถึงอำนาจอันทรงพลังที่อัดแน่นอยู่ข้างในนั้น
เดิมเขาต้องการทดสอบพลังของ [กายาเทพอสูรนิรันดร์] โดยไม่คิดหลบเลี่ยง
แต่หลังจากได้เห็นว่าลมหายใจมังกรน่ากลัวเพียงไร เขาก็ล้มเลิกความตั้งใจนี้ไป
แน่นอน การล้มเลิกมิได้หมายความว่าหวาดกลัว
ณ ขณะนี้ ในสมองของซูเฉินเริ่มปั่นความคิด ว่าต้องทำอย่างไรถึงสามารถสยบลูกไฟยักษ์ตรงหน้าได้
ฉุกคิดได้วิธีหนึ่ง ซูเฉินไม่รอช้า ปลดปล่อยพลังจิตห่อหุ้มมือเขา
ในเวลาเดียวกัน [เกล็ดแขนทองคำ] ก็ปรากฏขึ้นเช่นกัน
เมื่อลมหายใจมังกรใกล้เข้ามา ซูเฉินเลือกที่จะไม่ถอย แต่โจมตีสวนกลับไป เขาเหวี่ยงแขนไปข้างหน้า ทานรับมันด้วยมือเปล่า
“นั่นเขาจะทำอะไร? บ้าไปแล้วหรอ?”
หานคุนอ้าปากค้าง คิดว่าตัวเองตาฝาดไป
เขาไม่เข้าใจพฤติกรรมแส่หาที่ตายของซูเฉิน
ลมหายใจมังกรคือเวทย์ที่ร้ายแรงถึงเลเวล 4 แล้วแบบนี้จะสามารถจับมันด้วยมือเปล่าได้อย่างไร?
ต่อให้หมดหวังแค่ไหน แต่ก็ไม่เห็นต้องทำแบบนี้เลยนี่?
หรือเป็นเพราะอีกฝ่ายอยากตายลงอย่างมีศักดิ์ศรีกันแน่?
ระหว่างที่หานคุนกำลังงุนงง ซูเฉินก็คว้าลมหายใจมังกรเอาไว้แล้ว
พลังงานธาตุไฟอันบ้าคลั่งทะลักออกจากมังกรเพลิงทมิฬ อุณหภูมิโดยรอบสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจนน่าตกใจ ชั้นอากาศเหมือนกำลังจะลุกไหม้เป็นไฟ
หากเปลี่ยนเป็นคนอื่น มาอยู่ในสถานการณ์เดียวกันกับซูเฉิน เกรงว่าอีกฝ่ายคงไม่เหลือแม้แต่ซาก
อย่างไรก็ตาม ซูเฉินกลับไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ
เมื่อมีพลังจิตและ [เกล็ดแขนทองคำ] เป็นด่านหน้า ช่วยลดทอนอานุภาพทำลายล้างลงส่วนหนึ่ง ไม่ว่าลมหายใจมังกรจะร้ายแรงแค่ไหน อุณหภูมิที่มันปลดปล่อยออกมาจะร้อนแรงเพียงใด ตราบใดที่เข้าถึงตัวซูเฉิน มันจะถูกทำลายโดยอัตโนมัติและไม่รู้สึกเจ็บปวดเลย
ช่วงเวลานี้ ความสามารถชนิดท้าทายสวรรค์ของ [กายาเทพอสูรนิรันดร์] ได้สำแดงอำนาจของมันให้เป็นที่ประจักษ์แล้ว!
