331 - ความคิดที่ลึกซึ้ง
331 - ความคิดที่ลึกซึ้ง
จิตใจของเอี้ยนลี่เฉียงตกตะลึงเมื่อเขามองเห็นภาพตรงหน้ามือและขาของเขาสั่น เขายังได้ยินเสียงตัวเองกลืนน้ำลายลงไปอีกด้วย
“… อาณาจักรฮั่นจบสิ้นแล้ว…” หวังฮุ่ยหน้าซีดขณะที่เขาพึมพำกับตัวเอง
ฉากที่อยู่ตรงหน้าเขาไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นภัยพิบัติที่น่ากลัวที่สุดของมนุษยชาติ
เอี้ยนลี่เฉียงไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป อย่างไรก็ตาม เขามั่นใจว่าชะตากรรมของทุกคนในอาณาจักรฮั่นจะถูกเขียนใหม่หลังจากวันนี้ ภาพตรงหน้าของพวกเขานั้นเป็นลางร้ายอย่างแน่นอน…
“พี่หวังเรากลับกันเถอะ!” เอี้ยนลี่เฉียงกัดลิ้นตัวเองเพื่อเรียกสติ
……
เมื่อพวกเขากลับมาที่เมืองจินหลิงอีกครั้งก็เป็นเวลาเย็นแล้ว ม้าแรดทั้งสองตัวดูเหมือนจะถึงขีดจำกัดเช่นกันหลังจากที่พวกมันวิ่งมาตลอดทั้งคืน
“สถานการณ์ในเมืองหลวงเป็นอย่างไรบ้าง”
“เมืองหลวงของจักรวรรดิหายไปแล้ว?”
"หายไปแล้ว? หมายถึงอะไร?" หวังเซิ่งและกงเต๋อซวนได้แลกเปลี่ยนสายตาและถามด้วยความสงสัย
“ไม่มีอะไรลงเหลืออยู่มีเพียงหลุมขนาดใหญ่ ดินแดนภายในรัศมีหนึ่งพันลี้ถูกทำลายจนหมดสิ้น ไม่เห็นวิญญาณแม้แต่คนเดียว พวกเจ้าลองนึกภาพภูเขาไฟระเบิดที่แคว้นยี่ห้อเมื่อ 20 ปีก่อน …”
เมื่อหวังฮุ่ยอ้างว่าเมืองหลวงของจักรพรรดิหายไป ทั้งหวังเซิ่งและกงเต๋อฉวนอาจไม่เข้าใจเขา
อย่างไรก็ตาม การแสดงออกทั้งสองของพวกเขาบิดเบี้ยวทันทีที่หวังฮุ่ยกล่าวถึงดินแดนที่แห้งแล้งซึ่งเกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟในแคว้นยี่ นั่นเป็นเรื่องที่น่าหวาดกลัวเป็นอย่างยิ่ง
“โอ้ สวรรค์ มีคนตายไปกี่คน” ใบหน้าของหวังเซิ่งเต็มไปด้วยความตกใจ
“ไม่เพียงเท่านั้น ลี่เฉียงและข้าตระหนักว่าพื้นที่ทางตอนใต้ของเมืองหลวงซึ่งอยู่รอบๆจินหลิงยังไม่ได้รับผลกระทบมากมายเท่าไหร่ แต่ดินแดนอื่นที่อยู่รอบๆได้พังทลายไปหมดแล้ว เกรงว่าผู้เสียชีวิตอาจจะมีถึงหลายล้านคน…”
“ถ้าเป็นเช่นนั้นเกรงว่าอาณาจักรของเราคงจะเกิดอันตรายในไม่ช้า…?” กงเต๋อฉวนนึกถึงผลที่ตามมาทันทีและน้ำเสียงของเขาก็หนักขึ้น
“ตอนนี้สิ่งที่เราต้องเป็นห่วงคือชีวิตของพวกเราต่างหาก การเตรียมตัวที่โกดังเป็นอย่างไรบ้าง” เอี้ยนลี่เฉียงสอบถามด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“เราใช้เวลาทั้งวันในการทำงานร่วมกันตั้งแต่เมื่อคืน ทุกคนสามารถเอาสินค้าทั้งหมดออกมาได้ นอกจากกล่องที่เสียหายเล็กน้อยแล้ว สินค้าทั้งหมดก็ค่อนข้างปลอดภัย!”
“รถม้าที่ยังใช้งานได้พร้อมแล้ว!”
“แล้วเราจะดำเนินการตามแผนในคืนนี้!”