4/12
Ep.202
เมื่อเห็นว่าสามารถทานรับลมหายใจมังกรอันร้อนระอุได้ ซูเฉินกำหมัดแน่น รีบคว้ามันไว้ อำนาจอันทรงพลังส่งผ่านจากนิ้วมือเขา ผสานกับการสนับสนุนจากพลังจิต
เมื่อนิ้วทั้งห้าประสานกัน ลูกไฟลมหายใจมังกรก็เกิดการระเบิด
บังเกิดเสียงตูมมมม! ดังสนั่น
ทันทีที่ลมหายใจมังกรระเบิด บังเกิดประกายไฟสาดกระเซ็นไปทั่วฟ้า กระจายออกไปทุกทิศทาง
สะเก็ดไฟตกลงที่กำแพงเมือง กำแพงเมืองพังทลาย สะเก็ดไฟตกลงบนพื้น พื้นดินกลายเป็นหลุ่มบ่อ รวมไปถึงสัตว์กลายพันธุ์ที่อยู่ใกล้ๆ พวกมันถูกเผากลายเป็นเถ้าถ่านในพริบตา
ส่วนซูเฉิน แม้จะยืนอยู่ในจุดศูนย์กลางการระเบิด
แต่สะเก็ดไฟเหล่านั้น ยามกระเซ็นลงบนตัวเขา พวกมันคล้ายเป็นเพียงหยาดฝนเม็ดเล็กๆ ไม่อาจสร้างแม้ระลอกคลื่นบนตัวซูเฉิน จางหายไปในอากาศอย่างไร้ร่องรอย
เฝ้ารอจนสะเก็ดไฟสลายหายไปอย่างสมบูรณ์ โดยมีซูเฉินเป็นจุดศูนย์กลาง ภายในรัศมีหลายสิบเมตร ทุกหนแห่งไหม้เกรียม ไม่เหลือดยอดหญ้าชูขึ้นมาแม้แต่ต้นเดียว
กระทั่งสัตว์กลายพันธุ์ก็ยังได้รับผลกระทบ หลายร้อยตัวจบชีวิตลง
แต่ซูเฉินยังคงยืนหยัดอยู่ท่ามกลางหายนะ กระทั่งรอยขีดข่วนก็ไม่มีปรากฏบนร่างกายเขา
มองไปยังฉากอันแสนอัศจรรย์นี้ ทุกคนตะลึงคล้ายถูกแช่แข็ง
โดยเฉพาะมังกรเพลิงทมิฬ มันตกใจมากซะจนลืมหายใจ นิ่งงันราวกับประติมากรรมหิน ลูกตาขนาดเท่าบาสเก็ตบอลแทบถลนออกมา
กาลครั้งหนึ่ง ลมหายใจมังกรที่มันเคยภาคภูมิ บัดนี้กลับถูกมนุษย์อ่อนแอทำลายด้วยมือเปล่า?
นี่มันจะเหลือเชื่อเกินไปแล้ว!
แม้จะได้เห็นกับตา แต่มันก็ยังไม่อาจทำใจยอมรับ
หลังจากผ่านไปนาน หานคุนค่อยได้สติกลับมาอีกครั้ง แต่เวลานี้คล้ายมีพายุก่อตัวขึ้นในใจเขา
โอ้สวรรค์!
นี่อีกฝ่ายยังเป็นมนุษย์อยู่หรือเปล่า?
ผู้ฝึกตนเผ่ามนุษย์ สามารถทำลายลมหายใจมังกรที่เหนือกว่าเวทย์ไฟเลเวล 4 ด้วยมือเปล่าได้อย่างไม่คาดฝัน!
จักต้องมีร่างกายแข็งแกร่งเพียงใดกันจึงทำเช่นนี้ได้?
น่ากลัวว่าต่อให้เป็นร่างกายของผู้วิวัฒนาการเลเวล 5 ก็ยังไม่แข็งแกร่งขนาดนั้นเลย
อีกอย่าง มนุษย์ผู้นี้มิใช่ปรมาจารย์มนตราธาตุสายฟ้าหรอกหรือ?
เหตุใดเขาถึงกลายเป็นผู้วิวัฒนาการไปได้?
อย่าบอกนะว่าสามารถมีสองอาชีพหลักในร่างเดียว?
ถ้าอย่างงั้น ระดับการฝึกฝนของเขาอยู่ขั้นไหนกันแน่?
เลเวล 5 ? เลเวล 6 ?
แต่ทำไมเขาถึงดูอายุยังน้อยนัก?
คำถามต่างๆผุดขึ้นในใจหานคุน ทำให้เขาแทบอยากพุ่งไปหาซูเฉิน และสอบถามว่าเรื่องราวมันเป็นมายังไงกันแน่
ในเวลาเดียวกัน ทุกคนใน [รถศึกอัจฉริยะ] ต่างถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ความสามารถของซูเฉิน ที่ใช้เพียงมือเปล่าก็ทำลายลมหายใจมังกรได้ นับว่าเพียงพอแล้วที่จะพิสูจน์ความแข็งแกร่งของเขา
นอกจากนี้ ยังพิสูจน์ให้เห็นด้วย ว่าเขามีความสามารถมากพอที่จะสังหารมังกรเพลิงทมิฬ
หยางฮ่าวกับเฉาหรานมองหน้ากัน ยกนิ้วโป้งขึ้นพร้อมกัน กล่าวด้วยอารมณ์ว่า “พี่เฉินสุดยอดไปเลย!”
เห็นได้ชัดว่าความชื่นชมที่พวกเขามีต่อซูเฉิน ได้ทะลุขีดจำกัดเดิม เพิ่มไปอีกขั้น
หวู่หยางถอนหายใจ “ดูเหมือนความเข้าใจในความแข็งแกร่งของคุณ สำหรับฉันมันยังตื้นเขินเกินไป!”
ซูเฉินคว้าจับบอลไฟด้วยมือเปล่ามาแล้วสองครั้ง ซึ่งหวู่หยางเป็นสักขีพยานทั้งสิ้น
อย่างไรก็ตาม บอลไฟในครั้งก่อนมีเลเวลแค่ 2 เท่านั้น เทียบไม่ได้เลยกับลมหายใจมังกรของมังกรเพลิงทมิฬในครั้งนี้
ตอนแรก เขาคิดว่าซูเฉินคงมาถึงจุดจบเสียแล้ว
ไม่คาดหวังเลย ว่าซูเฉินจะสร้างปาฏิหาริย์อีกครั้งโดยการทำลายลมหายใจมังกรที่มีอานุภาพยิ่งกว่าเลเวล 4 ด้วยมือเปล่า
นี่คือสิ่งที่แม้แต่ผู้วิวัฒนาการเลเวล 5 ยังไม่กล้าแม้แต่จะคิด
ถึงจุดนี้ เขาก็ย้อนนึกไปการกระทำและคำพูดที่แล้วๆมาของซูเฉิน
ไม่ว่าซูเฉินจะทำอะไร อีกฝ่ายไม่กล่าวเพ้อเจ้อ แต่มั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าสามารถทำได้
และผลงานของซูเฉินเมื่อครู่ ได้พิสูจน์เรื่องนี้อีกครั้ง
ตันหลินกับหยางเฉียนไม่ละสายตาไปจากซูเฉินเลย เวลานี้ นอกจากความชื่นชมที่กำลังสะท้อนอยู่ในแววตาแล้ว มันยังเปี่ยมไปด้วยความรักอันลึกล้ำ
…
อีกด้านหนึ่ง ซูเฉินสะบัดขี้เถ้าบนมือเขา มุมปากยกโค้งด้วยรอยยิ้มที่แฝงไปด้วยความหมาย
จากนั้น เขาก็จ้องมองไปยังมังกรเพลิงทมิฬ ค่อยๆก้าวไปหามัน
เมื่อสัตว์กลายพันธุ์ตัวอื่นเห็นซูเฉินตรงเข้ามา ไม่มีตัวใดกล้าที่จะก้าวไปข้างหน้าเพื่อหยุดเขา ถอยหลังเปิดเป็นเส้นทางให้
ซึ่งพฤติกรรมนี้ --
--คือความหวาดกลัวโดยสัญชาตญาณเวลาที่พบเจอผู้แข็งแกร่ง!