คุ้มกันทั้งสามพยักหน้าโดยไม่พูดอะไรอีก
“ใช่แล้วพี่หวัง เพื่อเป็นขวัญกำลังใจของทุกคน เราควรแบ่งของมีค่าที่เรายึดมาจากเมืองเมื่อวานกับทุกคนก่อนที่เราจะดำเนินการต่อในคืนนี้
หากพวกเราบางคนบังเอิญถูกแยกทางระหว่างทาง มันจะมีประโยชน์เช่นกัน…”
“อา สิ่งเหล่านั้น… เราจะแยกมันออกยังไง ลี่เฉียง?” หวังฮุ่ยดูเหมือนจะไม่แน่ใจ
ของมีค่าที่พวกเขายึดมาจากอันธพาลที่พวกเขาฆ่าในเมืองจินหลิงเมื่อวานนี้ ถูกเก็บกลับไปที่คลัง เนื่องจากเอี้ยนลี่เฉียงไม่ได้พูดอะไรพวกเขาจึงยังคงเก็บไว้
นอกจากนี้เอี้ยนลี่เฉียงยังเป็นคนสังหารอันธพาลส่วนใหญ่ดังนั้นเขาจึงมีสิทธิ์จัดการของมีค่าพวกนี้
“แบ่งของให้กับทุกคน ไม่เช่นนั้นอาจจะมีการก่อจลาจลขึ้น รวมถึงผู้หญิงที่ชื่อหยูชิงด้วย”
ทั้งสามคนจะมีข้อโต้แย้งได้อย่างไร? เอี้ยนลี่เฉียงมีสิทธิ์ทั้งหมดที่จะเก็บของมีค่าครึ่งหนึ่งไว้สำหรับตัวเขาเอง ถ้าเขาเต็มใจจะแบ่งปัน ทุกคนจะพูดอะไรได้
ยิ่งกว่านั้น ทั้งสามคนยังแอบปลื้มใจกับความเอื้ออาทรของเอี้ยนลี่เฉียง ด้วยสถานการณ์ที่เลวร้ายอย่างนี้แม้แต่ผู้คนระดับสูงของนิกายกระบี่ศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่แน่ว่าจะมองการณ์ไกลเหมือนเขา
“ในเมื่อน้องลี่เฉียงกล่าวเช่นนั้น เราจะทำอย่างนั้น!” หวังฮุ่ยพยักหน้า
“ข้าหวังเซิ่ง รู้สึกประทับใจกับการกระทำของเจ้ายิ่งนักน้องชาย!”
กงเต๋อฉวนไม่ได้พูดอะไร เขาเพียงยกนิ้วโป้งให้เอี้ยนลี่เฉียงและแสดงสีหน้าชื่นชมยินดี
เอี้ยนลี่เฉียงตอบกลับด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย ของมีค่าอาจดูเหมือนมาก แต่ก็ไม่มีอะไรมากสำหรับเขา เขาได้รับการฝึกฝนให้เป็นผู้พิทักษ์ของนิกายกระบี่ศักดิ์สิทธิ์ในอนาคต
ดังนั้นทรัพย์สินมากมายมหาศาลของนิกายกระบี่ศักดิ์สิทธิ์แทบจะอยู่ในการจัดการของเขาทั้งสิ้นเมื่อเขาได้เป็นผู้พิทักษ์นิกาย
และการกระทำของเขาในครั้งนี้จะทำให้ชื่อเสียงของเขาแพร่กระจายไปทั่วนนิกายกระบี่ศักดิ์สิทธิ์ นั่นจะทำให้ผู้อาวุโสของนิกายมองเห็นตัวตนของเขาได้อย่างรวดเร็ว
แล้วผู้พิทักษ์ตัวเล็กๆเช่นนี้จะเข้าใจความคิดอันลึกซึ้งของเอี้ยนลี่เฉียงได้อย่างไร?
…..
หลังจากนั้นไม่นานก็ถึงเวลาอาหารเย็น เมื่อหวังฮุ่ยแบ่งของมีค่าที่พวกเขายึดมาจากเมืองจินหลิงเมื่อวานนี้เป็นสี่สิบกว่าส่วนและแจกจ่ายให้ทุกคน
ผู้คนในขบวนคุ้มกันต่างก็ส่งเสียงร้องด้วยความตื่นเต้น พวกเขาไม่อยากเชื่อเลยว่าพวกเขาจะได้รับส่วนหนึ่งของของมีค่า
เกือบทุกคนที่ยังมีชีวิตอยู่ในขบวนคุ้มกันแต่ละคนได้รับเงินและเครื่องประดับที่มีมูลค่าประมาณสองร้อยตำลึง จำนวนนี้เกินรายได้ที่คนส่วนใหญ่จะได้รับสำหรับการเดินทางคุ้มกันเช่นนี้อย่างมาก
กลุ่มคนที่เพิ่งหนีจากภัยพิบัติและได้รับลาภลอยอันมหาศาลทำให้พวกเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้นจนลืมความเจ็บปวดในช่วงที่ผ่านมา
หลังจากทานอาหารเย็นเสร็จแล้ว ทุกคนในขบวนคุ้มกันก็เริ่มเคลื่อนไหวเมื่อท้องฟ้ามืดสนิท
รถม้ามากกว่าสามสิบคันถูกจัดเตรียมไว้ หลังจากที่สินค้าถูกยกกลับขึ้นไปบนรถม้า เอี้ยนลี่เฉียงและคนอื่นๆก็ขับรถม้าไปในความมืดโดยไม่ถือคบเพลิง
พวกเขาเดินทางไปตามถนนสายเล็กๆ ที่ว่างเปล่าในความมืดสนิท จากนั้นก็ไปถึงหลุมอุกกาบาตขนาดกลางทางทิศตะวันตกและย้ายสินค้าลงไปในหลุมนั้นอย่างรวดเร็ว
เมื่อสินค้าถูกย้ายลงไปหมดแล้วพวกเขาก็ทำการถมดินเพื่อกลบเกลื่อนของที่อยู่ด้านใน หลังจากนั้นพวกเขาก็ทำลายรถม้าและปล่อยม้าออกมา
หลังจากทุกอย่างเสร็จสิ้นก็เป็นเช้าของอีกวัน ในขณะนี้พวกเขาเตรียมตัวที่จะออกเดินทางอีกครั้ง.
ณ จุดนี้ ข่าวเกี่ยวกับภัยพิบัติที่เกิดขึ้นกับเมืองหลวงของจักรวรรดิก็ได้แพร่กระจายไปราวกับไฟป่า พายุแห่งความโกลาหลที่จะกลืนกินทวีปสีเงินก็ได้ปรากฏขึ้นแล้ว